เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 590 ทำไมต้องรู้สึกผิด

บทที่590 ทำไมต้องรู้สึกผิด

หานมู่จื่อไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรกับอีกฝ่าย เธอลืมแม้กระทั่งทักทายด้วยซ้ำ เอาแต่นั่งอึ้งอยู่แบบนั้น

อีกฝ่ายก็เงียบไปเหมือนกัน หลังจากผ่านไปพักหนึ่ง หานมู่จื่อก็ได้ยินเสียงเย่หลิ่นหานหัวเราะเบาๆ

“เฉียวเฉียวเหรอ?”

หานมู่จื่อ“……นายเรียกชื่อผิดแล้ว”

เธอไม่ได้ใช้ชื่อนี้ตั้งนานแล้ว แต่ว่าเย่หลิ่นหานเจอหน้าเธอกี่ครั้งก็ยังเอาแต่เรียกเธอด้วยชื่อนี้?

พอได้ยินเธอตอบแบบนั้น เย่หลิ่นหานก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่

“ไม่ว่าฉันจะเรียกชื่อถูกหรือผิด แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ สุดท้ายเธอก็ติดต่อฉันมาแล้ว”

หานมู่จื่อ :“……”

“ตั้งแต่หลังจากที่เจอเธอที่ซูเปอร์มาร์เก็ตนั้น ที่เธอไม่ยอมรับเพื่อนเก่าอย่างฉัน ฉันเก็บไว้ในใจมาตลอด ดังนั้นฉันก็เลยเอาแต่รอเธอติดต่อมา ตอนนี้สุดท้ายเธอก็ติดต่อมาจนได้”

รอให้เธอติดต่อเขาไปงั้นเหรอ?

หานมู่จื่อหัวเราะเยาะ “เพราะฉะนั้นที่นายพยายามหนักขนาดนี้ ก็เพื่อที่จะให้ฉันเป็นคนติดต่อนายไปก่อนงั้นเหรอ? ”

“เฉียวเฉียว เธอคิดว่าฉันเลวทรามมากเลยใช่ไหม? ”

แค่เลวทรามงั้นเหรอ?

หานมู่จื่อเก็บคำพูดนี้ไว้ แล้วก็พูดอย่างไม่มีความสุขว่า “นายคิดจะทำอะไรกันแน่? จุดประสงค์คืออะไร? ”

อีกฝ่ายเงียบไปอยู่นาน แล้วสุดท้ายเย่หลิ่นหานก็พูดอย่างไม่มีทางเลี่ยง

“ฉันอยากเจอเธอ”

“พรุ่งนี้มาเจอกันที่ร้านกาแฟหัวมุมถนนซินหยู่หน่อยได้ไหม? ”

เธอจะตกลงงั้นเหรอ? หานมู่จื่อนึกถึงเรื่องที่วันนี้เธอรับปากกับเย่โม่เซินไป เธอบอกเขาว่าพรุ่งนี้เป็นวันหยุด ให้เขาเข้านอนให้เร็วหน่อย เธอจะไม่ออกไปไหน

ไม่ได้รับคำตอบของเธอสักที แต่เย่หลิ่นหานก็อดทนมาก เขาเงียบเพื่อรอฟังคำตอบจากเธอ

ไม่รู้เหมือนกันว่าผ่านไปนานแค่ไหน ตอนที่เย่หลิ่นหานนึกว่าหานมู่จื่อจะไม่ตอบนั้น เธอก็ตอบพอดี

“เจอกันหน่อยก็ได้ ฉันก็มีเรื่องอยากจะถามนายพอดี”

หลังจากวางสายแล้ว หานมู่จื่อก็นอนค้นหาเกี่ยวกับบริษัทแอลทีอยู่บนเตียงของเธอ

เมื่อดูอย่างละเอียดแล้วก็พบว่าบริษัทนี้จดทะเบียนตั้งแต่สามปีก่อน ถึงแม้ว่าจะพึ่งก่อตั้งได้แค่สามปี แต่เพราะว่าคนที่จดทะเบียนบริษัทนี้คือเย่หลิ่นหาน ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการดำเนินงานของบริษัท หรือเรื่องอื่นๆ ก็ทรงพลังมาก

ตอนที่กำลังสืบค้นอยู่นั้น หานมู่จื่อถึงได้เห็นว่า เย่หลิ่นหานใช้นามสกุลอื่นในการจดทะเบียนบริษัท ไม่ได้ใช้นามสกุลเย่ในการจด สรุปแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

เมื่อปีนั้นตอนที่เธอแต่งงานเข้าตระกูลเย่นั้น ก็พบว่าเย่โม่เซินกับเย่หลิ่นหานไม่ใช่คนที่อยู่เรือลำเดียวกับนายท่าน และพอเธอแต่งงานกับเย่โม่เซิน ก็เลยอยู่เรือลำเดียวกับเขาโดยอธรรมชาติ

แต่ไม่คิดเลยว่าหลังจากนั้นเย่หลิ่นหานจะทำเรื่องอะไรหลายอย่างเพื่อเธอขนาดนั้น

ถึงแม้เธอจะรู้ว่าการหลังจากที่เธอกลับมาแล้วไม่ยอมรับเพื่อนเก่าอย่างเขามันเป็นเรื่องที่มากเกินไปหน่อย แต่ว่า……ยอมรับแล้วมันจะยังไงกันล่ะ?

เธอไม่ใช้น้องสะใภ้เขา และเขาก็ไม่ใช่พี่ใหญ่ของเธออีกต่อไปแล้ว

เธอยิ่งไม่อยากจะคบค้าสมาคมกับเขาในฐานะของผู้ชายและผู้หญิง

พอคิดได้แบบนี้ หานมู่จื่อก็ปิดโน๊ตบุ้ค และหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า

ควรจะนอนได้แล้ว

วันถัดมา หานมู่จื่อพลิกตัวและตื่นขึ้นมา ตอนที่ลืมตาขึ้นมานั้นก็พบว่าหน้าผากของเธอมันเต็มไปด้วยเหงื่อ

เมื่อคืนเธอฝัน

เพราะว่าจู่ๆ เย่หลิ่นหานก็ปรากฏตัวขึ้นในชีวิตเธอ เพราะฉะนั้นในฝันของเธอก็เลยไม่ได้มีแค่เย่โม่เซินเพียงเท่านั้น ยังมีเย่หลิ่นหานเพิ่มขึ้นมาด้วย

ในฝันนั้นเย่หลิ่นหานยื่นมือมาให้เธอ น้ำเสียงยังคงอ่อนโยนราวกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิ

“เฉียวเฉียว ไปกับฉันเถอะ ไปจากเขาซะ”

“เขามีแต่จะทำร้ายเธอ เธอจะคบกับเขา อยากจะทำผิดพลาดซ้ำกับเมื่อห้าปีก่อนยังงั้นเหรอ? ”

“อย่าทำลายตัวเองอีกเลย ตอนนั้นเขาทำกับเธอแบบนั้น ต่อไปเขาก็จะยังทำแบบนั้นกับเธอเหมือนกัน ถ้าเกิดว่าเธอไปกับฉัน ฉันจะปกป้องเธอไปตลอดชีวิต”

ภาพเหตุการณ์เปลี่ยนไป บรรยากาศที่อบอุ่นรอบๆ นั้นก็เปลี่ยนเป็นมืดมนและดุเดือดขึ้นทันที หานมู่จื่อหันไปด้วยความหวาดกลัว แล้วก็เห็นเย่โม่เซินที่อยู่ตรงหน้าเธอในระยะประชิด

สายตาของเขาเฉียบคมและลึกซึ้ง เหมือนกับสัตว์ป่าที่กำลังจำศีล

“เธอยังคิดจะหนีไปไหนอีก? ในเมื่อเธอเป็นผู้หญิงของฉันเย่โม่เซิน ก็ต้องอยู่ข้างฉันไปตลอดชีวิต”

กลิ่นอายของความเย่อหยิ่งและเอาแต่ใจจากร่างกายเขาทำให้หานมู่จื่ออยากจะวิ่งหนี แต่ว่าสิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวก็โดนเย่โม่เซินจับไว้ได้ หลังจากนั้นดูเหมือนเธอจะตกลงไปในเหวที่ไม่มีที่สิ้นสุด มีแต่เสียงแหบแห้งของผู้ชายคนนั้นดังก้องอยู่ในหูเธอ

“จะหนีตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว……”

แล้วเธอก็ตื่นขึ้นมาทันที เมื่อเห็นกับแสงแดดที่ส่องเข้ามาจากผ้าม่านสีขาว แสงสว่างทั่วทั้งห้องพิสูจน์ว่าเรื่องทั้งหมดเมื่อกี้นี้มันเป็นแค่ฝันไป

และเรื่องที่เกิดขึ้นในฝันนั้น มันเป็นแค่ภาพลวงตา ไม่ได้มีอยู่จริง

คืนหนึ่ง ผ่านไปแล้ว

หานมู่จื่อนอนย้อนกลับไปคิดอีกแป๊บหนึ่ง ถึงได้ค่อยๆ ลุกขึ้น เดินเท้าเปล่าไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าหวีผม

พอเธอจัดการทุกอย่างเสร็จ ตอนที่หยิบโทรศัพท์นั้นก็เห็นข้อความที่เย่โม่เซินส่งมาให้เธอ

{จะออกไปไหนก็เรียกฉัน อย่าออกไปไหนมั่วซั่วคนเดียว}

ความอบอุ่นในคำพูดของเขา ส่งผ่านเข้ามาถึงหัวใจของหานมู่จื่ออย่างรวดเร็ว

ริมฝีปากแดงระเรื่อของหานมู่จื่อค่อยๆ คลี่ยิ้มออกมา จากนั้นก็นึกถึงข้อความที่เย่หลิ่นหานส่งมาให้เธอเมื่อคืนได้

หลังจากที่เขาจองร้านเรียบร้อยแล้ว ก็ส่งแผนที่ให้เธอ เวลาที่จะนัดเจอคือเก้าโมงเช้า ตอนนี้แปดโมงกว่าแล้ว เหลือเวลาอีกแค่หนึ่งชั่วโมงเอง

จะไปเจอเย่หลิ่นหาน หานมู่จื่อไม่เคยคิดว่าอยากจะแต่งหน้าแต่งตัว เพราะฉะนั้นก็เลยเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างลวกๆ แต่งหน้าบางๆ แล้วก็ส่งข้อความหาเย่โม่เซิน

แต่ว่าตอนที่หยิบโทรศัพท์นั้นก็คิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็รู้สึกว่า……ถ้าเกิดว่าเวลานี้เย่โม่เซินกำลังพักผ่อนอยู่ ถ้าเธอส่งข้อความไปจะเป็นการปลุกให้เขาตื่นรึเปล่า?

คิดไปคิดมา หานมู่จื่อก็เก็บโทรศัพท์ ไม่ได้ส่งข้อความหาเขา เธอเปลี่ยนรองเท้าแล้วก็ออกจากบ้านไป

ไม่รู้ว่าเพราะว่ารู้สึกผิดรึเปล่า ตอนที่หานมู่จื่อออกจากบ้านนั้น เธอชำเลืองมองไปที่ประตูฝั่งตรงข้ามอย่างไม่รู้ตัว แล้วก็ปิดประตูเบามากๆ

ตอนที่เธอเดินมาถึงหน้าลิฟต์นั้น หานมู่จื่อถึงได้รู้ว่า ท่าทางของเธอตอนนี้เหมือนขโมยเลย

เธอกลั้นหายใจรอลิฟต์ ระหว่างนั้นเธอกังวลและกลัวว่าจู่ๆ เย่โม่เซินจะเปิดประตูออกมา แต่ว่าหลังจากเธอเข้าลิฟต์ไปแล้วก็ถือว่าเธอไม่มีโชค

เพราะว่าก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุการณ์ที่เย่โม่เซินรอเธออยู่ที่ชั้นล่าง เพราะฉะนั้นหานมู่จื่อก็กังวลว่าจะเจอเย่โม่เซินที่ชั้นหนึ่ง

จนถึงตอนที่เธอเดินออกมานอกชุมชน ขึ้นแท็กซี่ ก็ไม่ได้เจอเย่โม่เซิน หานมู่จื่อถึงได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

ดูเหมือนว่าเขาจะกำลังนอนอยู่จริงๆ

หานมู่จื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอินเทอร์เฟซวีแชทของเย่โม่เซิน ทันใดนั้นสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที

ทำไมเธอถึงแคร์เขาขนาดนี้ด้วย? ต่อให้เธอออกมาข้างนอกจริงๆ แต่ก็เพราะว่าเธอจะคุยเรื่องงาน แล้วอีกอย่างต่อให้มันไม่ใช่เรื่องงาน มันก็เป็นเสรีภาพส่วนบุคคลของเธอ

ทำไมเธอต้องกลัวว่าเย่โม่เซินจะจับได้ด้วย?

พอคิดได้แบบนี้ หานมู่จื่อก็เลยเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าไป

น่าจะเพราะว่าช่วงนี้เย่โม่เซินดีกับเธอมากจริงๆ เลยทำให้เธอเกิดความเคยชิน เธอต้องเปลี่ยนความเคยชินนี้ไปให้ได้

เพราะว่าเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ดังนั้นเวลานี้รถก็เลยไม่เยอะ แต่ว่าก็ไม่ได้ถือว่าน้อยมาก ระหว่างเธอรอไฟแดงนานมาก ตอนที่ไปถึงสถานที่นัดนั้น หานมู่จื่อเกือบจะสายเข้าให้แล้ว

โชคดีที่เธอออกมาก่อนเวลา

หลังจากเข้าไปในร้านกาแฟแล้วนั้น หานมู่จื่อก็เห็นร่างที่คุ้นเคยนั่งอยู่ในมุมไกลๆ

พอเห็นเธอ ร่างนั้นก็ลุกขึ้น ร่างกายที่ซูบผอมอ่อนโยนราวกับหยก ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มพร้อมกับโบกมือให้เธอ

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset