บทที่973ไม่สบายใจ
ยังไม่พูดถึงว่าเธอไม่ชอบนาย แม้แต่สังเกตคนอื่นก็ยังไม่สังเกตเห็นนายเลย
ไม่นึกเลยว่าตัวเองชอบเธอมานานหลายปี แต่ปรากฏอยู่ในใจเธอเขาไม่มีตำแหน่งเลยสักนิด
ถึงว่าล่ะ เดิมทีตัวเองก็ดีสู้คนอื่นไม่ได้อยู่แล้ว บวกกับตอนนี้เขากลายเป็นหน้าผีแบบนี้อีก
คนอื่นยิ่งไม่เอาเขามาไว้ในใจอยู่แล้ว
เซียวซู่รู้สึกเหนื่อยใจ จู่ๆถึงกับพูดไม่ออก
เสี่ยวเหยียนกลับเหมือนหาต้นตอที่ขจัดความอึดอัดเจอ เธอพูดจากับเขา เสียงใสๆก้องเข้าไปในหูของเขาทีละคำๆ
“ฉันไม่รู้สิ ครั้งนี้ก็พาเสี่ยวหมี่โต้วมาหามู่จื่ออยู่แล้ว พวกเราต่างก็เป็นห่วงเธอมาก ตอนนี้เห็นเธอเหมือนไม่มีอะไรที่ต้องเป็นห่วง วันที่สิบห้าก็คงจะกลับแล้วมั้ง”
พูดถึงตรงนี้ เสี่ยวเหยียนเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ เธอพูดเสริมคำนึง: “แต่ว่าฉันอยากกลับไปอยู่นะ เทศกาลโคมไฟของในประเทศค่อนข้างคึกคักกว่า”
เทศกาลโคมไฟของบางที่มีกิจกรรมมากมายของประเพณี ถึงเวลาลองไปดู และร่วมฉลองสักหน่อยรู้สึกว่าน่าสนใจมาก
เธอรู้สึกช่วงนี้ตัวเองเศร้าเกินไปจริงๆ จำเป็นต้องร่วมกิจกรรมที่มีชีวิตชีวาหน่อย ถึงจะหาความมั่นใจของตัวเองกลับมาได้อีกครั้ง
เซียวซู่มีความคิดปรากฏ มองเธอ: “บางที เราอาจจะสามารถกลับไปพร้อมกันได้นะครับ”
กลับไปพร้อมกัน?
เสี่ยวเหยียนมองหานชิงที่อยู่ด้านหลังกระจกรถ เธอกัดริมฝีปากล่างของตัวเอง: “แต่ว่า………”
“แต่ว่าอะไรครับ? คุณมาต่างประเทศกับผม ผมมีหน้าที่ส่งคุณกลับไปอย่างปลอดภัย เพื่อเลี่ยงไม่ให้ระหว่างทางคุณเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา ถึงเวลาผมจะรายงานผลงานลำบาก”
รายงานผลงานอีกแล้ว เสี่ยวเหยียนอดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ: “นายนี่เป็นคนดีที่ทุ่มเทกับหน้าที่จริงๆเลยนะ”
เซียวซู่: “……..”
ใช่สิ เขาเป็นคนดีที่ทุ่มเทกับหน้าที่จริงๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ทุ่มเทกับหน้าที่ขนาดนี้
คิดไม่ถึงกลับถูกคนปฏิเสธความรัก เขาก็ไม่รู้แล้วว่าควรจะร้องไห้หรือควรจะหัวเราะดี อีกอย่างยังถูกปฏิเสธความรักต่อหน้าศัตรูหัวใจอีก ถ้าไม่ใช่ว่าเขามีจิตใจที่เข้มแข็ง คาดว่านาทีนี้ก็คงระเบิดอารมณ์ออกมาแล้ว เฮ้อ
ในที่สุดหานชิงที่หลับตาพักผ่อนสายตามาโดยตลอด อดไม่ได้ที่จะยกมุมปากขึ้น
เดิมทีเขานึกว่าตัวเองแค่หลับตาลง ก็จะสามารถละทิ้งเรื่องทั้งหมดของโลกภายนอกได้ แต่ตอนที่เสี่ยวเหยียนเอ่ยปากพูด เสียงๆนั้นก็ก้องเข้าไปในหูของเขาอย่างเผด็จการ โดยที่ไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้าเลยสักนิด ยึดครองการได้ยินของเขาไปหมด
จากนั้นเสี่ยวเหยียนกับเซียวซู่เริ่มพูดคุยสนทนากัน ตอนที่ได้ยินเสี่ยวเหยียนชมฝ่ายตรงข้ามว่าเป็นคนดี หานชิงอดไม่ได้ที่จะยกมุมปากขึ้น ครั้งแรกที่เริ่มรู้สึกสงสารเซียวซู่ขึ้นมา
ความรู้สึกที่เขามีต่อเสี่ยวเหยียนสามารถบอกได้ว่าเห็นได้ชัดมากแล้ว ไม่งั้นเจสันคนนั้นที่เพิ่งจะเจอกันครั้งแรกก็ไม่มีทางดูออกไวขนาดนี้ อีกทั้งยังช่วยเขาสร้างโอกาสด้วย เพียงแต่ความคิดของเสี่ยวเหยียนไร้เดียงสาเกินไป ไม่นึกเลยว่าจะรู้สึกไม่ถึงเลยสักนิด แถมยังปฏิเสธความรักของฝ่ายตรงข้ามอีก
คาดว่าเซียวซู่คนนี้ คงมีใจที่อยากจะกระอักเลือดออกมาแล้ว
คิดถึงตรงนี้ จู่ๆหานชิงตื่นตกใจจนดึงสติกลับมา พร้อมขมวดคิ้ว
ตอนนี้…….เขากำลังคิดอะไรอยู่?
ที่ผ่านมาตอนที่หลับตาลง ล้วนแต่สามารถละทิ้งเสียงทั้งหมดของโลกภายนอกได้ แต่ตอนนี้เขาไม่เพียงแต่ฟังเสียงของโลกภายนอกเข้าไปในหู แถมยังเริ่มครุ่นคิดขึ้นมาด้วย
ปัญหานี้ ไม่ใช่แค่ปัญหาที่ร้ายแรงธรรมดา
คิดถึงตรงนี้ หานชิงลืมตาขึ้น สายตาหล่นอยู่ที่หลังศีรษะของเสี่ยวเหยียน
หลังศีรษะของเสี่ยวเหยียนได้มัดทรงหัวลูกชิ้นไว้ ด้านข้างยังติดกิ๊ฟสีชมพูที่น่ารักไว้อันนึง หลังศีรษะดูแล้วทำให้คนรู้สึกกลมกลืนน่ารัก มีชีวิตชีวามากเป็นพิเศษ
เพียงแต่ เสื้อคลุมผู้ชายสีดำที่อยู่บนตัวเธอ เมื่อเทียบกับหน้าตาเธอในนาทีนี้ดูไม่เข้ากันเลย
ไม่เข้ากัน?
ปลายนิ้วของหานชิงขยับ เขาดึงสายตากลับอย่างสงบเยือกเย็น ในขณะนี้เสี่ยวเหยียนกลับจับสายตาเขาได้ หันกลับไปมองเขาด้วยความดีใจ
“คุณตื่นแล้วหรอคะ!”
หานชิงที่กำลังอยากจะหลับตาลงแล้วแกล้งหลังต่อ: “………”
ยัยตัวแสบนี่……..ไวขนาดนี้เลย?
หรือคอยสังเกตตัวเองอยู่ทุกวินาทีหรอ?
พอนึกถึงเธอถูกตัวเองปฏิเสธไปหลายครั้ง ไม่ว่าคำพูดดีหรือไม่ดีก็พูดไปหมดแล้ว เธอกลับยังไม่ตายใจอีก ยังชื่นชอบตัวเองอย่างมีชีวิตชีวาขนาดนี้อีกเช่นเคย หานชิงก็ค่อนข้างที่จะไม่สบายใจ
นี่เป็นเพราะอะไร?
ทั้งๆที่เวลาที่ทั้งสองได้อยู่ด้วยกันสองต่อสองน้อยมาก บนตัวเขามีจุดไหนที่คุ้มค่าที่ให้เธอชอบ?
รูปลักษณ์ภายนอก?
ที่หานชิงสามารถคิดได้ ก็มีเพียงเท่านี้
พอนึกถึงเสี่ยวเหยียนชอบแค่รูปลักษณ์ภายนอกของตัวเอง เขาก็ยิ่งไม่สบายใจขึ้นไปอีก
นาทีนี้เห็นสีหน้าที่สดใสของเสี่ยวเหยียนอีก ในใจกลับหัวเราะเยาะทีนึง จากนั้นก็ได้หลับตาลง
ทั้งๆที่เสี่ยวเหยียนก็เห็นเขาลืมตาขึ้นมาแล้ว ส่วนเธอเองก็ได้ทักทายเขาแล้ว ยังนึกว่าเขาจะพูดคุยกับเธอสักสองคำ ใครจะไปรู้ว่าเขาแค่มองเธอทีนึงก็ดึงสายตากลับ และหลับตาลงอีกครั้ง
รอยยิ้มที่มุมปากเธอก็ได้แข็งทื่อไว้แบบนี้
แม้แต่มองก็ยังไม่ชายตามองเธอเลย แถมยังไม่ยอมพูดคุยกับเธอ หรือว่า…….เธอน่ารังเกียจขนาดนี้จริงๆหรอ?
ในชั่วขณะ เสี่ยวเหยียนเศร้าจะแย่ ได้แต่หลุบตาลงและนั่งดีๆ ครั้งนี้เธอไม่ได้ไปสังเกตหานชิงอีก แต่ได้มองไปที่นอกหน้ากระจกรถ
ที่เธอไม่รู้คือ สีหน้าของเธอในนาทีนี้ได้ส่องอยู่ที่กระจกรถหมด เซียวซู่แค่ชายตามองก็สามารถเห็นสีหน้าของเธอแล้ว
มองหานชิงที่อยู่เบาะนั่งหลังทีนึง บนตัวของเซียวซู่มีความเหี้ยมโหดเพิ่มมากขึ้น เขาเอ่ยปากพูดอย่างเหน็บแนม: “นายหานเตรียมตัวกลับประเทศเมื่อไหร่ครับ?”
เรียกนามสกุล หนังตาที่เพิ่งปกคลุมลงมาของหานชิงได้ขยับไปมา เขาลืมตาขึ้นมาใหม่ และตอบอย่างเรียบเฉยคำนึง
“ที่บริษัทงานเยอะ ใกล้แล้ว”
“อ้อ อย่างนี้หรอครับ~” เซียวซู่หัวเราะ “งั้นดูแล้วเราคงไร้วาสนาได้กลับไปพร้อมกันแล้วครับ”
เดิมทีเสี่ยวเหยียนไม่คิดจะพูดแล้ว ทีนี้ก็อดถามไม่ได้อีก: “คุณจะกลับไปเร็วขนาดนี้เลยเหรอคะ? กลับไปเมื่อไหร่คะ?”
เซียวซู่: “……..”
เขารู้สึกขอแค่หานชิงพยักหน้า เธอก็คงจะกลับไปพร้อมเขาในทันทีเลย
หานชิงเม้มปากไว้ด้วยความเยือกเย็น สักพักถึงพูด: “คงจะอีกสองวันมั้งครับ”
อีกสองวันก็จะกลับไปแล้ว?
เสี่ยวเหยียนกระพริบตาปริบๆ จู่ๆเธอรู้สึกที่นี่ก็ไม่มีอะไรน่าสนุก สู้กลับไปพร้อมหานชิงโดยเร็วดีกว่า ถ้าเธอสามารถรักษาโอกาสที่นั่งไฟลท์เดียวกันกับหานชิง ไม่แน่ยังอาจจะได้นั่งแถวเดียวกับเขาด้วย ถึงเวลานั้นฮิๆๆๆ……….
เดิมทีเสี่ยวเหยียนที่สมองเป็นสีเทาหมด หลังจากสมองคิดพวกนี้ได้ ก็เปลี่ยนมามีชีวิตชีวาขึ้นมาเป็นพิเศษ
หานชิงกับเซียวซู่ต่างก็สังเกตเห็นแล้ว……..
ผู้หญิงคนนี้ขอแค่ให้ความหวังเธอเสี้ยวนึง เธอก็จะพยายามไขว่คว้าเอาไว้ไม่ปล่อย แม้กระทั่งยังสามารถสร้างด้วยตัวเองด้วย
หานชิงค่อนข้างจนปัญญา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
แต่ว่าทุกคนต่างก็รู้ว่าในใจของเสี่ยวเหยียนมีความคิดอะไรอยู่
จากนั้นในรถก็จมเข้าไปในความเงียบงันที่แปลกประหลาดอีกครั้ง เป็นแบบนี้ตลอดทางจนกลับมาถึงบ้าน
พอรถจอดปุ๊บ หานชิงก็ได้เปิดประตูและลงจากรถ เสี่ยวเหยียนรีบปลดเข็มขัดนิรภัยและตามเขาไปอย่างระมัดระวัง หลังจากเซียวซู่จอดรถ ได้นั่งอยู่ที่ฝั่งคนขับ สายตากล้ำกลืนมองคนสองคนที่เดินไปไกล
อารมณ์หงุดหงิดจะแย่ เซียวซู่เริ่มยื่นมือคุ้ยหาในถุง แต่กลับคุ้ยหาของที่ตัวเองอยากได้ไม่เจอ
จู่ๆกระจกรถกลับถูกคนเคาะทีนึง เซียวซู่หันไปมองเจสันที่ยืนอยู่นอกกระจกรถ
จากนั้นเขาได้เปิดประตูรถและนั่งเข้ามา
“เฮ้ เพื่อนรัก เวลานี้นายไม่ตามไป มานั่งเซ่ออยู่ที่นี่ทำไม?”
“มีบุหรี่มั้ย?”