เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 463 คือใคร

บทที่ 463 คือใคร

หานมู่จื่อ เก็บมือถือ หลังจากนั้นจึงหัวเราะออกมา “แต่พวกคุณรู้ได้ยังไงว่าเป็นฉัน”

หญิงสาวคนนั้นยิ้มหวาน “ประธานส่งรูปของคุณให้ฉันแล้วค่ะ ให้ฉันจำหน้าคุณไว้ คุณมู่จื่อเชิญทางนี้ค่ะ”

ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง

พี่ชายคนนี้รอบคอบดีจัง หานมู่จื่อ รู้สึกอบอุ่นหัวใจ เธอพยักหน้าแล้วเดินตามหญิงสาวคนนั้นไป

หลังจากถึงที่หมาย หานมู่จื่อ เอ่ยขอบคุณหญิงสาวคนนั้น แล้วก็เดินเข้าไปหาหานชิง

เธอเคาะประตูห้องทำงาน น้ำเสียงนุ่มลึกดังออกมาจากข้างใน

“เข้ามา”

หานมู่จื่อ จึงผลักประตูเข้าไป พบว่าหานชิงกำลังนั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟา

มือข้างหนึ่งกำลังยกกาแฟขึ้นจิบ อีกมือหนึ่งกำลังพลิกเอกสาร

แถมวันนี้หานชิงยังสวมแว่นตากรอบทอง ดูเป็นผู้ดีอย่างมาก

ตอนที่ หานมู่จื่อ กำลังยืนเอ๋ออยู่ หานชิงรู้สึกว่าเงียบแปลกๆ ก็เลยช้อนตามองไปยังเธอ

“มู่จื่อ เธอมาได้ยังไง”

เมื่อเห็น หานมู่จื่อ ท่าทางสงบนิ่งของหานชิงก็หายไปในทันที เขาวางแก้วในมือลง จากนั้นจึงลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปหาเธอ

หานมู่จื่อ ตั้งสติได้ เมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาใกล้เธอ ในใจเธอมีคำถามมากมายที่อยากจะถามให้ชัดเจน แต่รู้สึกว่าทำเช่นนี้จะดูเหมือนจงใจจนเกินไป

เธอก็เลยยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่เคยมาบริษัทของพี่ ก็เลยมาแวะมาดูหน่อย”

แม้ว่าเธอกำลังยิ้มอยู่ แต่หานชิงเป็นพี่ชายของเธอ ทำไมจะไม่เข้าใจน้องสาวของตัวเองล่ะ เมื่อเห็นยิ้มที่ไม่ได้ออกมาจากใจ เขาจึงเดินออกไปสั่งให้เลขาเอาเครื่องดื่มเข้ามาให้เธอ จากนั้นจึงเดินไปข้างเธอแล้วถามขึ้น

“ที่บริษัทไม่ยุ่งหรือไงถึงมีเวลาแวะมาที่นี่”

หานมู่จื่อ ไม่ได้นั่งลง แต่กลับเดินไปรอบๆ แล้วหยุดลงตรงข้างหน้าบานหน้าต่างขนาดใหญ่ มองไปยังความรุ่งเรืองของเมืองแห่งนี้

ขณะนี้เป็นเวลาโพล้เพล้ พระอาทิตย์กำลังตกอยู่ไกลๆ ท้องฟ้าถูกย้อมด้วยแสงยามพระอาทิตย์ตก มันงดงามจนไม่คิดว่านี่คือความจริง

“พี่ พี่มีเรื่องอะไรที่ยังไม่บอกฉันหรือเปล่า”

หานชิงชะงักฝีเท้าลง ความประหลาดใจปรากฏขึ้นในดวงตาสีดำ หลังจากนั้นเขาก็เดินไปยืนขนาบไหล่ของเธอ

“ยัยเด็กโง่ พี่มีเรื่องอะไรที่ไม่ได้บอกเธอเหรอ” พูดจบหานชิงก็ยื่นมือออกไปลูบหัวของ หานมู่จื่อ น้ำเสียงของเขาเอ็นดูเธอ

จู่ๆ ยัยเด็กคนนี้เปลี่ยนไปแบบนี้ เกิดอะไรขึ้นกันแน่

“เป็นอะไรไป” เมื่อเห็นเธอไม่พูดอะไร หานชิงจึงเอ่ยถาม

หานมู่จื่อ กะพริบตาปริบๆ แล้วมองไปยังหานชิง เธอสูดหายใจลึกแล้วเอ่ยถาม “ทำไมพี่ไม่บอกว่าฉันกับเย่โม่เซินยังไม่หย่ากัน”

วินาทีต่อจากนั้น มือที่หานชิงกำลังลูบหัวเธอชะงักไป

ราวกับเวลาถูกหยุดเอาไว้ หานชิงจ้องเธออยู่อย่างนั้น ส่วน หานมู่จื่อ ยืนอย่างเงียบๆ แต่ทว่าความเจ็บปวดมันแทบจะล้นออกมาจากแววตาของเธอ

เวลาผ่านไปเนิ่นนาน หานชิงดึงมือกลับมา

“เธอเจอเขาแล้วเหรอ”

เขาไม่ยอมรับและไม่ปฏิเสธ

หานมู่จื่อ รู้สึกว่าหัวใจของตัวเองกำลังดิ่งลงไป ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นเรื่องจริง

“พี่ยอมรับแล้วเหรอ” เธอเอ่ยถาม

หานชิงไม่ได้ตอบอะไร เขามองเธอด้วยแววตานิ่งและเยือกเย็น จากนั้นเขาก็เหลือบมองไปทางอื่น

“ไม่ใช่ไม่บอกเธอ แต่ฉันกำลังหาวิธีจัดการมาโดยตลอด แต่คิดไม่ถึงว่าพวกเธอจะมาเจอกันอีก”

เมื่อได้ฟังเช่นนี้ หานมู่จื่อ จึงเข้าใจแล้ว ที่แท้หานชิงรู้เรื่องนี้มาโดยตลอด แต่กลับไม่บอกเธอเท่านั้น

และเธอคือผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรง กลับคิดว่าหย่ากันตั้งนานแล้วและเธอไม่มีความสัมพันธ์ใดกับเย่โม่เซินอีกแล้ว

หานชิงเม้มปากแล้วจ้องเธอ

“เธอเจอเขาแล้วเหรอ เขาทำอะไรเธอ ถ้าเธอ…”

“ฉันจัดการเองได้” หานมู่จื่อ ตอบกลับอย่างเย็นชา

หานชิง “…….”

“ต่อจากนี้พี่ไม่ต้องจัดการเรื่องนี้แทนฉันอีกแล้ว ฉันจัดการเองได้”

“มู่จื่อ นี่เธอตำหนิพี่เหรอ” หานชิงขมวดคิ้ว “เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าพี่ไม่อยากบอกเธอ แต่พี่แค่คิดว่าพี่จัดการเรื่องนี้ได้ พี่เลยไม่ได้บอกเธอมาตลอด”

“ไม่ค่ะ” หานมู่จื่อ ส่ายหน้า “ฉันไม่ได้โทษพี่ ฉันแค่คิดว่าฉันคือคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรง จำเป็นต้องรู้เรื่องราวที่แท้จริง ห้าปีมานี้ฉันนึกว่าตัวเองไม่มีความสัมพันธ์ใดกับเขาแล้ว แต่ตอนนี้กลับบอกว่าฉันยังไม่ได้หย่ากับเขา พี่รู้หรือเปล่าว่าฉันไม่ได้เตรียมใจอะไรเลย ต่อจากนี้ฉันจะเผชิญหน้ากับเขายังไง”

“ขอโทษ” ในที่สุดหานชิงก็เข้าใจความลำบากใจของเธอ “พี่ไม่ดีเอง เธอ…”

“ไม่เป็นไรค่ะ ในเมื่อวันนี้ฉันรู้แล้ว งั้นต่อไปฉันจะหย่ากับเขาเอง ที่มาวันนี้ก็เพื่อต้องการยืนยันเท่านั้น อ้อ ช่วงนี้มีนักแสดงหญิงใช้ชื่อเสียงของพี่ทำให้ตัวเองดัง ถ้าพี่มีเวลาก็ตอบโต้กลับสักหน่อยเถอะ”

หานชิง “อะไรนะ”

“นี่ก็ค่ำแล้ว ฉันไปก่อนนะ” หลังจากที่ หานมู่จื่อ กลับไป หานชิงยังนึกถึงคำพูดที่เธอพูดเมื่อครู่ว่ามันหมายความว่าอะไร แต่ไม่นานความคิดเหล่านั้นก็ถูกความรู้สึกอื่นมาแทนที่เสียแล้ว

หานมู่จื่อ รู้เรื่องนี้แล้ว งั้นก็แสดงว่าเธอเจอเย่โม่เซินแล้ว

เพิ่งเจอกันคงจะไม่คุยเรื่องพวกนี้กันหรอก งั้นก็แสดงว่าพวกเขาเจอกันได้พักหนึ่งแล้ว

คนที่เป็นพี่ชายอย่างเขากลับไม่รู้เรื่องนี้เลย จู่ๆ หานชิงรู้สึกว่าตัวเองเป็นพี่ชายที่ไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย

เมื่อคิดได้ดังนั้นแววตาหานชิงจึงเริ่มมืดมน

หลังจากนั้นเขาไม่มีกะจิตกะใจในการทำงานอีกแล้ว นั่งอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งถึงเวลาเลิกงาน เขาคว้าสูทที่วางอยู่บนชั้น จากนั้นจึงหยิบกุญแจรถแล้วเดินลงมายังชั้นล่าง

ตอนที่กำลังเดินออกจากลิฟต์ ก็มีคนเดินเข้ามาหา “ประธานคะ ข้างหน้าบริษัทมีนักข่าวปาปารัสซี่คอยจับตาดูอยู่เยอะมาก ตอนคุณออกไปต้องระวังหน่อยนะคะ”

เมื่อได้ยินดังนั้น หานชิงจึงชะงักฝีเท้าลง “นักข่าวปาปารัสซี่งั้นเหรอ”

“ใช่ค่ะ มาจับตาดูอยู่ตั้งแต่ตอนเช้าแล้วค่ะ แต่ดูแล้วน่าจะมาไม่เยอะมากขนาดนั้น อีกทั้งคงไม่ทำอะไรที่น่าตกใจด้วยค่ะ เพราะฉะนั้นก็เลยไม่สนใจพวกเขา คุณต้องการ…”

หานชิงนึกถึงคำพูดที่มู่จื่อพูดกับตนเองในห้องทำงาน

มีนักแสดงหญิงใช้ชื่อเสียงของเขาไปทำให้ตัวเองดัง ถ้าพี่มีเวลาก็ตอบโต้กลับสักหน่อย

มู่จื่อหมายถึงเรื่องนี้เหรอ

“ไม่ต้อง ฉันออกไปเอง”

พูดจบ หานชิงจึงเดินออกไปข้างนอก เขาจำคำพูดของมู่จื่อไว้ขึ้นใจ ดังนั้นเขาจึงตั้งใจออกมาตอบโต้กลับ เมื่อหานชิงปรากฏตัว ปาปารัสซี่ที่หลบอยู่ต่างพากันกรูออกมารัวชัตเตอร์ถ่ายภาพเขา

แต่ด้วยชื่อเสียงและอำนาจของเขา พวกปาปารัสซี่ไม่กล้าเข้ามาใกล้ จึงทำได้เพียงถ่ายภาพจากไกลๆ

แม้ว่าพวกเขาจะสงสัยเรื่องนี้เป็นอย่างมาก แต่ก็ยังกังวลกับอาชีพการงานของตัวเอง

สองคนในเมืองเป่ยที่ไม่มีใครกล้าเข้าไปยั่วโมโหเขา คนแรกคือเย่โม่เซินมัจจุราชหน้าตาเฉยเมย คนที่สองคือหานชิงผู้ไร้ซึ่งอารมณ์

เขาไม่เหมือนกับเย่โม่เซิน ตอนที่เย่โม่เซินหน้าตาเย็นชา ดูไปแล้วคล้ายกับคนเหี้ยมโหด ถ้าเข้าใกล้อาจจะโดนฆ่าตายได้ แต่ทว่าหานชิงกลับต่างกัน เขาเหมือนคนมีอายุ นิ่งสงบแม้ว่าจะไม่มีอารมณ์ดุดัน แต่ทว่าเมื่อแสดงออกมากลับรู้สึกอึมครึมอย่างบอกไม่ถูก

หานชิงเดินไปไม่กี่ก้าว คิดไม่ถึงว่าคนพวกนั้นจะไม่ตามเขา แต่ทว่าแสงชัตเตอร์สว่างวาบไปที่ตัวเขาตลอดเวลา

ดังนั้นเขาจึงชะงักฝีเท้าลง แล้วกวักมือไปยังคนกลุ่มนั้น

สีหน้าของคนกลุ่มนั้นเปลี่ยนไปทันทีจากนั้นจึงเดินเข้ามาหาเขา

“ถ่ายอะไร” หานชิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก

“เอ่อ คุณ…” คนที่โดนเรียกมาเป็นปาปารัสซี่ที่เป็นผู้หญิงพอดี

“ถ่ายผมทำไม” แววตาของหานชิงเย็นชา

ปาปารัสซี่หญิงคนนั้นเงียบอยู่ครู่ใหญ่ จากนั้นจึงพูดขึ้นมา “คุณหานชิงไม่รู้เหรอคะ เพราะว่าคุณกำลังจีบนักแสดงหญิง จ้าวยี่หรู เพราะฉะนั้นตอนนี้คุณกำลังได้รับความสนใจ พวกเรา…”

“จ้าวยี่หรู” หานชิงหรี่ตาลงเหมือนกำลังนึกอะไรอยู่ หลังจากนั้นจู่ๆ เขาก็พูดออกมา “คือใครเหรอ”

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset