เกาะกลางทะเลสาบ
ที่ทำการจวนผู้ว่า
มังกรเขียวลดความเร็วของตนเองลง
มันลดระดับความสูงลงมา
ชาวทะเลจำนวนมากคุกเข่าลงที่ลานจัตุรัสด้วยความเคารพเทิดทูน
“ยินดีต้อนรับท่านนักบวช”
แม้แต่องค์หญิงแห่งท้องทะเลกับติงซานฉือก็ยังต้องมาปรากฏตัวขึ้นที่นี่และพร้อมใจกันค้อมศีรษะลงแสดงความเคารพ
มังกรเขียวค่อยๆ ลดหัวของมันลงมา
จนสุดท้าย หัวของมันแนบติดอยู่บนพื้นดิน
หญิงชราหลังค่อมที่ยืนอยู่บนศีรษะของมันก้าวเดินลงมาอย่างแช่มช้า
ผ้าคลุมศีรษะเลื่อนเปิดออก
เผยให้เห็นใบหน้าที่แปลกประหลาดแต่ดูมีความน่าเกรงขามอย่างพิศวง บริเวณขมับทั้งสองข้างมีเสาอากาศสองเส้นยื่นขึ้นไปด้านบน และบริเวณปลายสุดของเสาอากาศนั้น ก็เป็นดวงตาเล็กๆ สองดวงที่กำลังหมุนวนอยู่เล็กน้อย
“ทุกคนลุกขึ้นได้”
หญิงชราหลังค่อมกวาดตามองชาวทะเลทุกคนที่อยู่ในลานจัตุรัส จากนั้นจึงหันมามองหน้าองค์หญิงแห่งท้องทะเลและคู่รัก ผู้ซึ่งก้มศีรษะทำความเคารพนางอยู่ในขณะนี้
หญิงชราพยักหน้าเล็กน้อยพร้อมกับพูดว่า “องค์หญิงไม่ต้องมากพิธี”
องค์หญิงแห่งท้องทะเลจึงยืดตัวขึ้น
หญิงชราหลังค่อมเป็นฝ่ายก้มศีรษะทำความเคารพองค์หญิงบ้าง
ที่องค์หญิงเป็นฝ่ายทำความเคารพนางก่อน ก็เนื่องจากว่าหญิงชราเป็นตัวแทนของเทพเจ้าแห่งท้องทะเล นางคือหัวหน้านักบวชแห่งมหาวิหารสมุทรเขตตะวันตก และนี่คือครั้งแรกที่หญิงชราเดินทางขึ้นมาบนแผ่นดินใหญ่ ส่วนจะขึ้นมาเพราะเหตุใดนั้น ยังไม่มีใครรู้
เมื่อองค์หญิงทำความเคารพเทพเจ้าแห่งท้องทะเลเสร็จแล้ว หญิงชราในฐานะนักบวชก็จําเป็นต้องทำความเคารพองค์หญิงกลับคืน
ยิ่งไปกว่านั้น องค์หญิงซีไห่ถิงผู้นี้นับเป็นสายเลือดโดยตรงขององค์จักรพรรดิแห่งทะเล
“ท่านนักบวชหรงมาโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า ไม่ทราบว่ามีเหตุด่วนอันใดหรือไม่?”
องค์หญิงสอบถาม
หญิงชราหลังค่อมตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ทางมหาวิหารส่งข้ามาเพื่อให้บอกแก่องค์หญิงว่า ท่านสมควรสร้างแท่นบูชาให้เสร็จโดยเร็วที่สุด… เพราะดูเหมือนว่าองค์หญิงจะทำภารกิจได้เชื่องช้าเหลือเกิน”
สีหน้าขององค์หญิงแห่งท้องทะเลแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย “แต่จากสถานการณ์ในขณะนี้ ยังไม่มีความเหมาะสมที่จะสร้างแท่นบูชา”
หญิงชราหลังค่อมหัวเราะในลำคอเล็กน้อย “ทรัพยากรและของวิเศษทุกอย่างที่จำเป็นต้องใช้สำหรับการสร้างแท่นบูชา ข้าได้เตรียมมาหมดแล้ว ไม่มีสิ่งใดขาดตกบกพร่อง… องค์หญิง ความตายของอู๋หยาทำให้ทางวิหารและวังหลวงไม่พอใจเป็นอย่างมาก บางคนเริ่มเกิดความสงสัยแล้วว่า ท่านอาจจะไม่ได้ยืนอยู่ข้างเดียวกับพวกเราอีกแล้วก็เป็นได้…”
“แต่พวกเราก็จำเป็นต้องเผยแพร่ความศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้าแห่งท้องทะเลให้ผู้คนบนแผ่นดินใหญ่ได้รับรู้จากใจจริง พวกเราจะทำอะไรวู่วามเกินไปไม่ได้…”
เฒ่าทะเลที่ยืนอยู่ด้านข้างโพล่งออกมาด้วยความเหลือทน
เปรี้ยง!
เมื่อหญิงชราหลังค่อมหันหน้าไปมองเฒ่าทะเล
ดวงตาที่อยู่บนปลายเสาอากาศของนางก็ปล่อยคลื่นพลังรุนแรงออกมา
ฟู่!
เฒ่าทะเลกระอักเลือดออกมาจากปาก ก่อนที่ตัวคนจะลอยกระเด็นไปไกลหลายสิบวา
“แม่ทัพแมวน้ำ เจ้าไม่มีสิทธิ์มาปากมากแถวนี้”
ลึกเข้าไปในดวงตาของหญิงชราหลังค่อมเต็มไปด้วยจิตสังหารเปี่ยมล้น “ดูเหมือนเจ้าคงจะขึ้นมาอยู่บนบกนานเกินไปแล้วสินะ และเจ้าก็คงเปลี่ยนฝ่ายไปอยู่ข้างมนุษย์นานแล้วเช่นกัน เจ้าคือตัวอันตรายที่อาจจะแพร่ความคิดผิดๆ ให้แก่เหล่านักรบชาวทะเลก็เป็นได้”
เฒ่าทะเลยกมือปาดเลือดออกจากมุมปาก ดวงตามีแต่ความเย็นชา
“เวลาจะเป็นสิ่งที่พิสูจน์ทุกอย่างเอง”
เขาพูดออกมาเสียงแผ่วเบา “ท่านต่างหากนักบวชหรง ในเมื่อท่านเป็นตัวแทนมหาวิหารเดินทางขึ้นบกมาทั้งที มันก็ยังไม่สายเกินไปที่ท่านจะแสดงความเมตตาต่อมนุษย์เพื่อนร่วมโลก มิฉะนั้นแล้ว ข้าก็อาจจะตีความได้ว่าการที่ท่านบุกขึ้นมาบนแผ่นดินใหญ่โดยไม่ได้กราบเรียนเบื้องบนเช่นนี้ เป็นเพราะว่าท่านตั้งใจจะขึ้นมาแก้แค้นให้แก่ลูกศิษย์ของตนเองเท่านั้น”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…”
หญิงชราหลังค่อมพลันหัวเราะเยาะเล็กน้อย ก่อนที่จะยื่นฝ่ามือออกมาข้างหน้า
บนมือของนางเป็นเครื่องรางสีฟ้าครามชิ้นหนึ่ง
“เจ้าดูออกหรือไม่ว่านี่คือน้ำตาเทพเจ้า?”
หญิงชราหลังค่อมจ้องมองไปที่เฒ่าทะเลเขม็ง
เฒ่าทะเลเบิกตาโตด้วยความตกตะลึง พูดอะไรไม่ออก
น้ำตาเทพเจ้าเป็นหนึ่งในสมบัติล้ำค่าสามชิ้นของมหาวิหารสมุทร และผู้ที่ถือครองมันจะมีอำนาจเทียบเท่ากับนักพรตเทวะแห่งท้องทะเล ซึ่งมีสิทธิ์ตัดสินใจในทุกเรื่องราวได้โดยไม่ต้องแจ้งเบื้องบน
“มหาวิหารได้รับแจ้งข่าวว่าพวกมนุษย์ได้ส่งกำลังเสริมแฝงตัวเข้ามาในเมืองหยุนเมิ่ง เพื่อที่จะก่อความไม่สงบ… แม่ทัพแมวน้ำ เจ้าดูแลด้านหน่วยข่าวกรอง จงตรวจสอบเรื่องนี้ให้ดี หากเจ้าทำผิดพลาด ข้าจะไม่ละเว้นเจ้าเด็ดขาด ผู้ใดที่ประพฤติตัวเป็นกบฏ พวกมันจะต้องถูกจับตัวมาประหารชีวิต”
นักบวชหรงพูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด
เฒ่าทะเลจำเป็นต้องประสานมือก้มศีรษะ “ข้าน้อยรับคำบัญชา”
นักบวชหรงหันกลับไปมององค์หญิงอีกครั้ง “ในวันนั้นที่จัดการประลองระหว่างพวกของแม่ทัพฉลามอู๋หยากับฝ่ายตัวแทนของชาวเมือง มิทราบว่าเหตุไฉนองค์หญิงจึงไม่ดำเนินการต่อสู้ให้ครบทุกคู่?”
“เพราะว่าฝ่ายของแม่ทัพฉลามอู๋หยาพ่ายแพ้แล้วสามคู่ ถึงสู้กันต่อไปก็ไม่มีความหมายอันใดอีกแล้ว”
องค์หญิงตอบ
“เพราะเหตุนั้นจริงหรือ?”
นักบวชหรงหัวเราะในลำคอด้วยเสียงที่น่าขนลุก “ผิดแล้ว หากสู้ต่อไป มันก็จะมีความหมายมากทีเดียว”
นักรบชาวทะเลที่รวมตัวกันอยู่ในลานจัตุรัสอดหันมองหน้ากันไม่ได้เมื่อได้ยินเช่นนั้น
มันจะมีความหมายอะไรได้อีก?
พลัน ได้ยินหญิงชราหลังค่อมพูดต่อไปด้วยน้ำเสียงเย็นชาและอำมหิต “ในเมื่อกฎกติกาการประลองบอกว่าจะมีคู่ต่อสู้ห้าคู่ เราก็จำเป็นต้องจัดการต่อสู้ให้ครบทั้งห้าคู่ จะขาดหายไปแม้แต่คู่เดียวไม่ได้… ดังนั้น องค์หญิงได้โปรดแจ้งแก่ชาวเมืองหยุนเมิ่ง ให้พวกเขาส่งตัวแทนอีกสองคนมาต่อสู้ตามเดิมในอีกสามวันหลังจากนี้ และสถานที่จัดการประลอง ก็ต้องเป็นที่นี่ไม่เปลี่ยนแปลง”
“แต่ถึงพวกเราจะชนะการต่อสู้อีกสองคู่ที่เหลือ มันก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความพ่ายแพ้ได้อยู่ดี”
องค์หญิงกล่าว
นักบวชหรงตอบเสียงเรียบ “แต่อย่างน้อยก็ทำให้พวกมนุษย์ได้ตายบ้าง”
องค์หญิงถึงกับชะงักกึก
ติงซานฉือที่ยืนอยู่ข้างกายก็ชะงักไปเล็กน้อย
บรรดานักรบชาวทะเลที่อยู่ในลานจัตุรัสเริ่มส่งเสียงอุทานออกมาด้วยความตื่นเต้น
จริงด้วยสินะ
ถึงจะไม่สามารถแก้ไขผลการแข่งขันได้ แต่อย่างน้อย พวกเขาก็จะสามารถฆ่าตัวแทนมนุษย์ได้อีกสองคน
นักบวชหรงพูดออกมาอีกครั้ง “และท่านอย่าลืมบอกหลินเป่ยเฉินว่า ข้ายินดีมอบโอกาสให้เขาอีกสักครั้ง หากเขาจะยอมขึ้นมาเป็นตัวแทนในการต่อสู้อีกสองคู่ที่เหลือก็ย่อมได้… หึหึ ข้ารู้ดีว่าเขาเป็นเด็กหนุ่มที่รักตัวกลัวตายยิ่งกว่าอะไร เรามาดูกันเถิดว่าวีรบุรุษแห่งเมืองหยุนเมิ่ง จะยังคงเลือกปกป้องชีวิตผู้อื่นอยู่อีกหรือไม่ ฮ่าฮ่าฮ่า…”
หากหลินเป่ยเฉินเลือกที่จะขึ้นเวทีมาเป็นตัวแทนในการต่อสู้ที่เหลืออยู่
ก็เท่ากับว่าเขาขึ้นมายอมรับความตายด้วยตนเองแล้ว
…
สถานศึกษากระบี่ที่สาม
ตำหนักไม้ไผ่
หลินเป่ยเฉินกำลังนอนดูลูกหมาป่าทั้งสองตัวหลับใหลอยู่บนเตียงด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
แล้วเขาก็เปิดโทรศัพท์มือถือแก้เบื่อ
แอปเจิ้นอ้ายหว่างดาวน์โหลดเสร็จไปนานแล้ว
แต่เขายังไม่มีเวลาติดตั้งและใช้งานมันอย่างจริงจัง
ใช้โอกาสนี้ลองเล่นดูหน่อยก็แล้วกัน
ใครจะไปรู้ว่าความสามารถของแอปพลิเคชั่นนี้ ที่ปกติแล้วมันเป็นแอปหาคู่และหาเพื่อนคุยบนโลกมนุษย์ เมื่อมาอยู่ในโทรศัพท์มือถือของยมทูต มันจะมีความสามารถแปลกประหลาดพิสดารอย่างไรบ้าง?
“เสี่ยวจี้ ติดตั้งแอปเจิ้นอ้ายหว่างให้หน่อย”
เขาออกคำสั่ง
“รับทราบเจ้าค่ะ นายท่าน”
หลังจากนั้น แอปพลิเคชันเจิ้นอ้ายหว่างก็ได้รับการติดตั้งเสร็จสิ้น
โลโก้ตัวหนังสือสีขาวบนพื้นหลังสีม่วงสว่างไสวปรากฏขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์
หลินเป่ยเฉินกดเปิดการใช้งานโดยทันที
ถ้าอ่าน “เซียนกระบี่มาแล้ว” ถึงบทนี้แล้วยังไม่จุใจ งั้นไปอ่านกันต่อได้ที่เว็บ Enjoybook.co เพราะที่นั่นลงนำไปแล้วกว่า 30 ตอน !! #อ่านก่อนใครได้ที่เว็บเอนจอย