หลินเช่อรีบบอก “นี่ ทำอะไรเนี่ย เป็นอะไรคะ ที่นี่โรงเรียนนะ คุณรีบปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ”
กู้จิ้งเจ๋อบอก “อย่าขยับสิ เดี๋ยวฉันพาเธอกลับไปแล้วค่อยคุย”
หลินเช่อมองกู้จิ้งเจ๋อไร้ซึ่งคำจะเอ่ย
ทั้งสองมาถึงบ้านอย่างรวดเร็ว สาวใช้เห็นกู้จิ้งเจ๋ออุ้มหลินเช่อเข้ามา รู้สึกแปลกใจ
กู้จิ้งเจ๋อให้สาวใช้ไปเอาน้ำร้อนมา จากนั้น วางหลินเช่อลงบนโซฟา
บอกคนให้เอาน้ำร้อนวางลง แล้วจึงโบกมือไล่ให้ทุกคนออกไป
หลินเช่อแปลกใจมาก กู้จิ้งเจ๋อกลับยกมือขึ้นมาถอดรองเท้าของเธอออก โยนทิ้งไปด้านข้าง
มองเห็นเท้านั้น บวมแล้วจริงๆ
แถมยังบวมไม่น้อยเลย
หัวใจเขาพลันเจ็บปวด เงยหน้าขึ้นมา ดวงตาคมจ้องมองเธอ “ไม่ต้องไปร่วมงานเลี้ยงอะไรนี่แล้ว”
หลินเช่อตกใจ จากนั้นรีบบอก “อย่าเป็นแบบนี้สิคะ”
“ฉันบอกแล้ว ไม่ต้องไปร่วมงานแล้ว ไม่ต้องไปสนว่าใครจะพูดยังไง เธอเป็นภรรยาฉัน ฉันจะคอยดู ใครมันกล้าว่าอะไรเธอ หรือถ้าเอ่ยถึงเรื่องนี้ ฉันจะทำให้เขาสาบสูญไปจากประเทศซี หายไปจากที่ที่ฉันรู้จักทุกที่”
หลินเช่อไม่เคยเห็นกู้จิ้งเจ๋อเป็นแบบนี้มาก่อน
ดวงตาคมเข้ม เต็มไปด้วยความเย็นยะเยือก ไอสังหารและความโหดเหี้ยมแพร่กระจายออกมา
ราวกับ ใครที่กล้าเข้ามาขวางทางเขา จะต้องโดนเหยียบย่ำอยู่ใต้ฝ่าเท้า
มีความรู้สึกเหมือน คนขวางฆ่าคน พระขวางฆ่าพระ แบบนั้น
เขาโกรธมากจริงๆ และเวลาที่เขาโกรธขึ้นมานั้น น่ากลัวเป็นที่สุด
หลินเช่อรีบคว้าไหล่ของเขาเอาไว้
จ้องมองดวงตาของเขา เธอบอก “ไม่เอา กู้จิ้งเจ๋อ ไม่เอา”
กู้จิ้งเจ๋อได้ยินเสียงของเธอ
เขาคุกเข่าอยู่บนพื้น พอดีกับระยะสายตาของเธอ
หลินเช่อกัดริมฝีปาก มองเขาจับยึดเท้าเธอเอาไว้
หัวใจเธอรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา มีความรู้สึกว่าเพื่อเขาเธอสามารถทำได้ทุกอย่าง
ใช่ พวกนี้ก็เพื่อสักวัน จะสามารถยืนอยู่เคียงข้างเขาได้ ไม่สามารถดูถูกอะไรได้อีก
แม้เขาจะบอกว่า ไม่ต้องไปสนใจความคิดของคนอื่น แต่ว่า เธออยากทำให้มันสมบูรณ์แบบ
เธอมองกู้จิ้งเจ๋อ “แต่ว่า ฉันได้เริ่มเรียนแล้ว ฉันไม่อยากยอมแพ้”
ดวงตาคมเข้มของกู้จิ้งเจ๋อทำให้คนมองกลัว เขามองหลินเช่อ “นี่ไม่ถือว่ายอมแพ้ ไม่ต้องไปลำบากแบบนั้นแล้ว เราไม่ต้องเข้าร่วมแล้ว และไม่ต้องฝึกแล้วด้วย”
“ไม่ กู้จิ้งเจ๋อ ฉันได้ผ่านจุดที่ยากที่สุดไปแล้ว คุณดูสิคะ นี่มันบวมแล้วใช่ไหม แต่ว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้มันก็ดีขึ้น ถ้าฉันยอมแพ้ไปแบบนี้ งั้นตลอดสองวันมานี้ฉันก็เสียเปล่าน่ะสิคะ ฉันไม่ยอมแพ้หรอก เสียเวลามาก อีกอย่าง ถึงมันจะลำบาก เมื่อเรียนได้แล้วมันก็เป็นของฉัน อนาคตก็ต้องได้ใช้แน่นอน ถึงเรียนต่อไปก็ไม่เป็นไร ฉันยืนหยัดต่อไปได้ คุณเชื่อฉันได้ไหมคะ”
กู้จิ้งเจ๋อยังคงไม่ยอม เขานิ่งเงียบมองเธอ เชิดหน้าขึ้น ตีหน้าเข้ม
หลินเช่อเอ่ย “จริงๆ นะคะ ฉันรู้ว่ามันลำบากมาก แต่ว่า ชีวิตมันก็ต้องแบบนี้อยู่แล้ว ถูกไหมคะ ถ้ามันราบรื่นไปหมดก็ไม่มีความหมายอะไรสิคะ ฉันอยากจะลองดู มีเรื่องท้าทายไม่หยุดแบบนี้ มันน่าสนใจมากเลยนะคะ หรือว่าคุณคิดว่า ยังไงฉันก็ต้องแพ้ ความลำบากพวกนี้มันสูญเปล่า ไม่มั่นใจในตัวฉัน เลยไม่อยากให้ฉันทำต่อไปเหรอ”
กู้จิ้งเจ๋อมองเธอนิ่ง เนิ่นนาน จึงผ่อนคลายลง
หลินเช่อหัวเราะออกมา “มันไม่เจ็บสักนิดเลยค่ะ เอาล่ะ คุณลุกขึ้นมาเถอะ ฉันล้างเองก็พอแล้ว”
ทว่ากู้จิ้งเจ๋อกลับไม่ยอมขยับ นวดเท้าให้เธอ บอก “อย่าขยับ เดี๋ยวฉันทำเอง”
หลินเช่อรีบบอก “ไม่เอา ฉันทำเองก็พอค่ะ แช่สักพักก็ดีขึ้น”
“ฉันจะช่วยเธอนวด”
“คุณ…”
กู้จิ้งเจ๋อไม่เพียงพูด เขานำเท้าเธอแช่ลงไปในน้ำ ล้างฝ่าเท้าให้เธอ
เท้าเล็กสวยคู่นั้น บวมขึ้นจนกลายเป็นหมั่นโถวอันน้อยๆ แล้ว
เขาล้างอย่างละเอียด แม้แต่ทุกซอกเล็บก็ไม่ปล่อยผ่าน
เท้าของหลินเช่ออยู่ในมือของเขา อดไม่ได้ที่จะหน้าแดง และในยามที่เขานวดกดจุดที่ทำให้เธอจักจี้ แทบอยากหดเท้าหนี
มองเขาที่คุกเข่าอยู่ตรงนั้น เธอรู้สึกว่า ผู้ชายที่ยอมลดตัวเองลงมา ถึงจะเป็นผู้ชายที่ยิ่งใหญ่ที่สุด…
ดวงตาจริงจังของเขา จ้องมองเท้าของเธอ ช่างทำให้คนรู้สึกร้อนแรงเหลือเกิน
____
วันต่อมา ตอนเช้าหลินเช่อไปเรียนบัลเล่ต์ ตอนบ่ายนัดซือถูเอาไว้แล้ว
กู้จิ้งเจ๋อไม่คิดว่า เธอจะสามารถทำให้ซือถูยอมช่วยสอนเธอ
เขามาส่งหลินเช่อที่บ้านซือถู เขาบอกขณะอยู่ข้างนอก “คนคนนี้ประหลาด ถ้ามีเรื่องอะไรให้รีบโทรหาฉัน”
“วางใจเถอะค่ะ ไม่มีอะไรหรอก ฉันคิดว่าทุกคนพูดเกินไป”
กู้จิ้งเจ๋อส่ายหน้า ยัยเด็กคนนี้ ยังไร้เดียงสาเกินไป
“คนร้ายเขาไม่เขียนบอกไว้บนหน้าผากหรอกนะ เรื่องนี้เด็กเขายังรู้เลย เธอยังไม่รู้อีกเหรอ”
“นี่ แน่นอนว่าฉันรู้อยู่แล้ว เพียงแต่ เขาไม่ได้มีเหตุผลที่จะทำไม่ดีกับฉัน”
“ก็ใช่ เธอไม่มีอะไรควรค่าให้ซือถูลงมือหรอก”
“นี่” กู้จิ้งเจ๋อบอก “แต่ว่า ซือถูจัดการยาก เพราะคนคนนี้ไม่สนหรอกว่าเธอเป็นใคร แค่เขาต้องการ อะไรเขาก็กล้าทำทั้งนั้นแหละ คนไม่มีหลักการแบบนี้ ไม่กลัวอำนาจอะไร ทำให้จัดการได้ยาก”
“โอเคค่ะ…”
“เอาล่ะ เธอไปเถอะ”
ไม่นานหลินเช่อก็เข้ามาในบ้าน
มองเธอเดินเข้าไป กู้จิ้งเจ๋อทิ้งคนคอยเฝ้าที่นี่ไว้ด้วย จากนั้นจึงขับรถออกไป
เมื่อพ่อบ้านเฉินมองเห็นหลินเช่อก็พาเธอเข้าไปด้านใน เดินพลางบอกเธอยิ้มๆ “นานแล้วครับที่คุณชายฉยงไม่ได้ฟันดาบกับใคร คุณสามารถทำให้คุณชายฉยงให้ความสนใจแบบนี้ พวกเราแปลกใจมากครับ”
“เหรอคะ…งั้นเขาคงไม่ใช่ฟันดาบไม่เป็นแล้วใช่ไหมคะ”
“เอ่อ…” พ่อบ้านเฉินบอก “อย่าพูดแบบนั้นเลยครับ”
เด็กคนนี้ กล้าเกินไปหรือเปล่า
แต่ว่า พวกเขาต่างก็สงสัยจริงๆ คุณชายฉยงที่ถูกบังคับให้กลับมาดูแลกิจการของครอบครัว ยังสามารถฟันดาบได้อีกหรือเปล่า
ไม่นาน หลินเช่อก็เดินเข้ามาด้านใน เห็นว่าซือถูฉยงยืนอยู่ด้านในแล้ว เขายืนอยู่ตรงนั้น ร่างสูงให้ความรู้สึกเย็นยะเยือก
หลินเช่อเข้าไปด้านใน ทักทาย “เฮ้ ฉันมาแล้วค่ะ”
เขาหันกลับมา มองหลินเช่อ “พร้อมจะลำบอกแล้วหรือยัง”
“…”
ไม่นานซือถูฉยงก็พาหลินเช่อเข้าไปดูอุปกรณ์ด้านใน
ห้องฟันดาบที่นี่นั้นดูเป็นมืออาชีพมาก มีครบทุกอย่าง
ซือถูฉยงบอก “การฟันดาบแบ่งเป็นดาบฟอยล์ ดาบเอเป้ ดาบซาเบอร์ งานเลี้ยง ดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยู ของพวกคุณ จัดก็คือการแข่งขันดาบฟอยล์ และชนิดนี้ก็เหมาะกับผู้หญิงที่สุด”
เขาหยิบอุปกรณ์ให้เธอ บอกกับเธอ “ด้านบนเป็นเซนเซอร์ ถ้าดาบโจมตีด้านบน มันจะปรากฏ มันจะช่วยนับคะแนนในยามแข่งขัน”
“ว้าว การฟันดาบมีหลายวิธีขนาดนั้นเลย”
“ตอนนี้” เขามองหลินเช่อ “ต้องไปออกกำลังฝึกฝนร่างกายกับผมก่อน”
“อ่า…”
Related