ยังดีที่ทำเนียบหลิวลี่นั้นใหญ่โต คืนนั้นอวี๋หมินหมิ่นไปคุยเรื่องการลงทุนกับสวี่อี้ ไม่ได้สนใจสองคนด้านนอกนั้นอีก
กลางดึก
อวี๋หมินหมิ่นออกไปดื่มน้ำ
ทำเนียบหลิวลี่ยามค่ำคืนนั้น เมื่อสาวใช้ออกไปหมดก็เหลือไว้เพียงความว่างเปล่า
เมื่อเดินออกมา อวี๋หมินหมิ่นจึงชะงัก เพราะด้านนอกนั้นมองเห็นกู้จิ้งหมิงที่กำลังดื่มน้ำอยู่
ไม่คิดว่า จะมาเจอเขาในเวลานี้
เธอแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นว่ากู้จิ้งหมิงและหยินซู่หย่ากอดกัน แต่ความจริงเธอมองเห็นมันแล้ว
ตอนนี้ทำอะไรไม่ถูก เธอกำลังจะแสร้งทำเป็นไม่เห็นอีกครั้ง รีบหนีออกไปจากห้องครัวนี้
พึ่งหมุนตัวหนีก็ได้ยินเสียงดัง เพล้ง ขึ้นมา
ขวดน้ำร่วงอยู่บนพื้น
“กู้จิ้งหมิง คุณทำยังไง…”
อวี๋หมินหมิ่นมองเห็นกู้จิ้งหมิงล้มตามลงไป
อวี๋หมินหมิ่นรีบวิ่งเข้าไปหา พยุงกู้จิ้งหมิงเอาไว้
เขามีไข้ ตัวร้อนมาก
เธอไม่รู้ว่าตัวเองพาร่างของเขากลับเข้าไปในห้องได้อย่างไร เพียงแต่เมื่อไปถึงเตียงแล้ว ถึงรับรู้ได้ว่าแผ่นหลังของตัวเองนั้นเต็มไปด้วยเหงื่อ
ตอนนี้เธอพึ่งนึกขึ้นได้ว่าต้องโทรหาหมอ
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดต่อสาย
ไม่นานก็โดนกู้จิ้งหมิงที่ตื่นขึ้นมาท่าทางงัวเงียแย่งไป
“ไม่ต้อง” เขาค่อยๆ เปิดตา
“อย่าแตกตื่นไป ในตู้มียา”
อวี๋หมินหมิ่นเห็นเขาอยู่ในอาการกึ่งหลับกึ่งตื่น ดวงตามัวราวกับไข่มุก เหมือนมีเมฆหมอกสีดำกำลังบดบัง เธอรู้สึกว่ามัน…สวย
เธอชะงัก จากนั้นรีบเปิดตู้
มองเห็นยามากมายอยู่ในนั้น
แต่ยาพวกนี้ เอาให้ท่านประธานาธิบดีกินมั่วๆ ได้เหรอ มันจะดีจริงๆ เหรอ
เกิดกินเข้าไปแล้วเป็นอะไรขึ้นมา…
นั่นมันจะกลายเป็นเรื่องการเมือง เป็นการลอบสังหาร…
เธอคิดไปเรื่อย จากนั้นจึงรีบหายาลดไข้ให้เขา และหาปรอทวัดไข้ วัดอุณหภูมิร่างกาย
อุณหภูมิร่างกายเขาสูงถึงสามสิบเก้าองศาเลยนะ
“เดี๋ยวคุณกินยาลดไข้ไปก่อน คงจะเพราะตากฝน เฮ้อ คุณไม่รู้จักระวังเลย ตากฝนแล้วก็ควรรีบอาบน้ำ แช่น้ำอุ่นสิ”
กู้จิ้งหมิงหลับตาลงอีกครั้ง ไม่รู้ว่าหลับไปแล้วหรือเปล่า
ให้เขาทานยา ห่มผ้าให้ ลองคิดดูแล้วก็ยังไม่กล้าออกไปไหน
เขาคงคิดว่าแค่เป็นไข้ ไม่ต้องไปเรียกหมอให้แตกตื่น
ก็จริง เป็นประธานาธิบดีนั้นโดดเด่น แต่ว่าไม่มีอิสระ
เรื่องเล็กๆ ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ได้
เห็นเขาทานอาหารบำรุงร่างกายพวกนั้นทุกวันก็รู้แล้ว แม้จะอยู่เหนือคนอื่นเป็นหมื่นเป็นล้าน มีอำนาจไปทั่วประเทศ ทว่ากลับไม่สามารถเลือกทานสิ่งที่ตัวเองชอบได้ด้วยซ้ำ
และยิ่งไม่ต้องพูดถึง ผู้หญิงที่ตัวเองรัก…
กู้จิ้งหมิงคงจะหลับไปแล้วสินะ
เธอนั่งอยู่อีกฝั่ง จ้องมองใบหน้าสมบูรณ์แบบนั่น
ใบหน้าซับซ้อนนี้ ไม่รู้ผ่านอะไรมาบ้าง แม้ว่าดูเหมือนเรียบนิ่ง แต่ก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นผู้ใหญ่
ดวงตาของเขาโต ขนตาเรียวยาวเรียงอยู่ด้านล่าง ดำขลับงดงาม
เธอบอก “รักคุณหยิน แต่ต้องมาแต่งงานกับฉัน…คุณคงทุกข์ใจไม่น้อยสินะ”
“แต่ใครใช้ให้คุณเลือกเส้นทางนี้กัน ในเมื่อเลือกที่จะมีอำนาจ ก็ต้องปล่อยผู้หญิงที่รักไป”
“แม้ว่าฉันจะไม่มีอะไรดี แต่ว่าฉันจะเป็นภรรยาที่ดีของคุณ จริงๆ นะ แน่นอน…และรับปากว่าในยามที่คุณไม่ต้องการฉันแล้ว ฉันจะรีบไปทันที จะไม่ต้องให้คุณลำบากเลยแม้แต่น้อย…”
ตอนนั้นเอง โทรศัพท์อวี๋หมินหมิ่นพลันดังขึ้น
เธอรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ไม่อยากให้มันรบกวนการพักผ่อนของกู้จิ้งหมิง รีบออกไปรับโทรศัพท์
ทว่าเมื่อเร่งรีบ จึงไม่ทันระวังเท้า
เธอกรีดร้องขึ้นมา เธอสะดุดอะไรบางอย่าง
ในตอนที่เธอคิดว่าตัวเองจะล้มลงไปนั้น…
มือมือหนึ่งก็ยื่นมาคว้าแขนเธอเอาไว้
อวี๋หมินหมิ่นถูกเขาดึงแบบนั้น จึงล้มลงไปบนเตียงนุ่ม…
เธอลืมตา มองไปด้านบน ใบหน้าของกู้จิ้งหมิงนั้นอยู่ตรงหน้า
เขาสวมเพียงท่อนล่าง ท่อนบนที่เปลือยเปล่านั้น เมื่อทานยาเข้าไปก็เต็มไปด้วยเหงื่อ
หยาดเหงื่อหยดลงบนร่างของเธอ ไม่รู้สึกรังเกียจเลยสักนิด
ทว่ากลับทำให้รู้สึกปลอดภัย
เขาที่อยู่ในสภาพแบบนี้ กลับยังให้ความรู้สึกถึงความเป็นผู้ชาย
ดูเหมือน…ผู้ชายจะสามารถบรรเทาทุกอย่างได้ด้วยหน้าตาจริงๆ
เขามองอวี๋หมินหมิ่นที่อยู่ใต้ร่าง
อวี๋หมินหมิ่นตกใจ ไม่ทันคิด
เธอเกือบล้มลงไปแล้ว ทว่าถูกเขาดึงเอาไว้ จึงไม่ได้ล้มลงไป
งั้น…
เขานอนหลับไปแล้วไม่ใช่เหรอ เขาจะคว้าเธอได้ทันเวลาได้อย่างไร
งั้นหมายความว่า เมื่อสักครู่เขาไม่ได้หลับอย่างนั้นเหรอ
แต่ถ้าเขาไม่ได้หลับ…
อวี๋หมินหมิ่นเบิกตากว้าง งั้นที่เธอพูดไปเมื่อสักครู่…
ใบหน้าของอวี๋หมินหมิ่นแดงระเรื่อขึ้นทันที
“กู้จิ้งหมิง เมื่อสักครู่ที่ฉันพูด…”
ทว่าไม่รอให้เธอพูดจบ
ในระหว่างที่สะลึมสะลือเขาไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้ ตอนนี้ต้องการเพียงกำจัดสิ่งกีดขวางทุกอย่างบนร่างกายของเธอ จากนั้นอาศัยความสามารถของตัวเอง กัดเธอ ทรมานเธอ
เขากดจูบไปทั่วหน้าอกของเธอ
เธอทำได้เพียงกอดศีรษะของเขาเอาไว้ อยากกดเขาเอาไว้ ทว่าเสื้อผ้าบนร่างกลับถูกเขาฉีกขาดไปหมดแล้ว
“กู้จิ้งหมิง…กู้จิ้งหมิง…คุณทำอะไร…”
เธอคร้านจะสนใจเขา ไม่อยากโดนเขาแตะต้อง
เพราะฉากที่เห็นเมื่อตอนเย็นนั้น ทำให้เธอรู้สึกว่า ไม่แตะต้องจะดีกว่า
ในใจเขายังมีคนอื่น ทว่ากลับมาแตะต้องเธอ แบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่ดีเลย
แต่ว่า เขากลับไม่ฟังเธอ แม้ว่าจะป่วย แต่ไม่รู้ว่าเขาเอากำลังมาจากไหน ถึงได้ฉีกทึ้งเสื้อผ้าเธอจน…
——
วันต่อมา
ตอนที่อวี๋หมินหมิ่นตื่นขึ้นมา สาวใช้กำลังเก็บกวาดห้องอยู่
“สวัสดีค่ะคุณผู้หญิง”
“คุณผู้หญิงตื่นแล้ว นี่เป็นอาหารเช้าที่คุณผู้ชายเตรียมไว้ให้ค่ะ”
อวี๋หมินหมิ่นถาม “อืม ท่านประธานาธิบดีล่ะ”
“ออกไปพบท่านรัฐมนตรีแล้วค่ะ”
โอเค…
“ท่านประธานาธิบดีสั่งเอาไว้ให้เตรียมซุปให้คุณค่ะ บอกว่าร่างกายของคุณอ่อนแอ ต้องบำรุงหน่อย”
ใบหน้าอวี๋หมินหมิ่นแดงขึ้น
ร่างกายอ่อนแอที่ไหน เมื่อคืนที่เธอสลบไปเพราะเขารังแกต่างหาก
แต่ว่าเธอคิดว่า ถูกเขารังแกขนาดนั้นคงไม่มีใครไม่สลบหรอก
ผู้หญิงที่ไหนจะรับไหว
สาวใช้บอกยิ้มๆ “ดูเหมือนท่านประธานาธิบดีจะเป็นห่วงคุณมากเลยนะคะ”
อวี๋หมินหมิ่นไม่ได้พูดอะไร ยกถ้วยขึ้นมา ดื่มไปหนึ่งอึก
เมื่อสาวใช้เห็นเธอดื่มหมดแล้วจึงรีบเข้าไปเทให้อีกถ้วย
ตอนที่อวี๋หมินหมิ่นมาครั้งแรก ต้องเรียนทุกอย่าง ต้องเข้าเรียนทุกวัน
ทุกคนรู้ว่าเธอเป็นภริยาประธานาธิบดี เคารพเธอ ทว่าในใจกลับไม่ได้ชื่นชอบเธอ
แต่ตอนนี้รู้สึกว่าเธอก็เป็นคนดี และท่านประธานาธิบดีก็ไม่ค่อยยุติธรรมกับเธอเท่าไหร่
ถ้าเป็นคนอื่น ได้เจอเรื่องแบบเมื่อคืน ก็คงจะโวยวายแทบบ้าไปแล้ว
สาวใช้ต่างพากันเตรียมพร้อมเพื่อรองรับอารมณ์อวี๋หมินหมิ่น แต่เธอกลับไม่ทำแบบนั้น ทว่ากลับสงบนิ่งราวกับสายน้ำ ยังคงปฏิบัติต่อทุกคนด้วยท่าทางที่สุภาพและจิตใจดี
สิ่งนี้ยิ่งทำให้สาวใช้เกิดความรู้สึกดีต่อเธอ