บทที่520 ทันเวลา
หลังจากทั้งสองฝ่ายนั่งลง เสี่ยวเหยียนนั้นยืนอยู่ข้างหลังหานมู่จื่อ เธอมองไปที่ หลินชิงชิงอย่างใจเย็น
เธอจ้องมองเธออยู่เรื่อยๆ เพราะกลัวว่าจู่ๆหลินชิงชิงจะลุกขึ้นมาและหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋าของเธอแล้วเทใส่หานมู่จื่อ
ครั้งที่แล้วเย่โม่เซินอยู่ ครั้งนี้เย่โม่เซินไม่อยู่ หากมีอะไรเกิดขึ้นจริงๆจะมีใครกันมู่จื่อไว้?
ดังนั้นเธอต้องปกป้องดูแลมู่จื่อ
สายตาของเธออาจจะร้อนแรงเกินไป หลินชิงชิงจึงเหลือบมองเธออย่างแปลกๆแล้วบ่นว่า “มีอะไรหรือเปล่า? ฉันบอกแล้วว่าฉันจะไม่จัดการเธอ ถ้าหากฉันจะจัดการเธอฉันขอให้ฟ้าผ่าลงมาเลย ฉันสาบานแล้ว เธอยังไม่เชื่ออีกหรือไง?”
หานมู่จื่อ “……”
เสี่ยวเหยียน “เหอะ สาบานไปใครจะเชื่อเธอ? ก่อนหน้านี้เธอสามารถลงมือทำเรื่องแบบนั้นได้ ฉันล่ะไม่อยากจะเชื่อจริงๆว่าเธอจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้แล้วก็เป็นเพราะว่ามู่จื่อของเรานั้นจิตใจดีเธอจึงไว้ชีวิตเธอเอาไว้แบบนี้”
เธอกล่าวอย่างไม่เกรงใจกัน เมื่อหลินชิงชิงเจอกับคำพูดของเสี่ยเหยียน สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป หานมู่จื่อเองก็ไม่ได้หยุดเหตุการณ์นี้เธอเพียงแค่มองสถานการณ์ตรงหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย
หลินชิงชิงโกรธเคือง แต่สุดท้ายเธอก็อดทนไม่ลงมือใดๆและกล่าวอย่างเย็นชา “เธออยากพูดอะไรก็พูด ฉันไม่สามารถหยุดเธอได้ ฉันพิสูจน์ทุกอย่างด้วยการกระทำของฉันเท่านั้น!”
หลังจากพูดแล้วเธอก็ลุกขึ้นยืนและมองไปที่หานมู่จื่อที่อยู่ตรงข้าม
ทันใดนั้นเสี่ยวเหยียนก็รู้สึกตื่นตระหนก “เธอจะทำอะไร? เธอ…”
เป็นผลให้ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ
เพราะว่าหลินชิงชิงที่ยืนตัวตรงนั้นได้โค้งคำนับให้กับหานมู่จื่อ เธอก้มตัวโค้งลงอย่างจริงใจ
แม้แต่คุณแม่หลินก็ตกใจกับการกระทำของเธอและมองไปที่เธอด้วยความงุนงง เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนไม่ได้คุยกันมาก่อน
“ขอโทษด้วย ฉันขอโทษคุณสำหรับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมก่อนหน้านี้ของฉัน ฉันสัญญาว่าพฤติกรรมนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก เพราะมันส่งผลกระทบต่อคุณอย่างมากดังนั้นฉันยินดีที่จะทำตามเงื่อนไขข้อตกลง ไม่ว่าคุณพูดอะไรฉันก็ยินดีจะทำ!”
เสี่ยวเหยียนเองก็ตกใจเช่นกัน คาดไม่ถึงเลยว่าหลินชิงชิงจะเปลี่ยนพฤติกรรมไปขนาดนี้
แววตาของคุณแม่หลินมีความยินดีมาก “คุณหาน ในครั้งนี้ชิงชิงนั้นเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ นี่ไม่ …ครั้งนี้ตั้งแต่เธอออกมา หลังจากที่จัดการธุระส่วนตัวแล้วเธอก็เร่งรัดให้ฉันออกไปซื้อสิ่งของทันทีและบอกว่าจะมาขอโทษคุณ ก่อนหน้านี้ ชิงชิงเป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง แต่ตอนนี้เธอเปลี่ยนไปแล้ว”
หานมู่จื่อมองด้วยสายตาที่สงบดูเหมือนว่าไม่ได้ตกใจหรือแปลกใจกับการกระทำของ หลินชิงชิง
ท่าทางที่เรียบสงบทำให้คุณแม่หลินรู้สึกได้ในทันทีว่าทำไมลูกสาวของเธอจึงแพ้ให้กับเธอ
พฤติกรรมของทั้งสองไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันจริงๆ
แม้ว่าลูกสาวของเธอจะสวย แต่ความงามของหานมู่จื่อเองก็ไม่แพ้ หลินชิงชิงในทางกลับกัน…เธอเองก็ยังคงเจ้าอารมณ์อยู่มาก
ในเรื่องของอารมณ์ มีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับการปลูกฝังและเลี้ยงดูในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
พูดได้ว่าหลินชิงชิงไม่มีในสิ่งที่หานมู่จื่อมี
และความมีชีวิตชีวาของ หลินชิงชิงคือสิ่งที่หานมู่จื่อไม่มี
อาจเป็นไปได้ว่าก่อนหน้านี้ที่หานมู่จื่อและเย่โม่เซินรู้จักกัน นั่นอาจเป็นเพราะว่าเขาเคยเห็นตัวตนของหานมู่จื่อมาก่อน ในเวลานี้…รักที่มีให้หานมู่จื่ออาจจะตกผลึกไปแล้วก็ได้
เมื่อคิดได้ดังนั้น ภายในใจของคุณแม่หลินก็กระจ่างขึ้น
“ถ้าหากว่าฉันไม่ยกโทษให้เธอ ตอนนี้เธอคงไม่มีโอกาสยืนอยู่ตรงหน้าฉันหรอก สิ่งของไม่จำเป็น ส่วนเรื่องเงื่อนไขนั้น ฉันหวังว่าหลังจากนี้..เธอจะไม่มาวุ่นวายในชีวิตของฉัน แค่นั้นก็พอ”
หลินชิงชิง “เอางั้นเหรอ?”
“อืม?”
“เธอจะไม่…หาโอกาสเอาคืนฉันเหรอ? ทั้งที่ก่อนหน้านี้ฉันตั้งใจทำลายใบหน้าของเธอ”
หานมู่จื่อยิ้มอย่างสงบ “อย่างแรก เธอทำร้ายคุณเย่ไปแล้วไม่ใช่ฉัน สอง ในเมื่อฉันอภัยให้เธอแล้ว แล้วฉันยังจะไปทำร้ายเธออีก นั่นไม่ใช่คนผิดคำพูดหรอกเหรอ”
ยิ่งเธอใจกว้างมากเท่าไหร่ หลินชิงชิงก็รู้สึกว่าเธอนั้นเทียบเท่าเธอไม่ได้เลย
“โอเค แพ้เธอแล้ว ฉันยอมรับเงื่อนไขที่คุณพูด แต่ … ถ้าคุณไม่ได้คบกับเขา ฉัน … จะพยายามแข่งขันกับคุณด้วยวิธีการที่ถูกต้อง”
หานมู่จื่อนิ่งไปชั่วครู่เงยหน้าขึ้นมองหลินชิงชิง
เธอจะแข่งขันกับเธอในเรื่องของเย่โม่เซินเหรอ?
เธอลดตาลงและเม้มริมฝีปาก: “แล้วแต่คุณ”
“ของน้ำใจพวกนี้ … ”
“ไม่ต้องหรอก มาด้วยใจก็พอแล้ว” หานมู่จื่อลุกขึ้นยืนและกล่าวเบาๆ “เสี่ยวเหยียน ส่งคุณนายหลินและหลินชิงชิงด้วย”
คุณแม่หลินซื้อของมาหลายอย่าง แต่ไม่คาดคิดว่าหานมู่จื่อจะไม่ต้องการ เธอกระวนกระวายใจเล็กน้อย “จะบอกว่าพวกเรานั้นซื้อของเหล่านี้มาเพื่อการขอโทษ ในเมื่อคุณหานยอมรับคำขอโทษของเราแล้วก็รับของพวกนี้ไปด้วยเถอะ ไม่อย่างนั้นเราเลือกสิ่งของพวกนี้มาด้วยความตั้งใจ ให้เอากลับใจมันก็ลำบากใจ”
“คุณนายหลิน คุณเกรงใจเกินไปแล้ว สิ่งของพวกนี้นั้นไม่ต้องหรอก แล้วก็..คนที่คุณควรขอบคุณในครั้งนี้คือน้าส้ง”
ได้ยินเช่นนั้น คุณแม่หลินก็ตกตะลึงไปชั่วขณะและเธอรู้สึกว่าหานมู่จื่อนั้นเป็นคนใจกว้างและฉลาดอย่างไม่ธรรมดา
เธออาจจะเดาได้ว่าเหตุการณ์นี้ทำให้เธอกับน้าส้งไม่พอใจกัน กล่าวได้ว่า เพื่อบรรเทาความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับน้าส้ง
เด็กคนนี้นั้นคิดได้อย่างละเอียดรอบคอบ
“ฉันรู้ คราวนี้ต้องขอบคุณเธอจริงๆ ฉันตั้งใจมาขอบคุณเธอ สิ่งของเหล่านี้เธอก็รับไว้ด้วย”
คุณแม่หลินวางของที่เธอนำมาไว้บนโต๊ะแล้วจับมือของหลินชิงชิง “ครั้งนี้ต้องขอบคุณคุณหานมาก ฉันและหลินชิงชิงไม่รบกวนแล้ว ขอตัวก่อน”
พูดจบ เธอก็จับมือหลินชิงชิงออกไปจากห้องทำงาน
หลินชิงชิงเหลือบมองกลับไปที่หานมู่จื่อและกล่าว “ของเหล่านี้ฉันตั้งใจมาก มันเป็นคำขอโทษอย่างจริงใจของฉัน ถ้าคุณไม่ยอมรับมัน คุณจะดูถูกหลินชิงชิงคนนี้เป็นอย่างมาก”
“เงียบปากไปเถอะ..”
ทั้งสองหายไปจากห้องทำงาน
หานมู่จื่อมองไปยังเสี่ยวเหยียน เสี่ยวเหยียนยังคงยืนอยู่ที่นั่นด้วยสีหน้างุนงงจนกระทั่งหานมู่จื่อหรี่สายตามองเธอเสี่ยวเหยียนก็ตอบสนองในทันที
“โอ้ ฉันจะไปส่งพวกเธอเดี๋ยวนี้”
เมื่อทุกคนออกไป หานมู่จื่อจึงกลับไปที่โต๊ะทำงานของเธอ
เธอเหนื่อยมาก พักในช่วงบ่ายเสียหน่อย
ดังนั้นหานมู่จื่อจึงลุกขึ้นไปเก็บเอกสารข้อมูลและเข้าไปพักในห้องรับแขก
วันทั้งวันใช้ไปกับตารางงานที่วุ่นวาย เมื่อถึงเวลาหานมู่จื่อและเสี่ยวเหยียนก็ไปรับเสี่ยวหมี่โต้วกลับบ้าน ทั้งวันนี้หานมู่จื่อเหนื่อยมาก เมื่อกลับบ้านเธอก็ถอดรองเท้าส้นสูงและทิ้งตัวลงบนโซฟา
เมื่อเอนกายลงโทรศัพท์ก็สั่นขึ้น
หานมู่จื่อหยิบโทรศัพท์ออกมาดูและพบว่าเป็นวีแชทจากเย่โม่เซิน
{เมื่อไหร่คุณจะมา?}
หานมู่จื่อ “……….”
เจ้าคนนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะรู้เวลาที่ควรส่งข้อความหาเธอ?
หานมู่จื่อขี้เกียจเกินกว่าจะตอบวีแชทเขา เธอจึงวางโทรศัพท์เอาไว้ เสี่ยวหมี่โต้วนั้นวางกระเป๋านักเรียนลงและก้าวเข้ามา
“หม่ามี๊ วันนี้พวกเราเอาเจ้าเหมียวไปตรวจที่โรงพยาบาลกันเถอะ”
ทันทีที่เสี่ยวหมี่โต้วเตือนเธอ หานมู่จื่อก็จำเหตุการณ์นั้นได้และพยักหน้า “ใช่ เราไปกัน”
“ช่างเถอะ ให้น้าเสี่ยวเหยียนไปกับคุณเถอะ” เสี่ยวเหยียนคว้าคอเสื้อของเสี่ยวหมี่โต้วมาไว้ข้างกายเธอจากนั้นมองไปที่หานมู่จื่ออย่างดูแคลน “ดูท่าทางที่ไร้เรี่ยวแรงของแม่คุณ ฉันคิดว่าวันนี้เธอคงเหนื่อยกับงานมากแล้ว เสี่ยวหมี่โต้วเด็กดี เราไปเอาแมวกันเถอะ ปล่อยให้แม่ของเธอพักผ่อนเถอะ”