เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 657 คุณยอมรับเขาแล้วเหรอ

บทที่657 คุณยอมรับเขาแล้วเหรอ

เมื่อเห็นของเล่นกองพะเนินที่กองอยู่ตรงหน้า มุมปากเย่โม่เซินก็อดกระตุกขึ้นไม่ได้ ก่อนหน้าเห็นทุกคนออกความเห็นกันอย่างออกรสออกชาติ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นของปัญญาอ่อนกองนี้

หางตาเขากระตุก

เด็กชอบของพวกนี้เหรอ

เย่โม่เซินไม่เคยเป็นพ่อคน ไม่รู้ว่าเด็กชอบอะไร จึงซื้อทุกอย่างที่ทุกคนบอก หวังว่าถ้าไม่ชอบอันนี้ ก็ยังมีอันนั้น

อีกอย่างเด็กน่ะ อย่างไรเสียก็คือเด็ก ยังไม่ต้องพูดว่าชอบไม่ชอบหรอก แค่เห็นของเล่น กองเท่าภูเขา ก็ดีใจจนฉุดไม่อยู่แล้ว

พอคิดว่าอีกหน่อยลูกคงเห็นได้ถึงสิ่งที่ตนเองทำให้ มุมปากของเย่โม่เซินก็เผยรอยยิ้ม ออกมา

เซียวซู่ที่อยู่ข้างๆไม่ทันได้ฟังคำตอบของเย่โม่เซิน เห็นเพียงแต่รอยยิ้มแปลกๆ รอยยิ้มนี้เป็นรอยยิ้มความอาทรที่บิดามีต่อบุตร เป็นสิ่งที่พบเห็นได้ในตัวคนเป็นพ่อทั่วไป

แต่พอรอยยิ้มนี้มาวางอยู่บนใบหน้าของเย่โม่เซินแล้ว มันช่างดูแปลกพิกล

แต่ว่าเซียวซู่ไม่กล้าพูด ได้แต่มองกองภูเขาของเล่นตาปริบๆ

แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ว่า……ถ้าคุณชายเย่ทำเรื่องแบบนี้ได้แปลว่ายังตัดไม่ขาดจากคุณนายน้อยแน่นอน

*

ในตอนที่เลิกเรียน หานมู่จื่อไปรับเสี่ยวหมี่โต้ว ก็เห็นเงาที่คุ้นเคยยืนอยู่หน้าประตูโรงเรียน เขายืนพิงกำแพงอยู่ สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว รูปร่างผอมบาง

เพียงแต่รูปร่างของเขาดึงดูดสายตาสาวๆระแวกนั้นไม่น้อย

ในตอนที่เห็นเขา จู่ๆหานมู่จื่อก็นึกถึงภาพเขาที่โดนเย่โม่เซินซัดซะล้มเมื่อไม่กี่วันก่อนในตอนนั้นเลือดออกปากออกจมูกด้วย

ไม่รู้เหมือนกัน……ว่าได้รับบาดเจ็บมากไหม

ไม่กี่วันนี้เธอเองก็ไม่ได้พบเจอเขา ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นไงบ้าง

ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเลิกเรียน ทุกคนต่างมาคอยล่วงหน้า เธอเพิ่งลงรถได้ไม่นาน เย่หลิ่นหานราวกับรู้ตัว มองมาทางเธอ

แววตาของเขาทอดสายตามาที่เธอ จากนั้นเก็บกลับไป จากนั้นจึงค่อยๆเดินเข้าไปหา

หานมู่จื่อยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ รอจนเขาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า เธอจึงเงยหน้ามอง เขา

ไม่มองซะดีกว่า พอมอง หานมู่จื่อตกอกตกใจหมด

เป็นเพราะใบหน้าเย่หลิ่นหานมีแต่รอยฟกช้ำดำเขียว ดูแล้วหนักหนาสาหัสมาก แต่ต่อ ให้เป็นแบบนั้น ก็ไม่ได้ทำให้ความหล่อเหลาเขาลดลง

วันนั้น……เย่โม่เซินลงมือหนักขนาดนี้เลยเหรอ

พอเห็นแววตาเธอมีแววตระหนก เย่หลิ่นหานจึงเอามือลูบปากแล้วยิ้มขึ้น

“ยังเหลือเวลาอีกสิบนาทีกว่าจะเลิกเรียน คุยตรงนี้ไม่สะดวก ไปข้างๆกันไหม”

หานมู่จื่อ“……”

เธอมองไปรอบๆ มองไปทางปลอดคน ชี้ไป“ไปคุยตรงนั้นเถอะ”

จากนั้นเธอจึงเดินนำไป เย่หลิ่นหานเดินตามไปโดยปริยาย

“เรื่องวันนั้น ขอโทษนะ”

หลังจากที่ลุกขึ้นยืน หานมู่จื่อจึงเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอโทษเย่หลิ่นหาน“ฉันไม่รู้ว่าเขาจะอยู่ตรงนั้น พลอยทำให้คุณเดือดร้อนไปด้วย ขอโทษนะคะ”

“คุณขอโทษผมเหรอ”เย่หลิ่นหานมองดูเธอ มุมปากที่ยิ้มอย่างเจ็บปวดดูน่าเห็นใจ หานมู่จื่อแทบไม่กล้าสบตาเขา ได้แต่เลี่ยงสายตาออก

“คนลงมือคือเขา ถ้าคุณขอโทษแทน แปลว่าคุณยอมรับเขาแล้วเหรอ”

หานมู่จื่อ“……”

เธอขบริมฝีปาก นึกถึงคำบอกรักของเย่หลิ่นหาน แม้ไม่รู้ว่าเขาจริงใจหรือเสแสร้ง

อย่างไรเสียเธอเคยฟังคำพูดของเย่โม่เซิน และเธอเองก็ค่อนข้างสงสัยในตัวเย่หลิ่นหาน

รู้สึกเหมือนกับว่าเขาเข้าใกล้เธอเพราะเย่โม่เซิน

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ในเมื่อเขาได้บอกชัดเจนแล้ว ตัวเองก็ควรจะชัดเจนกับเขาเช่นกัน

ดังนั้นหานมู่จื่อจึงพยักหน้า

ขีดจำกัดของเย่หลิ่นหานแทบจะขาดผึง แววตาที่บ้าคลั่งแทบจะล่มสลาย จู่ๆเขาก็จับบ่าหานมู่จื่ออย่างแรง

“ทำไม วนไปวนมาคุณถึงยังอยู่กับเขาอีก เขามีอะไรที่ดีกว่าผม เรื่องที่เขาทำไว้ก่อนหน้าคุณลืมแล้วหรือไง”

หานมู่จื่อตกใจกับความกรรโชกของเย่หลิ่นหาน รู้สึกว่าเจ็บแปล๊บตรงบ่าที่เขากด โทสะจากน้ำเสียงกับแววตาที่เดือดดาล ช่างแตกต่างกับความสุภาพอ่อนโยนในยามปกติ โดยสิ้นเชิง

หานมู่จื่อไม่เคยเห็นเย่หลิ่นหานในมุมนี้ จึงตกใจจนหน้าซีดขาว

“คุณ คุณจะทำอะไรน่ะ”

“ผมทำอะไรเหรอ”เย่หลิ่นหานฝืนยิ้ม“คุณคิดว่าผมยังจะทำอะไรได้อีกเหรอ ผมรอคุณมานานขนาดนี้ คุณกลับไม่ชายตามองผมแม้แต่น้อย เขาทำร้ายคุณมากมาย บทจะกลับไปคุณก็กลับไปอยู่ข้างเขา”

หานมู่จื่อกัดริมฝีปาก“ฉัน ฉันรักเขา”

“รักเหรอ”เย่หลิ่นหานดูอกหักไปชั่วขณะ หานมู่จื่อคิดจะผละตัวออกยามเขาเผลอ แต่เขาได้สติคืนเร็วมาก

เธอถูกบีบไล่อย่างแรงอีกครั้ง

“บอกผมมา ตกลงคุณชอบเขาตรงไหน มีอะไรที่ผมสู้ไม่ได้ คุณบอกผมมาสิ ให้ผมปรับตัวดีไหม”

หานมู่จื่อขมวดคิ้ว พยายามผละเย่หลิ่นหานออก แล้วอธิบาย“ไม่ใช่ว่าคุณสู้เขาไม่ได้ ฉันรักเขามันไม่เกี่ยวกับคุณ เมื่อก่อนตอนที่ฉันอยู่กับเขา ก็เห็นว่าคุณเป็นพี่ใหญ่ ต่อให้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน ฉันก็ยังคงมองคุณเป็นพี่ใหญ่ไม่เปลี่ยน ฉันคงจะไม่……”

“แต่ผมไม่ใช่พี่ใหญ่ของคุณนี่……”เย่หลิ่นหานพูดตัดบท อารมณ์ดุเดือด“ถ้าคุณเห็นว่าผมเป็นพี่ใหญ่จริง เมื่อก่อนตอนที่ผมช่วยคุณ แล้วทำไมคุณต้องปฏิเสธ มองผมเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ได้เหรอ เขาทำร้ายคุณขนาดนั้น คุณกลับไปอยู่กับเขา แล้วผมล่ะ คุณจะไปไม่ปันใจ ให้ผมบ้างเหรอ”

หานมู่จื่อ“ความรักไม่ใช่การปันใจ มันปันไม่ได้”

หานหลิ่นเย่สีหน้าขมขื่น ราวกับโดนทรมานอย่างหนัก

หานมู่จื่อรู้สึกกลัว พยายามดิ้นให้หลุดจากเงื้อมมือ ปรากฏว่าวินาทีถัดไป เย่หลิ่นหานก็ร่วงลงพื้นดังปัง

หานมู่จื่อกำลังคิดจากไป กลับได้ยินเสียงปังอีกครั้ง หันกลับไปเห็นเย่หลิ่นหานนอนกองบนพื้น สีหน้าไม่สู้ดี เหงื่อผุดเต็มหน้าผาก

เธอชะงักงัน รีบคุกเข่าลงข้างเย่หลิ่นหาน“คุณเป็นอะไรไปคะ”

เย่หลิ่นหานนอนราบอยู่ตรงนั้น สีหน้าเจ็บปวดจนบอดเบี้ยว เหงื่อเย็นเต็มหน้าผาก ไม่พูดอะไรทั้งสิ้น เพียงตาลืมตาโพลง บีบมือเธอไว้อย่างอ่อนแรง

“อย่า……อย่ากลับไปอยู่กับเขา เขาไม่ดีกับคุณหรอกนะ……ไม่มีทาง……”

“คุณเป็นอะไรไปน่ะ ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันโทรเรียกรถพยาบาลให้”

หานมู่จื่อหยิบมือถือออกมา รีบกด120 พอพูดกับรถพยาบาลเรียบร้อย หานมู่จื่อก็เห็นว่าสีหน้าของเย่หลิ่นหานซีดลงไปอีก

เป็นแบบนี้ไปได้ยังไงกัน

เกิดอะไรขึ้นเนี่ย

หานมู่จื่อทำอะไรไม่ถูกแล้ว

“คุณอดทนหน่อยนะคะ รถพยาบาลใกล้ถึงแล้ว”

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset