หลินเช่อทำเพียงยิ้มให้นักข่าว “ละครทุกเรื่องต่างก็ต้องคัดเลือกนักแสดง ไม่ได้รับเลือกในเรื่องนี้ ก็ยังมีเรื่องใหม่ นี่ไม่ใช่การแข่งขัน แค่เป็นงานงานหนึ่งเท่านั้นเองค่ะ”
ทว่านักข่าวกลับเอ่ยขึ้นว่า “แต่ว่าบันทึกอูกู่ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าเป็นละครที่โด่งดัง ใครได้มีโอกาสร่วมแสดงในเรื่องนี้ก็ดังทั้งนั้น ตอนนี้มีนักแสดงหญิงเข้าร่วมคัดเลือกประมาณยี่สิบกว่าคนแล้ว การแข่งขันนับว่าสูงเลยทีเดียว”
หลินเช่อตอบ “บนโลกใบนี้มีเรื่องดีๆ มากมาย อย่างเช่นฉันเห็นว่าบิลเกตส์มีเงินมาก ฉันยังคิดว่าทำไมคนที่มีเงินถึงไม่ใช่ฉันนะ ถ้าเกิดคนอื่นถูกรับเลือก ฉันต้องอิจฉาแน่นอนค่ะ นี่มันไม่ได้แสดงถึงอะไร ฉันไม่ใช่บิลเกตส์ ฉันก็ยังคงใช้ชีวิตของฉันต่อไป วันนี้ฉันไม่ได้รับบทนี้ ฉันก็ยังคงใช้ชีวิตต่อไป นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะชี้ขาดชีวิตของฉันเลยค่ะ”
นักข่าวมองสบตากัน
เพียงแค่ช่วงนี้ทั้งสองคนมักถูกหยิบยกขึ้นมาเปรียบเทียบกัน การคัดเลือกนักแสดงครั้งนี้นั้นมีหัวข้อพูดถึงมากมาย ถึงได้ถูกนักข่าวหยิบยกขึ้นมากล่าวถึง
เมื่อหลินเช่อตอบแบบนี้ก็ทำให้พวกเขาทำอะไรไม่ถูกขึ้นมาทันที
หลินเช่อเดินเข้าไปด้านใน
เมื่อเข้าไปก็เห็นว่า ฉินหวานหว่านได้มาถึงก่อนแล้ว
ฉินหวานหว่านยิ้มให้หลินเช่อ “ทำไมเพิ่งมาล่ะ”
หลินเช่อบอก “มาคัดเลือกนักแสดงนี่นา ไม่ใช่มาซื้อผัก ทำอย่างกับว่ามาถึงก่อนแล้วจะได้ก่อนงั้นแหละ คนมาทีหลังจะไม่ได้ของสดแล้วแบบนั้นหรือเปล่า ทุกคนต่างก็ต้องอาศัยความสามารถเพื่อให้ได้มา ไม่ใช่ว่านักข่าวด้านนอกนั้นบอกว่าให้ใครก็จะให้ใคร”
สีหน้าของฉินหวานหว่านเปลี่ยนไปเล็กน้อย
แต่ก็ยังคงเป็นฉินหวานหว่าน ต่อจากนั้นเธอก็ยิ้มออกมาด้วยท่าทางเกรงอกเกรงใจ “จริงสิ ช่วงนี้หนังของเธอเข้าฉายแล้ว รายได้ดูเหมือนจะดีมากเลยนี่นา กู้จิ้งอวี่ดีกับเธอจริงๆ มอบบทดีๆ ให้เธอทั้งนั้น น่าเสียดายละครเรื่องนี้กู้จิ้งอวี่ไม่ได้เป็นผู้จัด ไม่งั้นฉันก็คงไม่ได้คะแนนอะไรแล้ว”
หลินเช่อมองฉินหวานหว่าน “ใครเป็นผู้จัด ยังไงก็ต้องดูความเหมาะสมของบทบาทและความสามารถของนักแสดง ไม่มีใครมีหรือไม่มีคะแนนหรอก ดูว่าเดี๋ยวอีกหน่อยคณะผู้จัดเขาจะเลือกใครเถอะ”
พูดจบ หยางหลิงซินก็ส่งเสียงเย้ยหยันไปให้ฉินหวานหว่าน
หลินเช่อเดินผ่านฉินหวานหว่านเข้าไปด้านใน
หยางหลิงซินพูดกับหลินเช่อ “เธอใช้ไม่ได้เลยจริงๆ ประโยคไหนก็หมายถึงพี่เช่อพึ่งพากู้จิ้งอวี่ทั้งนั้น พี่เช่อมีความสามารถ ถึงได้ถูกกู้จิ้งอวี่เลือกหรอก ใครใช้ให้เธอแสดงได้ไม่ดี กู้จิ้งอวี่เลยไม่สนใจเธอ”
“เอาล่ะ เราไปดูบทกันก่อนดีกว่า”
เมื่อพนักงานเห็นว่าหลินเช่อมาถึงแล้ว จึงรีบพาเข้าไปด้านในพร้อมส่งบทละครให้
ความจริงหลินเช่อเคยอ่านมาหลายรอบแล้ว และเธอเองก็เป็นแฟนคลับของนิยายเรื่องนี้ด้วย จึงเข้าใจในบทนางเอกของเรื่องนี้เป็นอย่างดี
บทนี้เธอชอบมาก มีความสามารถ ฉลาดหลักแหลม ทว่ามีความอ่อนโยนในแบบผู้หญิง
จุดที่สามารถดึงดูดคนที่สุดคงจะเป็นความสามารถและทักษะด้านเวทมนตร์ของเธอ ความจริงบทบาทนี้เหมาะสมกับหลินเช่อมาก เพราะในหลายบทบาทที่เธอแสดงได้ดีนั้นล้วนคล้ายคลึงกัน สวยทว่าเย็นชา โดดเด่น
ตอนที่หลินเช่อมาถึงห้องฝึกซ้อม คณะผู้จัดหลายคนได้มารออยู่ก่อนสักพักแล้ว
ฉินหวานหว่านเองก็อยู่ที่นั่น สร้างความสนิทสนมกับผู้จัด
เมื่อหลินเช่อเข้ามาแล้ว หลายคนหันไปทักทายหลินเช่อ
“สวัสดีค่ะผู้กำกับ ผู้อำนวยการสร้าง อาจารย์เฉินสวัสดีค่ะ” หลินเช่อทักทายพวกเขาด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นมองเห็นนักเขียนนั่งอยู่ข้างๆ เธอจึงรีบบอก “โอ๊ะ สวัสดีค่ะ ขอถ่ายรูปด้วยได้ไหมคะ ฉันเป็นแฟนนิยายของคุณค่ะ”
นักเขียนมองเห็นแล้วตกใจมาก รีบบอก “ขอบคุณครับ ขอบคุณ ขอบคุณที่คุณชอบ ได้แน่นอนครับ ยินดีมากเลย”
ครั้งนี้นักเขียนมาเป็นคนเขียนบทเอง เพื่อไม่ให้ผู้คนรู้สึกว่าละครเรื่องนี้ไม่ตรงตามต้นฉบับ และจึงได้มาร่วมคัดเลือกนักแสดงด้วยตนเอง ดังนั้นจึงคอยดูอยู่ข้างๆ ตลอด
เห็นว่านักแสดงเหล่านี้เข้ามาทำความคุ้นเคยด้วย ก็คุ้นชินแล้วไม่น้อย
นักแสดงหลายคนตั้งใจบอกว่า พวกเขานั้นเป็นแฟนนิยายเรื่องนี้
แต่เขาก็ยังถ่ายรูปกับหลินเช่อ เพราะอย่างไรตอนนี้หลินเช่อก็กำลังมีชื่อเสียง เขาเคยได้ดูผลงานการแสดงของหลินเช่อ รู้สึกว่าเธอเหมาะสมมาก
อีกด้าน ฉินหวานหว่านส่งเสียงหึเบาๆ พูดกับผู้จัดการ “ก็เข้าไปตีสนิทไม่ได้ต่างจากฉันหรอก”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวอีกหน่อยเราก็ทำให้เธอหมดทางไป ดูสิว่าเธอจะทำยังไง”
ไม่นานก็มาถึงช่วงการแสดงของทั้งคู่
ฉินหวานหว่านเดินขึ้นไปก่อน มองหลินเช่อที่นั่งอยู่อีกด้าน เธอยกยิ้มร้าย
หลินเช่อรู้สึกมีลางสังหรณ์ไม่ดี
เป็นดังนั้น เธอแสดงฉากแอคชั่นสั้นๆ ของละคร
หมุนตัวอย่างคล่องแคล่ว ใช้ปืนยิง ร่ายเวทมนตร์ ท่าทางคล่องแคล่วแบบนี้แสดงออกถึงบทบาทของตัวละคร ทำให้คนรู้สึกว่าถ้าหากได้แต่งตัวเข้าไป คงจะดูดีมากทีเดียว
เพียงแต่การแสดงนั้น…
หยางหลิงซินถาม “พี่เช่อ การแสดงของเธอ ทำไมเหมือนของพี่เลยล่ะคะ”
หลินเช่อกุมมืออยู่แบบนั้น
ใช่ เหมือนมาก
ไม่ใช่แค่เหมือน เธอเลียนแบบวิธีการแสดงของหลินเช่อทุกอย่าง กระทั่งสายตาเองก็ยังเหมือน
หลินเช่อเข้าใจในทันที เธอตั้งใจ
เธอตั้งใจใช้วิธีการแสดงของหลินเช่อ งั้น แล้วหลินเช่อจะทำอย่างไรดี
บทกลางๆ แบบนี้ มันเป็นความโดดเด่นของหลินเช่อมาตลอด และเป็นเหตุผลที่คณะผู้จัดมองว่าบทบาทนี้เหมาะสมกับหลินเช่อ
ตอนนี้ฉินหวานหว่านแสดงออกมาให้เห็นว่า เธอเองก็มีความสามารถแบบนี้เหมือนกัน และชิงใช้วิธีการนี้ไปก่อนหน้าหลินเช่อ หากอีกสักครู่หลินเช่อใช้การแสดงชุดเดียวกันก็จะกลายเป็นว่าไม่มีความแปลกใหม่ แต่ถ้าไม่แสดงแบบนี้ เธอก็จะไม่มีข้อได้เปรียบในการคัดเลือกนักแสดงในครั้งนี้
เมื่อฉินหวานหว่านแสดงเสร็จ ทุกคนต่างพร้อมใจกันปรบมือให้
และหันมามองหลินเช่อในเวลาเดียวกัน
ฉินหวานหว่านบอก “หลินเช่อ นี่เป็นสิ่งที่เธอถนัด ฉันเองก็เรียนรู้มาจากเธอ อย่าถือสาเลยนะ”
อย่าถือสาบ้าอะไรล่ะ
อีกด้านหยางหลิงซินโกรธจนไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว
และในตอนนั้นเอง หลินเช่อจึงตอบกลับเสียงเรียบ “ไม่เป็นไรหรอก คนโบราณปลูกต้นไม้ คนสมัยใหม่ได้พึ่งร่มเงา ฉันเองก็เรียนมาจากอาจารย์เหมือนกัน เธอจะเอาไปใช้ก็ตามสบายเลย”
ฉินหวานหว่านนั่งลงอีกฝั่งอย่างได้ใจ มองไปยังหลินเช่อ ดูสิว่าเธอจะทำอย่างไรได้
จะเปลี่ยนเทคนิคการแสดงกะทันหันเพื่อแสดงฉากนี้เหรอ
แต่การแสดงของนักแสดงมันยากมากที่จะต้องเปลี่ยน โดยเฉพาะเมื่อเคยชินกับการแสดงและสายตาแบบนี้แล้ว เมื่อเปลี่ยนวิธีก็จะทำให้คนรู้สึกว่ามันน่าอึดอัด
หลินเช่อมายืนอยู่ตรงหน้าผู้คน มองดูคณะผู้จัด โค้งตัวทำความเคารพ จากนั้นจึงมองตรงไปด้านหน้า
ทุกคนเองก็แปลกใจ ไม่รู้ว่าเธอกำลังแสดงอะไรอยู่
การแสดงเหมือนกัน แต่ทุ่มเทมากกว่าฉินหวานหว่านงั้นเหรอ
จากนั้นหลินเช่อสูดหายใจเข้าลึก นั่งลงบนพื้นทันที…