เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ – ตอนที่ 290 – ตอนที่ 270 ความจริงในมือเย่ว์หยาง

===============
หลังจากเลือดอี้หนานและเย่ว์หยางผสมกัน ปฏิกิริยาออกมาเป็นพลังวิญญาณที่แปลกประหลาด

แม้ว่าจะเป็นคลื่นพลังจิตเล็กๆ ที่ตาเปล่ามองไม่เห็นและแผ่วเบาเกินกว่าจะได้ยิน แต่ทุกคนก็รู้สึกถึงพลังที่แผ่ออกมาได้ชัด

เลือดของเย่ว์ปิงมีปฏิกิริยาที่พิเศษคือมีพลังชีวิต

ในตอนแรก ไม่มีปฏิกิริยาแต่อย่างใด เย่ว์ปิงเริ่มจะทำตาแดงๆ

หลังจากเสวี่ยอู๋เสียครุ่นคิด นางเด็ดดอกไม้เล็กๆ จากข้างนอกมาวางในถ้วยเล็ก ผลที่เกิดขึ้นน่าตกใจมากที่สุด ดอกไม้นั้นที่ยังตูมอยู่ก็เบ่งบานขึ้นในทันที ขณะเดียวกันมันงอกรากและใบในถ้วยและเติบโตอย่างรวดเร็ว พอสามนาทีผ่านไป มันออกช่อส่งกลิ่นดอกไม้หอมชื่นใจ เย่ว์ปิงกอดเย่ว์หยางทันทีทั้งหัวเราะและร้องไห้พร้อมกัน นางไม่ได้คิดว่าชะตาได้ลิขิตให้นางได้อยู่กับพี่ชายเมื่อชาติก่อนนั้น หรือว่าพวกเขาถูกลิขิตให้อยู่ด้วยกัน แต่นางไม่สามารถยอมรับได้ ถ้านางไม่มีความเกี่ยวพันใดๆ กับพี่ชายนาง นางรู้สึกว่านางควรจะเป็นคนที่สนิทที่สุดสำหรับพี่ชายนาง

เมื่อหญิงงามอู๋เหินและเย่ว์หยางผสมเลือดเข้าด้วยกัน มันกลับกลายเป็นผลึกแก้วโลหิตสีแดง

เมื่อเย่ว์หยางและสาวๆ เห็นเช่นนั้น พวกเขามีความเข้าใจบางอย่างทันที

เย่ว์หวี่ที่คัดค้านการทดสอบมาตลอดในตอนแรกนางไม่สามารถสู้แรงของเจ้าเมืองโล่วฮัวและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนได้ ในที่สุด นางก็ไม่มีทางเลือก ได้แต่ลองทดสอบดู มีปฏิกิริยาที่แปลกหลังจากที่เลือดของพวกเขาผสมกันในถ้วย จู่ๆ ถ้วยก็เต็มไปด้วยน้ำจืดกลิ่นหอมหวาน

“เลือดของเย่ว์หยางมีความสามารถขยายทักษะแฝงเร้นในเลือดของทุกคน มันยังสามารถรู้สึกถึงความสามารถที่ซ่อนอยู่ในร่างพวกเจ้าได้” ในที่สุดเสวี่ยอู๋เสียก็สรุปการทดลองให้

“ถูกแล้ว ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น” เจ้าเมืองโล่วฮัวเห็นด้วยกับบทสรุปนี้

“แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น, อู๋เสีย, เจ้าช่วยอธิบายอีกครั้งได้ไหม? ทำไมปฏิกิริยาของเลือดเจ้ากับของเขาถึงได้รุนแรงนัก?” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยอมรับความพ่ายแพ้ไปแล้ว ดังนั้นนางจึงตัดสินใจเอาคืนบ้าง

“เลือดของอู๋เสียและเย่ว์หยางดูเหมือนจะมีผลสะท้อนที่รุนแรงมาก ข้าคิดว่าเลือดของพวกเขาไม่ใช่เพลิงกับน้ำแข็งธรรมดา เป็นเรื่องที่คุ้มค่านะที่จะตรวจสอบเรื่องนี้กันต่อไป แน่นอนว่า เรื่องเลือดของเย่ว์หยางที่มีความสามารถขยายความสามารถทักษะแฝงเร้นของผู้อื่นจะต้องรักษาไว้เป็นความลับ” หญิงงามอมโรคอู๋เหินเตือนทุกคนเพื่อให้เก็บไว้เป็นความลับ

“ไม่ถูกต้อง เลือดของเขาต้องมีเคล็ดวิชาขยายมันได้แน่นอน แต่จะไม่มีผลกับทุกคน ข้าลองใช้กับเลือดสัตว์ดูแล้ว แต่เลือดของเขาแค่มีผลกับข้าเท่านั้น ไม่มีผลตอบรับอะไรกับสัตว์ชนิดอื่น เราต้องรักษาความลับนี้ไว้ แต่ทุกคนไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้ความลับรั่วไหลโดยไม่ตั้งใจ ข้าว่าเป็นความสามารถของอักษะรูนที่เป็นเหตุให้เปลี่ยนหรือปลดผนึกขีดจำกัดในร่างกายของเรา ก็เหมือนตอนที่เย่ว์หยางปลดผนึกพลังปราณก่อกำเนิดของเขาในตอนนี้ หรืออาจจะเป็นเพลิงอมฤตของเย่ว์หยางที่ชำระมลทินในร่างเรา เป็นผลให้เลือดของเรามีปฏิกิริยากับเลือดของเขา ทำให้เราแตกต่างจากคนนอกนี้!” เสวี่ยอู๋เสียวิเคราะห์อย่างหนัก

“ต่างก็มีเหตุผลนะ ข้าว่า” เย่ว์หยางนึกถึงความจริงอย่างหนึ่งได้ แต่เขาไม่คิดว่าจะถูกต้องเต็มร้อย ดังนั้นเขาจึงไม่พูดในระหว่างนั้น เขาจะค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ได้ก่อน

หญิงงามอู๋เหินพยักหน้าและพูดเสียงนุ่มนวล “ทุกคนเงียบกันก่อน ข้าอยากจะคุยกับพวกเจ้าทุกคนเกี่ยวกับสถานการณ์ภายนอกในเวลานี้”

เมื่อนางพูด ทุกคนก็มองนางทันที

พวกเขาอยากจะรู้ว่าเผ่าปีศาจบูรพาส่งจุนอู๋โหย่วและคนอื่นๆ กลับมาหรือไม่

วังมาร, นิกายพันปีศาจ, นิกายบรรพตขจี, นิกายเจดีย์ราชสีห์ตะวันตกและอาณาจักรสือจิน ทั้งหมดนี้เป็นองค์กรใหญ่จะมีปฏิกิริยากับเรื่องนั้นอย่างไร? พวกเขาไม่ยอมปล่อยโอกาสที่หายากเช่นนี้หลุดมือไปแน่นอน แม้ว่าพวกเขาไม่อาจแสดงออกอย่างชัดเจน แต่ในที่สุด พวกเขาอาจมีการโต้ตอบเล็กๆ น้อยๆ แบบลับๆ แทน

เย่ว์หยางรู้สึกมันไม่ใช่เรื่องจริง มันขึ้นอยู่กับพวกเขาเอง หากว่าพวกเขาต้องการโค่นล้มทวีปมังกรทะยาน ตราบใดที่ทุกคนยังมีชีวิตอยู่ ไม่ว่าจะเป็นจุนอู๋โหย่วฮ่องเต้, ผู้เฒ่าเย่ว์ไห่, เฟิงเสี่ยวหวิน, เสวี่ยเวิ่นเต้า, เหยียนเชียนจ้ง, เฟิงขวง, อาจารย์ตาเหยี่ยว, ราชันย์ฟ้าบูรพา, ราชันย์ฟ้าปัจจิม, จอมยุทธดาบทอง, เจ้าเมืองไป๋ฉือและคนอื่นๆ ที่มีฝีมือสูงส่งก็ยังมีชีวิตอยู่ แม้ว่าอาณาจักรต้าเซี่ยจะถูกทำลาย พวกเขาจะสามารถฟื้นฟูอาณาจักรจากการพังทลายได้อีกครั้ง

สำหรับผู้เยาว์รุ่นหลัง ก็ยังมีเสวี่ยทันหลาง, เฟิงชิซา, เหยียนพั่วจวินและองค์ชายเทียนหลัว นอกจากนี้ยังมีทูตมังกรชังหลันวี่จากนิกายปราสาทแก้วทะเลตะวันออกและคนอื่นๆ อีก ต้าเซี่ยไม่จำเป็นต้องกลัวว่าจะไม่มีผู้รับสืบทอดความสำเร็จของพวกเขา

ยิ่งไปกว่านั้น เย่คง, เจ้าอ้วนไห่, พี่น้องตระกูลหลี่และคนอื่นๆ ก็ยังมีพลังไล่ตามพวกเขามาติดๆ

ยังมียอดฝีมือในสถาบันฉางจิง, จ้งเซียนและฉางชุนเฉิง ทวีปมังกรทะยานจะไม่ตกต่ำจนถึงจุดที่ไม่มีอัจฉริยะมาช่วยเหลือประเทศ พวกเขาควรจะลืมเรื่องไป๋หวินเฟยจากนิกายเขาหมอกลอยฟ้าแดนใต้, องค์ชายสือจิน, เย่ว์เทียน, เย่ว์เยี่ยน, เซี่ยเชียนเริ่น, เลี่ยปันและคนอื่นๆ เย่ว์หยางคาดว่าพวกเขาเพียงแต่ยืนหยัดหนุนหลังผู้ชนะ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม พวกเขาจะเป็นผู้ชนะในที่สุด

องค์ชายสือจินเป็นผู้ทรยศคนหนึ่ง เขาเป็นคนชั่วร้ายมาก เย่ว์หยางตัดสินใจว่าถ้าเจอกันครั้งต่อไปจะต้องฆ่าเขาแน่นอน

เย่ว์หยางยังคงคิดว่าไป๋หวินเฟย ประมุขน้อยนิกายภูเขาหมอกลอยฟ้า .. ไป๋หวินเฟยเป็นคนเจ้าอุบาย ทั้งยังเป็นคนชั่วร้ายอีกด้วย แน่นอนว่าเย่ว์หยางไม่กลัวเขา แต่ถ้าเป็นคนอื่น อย่างเช่นเสวี่ยทันหลาง, เย่คง, เจ้าอ้วนไห่และคนอื่นๆ ล่ะ, พวกเขาไม่ใช่คู่มือของไป๋หวินเฟย

เจ้านั่น ถ้ามีโอกาสสักครั้ง แม้ว่าเย่ว์หยางจะไม่สามารถฆ่าเขาได้ เขาต้องทำลายไป๋หวินเฟยโดยไม่มีความเมตตา เพื่อไม่ให้เขาได้มีโอกาสกลับมาได้อีก มิฉะนั้น เขาอาจเติบโตกล้าแข็งยิ่งกว่าองค์ชายสือจินก็ได้

ขณะที่เย่ว์หยางยังคงคิดต่อไป หญิงงามอู๋เหินเริ่มพูดต่อ “ในตอนนี้ สถานการณ์ภายนอกย่ำแย่ลง พอไม่มีจักรพรรดิอยู่ ต้าเซี่ยก็ตกอยู่ในความยุ่งเหยิง ก๊กโจรมีมากขึ้นด้วยการสนับสนุนจากผู้มีอำนาจบางกลุ่ม เที่ยวปล้นสะดมทั่วทุกระแหง เจ้าเมืองหลายคนไม่เพียงแต่ปฏิเสธที่จะส่งกองกำลังของพวกเขาเข้าปราบปรามโจรเท่านั้น แต่พวกเขาได้สร้างสัมพันธ์ที่ผิดกฎหมายกับพวกมันแสวงหาประโยชน์จากความเดือดร้อนของราษฎร มีเจ้าเมืองไม่กี่เมืองที่ยังภักดีต่อต้าเซี่ย ยิ่งไปกว่านั้น เป็นการลำบากอย่างยิ่งที่เมืองเหล่านั้นจะสามารถปกป้องเมืองของตนเอง อย่าว่าแต่ขอให้พวกเขามาช่วยเมืองหลวงเลย มหาอำมาตย์และสององครักษ์พิทักษ์ฟ้าได้เดินทางไปที่เผ่าปีศาจบูรพาแล้ว สมุหนายกฝ่ายซ้ายหนุนให้องค์ชายรัชทายาทขึ้นครองราชย์เพื่อเสริมสร้างอำนาจของอาณาจักร แต่สมุหนายกฝ่ายขวาหนุนให้องค์ชายรองเป็นจักรพรรดิพระองค์ต่อไป อย่างไรก็ตามอำมาตย์ทั้งหมดยินดียอมให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนสืบทอดราชบัลลังก์มากกว่า ในกรณีที่ทุกอย่างยุ่งเหยิง”

“ปล่อยให้พวกเขาแย่งชิงราชบัลลังก์ไป ข้าจะไม่ต่อสู้แย่งชิงราชบัลลังก์กับพวกเขา” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพึมพำอย่างเย็นชา

“ทางเผ่าปีศาจบูรพาเป็นอย่างไร?” เจ้าเมืองโล่วฮัวห่วงการกลับมาของบิดานางมากกว่า

“ข้าได้ยินว่าเผ่าปีศาจบูรพาสั่งให้ปล่อยตัวประกันแล้ว แต่จุนอู๋โหย่วฮ่องเต้และคนอื่นๆ ยังไม่สามารถกลับมาทวีปมังกรทะยานได้ เพราะเกิดความวุ่นวายขึ้นทางด้านเผ่าปีศาจบูรพา กษัตริย์เผ่าปีศาจทักษิณ, กษัตริย์เผ่าปีศาจอุดรและกษัตริย์เผ่าปีศาจปัจจิมก่อกบฏ ฝ่าบาทจุนอู๋โหย่วยังไปไม่ถึงวังสายรุ้งของจักรพรรดิมังกร พวกเขาหยุดอยู่กลางทาง จักรพรรดิมังกรส่งคนให้พาพวกเขาไปซ่อนตัวในที่ลับ ดูเหมือนว่าฝ่าบาทและคนอื่นๆ จะกลับมาได้ต่อเมื่อจักรพรรดิมังกรปราบกบฏได้สำเร็จหรือชนะศึกได้เสียก่อน เผ่าปีศาจบูรพาส่งราชทูตมาพบกับมหาอำมาตย์ ท่านมหาอำมาตย์และสององครักษ์พิทักษ์ฟ้าจึงตัดสินใจไปกันเองต่อ เพื่อดูว่าพวกท่านสามารถพาฝ่าบาทและคนอื่นกลับมาได้เองหรือไม่” คำพูดของหญิงงามอู๋เหินทำให้เย่ว์หยางอยู่ในภวังค์คิดลึก

ศัตรูต้องไม่หยุดการบุกรุกโจมตีของพวกมันแน่นอน

พวกมันวางแผนทุกอย่างไว้ก่อนแล้ว พวกมันไม่มีทางจากไปเพราะเรื่องแค่นั้น

ถ้าไม่ใช่เพราะเขา เป็นปัจจัยที่คาดไม่ถึงในแผนของพวกมัน แผนของเจ้าพวกนี้ก็จะดำเนินการได้สมบูรณ์แบบ

เผ่าปีศาจบูรพาแข็งแกร่งมาก พวกเขาก็ยังถูกความสับสนวุ่นวายห้อมล้อม ทวีปมังกรทะยานยังจะมีข้อยกเว้นอีกหรือ? เย่ว์หยางส่ายศีรษะเบาๆ

หญิงงามอู๋เหินลังเลเล็กน้อยขณะมองดูเย่ว์หยาง, เย่ว์หวี่และเย่ว์ปิงอย่างมีความหมาย

สาวๆ กังวลกันเล็กน้อย ดูเหมือนข่าวต่อไปจะเกี่ยวข้องกับเย่ว์หยาง และยังไม่ใช่เรื่องเล็กอีกด้วย

มีเพียงเสวี่ยอู๋เสียที่ดูเหมือนจะรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นก่อนหน้านั้น นางรีบวางมือบนไหล่ของเย่ว์หยาง ส่งสัญญาณเตือนให้เขาควบคุมอารมณ์ไม่หุนหันวู่วาม เย่ว์หยางรู้ว่านางพยายามเตือนเขาและแสดงว่านางสนับสนุนเขาพร้อมกัน เขาได้แต่รู้สึกอบอุ่นใจขณะพยักหน้าให้นางเบาๆ แค่มีเสวี่ยอู๋เสียและสาวๆ อื่นที่สนับสนุนเขา เย่ว์หยางไม่สนใจเลยว่าทวีปมังกรทวีปจะแตกหรือฟ้าจะสลาย สำหรับเขาแล้ว นี่ก็เป็นเพียงทวีปที่เหมือนเล่นเกมคอมพิวเตอร์ เขาเพียงคิดถึงบ้านที่อบอุ่นในเมืองไป๋ฉือเท่านั้น ครอบครัวของเขามีเพียงแม่สี่และน้องสาวเท่านั้น

ไม่ว่าศัตรูจะวางแผนไว้เช่นไร เย่ว์หยางก็แค่ยืนดูข้างๆ โดยไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น

เขาจะไม่มีทางแสดงการกระทำที่กล้าหาญช่วยเหลือโลกหรือช่วยเหลือมนุษยชาติในช่วงเวลาที่เร่งร้อน

ทุกคนมีชะตาเป็นของตนเอง เป็นเรื่องความอยู่รอดของผู้ที่ต้องการเอาตัวรอด คนอ่อนแอจะถูกกำจัด ถ้าคนแข็งแกร่งเป็นนักรบคนหนึ่ง เขาก็จะอยู่เหนือคนอื่นในเวลาสับสนวุ่นวายนี้ ถ้าเขาเป็นคนอ่อนแอและตายลง เขาก็คงต้องตำหนิตนเองที่เป็นคนอ่อนแอไม่สามารถเอาตัวรอดได้

เย่ว์หยางเป็นคนจากโลกอื่น แต่เขาก็ยังใช้ชีวิตด้วยกฎที่เลือดเย็นของโลกนี้ เขาก็ไม่ยกเว้นและเขาก็ไม่อาจจะยกเว้นได้

มีเพียงผู้ชนะ เฉพาะคนที่กล้าถึงจะดำรงชีวิตต่อไปได้

ในโลกนี้ ความขลาดและน้ำตา ทั้งสองอย่างนี้ไร้ประโยชน์

“ก่อนหน้านี้ ผู้ที่ถูกสงสัยว่าได้ปลอมตัวเป็นเย่ว์ชิวบิดาของเย่ว์หยาง ได้ทำการรวบรวมตระกูลโดยรอบสิบตระกูลทั้งน้อยและใหญ่ ด้วยการสนับสุนของนักสู้ปราณก่อกำเนิดผู้ลึกลับสองคน เขาประกาศว่าเขาแก้ปัญหาความเป็นอรินานนับพันปีระหว่างตระกูลเย่ว์และนิกายบรรพตขจี เขาจะสานความสัมพันธ์ฉันท์มิตรกับอาณาจักรสือจิน ขณะเดียวกัน เขายังคงสนับสนุนนิกายพันปีศาจอีกด้วย…” คำพูดของหญิงงามอู๋เหินทำให้หญิงสาวตะลึงกันไปทั้งหมด

“พูดจริงหรือนี่? ตระกูลเย่ว์พยายามต่อต้านเขาหรือเปล่า?” เจ้าเมืองโล่วฮัวคิดว่านี่เป็นเรื่องคิดไม่ถึงจริงๆ

“เย่ว์ชิวตัวปลอมได้หลักฐานว่าเย่ว์ซาน รักษาการประมุขตระกูลเย่ว์เป็นนักรบวิบัติที่สมรู้ร่วมคิดกับปีศาจแล้ว เขาพบว่าเย่ว์ซานถูกปีศาจสิงและซ่อนตัวเป็นสายลับอยู่ในทวีปมังกรทะยาน เมื่อเย่ว์ซานถูกเย่ว์ชิวตัวปลอมจับ ก็มีปีศาจที่แข็งแกร่งมากมาปรากฏตัวและทำร้ายผู้อาวุโสทั้งสามบาดเจ็บ จากนั้นมันพาเย่ว์ซานหนีไป” คำพูดของหญิงงามอู๋เหินแทบทำให้เย่ว์หวี่เป็นลม

ถ้าเย่ว์ซานบิดานางเป็นปีศาจ อย่างนั้นนางเล่า?

หญิงงามอู๋เหินโบกมือช้าๆ “ไม่ใช่แค่พี่หวี่เท่านั้น เย่ว์เทียนและเย่ว์ถิงก็ยังเป็นเป้าหมายการจับกุมอีกด้วย เย่ว์เทียนถูกจับไปแล้ว และเย่ว์ถิงหายสาบสูญ”

เย่ว์ปิงเป็นกังวลเมื่อนางได้ยินเช่นนั้น “พี่หวี่ไม่ใช่ปีศาจแน่นอน นั่นเป็นไปไม่ได้!”

หญิงงามอู๋เหินพยักหน้าให้เย่ว์ปิงและเห็นด้วยกับคำพูดนาง อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นนางส่ายหน้าช้าๆ “ความจริง ไม่ใช่เพียงพี่หวี่เท่านั้น ปิงเอ๋อ, เจ้าและเย่ว์หยางก็ตกเป็นเป้าหมายคร่ากุมด้วย”

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนถึงกับพูดไม่ออก “อะไรนะ? เขาต้องการจับเย่ว์หยางด้วยหรือ? แม้ว่าเขาไม่ได้บอกว่าเย่ว์หยางเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิด แต่เขาก็ยังเป็นบุตรที่แท้จริงของเย่ว์ชิวนี่!”

หญิงงามอู๋เหินมองดูเย่ว์หยางอยู่นาน ขณะนางพูดว่า “เย่ว์ชิวตัวปลอมนั้น ประกาศไปแล้วว่าเย่ว์หยางเป็นตัวปลอม เขาพบคนอีกคนหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายเย่ว์หยาง เพียงแต่เขามีพลังระดับ 6 แต่แสดงตัวว่าเป็นเย่ว์หยาง เย่ว์ชิวตัวปลอมบอกว่าเย่ว์หยางบุตรของเขาอยู่กับเขามาตลอดตั้งแต่ยังเป็นทารก อาศัยอยู่กับเผ่าปีศาจและเติบโตอยู่ในแดนอเวจี บุตรชายของเขาไม่เคยออกห่างจากข้างกายเขามาก่อน เขาคิดว่าจะปกป้องลูกไม่ให้ได้รับรอยขีดข่วน… เขาบอกว่าเย่ว์หยางที่แม่สี่สรรเสริญเป็นตัวปลอม และยังพูดว่า เป็นไปไม่ได้ที่สวะไร้ประโยชน์จะกลายเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดในระยะเวลาสั้นๆ นั่นคือข้อโต้แย้งพื้นฐานว่าเย่ว์หยางเป็นตัวปลอม ดังนั้นเย่ว์ชิวตัวปลอมจึงยึดตำแหน่งรักษาการประมุขตระกูลเย่ว์และเพื่อตามจับแม่สี่, เย่ว์หยาง, เย่ว์ปิง, เย่ว์ซวง, เย่ว์ถิง, เย่ว์หวี่, เย่ว์ซานและคนอื่นๆ คนที่กล่าวมาแล้วเหล่านี้คือศัตรูที่เขาต้องการกำจัด…”

“เจ้านั่นบ้าไปแล้วจริงๆ!” เจ้าเมืองโล่วฮัวรู้สึกว่าเย่ว์ชิวตัวปลอมบ้าไปแล้ว

“น่าสนใจมาก” เย่ว์หยางหัวเราะแทน

เขาแอบโล่งใจที่ปลดภาระใหญ่หนักอึ้งในใจออกได้

ตอนแรกเขากังวลว่าเย่ว์ชิวตัวปลอมจะเป็นตัวจริง เขาจึงไม่กล้าพบเย่ว์ชิวตัวปลอมนั้น

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เย่ว์หยางไม่กังวลแล้ว เจ้าผู้นี้เป็นตัวปลอมแน่นอน ปลอม 100% เหตุผลเป็นเพราะเย่ว์หยาง ได้อ่านความลับในบันทึกลับโดยใช้ทักษะญาณทิพย์มานานแล้ว ในบันทึก เย่ว์ชิวและภรรยาของเขาเขียนไว้ว่าพวกเขาคิดบุตรชายของพวกเขามากขนาดไหน

ถ้าสหายผู้น่าสงสารใช้ชีวิตอยู่กับบิดาของเขามาตลอดเวลา ทำไมเย่ว์ชิวและภรรยาถึงได้เขียนว่าพวกท่านคิดถึงบุตรมากเล่า?

ทำไมพวกท่านถึงได้ขอให้แม่สี่ดูแลแทนพวกท่าน?

เมื่อเย่ว์หยางได้ยินว่าเย่ว์ชิวตัวปลอมใช้แผนการปัญญาอ่อน เขาถึงกับอยากหัวเราะออกมาดังๆ และปรบมือชอบใจ เย่ว์ชิวตัวปลอมเปิดเผยไต๋ในมือของเขาเองจริงๆ

ถ้าเย่ว์ชิวไม่ได้ประกาศเรื่องบ้าๆ ดังกล่าว เย่ว์หยางคงไม่กล้าตอบโต้เขา… ตอนนี้ ตราบใดที่เย่ว์หยางยังมีเวลา เขาสามารถฆ่าเย่ว์ชิวตัวปลอมนั้นเมื่อใดก็ได้

“พี่สาม!” เย่ว์ปิงโกรธมาก นางแค่รอให้เย่ว์หยางพูดอะไรสักคำ

ตราบใดที่พี่ชายนางพูดว่าจะออกเดินทาง นางจะตามเขากลับไปปราสาทตระกูลเย่ว์ทันทีและฆ่าเย่ว์ชิวตัวปลอม

เย่ว์หยางโบกมือ และแสดงให้เห็นว่าพวกนางไม่จำเป็นต้องกังวลในขณะนี้

ถึงตอนนี้ จู่ๆ เสวี่ยอู๋เสียใช้มือนางแตะหลังของเย่ว์หยางกระซิบบอกนางมีเรื่องส่วนตัวต้องการจะปรึกษากับเย่ว์หยาง “มานี่, ข้าอยากจะคุยกับเจ้าสักเล็กน้อย”

แม่สาวนางนี้ต้องการจะบอกอะไรเขา?

เย่ว์หยางสับสนไปหมด

***************

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

LLS, Triệu Hoán Vạn Tuế, Zhaohuan Wansui, 召唤万岁
Score 7.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2010 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ทวีปมังกรทะยานคือโลกแห่งการอัญเชิญ คุณจะกลายเป็นคนแข็งแกร่งได้ ถ้าเพียงแต่คุณเป็นผู้อัญเชิญ! ยิ่วหยางเด็กนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาถูกส่งเข้ามาในโลกนี้อย่างฉับพลันทัน ด่วน เมื่อเขาฟื้นขึ้นกลับได้พบใบหน้าของหลายคนที่เต็มไปด้วยความห่วงใย และพบว่าเขาเป็นตัวตนของอีกคนหนึ่ง กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นบุตรที่ไม่เอาไหนของตระกูลยิ่ว จนถึงกับโดดน้ำตายเพราะถูกปฏิเสธการหมั้น อีกทั้งไม่สามารถจะทำพันธสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญได้ แต่ยิ่วหยางกลับประสบความสำเร็จทำสัญญากับคัมภีร์ ส่วนเรื่องราวจะเป็นเช่นไรต่อไป ขอเชิญติดตามดูครับ ความจริงในการแปลครั้งนี้มาจากแรงบันดาลใจที่ไม่ได้จะเป็นนักเขียนนักแปล หรอกครับ เกิดจากการอ่านมันฮัวการ์ตูนของจีนแล้วชอบ พยายามหาดูที่แปลเป็นอังกฤษ ก็แปลกันไปได้น้อยนิด แต่พอดูฉบับนิยายรู้สึกว่าเขาแปลไปได้เยอะ จึงลองเข้าอ่าน แต่เพราะความที่ภาษาไม่แข็งแรง จึงต้องดูไป เปิดดิคฯ ไปใช้โปรแกรมแปลช่วยบ้าง มีความรู้สึกว่าอ่านไม่ต่อเนื่อง จึงคิดว่าน่าจะแปลข้อมูลเก็บไว้ในเว็บๆ หนึ่งแล้วค่อยอ่านเป็นตอนๆ ให้ต่อเนื่องไปเลยดีกว่า แล้วก็นึกถึงที่นี่

Comment

Options

not work with dark mode
Reset