เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ – ตอนที่ 974ดูเหมือนว่าจะหึง

บทที่974ดูเหมือนว่าจะหึง

บุหรี่?

เจสันได้ยินคำพูดนี้ หัวเราะขึ้นมาอย่างกะทันหัน

“ฉันว่า นายขี้ขลาดขนาดนี้มันจะดีจริงๆหรอ? ผู้หญิงคนนั้นก็หนีไปกับผู้ชายคนอื่นแล้ว ฉันจะบอกนายให้ ถ้านายเป็นผู้ชายก็น่าจะวิ่งตามไปในเวลานี้ อย่าสนใจอะไรทั้งสิ้น ไขว่คว้าโอกาสไว้ถึงจะเป็นของจริง”

ไขว่คว้าโอกาส?

เซียวซู่ได้ยินคำนี้แล้วรู้สึกค่อนข้างน่าขำ แต่แล้วในใจกลับขมขื่น ทรวงอกเต็มไปด้วยรสชาติของความขม แม้แต่ฝืนยิ้มยังทำไม่ได้

“มีบุหรี่มั้ย?”

เขาถามอีกครั้ง

เจสัน: “………”

เงียบไปสักพัก เจสันยื่นมือล้วงที่กระเป๋าเสื้อของตัวเองไปสักพัก ถึงล้วงเอาบุหรี่ออกมาให้เซียวซู่ซองนึง

เซียวซู่รับมา หยิบบุหรี่ออกมามวนนึงกัดไว้ที่ในปาก

รอไปครึ่งค่อนวัน เจสันก็ไม่ได้ให้ไฟแช็คกับเขา

เซียวซู่ขมวดคิ้วมองไปที่เขา เจสันยิ้มด้วยสีหน้าบริสุทธิ์ใจ: “มองฉันทำไม? ก่อนหน้านี้คุณชายเย่ของนายหาฉันอย่างเร่งด่วนขนาดนั้น ฉันลืมพกไฟแช็คนี่ก็โทษฉันไม่ได้มั้ง?”

เซียวซู่: “……ไม่มีไฟแช็ค แล้วนายพกบุหรี่ทำห่าอะไรวะ”

เจสัน:“แม่งเอ้ย คนๆนี้นี่ทำไมพูดจาหยาบคายวะ? แน่จริงนายลองไปพูดต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นดูสิ”

“……..ไสหัวไป”

เขาโยนบุหรี่คืนให้เจสันอย่างหมดความอดทน อารมณ์ที่หงุดหงิดอัดอั้นไม่ได้ทุเลาลงเลยด้วยซ้ำ กลับกันยิ่งหงุดหงิดเพิ่มขึ้นเพราะปรารถนาแต่ไม่ได้ แต่เจสันกลับต่างจากเขา รับบุหรี่มาอย่างหน้าชื่นตาบาน จากนั้นก็เก็บใส่ซอง

“นายใส่อารมณ์กับฉันมันไม่มีประโยชน์หรอก ข้อหนึ่งฉันไม่ใช่ศัตรูหัวใจของนาย ข้อสองไม่ใช่ศัตรูของนาย ข้อสามฉันเป็นเพื่อนรักที่ช่วยเหลือนายเชียวนะ นายไม่ขอบคุณฉันแต่กลับยังมาโทษฉัน?”

เซียวซู่ไม่พูดจา เม้มปากไว้แน่น

จู่ๆเจสันกลับใกล้เข้ามาในตอนนี้ จ้องมองเขาอย่างละเอียดและจริงจัง เซียวซู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย สังเกตเห็นสายตาเขากำลังจ้องบาดแผลบนใบหน้าตัวเองอยู่ ทันใดนั้นสีหน้าของเขาเปลี่ยนมาอึดอัดขึ้นมาทันที

“นายทำอะไร?”

เขาถามด้วยเสียงเย็นชาคำนึง จากนั้นก็หันหน้าไป ซ่อนบาดแผลที่น่ากลัวนั้นไว้ใต้เงามืด

ที่จริงบาดแผลนี้สำหรับเขาแล้ว มันไม่ได้สำคัญขนาดนั้นหรอก

ถ้า…….นี่ไม่ใช่เมื่อก่อน ถ้าเขาไม่ได้ชอบคนๆนึงเข้า

บาดแผลรอยนี้สำหรับเขา อาจจะยังไม่ถึงขั้นคำว่าทำร้ายจิตใจเลยด้วยซ้ำ

แต่ว่าตอนนี้ล่ะ?

หลังจากเซียวซู่หันหน้าไป เจสันเหมือนดูสภาพจิตใจของเขาออกทันทีเลย เขาหัวเราะเยาะทีนึง: “เมื่อกี๊ฉันดูผิดไปหรือเปล่า? นี่นายไม่กล้าให้ฉันดูบาดแผลของนายหรือเนี่ย ฉันว่านะเพื่อนรัก นายคงไม่ใช่เพราะบาดแผลนี้จึงไม่กล้าบอกรักผู้หญิงคนนั้นมั้ง?”

“เปล่า ไม่ใช่” เซียวซู่ปฏิเสธอย่างไวมาก

เจสันหรี่ตาเล็กน้อย กลอกตาไปมา หลังจากผ่านไปครู่นึงได้พูดพลางหัวเราะ: “นายไม่รู้ว่าปฏิเสธซ้ำสองครั้งเท่ากับยอมรับหรอ?”

“………”

เซียวซู่มองเขาด้วยหางตาทีนึง จากนั้นก็เปิดประตูลงจากรถ เอากุญแจรถทิ้งไว้ให้เจสัน

“ทำไม? พูดแทงใจดำเลยทำให้นายโกรธเป็นเป็นไฟเลยหรอ?”

เห็นเซียวซู่ไม่ตอบ เจสันยื่นมือไปดึงชายเสื้อเขาไว้ และเอ่ยปากพูด: “ฉันว่า บนตัวผู้ชายมีแผลหน่อยจะเป็นอะไรเชียว? ตอนนี้เป็นยุคสมัยที่สันติภาพ ยุคสมัยทำสงครามในสมัยก่อน บนตัวผู้ชายคนไหนบ้างที่ไม่มีแผลเล็กแผลใหญ่ ถ้าผู้ชายทุกคนยืดๆยาดๆเหมือนนายหมด งั้นเมียก็ไม่ต้องแต่งแล้วมั้ง?”

“….…”

“เจสัน วันนี้นายนี่พูดมากจริงๆเลย เรื่องพวกนี้ไม่เกี่ยวกับนาย นายไม่ต้องยุ่งอีก”

“ถ้าไม่ใช่เห็นว่านายเป็นเพื่อนรักของฉัน แล้วมีปัญหาทางด้านความรัก นายนึกว่าฉันอยากยุ่งมากงั้นหรอ? เอาล่ะๆ ฉันก็แค่วันนี้แหละที่มีเวลาว่านายไม่กี่คำ ต่อไปถ้านายกลับประเทศแล้ว วันนี้ก็ถือว่าฉันปากมากก็แล้วกัน แต่คำพูดที่ฉันพูดกับนายพวกนั้นล้วนแต่จริงจังทั้งนั้น ยินดีให้นายมาปรึกษาหารือกับฉันได้นะ”

พอพูดจบ ทีนี้เจสันถึงเป็นฝ่ายปล่อยชายเสื้อของเซียวซู่ มือทั้งสองหันไปกุมพวงมาลัยไว้

“เอาล่ะ ฉันไปก่อนแล้วนะ มีวาสนาค่อยเจอกัน”

รถหายไปจากลานจอดรถของชั้นใต้ดินอย่างไว

เซียวซู่หันหน้าจ้องตำแหน่งเดิมที่รถหายไปอยู่สักพัก จากนั้นก็หลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า

เขาน่ะอยากมีความกล้าหาญมาก แต่ว่า…….ตอนนี้เสี่ยวเหยียนมีความรักให้หานชิงอย่างลึกซึ้งมาก ถ้าเขาไปบอกรักในเวลานี้ มีแต่จะทำให้เธอลำบากใจมั้ง?

หลังจากเจสันจากไป เซียวซู่เดินไปที่ทิศทางของลิฟต์อย่างเงียบๆ

ตอนที่เดินผ่านถังขยะ เขาเอาบุหรี่มวนที่ยังไม่ได้จุดไฟทิ้งลงไปในถังขยะ

ตอนที่เขากลับไป เพราะไม่มีกุญแจ ดังนั้นจึงต้องกดกริ่งประตู คนที่มาเปิดประตูให้เขาคือเสี่ยวเหยียน ดูเหมือนว่าเสี่ยวเหยียนเห็นเขาแล้วอึ้งไปครู่นึง จู่ๆก็ดึงสติกลับมาได้ในทันที

“เซียวซู่? ทำไมนายเพิ่งกลับมาเนี่ย? เมื่อกี๊นายไม่ได้ขึ้นมาพร้อมพวกเราหรอ?”

คำพูดคำนึงที่บริสุทธิ์ใจและประหลาดใจ พริบตาเดียวกลับทำให้เซียวซู่เหมือนตกลงไปในนรถขุมสิบแปด

แค่นี้เอง?

เขาที่ไร้ตัวตนในใจเธอ อยู่ตรงหน้าเธอยังมีโอกาสจริงหรอ?

เซียวซู่ไม่สบายใจ นาทีนี้ก็ไม่มีสีหน้าดีๆให้ แค่พยักหน้าอย่างเรียบเฉยแล้วอืมคำนึง

ไม่รู้เพราะอะไร เสี่ยวเหยียนรู้สึกได้ว่าอารมณ์ของเขาไม่ค่อยดี แต่ไม่นานก็ตระหนักได้ว่าเมื่อกี๊ตัวเองพูดอะไรไป เธออธิบายด้วยความตื่นตระหนก: “ขอโทษด้วยนะ ฉันไม่ทันสังเกตเห็นว่านายไม่ได้ขึ้นมาพร้อมพวกเรา เมื่อกี๊ฉัน…….”

“ไม่เป็นไรครับ” เซียวซู่มองเธอทีนึง แล้วตอบกลับเธออย่างเยือกเย็น: “สมาธิทั้งหมดของคุณอยู่ที่บนตัวนายหานหมด ไม่สังเกตเห็นผมก็เป็นเรื่องปกติมาก”

เสี่ยวเหยียน: “……..”

เธอยืนอึ้งอยู่ที่เดิม ย่อยคำพูดของเซียวซู่อย่างช้าๆ

ยังไม่รอเธอย่อยคำพูดเสร็จ เซียวซู่ก็ได้ถอดรองเท้าเดินเข้าไปแล้ว

เสี่ยวเหยียนยืนคิดลำพังอยู่ที่เดิมไปสักพัก ในที่สุดถึงเข้าใจ

เหมือน……..เซียวซู่จะโกรธแล้ว

สมาธิของคุณอยู่ที่บนตัวนายหานหมด ไม่สังเกตเห็นผมก็เป็นเรื่องปกติมาก

คำพูดนี้ ฟังดูแล้วก็รู้สึกแปลกๆเหมือนกัน……….

รสชาติของความหึง

ทำไมถึงรู้สึกเหมือนหึงเลย? ?

หึง? ?

เสี่ยวเหยียนตื่นตกใจอย่างมาก กำผมตัวเองไว้ด้วยจิตใต้สำนึก เซียวซู่หึงนี่มันเป็นไปไม่ค่อยได้หนิ เธอเคยถามเขาแล้ว เขาไม่ชอบตัวเองเลยด้วยซ้ำ ที่เขาดีกับเธอก็แค่หวังให้เธอช่วยเขาพูดความดีหน่อยเฉยๆ

ดังนั้น เขาโกรธอะไรของเขากันแน่?หรือว่าเธอคิดมากไป?

เสี่ยวเหยียนได้เกาศีรษะกลับไปที่ห้องนอนแบบนี้เฉยเลย

บนโซฟามีแค่หานชิงคนเดียวที่กำลังนั่งดูเอกสารอยู่ หลังจากหานมู่จื่อกับเย่โม่เซินกลับมาก็ได้เข้าห้องนอนไปแล้ว

ตอนที่เซียวซู่เห็นหานชิง เขาเม้มปาก จากนั้นก็สีหน้าเย็นชาอยากกลับไปห้องนอน ทันใดนั้นนึกขึ้นได้ว่าที่นี่ไม่มีห้องนอนของตัวเองเลยด้วยซ้ำ

ในใจค่อนข้างจนปัญญา เซียวซู่ได้แต่เลือกที่ๆนึงแล้วนั่งลงมา

ในห้องรับแขกเงียบสงบ ตอนที่เสี่ยวเหยียนกลับมาเห็นมีแค่หานชิงกับเซียวซู่อยู่กันสองคน จึงได้รีบหลบกลับไปที่ห้องนอนของตัวเอง

บรรยากาศที่อึดอัดแบบนี้รักษาเวลาไปนานมาก จนถึงเที่ยงตอนที่ทุกคนเตรียมตัวทานข้าว เสี่ยวเหยียนถึงเดินไปที่ห้องครัวเตรียมตัวทำกับข้าว

เซียวซู่ที่ถูกเมินใส่จนกลายเป็นมนุษย์ล่องหน เห็นเสี่ยวเหยียนเข้าไปในห้องครัว เขามีความคิดปรากฏขึ้นมา

ผู้หญิงคนนี้นี่ไม่รู้เรื่องจริงๆเลย ทั้งๆที่เพิ่งจะหายป่วย ทำไมถึงเข้าครัวอีกแล้ว?

เขาอยากบุกขึ้นไปเกลี้ยกล่อมเธอ แต่หานชิงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกลับสีหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่สะทกสะท้าน เขาก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาอีก อยากพูดอะไรกลับพบว่าตัวเองไม่มีสถานภาพที่พูด ได้แต่กลืนคำพูดลงไปที่ลำคอ

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอำนาจใหญ่ “ฉันเย่โม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมทีคิดว่างานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไปด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเย่โม่เซินด้วยฝ่ามือเล็กๆ“พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset