เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 729 คุณอยากจะบอกว่า เขาไม่ใช่เย่โม่เซินใช่ไหม

บทที่ 729 คุณอยากจะบอกว่า เขาไม่ใช่เย่โม่เซินใช่ไหม

เสี่ยวเหยียนก็ต้องเดินตามต้อยๆ

ในห้องผู้ป่วยเงียบสงบมาก บนเตียงมีผู้ชายคนหนึ่ง ที่ถูกพันผ้าไว้ทั้งตัวกำลังนอนอยู่ แม้แต่ใบหน้ายังไม่ละเว้น ทั้งตัวถูกปิดด้วยผ้าก๊อซ เหลือเพียงตาสองข้างเท่านั้น

สภาพนี้ ทำให้คนไม่สามารถจดจำได้แล้ว ว่าเขาเป็นใคร

หานชิงยืนอยู่หน้าเตียง จ้องมองอยู่สักพัก หันกลับไปอย่างจนใจ มองเสี่ยวเหยียนที่อยู่ข้างหลัง แล้วพูดอย่างเย็นชา “เธอไปเรียกคนเข้าไปให้ฉันหน่อย”

“มีอะไรเหรอ?”

“……”

เสี่ยวเหยียนรู้สึกผิดปกติ “หมอบอกว่า คนเข้ามารบกวนมากเกินไปไม่ได้ ไม่ใช่หรือ?”

หานชิงเม้มริมฝีปาก อารมณ์ไม่พอใจอย่างมาก

“ฉันมาที่นี่เพื่อยืนยันตัวตน พันไว้ขนาดนี้ จะดูยังไง?” เขาชี้ไปบ๊ะจ่างสีขาวบนเตียงผู้ป่วย พูดอย่างเย็นชา

เสี่ยวเหยียนกะพริบตาถี่ๆ “ก็บอกแล้วว่า ทั้งร่างกายเต็มไปด้วยบาดเจ็บไม่ใช่หรือ? ต่อให้ถูกห่อไว้เหมือนบ๊ะจ่าง ก็เป็นเรื่องปกติ”

“……”

หานชิงจ้องเขม็งเธอ “ตอนนี้คุณกำลังคัดค้านฉันอยู่หรือ?”

เสี่ยวเหยียน “…..ไม่ใช่ ฉันจะกล้าได้ยังไง? ฉันเรียกคนเข้ามาเดี๋ยวนี้เลย”

แล้วเสี่ยวเหยียนก็ได้ออกไปเรียกคน

หลังจากไอ้หัวเกรียน ได้ยินคำอธิบายของเธอ ก็เกาหัวด้วยความสีหน้าเจ็บปวด สักพักก็พูดว่า “หรือว่าฉันไปเชิญหมอเข้ามา แกะผ้าก๊อซบนตัวเขาออกทั้งหมดเลย?”

ได้ยินเข้า เสี่ยวเหยียนอดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง

“คุณบ้าไปแล้วเหรอ? หมอพันให้เขาแบบนี้ด้วยความยากลำบาก คุณไปหาหมอให้แกะเอาผ้าก๊อซของเขาออก ไม่ใช่คุณบ้าไปแล้ว ก็คือหมอที่บ้าไปแล้ว ไม่งั้นหมอจะยอมทำตามคำขอที่ไร้เหตุผลของคุณได้อย่างไร?!”

หานชิงซึ่งคิดว่าข้อเสนอของไอ้หัวเกรียนไม่เลว “……”

คือเขาบ้าไปแล้วหรือ?

หรือว่าเป็นเพราะอีกฝ่ายเป็นผู้ชายเหมือนกับตัวเอง ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ความรู้สึกสงสารทะนุถนอมแบบนั้นเลย รู้สึกว่าแกะผ้าก๊อซออก ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

“แต่ถ้าไม่แกะผ้าก๊อซออก ก็ไม่สามารถยืนยันตัวตนได้ แต่ว่า……”

ไอ้หัวเกรียนลังเลเล็กน้อย

“แต่อะไร?” หานชิงกวาดมองไปทางเขา

ไอ้หัวเกรียนลังเลอยู่สักพัก ถึงได้พูดว่า “ต่อให้แกะผ้าก๊อซออกหมด บาดแผลบนร่างกายและใบหน้าของเขา ก็เลือดเนื้อติดกัน เละจนไม่เหลือชิ้นดีแล้ว คาดว่าพวกคุณอาจจะจำไม่ได้ บางทีในใจอาจจะรับไม่ไหวด้วยซ้ำ”

“……” เสี่ยวเหยียน

หานชิงขมวดคิ้วแน่นมากขึ้น

ดูเหมือนว่าอาการบาดเจ็บจะสาหัสมากจริงๆ ถ้าเป็นเช่นนี้ ก็ไม่อาจแกะผ้าก๊อซออกได้ตามอำเภอใจ มิฉะนั้น ถึงเวลานั้น ทำให้บาดแผลรุนแรงขึ้น เสียชีวิตไป แล้วจะทำยังไงดี?

แล้วจะให้เขาเอาอะไรไปอธิบายให้กับน้องสาวตัวเอง?

เมื่อนึกถึงตรงนี้ หานชิงจึงต้องพูดขึ้นมาใหม่ “หมอได้บอกไหม ว่าจะเอาผ้าก๊อซออกได้เมื่อไหร่?”

“เดาว่าคงต้องใช้เวลาพักฟื้นหลายวัน”

“ได้ ฉันรู้แล้ว นายออกไปก่อน”

ไอ้หัวเกรียนพยักหน้า จากนั้นก็หันหลังเดินออกไป

หลังจากที่เขาออกไป หานชิงจ้องมองไปที่หน้าของเสี่ยวเหยียน “เรื่องยังไม่แน่นอน เดี๋ยวกลับไป อย่าพูดจาเหลวไหลต่อหน้ามู่จื่อ”

เสี่ยวเหยียนรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “คุณวางใจเถอะ ต่อให้คุณไม่กำชับ ฉันก็รู้ว่า อะไรควรพูด อะไรไม่ควรพูด คุณชายเย่บาดเจ็บขนาดนี้ สู้อย่าให้มู่จื่อรู้เลยเสียกว่า ว่าเราหาเจอเขาแล้ว”

“ในเมื่อคุณรู้ นั้นก็ไม่จำเป็นรบกวนให้ฉันต้องเตือนคุณ”

เสี่ยวเหยียนเบาะปากอย่างไม่พอใจ “ฉันไม่ใช่คนโง่สักหน่อย เรื่องเหล่านี้ ฉันจะไม่เข้าใจได้อย่างไร”

“คุณพูดอะไร?”

เพราะเสียงของเธอในเมื่อกี้เล็กมาก หานชิงจึงได้ยินไม่ชัด

เสี่ยวเหยียนส่ายหัว “ไม่มีอะไร”

หลังจากพูดจบ ก็ก้มหน้าลงอย่างหดหู่

ดูเหมือนว่าหลังจากที่โดนหานชิงปฏิเสธ เธออยู่ต่อหน้าเขา ก็ยิ่งขี้ขลาดลงเรื่อยๆ

และท่าทีที่เขามีต่อตัวเอง ก็เย็นชาเรื่อยๆ

เสียใจยิ่งนัก รู้สึกว่าความพยายามในช่วงนี้ ไม่มีประโยชน์อะไรเลย ระยะห่างระหว่างเขากับเธอ ไม่ได้ใกล้ชิดขึ้นมาเลยสักนิด

กลับดูเหมือนว่าจะไกลขึ้นเรื่อยๆ

ในขณะที่ครุ่นคิดอยู่ เสี่ยวเหยียนก็เงยหน้าขึ้นมองคนที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย

ได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนั้นเลยเหรอ? เธอมองพิจารณาจากปลายเท้าขึ้นไปจนถึงหัว แล้วก็พบว่า ต่อให้อีกฝ่ายถูกผ้าก๊อซพันได้ ก็ยังคงคุ้นเคยยิ่งนัก

เสี่ยวเหยียนตกตะลึง จ้องมองคนคนนั้น ด้วยความเหลือเชื่อ

ทำไมรู้สึกว่าไม่เหมือนกับคุณชายเย่เลยสักนิด

ปกติแล้วเวลาที่เห็นคุณชายเย่ เสี่ยวเหยียนก็เหมือนหนูที่เห็นแมว ไม่โทษว่าเธอขี้ขลาดเกินไป เป็นเพราะพลังอำนาจของคุณชายเย่แข็งแกร่งและเยือกเย็นมากจริงๆ

แต่ตอนนี้ คนที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ไม่ได้ให้ความรู้สึกเช่นนี้แก่เสี่ยวเหยียนเลย หรือว่าอาจเป็นเพราะผ้าก๊อซพันได้ ผ้าก๊อซได้ห่อหุ้มพลังอำนาจในตัวของเขาไว้?

จางเสี่ยวเหยียนยังกำลังอยู่ในความคิด ก็ได้ยินเสียงที่เย็นชา “ไปกันเถอะ”

“ห๊า?” เสี่ยวเหยียนหันกลับ พบว่าหานชิงได้เดินไปถึงหน้าประตูห้องผู้ป่วยแล้ว เธอชะงักไปชั่วขณะ “จะไปตอนนี้เลยหรือ?”

“ไม่งั้น คุณยังอยากอยู่ที่นี่เหรอ?”

เสี่ยวเหยียนส่ายหัวอัตโนมัติ เธออยู่ต่อเพื่ออะไร? ตอนนี้คนบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ ถูกพันไว้สภาพนี้ ต่อให้เธออยู่ที่นี่ ก็ไม่สามารถทำอะไรได้

ตอนที่เดินไปถึงประตูห้องผู้ป่วย เสี่ยวเหยียนอดไม่ได้ ที่จะหันกลับไปมองคนที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยอีกครั้ง ยื่นมือเท้าคางตัวเองไว้

น่าแปลกจังเลย ทำไมรู้สึกว่า คนคนนี้ ให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยกับเธอ ไม่ใช่ความรู้สึกแบบคุณชายเย่เลยสักนิด……

ดูคุ้นเคยมากเกินไป

“ใจลอยอะไร? ไปแล้ว”

เสียงเร่งเร้าของหานชิง ดังมาจากไม่ไกล เสี่ยวเหยียนตั้งสติกลับมา รีบเดินตามหานชิงอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เดินตามหลังเขาต่อไป เหมือนกับหางเล็กๆ

ทั้งสองเดินแบบนี้อยู่สักพัก แล้วเสี่ยวเหยียนก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น “คือว่า ฉันมีคำถามหนึ่ง อยากจะถามคุณ”

หานชิงที่เดินอยู่ข้างหน้าพูดโดยตรง “คำถามอะไร?”

เสี่ยวเหยียนนึกถึงร่างที่ตัวเองคิดในเมื่อกี้ ยังคงรู้สึกแปลกประหลาด ดังนั้นจึงบอกความคิดของตัวเองให้กับหานชิง หานชิงได้ยินเข้า อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว “อืม?”

“คือว่า ฉันไม่ได้มีความหมายอย่างอื่น ฉันแค่พูดในสิ่งที่ฉันรู้สึกเท่านั้น เพราะยังไงแล้ว คนคนนี้ถูกพันด้วยผ้าก๊อซทั้งร่าง จำไม่ได้ ดังนั้น……”

เสียงฝีเท้าของหานชิงหยุดกะทันหัน เพราะเสี่ยวเหยียนกำลังใช้ความคิด จึงไม่ได้เห็นเขาหยุดลง ก็เลยกระแทกหลังของเขาอีกครั้ง พร้อมกับเสียงดังตูม

จมูกและหน้าผากถูกกระแทกจนเจ็บปวดยิ่งนัก เสี่ยวเหยียนกุมจมูกของตัวเองไว้ เงยหน้าขึ้นมองคนที่อยู่ตรงหน้าอย่างจนปัญญา

“ทำไมคุณหยุดอีกแล้ว?”

เดินดีๆไม่ได้หรือไง? ดันต้องหยุดกะทันหัน ทำให้เธอชนเข้าอีกครั้ง

หานชิงหันกลับมา แววตาที่ลึกล้ำ จ้องมองใบหน้าของเธอ “คุณจะต้องเดินอยู่ข้างหลังเหรอ?”

เสี่ยวเหยียน “ห๊า?”

“ไปเดินด้านหน้า” เสียงของเขาไม่ได้โกรธ แต่มีอำนาจบางอย่าง ทำให้เสี่ยวเหยียนเชื่อฟังโดยดีอย่างรวดเร็ว เดินไปข้างหน้าเขาตามคำสั่ง

ทั้งสองยังคงเดินหน้าต่อไป แต่คราวนี้เป็นเสี่ยวเหยียนที่เดินอยู่ข้างหน้า หานชิงตามรอยเท้าของเธอได้อย่างรวดเร็ว อยู่ในระดับเดียวกับเธอ “สิ่งที่คุณพูดในเมื่อกี้ หมายความว่ายังไง?”

เสี่ยวเหยียน “……”

เธอคิดว่าเขาไม่สนใจเรื่องนี้เลย

“ฉันก็ไม่ได้มีความหมายอย่างอื่น ฉันแค่รู้สึกสงสัยเท่านั้น”

“คุณอยากจะบอกว่า คนคนนั้น ไม่ใช่เย่โม่เซินใช่ไหม?”

ดวงตาของเสี่ยวเหยียนเบิกกว้าง เท้าหยุดลง ส่ายหัวอย่างแรง

“ฉัน ฉันไม่ได้พูดแบบนี้”

เธอไม่กล้าพูดไปเรื่อย เพียงแค่สงสัยเท่านั้น

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset