เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 1439 คุณต้องรอผม

บทที่ 1439 คุณต้องรอผม

หล่อนเพียงแค่คิดไม่ตกว่าทำไมเขาถึงต้องทำแบบนี้?

ทำให้ต้องเกิดเรื่องขึ้นกับเสี่ยวเหยียน ทำให้หานชิงต้องเสียใจ ล้วนแล้วแต่ไม่มีผลดีต่อเขาเห้อเหลียนจิ่งทั้งนั้น กลับทำให้สวี่เย็นหวั่นไม่ชอบเขามากขึ้น รู้สึกว่าเขาอคติมากเกินไป

เมื่อก่อนสวี่เย็นหวั่นไม่ยอมสนใจเขา เหตุผลแรกก็เป็นเพราะเขาเจ้าชู้ เหตุผลข้อที่สองเป็นเพราะเขาอคติเยอะเกินไป

ทุกครั้งที่มองเข้าไปในตาของเขา สวี่เย็นหวั่นมักจะสัมผัสได้ถึงภาพลวงตาอันน่าสะพรึงกลัว เหมือนพวกสัตว์ป่าที่ออกล่าเหยื่อยามค่ำคืน เมื่อจ้องมองมาที่คุณทำให้รู้สึกขนลุกเย็นยะเยือกทุกครั้ง

หล่อนไม่ชอบ ไม่ชอบมาก

เห้อเหลียนจิ่ง สรุปแล้วนายเป็นคนทำเรื่องนี้จริงเหรอ?

สวี่เย็นหวั่นสับสนไปหมด กัดริมฝีปากแน่น ได้แต่หวังว่าหานชิงจะปลอดภัย

เมื่อเดินทางมาถึงโรงพยาบาล หลินสวี่เจิ้งกำลังคุยกับหานชิงอยู่ สวี่เย็นหวั่นคอยมองอยู่ด้านข้าง เห็นร่างกายของเขาบอบช้ำไปด้วยแผล จึงรู้สึกสงสารจับใจ

เพราะเสี่ยวเหยียนยังอยู่ที่โรงพยาบาล ดังนั้นหานชิงจึงไปไหนไม่ได้ ครั้งนี้เขาเองก็เจ็บหนัก อีกทั้งตอนนี้เสี่ยวเหยียนยังไม่ฟื้นขึ้นมา หานชิงจึงต้องอยู่เฝ้าหล่อนตลอด หลัวหุ้ยเหม่ยกับพ่อจางคอยพร่ำบอกเขา ให้เขาไปพักผ่อน ให้พวกเขาสองคนพ่อลูกเฝ้าเสี่ยวเหยียนก็พอ หานชิงก็ไม่ฟัง ดื้อดันจะเฝ้าด้วยตัวเองให้ได้

สุดท้ายหมดหนทางพูดจริงๆ จึงต้องปล่อยเขาไป

ไม่ต้องพูดถึงหานชิง แม้แต่หานมู่จื่อก็คอยเฝ้าอยู่ด้วยตลอด เพียงแต่ที่บ้านของหล่อนยังมีเสี่ยวโต้วหยาที่กำลังรอหล่อนอยู่ สุดท้ายหานมู่จื่อจึงทำได้เพียงพูดกำชับสั่งไว้และกลับไปที่บ้าน

เมื่อหลินสวี่เจิ้งพาสวี่เย็นหวั่นมาถึงที่โรงพยาบาล หานชิงก็พูดคุยกับหลินสวี่เจิ้งสักพัก แต่ไม่หันไปมองสวี่เย็นหวั่นเลยแม้แต่น้อย

สุดท้ายบทที่กำลังจะกลับ สวี่เย็นหวั่นยังคงรู้สึกเสียใจ

สิ่งแรกที่สวี่เย็นหวั่นทำเมื่อกลับไปถึงที่บ้าน คือโทรหาเห้อเหลียนจิ่ง

หลังจากที่กดโทรออก เสียงตอบรับที่เข้ามาในสายกลับบอกว่ามือถือของเห้อเหลียนจิ่งปิดเครื่อง หล่อนจึงรู้สึกสงสัยว่าเขาไปไหน? ไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่แทบคร่าชีวิตของเสี่ยวเหยียนไป เป็นฝีมือเขาจริงหรือไม่?

ขณะที่สวี่เย็นหวั่นกำลังครุ่นคิด เมื่อเปิดประตูเข้าไป ถึงกับต้องตกตะลึงไปในทันที

เพราะคนที่นอนอยู่บนเตียงในห้องหล่อน คือเห้อเหลียนจิ่งที่ไม่ได้เจอกันนานมาก เมื่อเห็นว่าหล่อนเข้ามา จึงยิ้มเยาะใส่หล่อน “กลับมาแล้วเหรอ?”

สวี่เย็นหวั่นตกใจมาก หยุดอยู่ที่เดิม ไม่กล้าก้าวเท้าเดินออกไปต่อ มองเห้อเหลียนจิ่งด้วยความหวาดระแวง

“ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่? นายมาที่นี่ทำไม? นายรู้รึเปล่าว่าที่นี่คือห้องของฉัน? อีกอย่าง นายเข้ามาได้ยังไง?”

ท่าทางหวาดระแวงของหล่อนทำให้ เห้อเหลียนจิ่งเสียใจมาก จากนั้นเขาจึงลุกขึ้นมาจากเตียง “ทำไมต้องระแวงฉันขนาดนั้นด้วย เมื่อคืนตอนเธอเมา ฉันเป็นคนมาส่งเธอกลับบ้านเอง และหยิบกุญแจติดมือไปด้วย มีปัญหาอะไรไหม?”

กรุ๊งกริ๊ง——

ระหว่างที่พูดอยู่ มือของเห้อเหลียนจิ่งก็ถือกุญแจขึ้นมา เมื่อสวี่เย็นหวั่นเห็นกุญแจพวงนั้น สีหน้าจึงเปลี่ยนไปทันที

“เห้อเหลียนจิ่ง นายหมายความว่ายังไง? ทำไมนายต้องเอากุญแจของฉันไปด้วย นายรู้บ้างรึเปล่า การที่เอาของคนอื่นไปโดยพลการแบบนี้ถือว่าเป็นการขโมย!?”

“ขโมย?” เห้อเหลียนจิ่งยิ้มเยาะ “ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเธอ แค่หยิบกุญแจของเธอไปหนึ่งพวง จะถือว่าขโมยได้ยังไง? มากไปกว่านั้น เมื่อคืนฉันทำเธอแล้ว เธอก็ตอบตกลงฉันแล้ว แม้ว่าตอนนั้นเธอจะดื่มจนเมาแล้ว แต่คำพูดหลังจากดื่มไปแล้ว ก็ถือว่าเชื่อถือได้ ใช่ไหม?”

เมื่อคืนสวี่เย็นหวั่นเมาจนไม่ได้สติอะไรเลย ต่อมาเกิดเรื่องอะไรขึ้น หล่อนจำอะไรไม่ได้เลย ยังจะมีสติไปพูดคุยสนทนาได้อย่างไร?

“ยิ่งไปกว่านั้น ฉันยังช่วยเธอทำความดีแล้วหนึ่งเรื่อง เธอควรขอบคุณฉันไม่ใช่หรือไง?”

เมื่อฟังถึงตอนนี้ สวี่เย็นหวั่นแทบจะหยุดหายใจ สีหน้าเปลี่ยนไปทันที

“นี่นายหมายความอะไร? หรือว่านาย…”

ก่อนหน้านี้ที่หล่อนโทรไปเพราะอยากถามเห้อเหลียนจิ่งเรื่องไฟไหม้ที่เกิดขึ้นในวันนี้ แต่เมื่อครู่ที่จู่ๆเขาก็มาปรากฏตัวอยู่ในห้องของตัวเอง ดังนั้นหล่อนจึงรู้สึกตกใจมากและลืมถามไปในทันที

ตอนนี้เห้อเหลียนจิ่งพูดเรื่องนี้ขึ้นมาเอง สวี่เย็นหวั่นแทบจะไม่ต้องถามอะไรก็สามารถแน่ใจได้ว่าเห้อเหลียนจิ่งเป็นคนทำเรื่องนี้

ขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่ เห้อเหลียนจิ่งก็ลุกขึ้นเดินมาหยุดข้างหล่อน ยกมือขึ้นมาโอบเอวของหล่อนไว้ กดตัวหล่อนไปที่กำแพง พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา: “ชอบของขวัญชิ้นนี้ที่ผมมอบให้คุณรึเปล่า?”

หลังจากที่รู้ว่าเขาเป็นคนทำเรื่องนี้ สวี่เย็นหวั่นรู้สึกห่อเหี่ยวใจไปในทันที สีหน้าซีดเซียว มองเขาด้วยความตกใจและสะพรึงกลัว

ต้องเป็นคนแบบไหนกันแน่ จิตใจอำมหิตโหดเหี้ยมมากขนาดไหน จึงทำเรื่องถึงแก่ความเป็นความตายออกมาได้เช่นนี้?

เห้อเหลียนจิ่งหรี่สายตาลง รอยยิ้มตรงมุมปากดุร้ายเพิ่มมากขึ้น: “ดูเหมือนว่าตัวเธอสั่น?”

สวี่เย็นหวั่นไม่พูดอะไร แต่ดูเหมือนว่าตัวของเธอสั่นแรงมาก

“กลัวมากขนาดนี้เลยเหรอ?” นิ้วของเห้อเหลียนจิ่งไต่เล่นไปบนคอของหล่อน สุดท้ายแนบติดกับใบหน้าของหล่อน และเข้าใกล้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ: “เธอกลัวอะไร? ฉันไม่ได้จะทำร้ายเธอสักหน่อย ฉันบอกแล้วว่าจะคอยติดตามอยู่ข้างเธอเอง เรื่องที่เธอไม่กล้าทำ ฉันจะทำแทนเอง”

“ปะ…ปล่อยฉัน” บทที่สวี่เย็นหวั่นพูดขึ้น ยังพูดไม่ชัดถ้อยชัดคำเท่าไหร่ หล่อนมองดูสายตาของเห้อเหลียนจิ่งที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ทั้งๆที่รู้ล่วงหน้าว่าเขาเป็นคนใจเหี้ยมแบบนี้ ดังนั้นตั้งแต่แรกเริ่มเดิมทีหล่อนจึงไม่ยอมให้ความหวังเขาเลยแม้แต่น้อย

เพียงแต่คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะตามตัวเองกลับมาในประเทศ และสืบเรื่องราวทั้งหมดของหล่อน ทำไม ทำไมเขาต้องทำแบบนี้ด้วย!

“อย่ากลัวไปเลย” เห้อเหลียนจิ่งโอบเอวของหล่อนไว้ ดึงหล่อนเข้ามาใกล้มากขึ้น จากนั้นก้มหน้าลงสูดดมกลิ่นหอมบนตัวของหล่อน “ฉันก็แค่ชอบเธอเท่านั้น ฉันทำอะไรให้เธอตั้งหลายอย่าง เธอช่วยตอบรับฉันบ้าง ได้ไหม?”

ไม่ตอบอะไรเขา เห้อเหลียนจิ่งเพียงแค่รู้สึกว่าคนที่อยู่ใต้ฝ่ามือของเขาสั่นแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขารู้สึกขัดใจอย่างมาก เพราะสิ่งที่เขาทำลงไปเพียงเพื่ออยากเอาใจหล่อน แต่ไม่ได้ทำเพื่อให้หล่อนกลัวตัวเอง

ผ่านไปสักพัก สวี่เย็นหวั่นจึงจะตั้งสติและปรับน้ำเสียงกลับมาได้

“เห้อ…เห้อเหลียนจิ่ง นายทำแบบนี้มันผิดกฎหมายนะ ต้องติดคุกนะ”

“ฉันรู้” เห้อเหลียนจิ่งฉีกยิ้มขึ้น “ดังนั้นฉันจะรีบหนีออกไปจากที่นี่ จะไปกับฉันไหม?”

“ไม่!” สวี่เย็นหวั่นส่ายหน้าอย่างเต็มแรง: “มันเป็นไปไม่ได้ นายคิดจะหนี?”

“แน่นอน ฉันเห้อเหลียนจิ่งไม่อยากอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิตหรอกนะ”

สวี่เย็นหวั่นมองดูเห้อเหลียนจิ่งที่อยู่ตรงหน้า และไม่รู้ว่าตัวเองคิดอย่างไร จู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า: “ นายไปยอมรับสารภาพเถอะ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เห้อเหลียนจิ่งมองหล่อนพลางขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

“ยอมรับสารภาพช่วยลดโทษได้นะ แม้ว่านายจะเป็นคนวางเพลิง แต่ฉันไปดูที่โรงพยาบาลมาแล้ว พวกเขาสองคนไม่เป็นอะไร หากไม่มีใครบาดเจ็บหรือถึงแก่ชีวิต และนายก็ไปรับสารภาพทันเวลา โทษหนักจะกลายเป็นเบาแน่นอน”

สวี่เย็นหวั่นไม่อยากยอมรับว่าตัวเองมีความสัมพันธ์ใดๆกับเขา แต่เมื่อคิดว่าเขาทำเรื่องนี้ไปเพื่อตัวเอง ถ้าต้องติดคุกเพราะตัวเอง ถึงตอนนั้นหล่อนจะจัดการตัวเองอย่างไร?

ดังนั้น หล่อนจึงทำได้เพียงโน้มน้าวให้เขาไปสารภาพผิด

“สารภาพผิด? หึ เย็นหวั่น เธอคิดว่าคนอย่างฉันเห้อเหลียนจิ่งเป็นคนจะไปสารภาพผิดงั้นเหรอ? นอกเสียจากว่า…”

“นอกจากอะไร?”

“นอกจาก เธอจะยอมตกลงกับฉัน ถ้าฉันไปสารภาพผิด เธอจะต้องรอฉันไปตลอดจนกว่าฉันจะออกมา”

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset