ตอนที่ 422 นักเจรจาฝีปากเอก
วังปีศาจ
ราชันย์จ้าวปีศาจบารุธและแม่ทัพใหญ่ตู้หลันผู้ช่วยที่น่าเชื่อถือของเขา กำลังปรึกษากันถึงสถานการณ์ปัจจุบัน พวกเขาได้รับข่าวว่าราชาเฮยอวี้ประกาศสงครามกับต้าเซี่ย
เนื่องจากราชาเฮยอวี้มีพลังมากที่สุดในแดนอเวจีไม่ได้มีความรู้สึกที่ดีให้กับเขา อาจกล่าวได้ว่านักรบวิบัติของราชาเฮยอวี้เกือบทั้งหมดมาจากแดนอเวจี จากมุมมองของแดนอเวจี นี่ถือเป็นการหักหน้าเป็นการส่วนบุคคล ถ้านักรบวิบัติเหล่านี้มาจากขุมนรกคุกโลหิตของจ้าวปีศาจบารุธ เขาคงยอมไม่ได้
การบุกรุกรานอาณาจักรต้าเซี่ยของราชาเฮยอวี้ครั้งนี้คงเตรียมการเอาไว้ก่อนแน่นอน
บางทีจื้อจุนคงรู้วิธีเข้าแดนสวรรค์และอาจจากไปได้ทุกเมื่อ
เป้าหมายปัจจุบันของราชาเฮยอวี้ก็คือกำจัดอันตรายที่แฝงอยู่ในทวีปมังกรทะยาน ขณะเดียวกันก็จะรับเอามรดกของจักรพรรดิอวี้ จุดที่สำคัญที่สุดก็คือควบคุมแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ
ทุกคนรู้ว่าเหล่านักสู้ต่างก็ไล่ล่าหาความลับของแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ
นักสู้ปราณก่อกำเนิดทุกคนสงสัยกันว่าทำไมจื้อจุนถึงได้แข็งแกร่งยิ่งนัก กล่าวกันว่านางได้รับพลังจิตวิญญาณนักสู้ในตำนานจากภายในแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ
แดนล่มสลายแห่งทวยเทพในทวีปมังกรทะยานเป็นที่ซึ่งเหล่านักสู้ต่างก็ต่อสู้เพื่อให้ได้เข้าถึง และสถานที่นี้ยังถูกเชื่อมโยงไปยังต้นกำเนิดของดินแดนต่างๆ
ขอเพียงผ่านเข้าไปในทางผ่านโบราณในแดนล่มสลายแห่งทวยเทพได้ ก็จะสามารถเข้าไปยังทวีปอื่นได้
ส่วนวิธีอื่นๆ ก็ทำโดยปฏิบัติตามกฎของหอทงเทียน การเข้าทวีปอื่นจะต้องมีคนจากทวีปนั้นคอยแนะนำ… ในเงื่อนไขนี้จึงไม่มีใครสามารถรุกรานทวีปอื่นได้ พูดอีกนัยหนึ่งก็คือ ทางผ่านโบราณเป็นสะพานเชื่อมแรกที่อำนาจต่างๆ ได้สร้างขึ้น
เพื่อจะหยุดยั้งพลังอำนาจของแดนอเวจีไม่ให้ส่งกองกำลังเข้ามารุกราน ราชาเฮยอวี้ส่งจดหมายลับถึงบารุธและตู้หลัน จดหมายที่ยื่นข้อเสนอว่า ตราบใดที่ปีศาจจากแดนอเวจีไม่เข้ามาแทรกแซง อย่างนั้นเขายินดีจะบอกความลับเข้าแดนสวรรค์ให้ สิ่งอื่นที่ราชาเฮยอวี้เสนอให้ก็คือ หลังจากเขาเข้ากับพันธมิตรปราณก่อกำเนิด เขาจะช่วยให้แดนปีศาจได้รับการยอมรับ อีกทั้งดินแดนและสิทธิ์ของพวกเขาจะคืนให้กับจ้าวปีศาจ
ในระยะเวลาสั้นๆ ราชาเฮยอวี้ต้องการทำงานร่วมกัน
อย่างน้อยที่สุดเขาต้องการให้บารุธ, ตู้หลันและนักสู้จากแดนปีศาจคนอื่นๆ ไม่เข้ามายุ่มย่ามกับการรุกรานทวีปมังกรทะยานของเขา สำหรับเหตุผลนี้ เขาไม่ลังเลที่จะเปิดเผยความลับของแดนสวรรค์
“สำหรับเรื่องนี้ ข้าไม่อาจวางเงื่อนไขใดๆ ได้เลย จะดีที่สุดหากฝ่าบาทจะตัดสินใจด้วยตนเอง!” แม่ทัพใหญ่ปีศาจตู้หลันประสานมือคำนับ
“…..” ราชันย์จ้าวปีศาจยังคงนิ่งเงียบอยู่เป็นเวลานาน
การตัดสินใจเป็นเรื่องที่ง่ายมาก คำเดียวก็คงเพียงพอ
อย่างไรก็ตาม ผลที่ตามมาของเรื่องนี้สามารถแยกสถานการณ์การปกครองออกเป็นสองส่วน นี่ไม่ใช่สถานการณ์ชนะด้วยกันทั้งสองฝ่าย ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวสามารถนำพาให้แดนปีศาจตกต่ำก็อาจเป็นได้ จะสร้างผลประโยชน์ในสถานการณ์นี้ได้มากที่สุดอย่างไรนั้น บารุธก็ยังปวดหัวอยู่
ทันใดนั้น กลิ่นผิดปกติปรากฏขึ้นในวังปีศาจ
ศัตรู!
ผู้ที่มาถึงต้องเป็นศัตรูอย่างแน่นอน!
ราชันย์จ้าวปีศาจบารุธและแม่ทัพใหญ่ตู้หลันมีปฏิกิริยาตอบสนองทันที พวกเขาลุกขึ้นยืนและเริ่มเกร็งพลังเตรียมจู่โจมต่อต้านกลิ่นผิดปกติ
“มารยาทพื้นฐานของชาวแดนปีศาจไม่ดีเอาเสียเลย นี่คือวิธีทักทายสหายเก่าหรือ?” เงาร่างหนึ่งวาบมาจากภายนอก ก่อนที่องครักษ์จะได้ทันรู้ตัว เงาร่างนั้นก็มาปรากฏอยู่หน้าโรงวินิจฉัยของบารุธแล้ว บุรุษหนุ่มคนหนึ่งกำลังยิ้มสดใสเหมือนตะวันฉายแสงไม่สนใจท่าทีเตรียมโจมตีของบารุธและตู้หลัน เขาเข้ามาข้างในด้วยท่าทีองอาจกล้าหาญ จากนั้นเดินส่ายอาดๆ ไปที่เก้าอี้และนั่งไขว่ห้างอย่างสบายอารมณ์ เขามีท่าทีผ่อนคลายพอใจเหมือนกับนั่งอยู่ในห้องทำงานตัวเอง
“คุณชายสามตระกูลเย่ว์? เจ้ามาทำอะไรที่นี่?” บารุธไม่ห่วงว่าเย่ว์หยางจะเข้ามาโปรยเสน่ห์ให้นางสนมและธิดาของเขา เพราะมาตรฐานความงามของชาวปีศาจและมนุษย์นั้นแตกต่างกัน เด็กมนุษย์ผู้นี้ไม่เหมือนชายงามเผ่าปีศาจที่สูงสิบเมตร มีเปลวไฟออกจากร่าง มีเกล็ดเหมือนปลา เกี่ยวกับการมาถึงของเย่ว์หยาง บารุธคิดได้ทันทีว่าเจ้าเด็กนี่ มาที่นี่ในฐานะคนกลางเจรจา
“ท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือ ข้ามาที่นี่เพื่อช่วยท่าน!” เย่ว์หยางเคยดูเรื่องสามก๊กมาก่อน เขารู้ว่าผู้เจรจาที่เก่งกาจจะต้องพูดครอบงำฝ่ายตรงข้ามให้ได้เสียก่อน มิฉะนั้นการสนทนาจะดำเนินต่อไปไม่ได้
“ช่วยเราน่ะหรือ? ข้าไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม? สำหรับข้าแล้ว ดูเหมือนว่าฝ่ายที่ตกอยู่ในอันตรายก็คือทวีปมังกรทะยานนะ!” หลังได้ยินแล้ว แม่ทัพใหญ่ตู้หลันแค่นเสียงทันที
“ท่านคิดว่าต้าเซี่ยจะถูกกำจัดหรือ?” เย่ว์หยางยังผ่อนคลายมาก เหมือนกับว่ากำลังนั่งกินติ่มซำยามราตรี
“มันจะถูกทำลายแน่นอน” บารุธกล้าพนันกับเย่ว์หยาง
“อย่างนั้น ท่านคิดว่าราชาเฮยอวี้สามารถฆ่าข้าได้หรือเปล่า?” เย่ว์หยางถามอีกครั้ง
“……..” บารุธและตู้หลันมองหน้ากันเอง ขณะที่พวกเขาไม่มั่นใจจริงๆ ว่าจะตอบคำถามนี้ยังไง
แม้ว่าราชาเฮยอวี้จะแข็งแกร่ง แต่เจ้าเด็กนี่ก็ยิ่งไม่ธรรมดา จุดสำคัญที่สุดก็คือเจ้าเด็กนี่ได้รับการปกป้องจากอสูรเพลิงที่แข็งแกร่งจนคาดไม่ถึงสองตน แม้ว่าจะผ่านไปนานแล้ว แต่แรงกดดันแทบตายนี้ยังคงกระจ่างอยู่ในความทรงจำของบารุธและตู้หลัน ไม่ว่าราชาเฮยอวี้จะแข็งแกร่งเพียงไหน แต่จะฆ่าเย่ว์หยางให้ได้คงเป็นเรื่องตลก ไม่เพียงแต่อสูรเพลิงทั้งสองเท่านั้น แม้แต่อสูรประหลาดที่สามารถหลบหนีไปจากผนึกของพวกเขาได้ก็ยังแข็งแกร่งเหลือประมาณ เมื่อมันกลับคืนสู่ความแข็งแรงดังเดิม ก็คงส่งผลกระทบถึงราชาเฮยอวี้แน่นอน
“สำหรับตอนนี้ ข้ายอมรับว่าข้าไม่สามารถจะเอาชนะราชาเฮยอวี้ได้ อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านไปหนึ่งปีจะเป็นยังไง? หรืออาจจะผ่านไปสักสิบปี? พวกท่านก็รู้ประวัติพัฒนาการความก้าวหน้าของข้าดีและยังเข้าใจถึงความรวดเร็วในการพัฒนาของข้าด้วย ท่านคิดว่าใครจะแข็งแกร่งกว่ากันหลังจากผ่านไปสักสิบปี ระหว่างข้ากับราชาเฮยอวี้? อาจจะเสมอกันได้ไหม? หรือใครจะเป็นผู้ชนะ? ถ้าต้าเซี่ยถูกทำลายล้าง ข้าจะพารุ่นผู้เยาว์ไปซ่อนตัว หลังจากนั้นสิบปี เราจะกำจัดราชาเฮยอวี้และฟื้นฟูต้าเซี่ย เรื่องนี้ท่านคิดว่าไง? ราชันย์จ้าวปีศาจบารุธผู้มีปรีชาและแม่ทัพใหญ่ตู้หลันผู้ภักดี พวกท่านควรจะรู้ว่าจื้อจุนคือผู้แนะนำของข้า ต่อให้นางเข้าแดนสวรรค์ไปแล้วก็ตาม นางก็คงจะพาข้าไปกับนางด้วยแน่นอน.. ยิ่งกว่านั้น มารกฎฟ้าคือสหายสนิทของข้า และจักรพรรดินีราตรีก็มีมุมมองที่ดีต่อข้า ตราบใดที่เทียนหลัวและวังปีศาจมหาอำนาจทั้งสองนี้ร่วมมือกับเรา ทวีปมังกรทะยานจะไม่ล่มสลายในเงื้อมมือศัตรูแน่นอน” เย่ว์หยางไม่เคยนำทัพออกรบมาก่อน แต่เขาสามารถเป็นตัวกลางเจรจาได้อย่างแน่นอน
“วังมารจะไม่ร่วมมือกับเจ้าอย่างเด็ดขาด!” คำพูดของบารุธเท่ากับขัดขวางทางเขา
“ใช่แล้ว ไม่ว่าเจ้าจะสนิทสนมกับมารกฎฟ้ามากแค่ไหน แต่ผู้คุมกฎของวังมารที่แท้จริงก็ยังเป็นมารสัมฤทธิ์ฟ้า ยิ่งกว่านั้นผู้ก่อตั้งวังมารทั้งสามไม่มีทางตกลงใจช่วยเหลือต้าเซี่ย เพราะพวกมันเป็นพวกหนีทัพจากต้าเซี่ยและเทียนหลัว ความไม่พอใจของพวกมันสูงเทียมฟ้า ความแค้นของพวกมันลึกกว่ามหาสมุทร เป็นไปได้ยังไงที่พวกมันจะช่วยเจ้า?” แม่ทัพใหญ่ตู้หลันคุ้นเคยกับประวัติศาสตร์ทวีปมังกรทะยานดี ดังนั้นเขาจึงตีเข้าที่จุดอ่อนของข้อโต้แย้งของเย่ว์หยาง
“พวกท่านเข้าใจผิดกันหมด เข้าใจผิดมหันต์เสียด้วย” เย่ว์หยางตอบโต้ทันทีและใช้เพียงไม่กี่คำก็แย้งคำพูดพวกเขาได้
“อย่างนั้นหรือ?” บารุธรู้สึกว่า เจ้าเด็กนี่ไม่เคยยอมรับข้อผิดพลาดของตนเอง ต่อให้ตายก็ตาม เขายิ้มอย่างใจเย็นและพูด “เทียบกับแดนอเวจี วังมารเกลียดเจ้ามากกว่า ถ้าพวกเขาเป็นพันธมิตรกับเจ้า ก็คงเป็นเรื่องตลกแห่งยุค”
“พวกเขามีความเคืองแค้นแน่นอน ทว่าก็เหมือนกับพี่น้องทะเลาะกัน ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขายินดีเห็นแผ่นดินเกิดถูกคนนอกยึดครอง อย่าว่าแต่สายสัมพันธ์ทางสายเลือด ทางวังมารก็คงไม่มีทางให้คนอื่นแตะต้องแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ ท่านล่ะ ท่านจะยอมให้ราชาเฮยอวี้ได้รับสมบัติและจิตวิญญาณนักสู้จากแดนล่มสลายแห่งทวยเทพและกลายเป็นจื้อจุนอีกคนหนึ่งหรือ? ราชาเฮยอวี้ไม่ใช่จื้อจุน จื้อจุนไม่เคยยุ่งเรื่องราวของคนอื่น ยอมปล่อยให้แดนอเวจีได้เติบโตกล้าแข็ง แต่ราชาเฮยอวี้จะทำแบบเดียวกันหรือเปล่า? ถ้าเขายื่นมือมาครอบครองที่นี่ ที่แห่งแรกที่จะถูกล้มล้างก็คือแดนอเวจีของท่าน” คำพูดของเย่ว์หยางปลุกบารุธและตู้หลันให้ตื่น
“เจ้าล้อเล่นแล้ว ราชาเฮยอวี้จะโจมตีเราได้ยังไง?” บารุธไม่กังวลเรื่องนี้ เผ่าพันธุ์ปีศาจไม่เหมือนกับเผ่าพันธุ์มนุษย์ พวกเขายอมตายดีกว่ายอมจำนน พวกเขาไม่มีวันยอมแพ้แม้จะถูกฆ่าก็ตาม ยิ่งกว่านั้นเมื่อเทียบกับกองทัพของราชาเฮยอวี้และกองทัพของแดนอเวจีแล้ว อย่างน้อยก็เท่ากับหนึ่งต่อหนึ่งล้าน ไม่มีทางเทียบได้โดยประการทั้งปวง
“ถ้ากองทัพของราชาเฮยอวี้โจมตีแดนอเวจี ก็ไม่ต่างอะไรกับการเอาน้ำในขันไปสาดลงในทะเลเพลิง พวกเขามีแต่จะขุดหลุมฝังศพให้ตัวเอง” แม่ทัพใหญ่ปีศาจตู้หลันยังมีความมั่นใจมาก
“การบุกโจมตีแดนอเวจีไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอน อย่างไรก็ตาม จะเป็นยังไงถ้าเขามาตามลำพังและจู่โจมทำร้ายท่านผู้เป็นจ้าวปีศาจ? ท่านจะเอาแต่ซ่อนตัวอยู่ในแดนอเวจีและอุดอู้รวมกันอย่างนี้ตลอดไปหรือ? ถ้าท่านไปหอทงเทียน ราชาเฮยอวี้ก็จะจู่โจมทำร้ายท่านในทุกที่ แล้วท่านจะมีชีวิตอยู่ได้ยังไง? ถ้าท่านยินดีจะเป็นเต่าที่เอาแต่หดหัวอยู่ในกระดอง อย่างนั้นข้าคงไม่มีอะไรจะพูดต่อ” เย่ว์หยางผายมือ
“แม้ว่าราชาเฮยอวี้โจมตีทวีปมังกรทะยานก็ตาม ก็ไม่จำเป็นต้องหมายความว่าเขาจะเข้าแดนล่มสลายแห่งทวยเทพได้ ทั้งไม่ได้หมายความว่าความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นอีก” ราชันย์จ้าวปีศาจบารุธปฏิเสธแข็งขัน
“ท่านพูดถูก ข้าแค่ตั้งข้อสมมติฐานเท่านั้น.. หกพันปีที่แล้ว ราชาเฮยอวี้เป็นมือขวาของจักรพรรดิอวี้ ในที่สุดเขาทรยศจักรพรรดิอวี้และสมคบคิดกับสามผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ เพราะเหตุนี้ จักรพรรดิอวี้จึงใช้ชีวิตตนเองผนึกสามผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ไว้ ท่านควรจะทราบเรื่องนี้ดี อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็วๆ นี้สามผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ได้ตื่นขึ้นและออกจากวังเทพจักรพรรดิอวี้ไปแล้ว บางทีท่านคงยังไม่ทราบเรื่องนี้…” เย่ว์หยางยิ้มและเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
“สามผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์น่ะหรือ?” บารุธและตู้หลันมองหน้ากันเองพลางขมวดคิ้ว
“นามของสามผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ก็คือหมิงเย่ว์กวง, ซิวคงและจิ่วเซียว ด้วยพลังของพวกเขา พวกเขาสามารถใช้แค่เพียงนิ้วเดียวก็ฆ่าท่านได้ แน่นอน เนื่องจากพวกเขาเพิ่งทำลายผนึกออกมาได้ พวกเขาจึงยังอ่อนแออยู่มาก ต่อให้เป็นเช่นนี้ก็ตามที พวกเขาก็ยังเอาชนะคุณชายผู้นี้ได้ในสภาพที่น่าเสียดาย แค่เพียงเพราะข้าใช้เครื่องมือเทพที่จักรพรรดิอวี้ทิ้งไว้ จึงขับไล่ให้พวกเขาหนีไปได้” เย่ว์หยางพูดเหมือนกับว่าเขาพบเพื่อนคุยขณะไปเดินจ่ายตลาด สีหน้าของเขายังสงบ ขณะที่นัยน์ตาของเขาฉายแววภาคภูมิใจในตนเอง สีหน้าเช่นนี้ทำให้คนอื่นอยากทุบตีเขายิ่งนัก ถ้าบารุธและตู้หลันไม่มีความข่มกลั้นมากพอ ก็อาจทำเช่นนั้นไปแล้ว
“จักรพรรดิอวี้ทิ้งเครื่องมือเทพไว้ให้เจ้างั้นหรือ?” ตู้หลันและบารุธต่างก็อิจฉากันทั้งสองคน โชคของเจ้าเด็กนี่ช่างเหลือเชื่อจริง เขาได้เครื่องมือเทพมาได้ง่ายๆ อย่างไรกัน?
“จริงๆ แล้วข้าสามารถนำออกมาให้พวกท่านดูได้นะ อย่างไรก็ตามมีของอยู่สามชิ้น ข้าเอาออกมาแสดงให้พวกท่านอิจฉาก็ได้ คนหนุ่มรูปงามเปี่ยมความกล้าหาญอย่างข้าไม่ตระหนี่อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่กี่วันมานี้ ข้าเพิ่งเอามันออกมาฟาดกบาลของจักรพรรดิชื่อตี้โดยไม่ได้เจตนา จักรพรรดิชื่อตี้ที่แต่เดิมอัปลักษณ์อยู่แล้วกลายเป็นตือโป๊ยก่ายไปเลย ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของพวกท่าน ข้าตัดสินใจเก็บไว้ห่างๆ จนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสมดีกว่า” เย่ว์หยางเหยียดขา
“จักรพรรดิชื่อตี้….” บารุธและตู้หลันถึงกับตกตะลึง พวกเขาเคยอ่านเรื่องราวจักรพรรดิชื่อตี้ในบันทึกโบราณของแดนอเวจี คนผู้นี้เป็นฆาตรกรบ้าคลั่งผิดธรรมและชั่วร้ายมาก ครั้งหนึ่งเขาเคยสังหารหมู่ในวังปีศาจแดนอเวจีมาบ้างแล้ว เขาไม่ได้ทำตามสามัญสำนึกใดๆ แค่ฆ่าเพื่อความพึงพอใจของตนเท่านั้น เขายังน่ากลัวกว่าจักรพรรดิอวี้ผู้แข็งแกร่งเสียอีก
“เขาหนีไปได้แล้ว นอกจากนี้ เขายังมีนางสนมเผ่าปีศาจอยู่กับเขาด้วย” เย่ว์หยางแสดงสีหน้าประหลาดใจ คล้ายจะถามว่า “พวกท่านไม่รู้เรื่องหรือ?”
“เจ้าทำร้ายเขาหรือ?” ตู้หลันเลียบเคียงถาม
“ความจริง เขาทำร้ายข้าจนบาดเจ็บมากกว่า ขณะนั้นซุ่นเทียนและองค์ชายเงาดำก็อยู่ที่นั่นด้วย เจ้าบัดซบทั้งสองโจมตีทำร้ายข้านายน้อยผู้นี้จากทั้งสองด้านและเกือบจะสังหารข้าได้ โชคดีที่ข้าผู้นี้มีโชคและพลังที่ดี” เย่ว์หยางแกล้งไอสองครั้ง เพื่อแสดงว่าเขาได้รับบาดเจ็บภายในยังไม่หายดี
“เจ้าสามารถหลบหนีได้ภายใต้การรุมจู่โจมจากจักรพรรดิชื่อตี้, ซุ่นเทียนและองค์ชายเงาดำได้หรือ?” เมื่อบารุธได้ยินเช่นนี้ เขาอดประหลาดใจไม่ได้
“ก็ไม่ถึงกับเป็นการหลบหนี ต้องเรียกว่าอุบายถอนถอย” เย่ว์หยางคัดค้านไม่พอใจว่า ราชันย์จ้าวปีศาจบารุธเลือกใช้คำไม่เหมาะสม
“จักรพรรดิชื่อตี้ก็ออกมาด้วยหรือ…” ตอนนี้แม่ทัพใหญ่ตู้หลันรู้สึกว่าหอทงเทียนเป็นเหมือนบ่อโคลน ราชาเฮยอวี้ผู้ทรยศหักหลังนี้น่ากลัวมากอยู่แล้ว ตอนนี้จักรพรรดิชื่อตี้ยังหลุดออกมาอีก คนผู้นี้ยังมีระดับพลังที่เหนือกว่าราชาเฮยอวี้ เขาเป็นระดับจักรพรรดิที่อยู่ในระดับเดียวกับจักรพรรดิอวี้ ราชาเฮยอวี้เป็นแค่เพียงขุนพล เขายังด้อยกว่าจักรพรรดิชื่อตี้แน่นอน
“ไม่มีปัญหา ข้าตัดแขนและขาของเขาอย่างละข้างและฟาดกะโหลกศีรษะของเขาแตก คงต้องใช้เวลาปีครึ่งกว่าจะฟื้นฟูได้ ท่านยังคงมีเวลาใช้ชีวิตสบายๆ อีกหนึ่งปี ค่อยๆ สนุกกับชีวิตเถอะ ข้าพูดเรื่องที่ต้องพูดไปหมดแล้ว ขออำลา” เย่ว์หยางแกล้งทำทีจากไป
“ช้าก่อน, โปรดรอสักครู่” แม่ทัพใหญ่ปีศาจเกลี้ยกล่อมทันที
“ข้ารู้สึกว่าเราจำเป็นต้องหารือกันเรื่องการรุกรานที่น่ากลัวของราชาเฮยอวี้ เรื่องเช่นนี้ไม่ชอบธรรมแน่นอน เรายอมรับไม่ได้” คำพูดชอบธรรมและเกียรติยศของบารุธแทบทำให้เย่ว์หยางเป็นลม ก็ราชันย์จ้าวปีศาจแห่งแดนอเวจีอย่างท่านไม่ใช่เหรอ ที่ชอบรุกรานโดยขาดความชอบธรรมมากที่สุด? แล้วยังมีหน้ามาวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น อย่างไรก็ตาม เวลาของตัวกลางเจรจามาถึงแล้ว การเจรจาต่อรองยังต้องดำเนินต่อไป ดังนั้นเรายังจากไปไม่ได้
“เรียกฮาซิน, กรุนและจ้าวปีศาจอื่นๆ มาด้วย ข้ารู้สึกว่าเราควรวางความเกลียดชังของพวกเราไว้ชั่วคราวแล้วหันหน้าร่วมมือกัน” เย่ว์หยางเสนอ
“ร่วมมือกัน…” บารุธและตู้หลันรู้สึกห่อเหี่ยวใจ
อะไรเป็นความแตกต่างระหว่างการพูดคุยเรื่องร่วมมือกันกับเจ้าเด็กนี่และขอให้เราช่วยต่อต้านสิ่งที่เขาสนใจ?
ราชาเฮยอวี้และจักรพรรดิชื่อตี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นกันได้ง่ายๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จักรพรรดิชื่อตี้ ไม่เพียงแต่แดนอเวจีเท่านั้น แม้แต่หอทงเทียนก็จะพลอยตกอยู่ในอันตรายไปด้วย อย่างไรก็ตาม เย่ว์หยางเด็กผู้มาใหม่ก็ไม่ใช่คนที่จะล้อเล่นได้ ขณะที่เขายังอายุเยาว์ ก็มีความสำเร็จมากมายแล้ว ก่อกวนวังปีศาจ สู้กับผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ เล่นงานจักรพรรดิชื่อตี้จนยับเยิน หลบหนีมาได้ภายใต้การโจมตีกระหนาบของซุ่นเทียนและองค์ชายเงาดำ จากตรงนี้เห็นได้ว่าถ้าเจ้าเด็กนี่มีความเพียบพร้อม อย่างน้อยเขาจะได้เป็นจักรพรรดิอวี้คนใหม่แน่นอน
เกี่ยวกับเรื่องของเขา แดนอเวจีไม่มีช่วงเวลาที่ดีกับเขา
คำถามก็คือ ถ้าพวกเขาไม่ร่วมมือในตอนนี้ เจ้าเด็กนี่คงปิดบังความรู้สึกที่ยากลำบาก จากนั้นโลกปีศาจก็จะต้องพบกับเวลาที่ยากลำบากในอนาคตแน่นอน
ที่ถูกที่ควร เจ้าเด็กนี่กำลังทำสิ่งที่ยากลำบากอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม เขาจะไม่ตัดการร่วมมือกับเจ้าเด็กนี่ ทำไมเขาจะต้องนอบน้อมคำนับให้เย่ว์หยางด้วย ในเมื่อเย่ว์หยางเป็นฝ่ายขอความช่วยเหลือจากเขา
ไม่ว่าจะเป็นบารุธหรือตู้หลันพวกเขามีแรงกระตุ้นให้เย่ว์หยางอึดอัดใจตาย
ในที่สุด พวกเขาก็ยอมทนอดกลั้น
เย่ว์หยางถือโอกาสตีเหล็กขณะที่ยังร้อน “ท่านจ้าวปีศาจผู้มากปัญญา ความลับเรื่องแดนสวรรค์เป็นเรื่องหลอกเด็ก ถ้าราชาเฮยอวี้เอาเรื่องนี้มาล่อหลอกท่าน ก็เหมือนกับใช้ขนมหวานมาหลอกล่อเด็ก แม้แต่คนไอคิวติดลบก็ยังรู้ว่าเขาเป็นคนยังไง ถ้าเชื่อเขาก็เหมือนกับเชื่อว่าหมูแก่ๆ สามารถปีนต้นไม้ได้! แดนสวรรค์ไม่ได้เป็นเรื่องลับอะไรมาก เพียงแต่พวกท่านในปัจจุบันนี้ยังอ่อนแอเกินไป ถ้าท่านมีความแข็งแกร่งพอ อย่างนั้นคุณชายผู้นี้จะพาพวกท่านเดินทางไปที่นั่น ไปกิน ไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นอย่างอิสระ ยิ่งกว่านั้น นี่อะไรอยู่บนโต๊ะของท่าน? อ้อ..เป็นอักษรรูนสวรรค์ที่ไม่สำคัญอะไร ท่านยังไม่รู้จักมันเลย ข้าอายแทนท่านจริงๆ ข้านึกไม่ออกเลยว่าท่านกลายเป็นราชันย์จ้าวปีศาจได้ยังไง… ข้าจะบอกท่านให้ก็ได้ ตัวอักษรรูนนี้จะช่วยเสริมสร้างและปรับเปลี่ยนร่างของเผ่าพันธุ์ปีศาจให้ดีขึ้น วันนี้ข้ากำลังอารมณ์ดีมาก ไม่อย่างนั้นข้าคงไม่เปิดเผยเรื่องนี้กับคนหยิ่งผยองแน่ ข้าไม่ใช่คนเข้มงวดนัก จำเป็นด้วยหรือว่าข้าจะต้องบอกพวกท่านว่าข้ามีอสูรในตำนานอยู่ตนหนึ่ง?”
ราชันย์จ้าวปีศาจบารุธและแม่ทัพใหญ่ปีศาจตู้หลันเหงื่อออกพร่างพรู พวกเขาคิดกันเองว่า ใครบ้างที่ไม่รู้จักฮุยไท่หลาง?
ยิ่งกว่านั้น ถ้าเจ้ามีอสูรในตำนานเพียงตัวเดียวก็ดีไป แต่เจ้ามีอสูรในตำนานมากมาย ดังนั้นเจ้าไม่ยอมเสียพื้นที่ทำสัญญากับฮุยไท่หลางและเก็บพื้นที่เอาไว้ทำสัญญากับอสูรในตำนานสาวสวยเท่านั้น
ทั้งสองแอบแช่งชักหักกระดูกอยู่เงียบๆ ในที่สุดพวกเขาก็อดทนต่อแรงกระตุ้นที่จะเอาชนะเย่ว์หยาง พวกเขามองหน้ากันและกัน จากนั้นตัดสินใจแจ้งจ้าวปีศาจฮาซิน, กรุนและคนอื่นๆ ให้ทราบ
เพียงเท่านี้ มนุษย์คนแรกและแดนอเวจีก็ร่วมเป็นพันธมิตรกัน
แม้ว่าสัญญานี้จะเป็นความลับและจำกัดแค่เย่ว์หยางและผู้ปกครองแดนปีศาจไม่กี่คน แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ฝีปากสาริกาลิ้นทองของเย่ว์หยางมิได้ด้อยไปกว่าพลังของอสูรในตำนานเลย
**************