ตอนที่ 522 การกลับมาของเสวี่ยอู๋เสีย
ปราสาทตระกูลเย่ว์
ที่ลานฝึกวิทยายุทธ ขโมยน้อยที่ถูกจับมัดคนหนึ่งกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้น
“นี่ไม่ยุติธรรมเลย ข้าไม่ใช่สายลับ พวกท่านไร้เหตุผลเกินไปแล้ว กองกำลังนรกดำจะต้องการนักสู้ระดับสองอย่างข้าไปทำไม? ข้าเป็นแค่คนส่งข่าวจริงๆ” ใบหน้าของขโมยน้อยเต็มไปด้วยน้ำตาขณะที่เขาร้องสะอึกสะอื้น
“บางทีอาจเข้าใจเขาผิดจริงๆก็ได้นะ…” หลิวเย่ใจอ่อนเล็กน้อย ขโมยน้อยนี่ดูเหมือนจะอ่อนแอเกินกว่าจะเป็นสายลับ
“ดูสิ เขาร้องไห้หนักขนาดไหน เขาน่าสงสารมากเลย ต่อให้เป็นสายลับจริงๆ ก็ควรปล่อยเขาให้ได้กลับตัวใช้ชีวิตใหม่สิ” เป่าเอ๋อยิ่งใจอ่อนกว่าเต้าหู้เสียอีก
“กลับตัวกลับใจใช้ชีวิตใหม่ เสียเวลาเปล่าๆ ตายซะก็สิ้นเรื่อง!” เจ้าอ้วนไห่ชักมีดออกมาแกว่งอยู่ต่อหน้าร่างของขโมยน้อย เหมือนกับว่าคิดจะฟันลงไปตรงส่วนใดส่วนหนึ่ง การกระทำของเขาทำให้ขโมยน้อยตกใจร้องลั่นจนแทบปัสสาวะราดกางเกง เย่คง, เสวี่ยทันหลางและองค์ชายเทียนหลัวมองหน้ากันเอง พวกเขาพบว่าเรื่องนี้แปลก
ข้อกล่าวหาว่าขโมยน้อยนี่เป็นสายลับดูเหมือนจะแปลก ในเมื่อเขาอ่อนแอมากอย่างนี้
แต่จะบอกว่าเขาไม่ใช่สายลับก็ลำบากใจอีก ในเมื่อเขาน่าสงสัยมาก
แม้ว่าเจ้าเด็กนี่จะอ้างว่าเป็นผู้ส่งข่าว แต่ไม่มีจดหมายหลังจากค้นทั่วทั้งตัวเขา เขาเพียงแต่บอกว่านักสู้สตรีสองคนจากหอทงเทียนชั้นที่หกขอให้เขาส่งจดหมายปากเปล่าไปให้สหายของคุณชายสามแห่งตระกูลเย่ว์ นั่นก็คือขอให้พวกเขาตามหาจื้อจุนทันที นี่คือการโกหกครั้งใหญ่ที่สุด เย่คง, เจ้าอ้วนไห่และพวกที่เหลือไม่เคยรู้สึกเลยว่าพวกเขาจะมีสิทธิ์ขอเข้าพบจื้อจุน ต่อให้เป็นจดหมายปลอมก็คงไม่ขอให้พวกเขาทำเช่นนั้น
ยิ่งกว่านั้น ไม่มีใครรู้จักสตรีที่ขโมยน้อยอธิบายถึง แม้แต่คำอธิบายของเขาก็คลุมเครือ คล้ายกับว่าเขาปั้นแต่งเรื่องขึ้นมา
สตรีที่คลุมตลอดทั้งตัวมีหน้ากากปะการังปิดหน้า และมือถือคทาปลาวาฬขาว.. ฟังดูแล้วบ้าไปแล้วไม่ใช่หรือ? ผู้หญิงในทวีปมังกรทะยานที่ไหนกันแต่งตัวกันแบบนั้น?
สรุปก็คือ ขโมยน้อยนี่กำลังโกหก หลังจากถูกจับคาหนังคาเขา ก็หาเรื่องโกหกโง่ๆ อย่างนั้นมาอ้าง
ยังมีสองประเด็นที่น่าสงสัยมาก
ประการแรก ขโมยน้อยนี่มาจากอาณาจักรสือจิน ทำไมคนจากอาณาจักรสือจินจึงได้มาส่งจดหมายที่ปราสาทตระกูลเย่ว์? ถ้าขโมยน้อยนี่มาจากอาณาจักรสือจินไม่ใช่สายลับ อย่างนั้นเขาจะทำอะไรอื่นได้?
ประการที่สอง ขโมยน้อยนี่อ้างว่าสตรีจากหอทงเทียนชั้นที่หกลงมายังทวีปมังกรทะยาน ด้วยความสามารถของขโมยน้อยนี้ ไม่ต้องพูดถึงหอทงเทียนชั้นที่หก แค่ชั้นที่สามหรือสี่ เขาก็ทนไม่ได้แล้ว เขาปรับตัวให้เข้ากับแรงโน้มถ่วงชั้นที่หกได้อย่างไร? ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขากำลังโกหกและพูดแต่เรื่องไร้สาระ
“พวกท่านเข้าใจข้าผิดจริงๆ อย่าฆ่าข้า… ข้าเพียงแต่โลภอยากได้เงินร้อยเหรียญทอง ยิ่งกว่านั้นข้าไม่ได้มีความแค้นเคืองกับต้าเซี่ยและตระกูลเย่ว์ ทำไมข้าต้องมาเป็นสายลับสอดแนมให้อาณาจักรสือจินด้วยเล่า? ต่อให้เป็นคนโง่ก็รู้ว่าคุณชายสามตระกูลเย่ว์แข็งแกร่งทรงพลังขนาดไหน แค่เขาหายใจรดข้า ข้าก็ตายแล้ว แล้วข้าจะกล้าต่อต้านเขาได้อย่างไร?” ขโมยน้อยยังคงสะอึกสะอื้น
“เหลวไหล! ข้าไม่เคยได้ยินว่าจะมีงานราคาถึงร้อยเหรียญทองเพียงแค่ให้นำทางเลย เจ้าคิดว่าข้าโง่เหรอ?” เจ้าอ้วนโกรธและเตะโจรน้อยไปอีกหลายที
“เจ้าผู้นี้ต้องจับชำแหละ ส่วนใหญ่เมื่อคนเราถูกลอกผิวไปชั้นหนึ่งแล้ว ถึงตอนนั้นก็จะยอมพูดความจริง” เหยียนพั่วจวินและเฟิงชิซาพบว่าเป็นไปไม่ได้ มีที่ไหนให้ค่าตอบแทนร้อยเหรียญทองสำหรับนำทาง? หอทงเทียนไม่เคยมีงานเช่นนั้น ต่อให้มี แล้วเจ้าขโมยน้อยนี้ขึ้นไปถึงหอทงเทียนชั้นที่หกเพื่อรับภารกิจแบบนี้ได้ยังไง เขาคิดว่าทหารยามของหอทงเทียนชั้นที่หกตาบอดกันหมดหรือ?
“เกิดอะไรขึ้นกับสตรีสองคนที่เจ้าพาลงมาที่หอทงเทียนชั้นที่หก?” แอนนาถามอย่างอดทน
“พวกนางเปิดม้วนเวทเทเลพอร์ตและจากไปทันทีที่พวกนางมาถึงทวีปมังกรทะยาน พวกนางสั่งให้ข้ามายังปราสาทตระกูลเย่ว์เพื่อส่งข้อความ” ขโมยน้อยสาบานว่าเขาพูดความจริง
“เป็นไปไม่ได้ ถ้าพวกนางมีม้วนเทเลพอร์ต นี่ก็หมายความว่าพวกนางรู้จักคนจากทวีปมังกรทะยาน ทำไมพวกนางต้องให้เจ้านำทางด้วย?” ลีนคัดค้านคำพูดเขาทันที
“พวกนางบอกว่า พวกนางรู้จักคุณชายสามตระกูลเย่ว์…” ขโมยน้อยพยายามอธิบายด้วยตนเอง
“นั่นก็ไม่น่าเป็นไปได้ ถ้าพวกนางรู้จักคุณชายสามตระกูลเย่ว์ ทำไมพวกนางต้องให้เจ้านำทาง?” เย่คงรู้สึกว่าขโมยน้อยก็พูดไร้สาระเหมือนกัน
“เมื่อพวกนางขอให้เจ้าส่งข้อความให้ข้า ยังมีอะไรอื่นอีกไหม นอกจากขอให้เราตามหาจื้อจุนทันที? ใช่ว่าคุณชายสามตกอยู่ในอันตรายและต้องการความช่วยเหลือด่วนหรือเปล่า? เจ้าต้องตอบให้ชัดด้วยตนเอง และข้าสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายเจ้า และพวกเขาจะคืนทองร้อยเหรียญให้เจ้าด้วย” สัญชาตญาณของแอนนาบอกนางว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง ดูแล้วไม่สมเหตุผลที่กองกำลังนรกดำจะใช้งานขโมยน้อยที่อ่อนแอมากขนาดนี้ ตรงกันข้าม นั่นจะกลายเป็นปัญหา ถ้าเด็กนี้กำลังพูดความจริง
“ข้าไม่รู้ พวกนางเพียงบอกแต่เพียงว่าให้พวกท่านทุกคนตามหาจื้อจุน.. ข้าไม่รู้อะไร ข้าเพียงแต่นำทางเท่านั้น!” ขโมยน้อยพยายามอธิบายอย่างดีที่สุด “พวกนางมีเพียงสองคน คนหนึ่งสูงมาก สูงกว่าข้าเสียออก นางมีผมสีทอง ตาสีเขียว นางสวมหน้ากากที่ทำจากปะการังและถือคทาปลาวาฬขาว นางดูน่ากลัวและคล้ายกับนักสู้ปราณก่อกำเนิด ข้าเห็นว่าแม้แต่คนในหอทงเทียนชั้นที่หกก็ยังให้เกียรตินาง อีกคนจะสูงเท่าๆ กับเจ้าหญิงเป่าเอ๋อ แม้ว่าพวกนางจะคลุมหน้าเอาไว้ แต่นางก็ยังดูงดงาม นางต่างจากสตรีในทวีปมังกรทะยานและดูเหมือนจะอ่อนแอมาก ตอนนางจะพูด นางจะขี้อาย แต่เสียงของนางเพราะมาก พวกนางไม่ยอมให้ข้าเงยหน้ามองพวกนาง ดังนั้นข้าจึงไม่แน่ใจนัก แต่ข้าสาบานได้ว่าเรื่องที่ข้าพูดมาทั้งหมดนี้จริงทั้งนั้น ไม่มีโกหกแม้แต่ครึ่งคำ!”
“เจ้ามันคนไม่ซื่อแน่นอน ไม่โกหกแม้แต่ครึ่งคำ แต่เป็นเท็จทั้งหมดน่ะสิ!” เจ้าอ้วนไห่เตะเขาหนึ่งที
“เจ้าเป็นแค่เพียงนักสู้ระดับสอง แล้วขึ้นไปถึงชั้นที่หกได้อย่างไร?” เสวี่ยทันหลางถามถึงปัญหาสำคัญ
“ข้ามีอสูรควันยางยืดที่สามารถต้านทานแรงโน้มถ่วงได้ มันช่วยปกป้องร่างกายของข้าไว้ ข้าจึงขึ้นไปที่หอทงเทียนชั้นที่หกได้ ในอดีตที่ผ่านมาบิดาข้าพาข้าเที่ยวค้าขายและพาข้าไปที่นั่นด้วยบ่อยๆ ข้าเคยรับงานส่งของหรือจดหมายจากชั้นหนึ่งไปที่ชั้นหกอยู่บ่อยๆ เพิ่งมีวันนี้แหละที่ข้าเอาเหล้าไปส่งให้ทหารรับจ้างที่ชั้นหก ข้าเห็นที่สมาคมนักรบปล่อยงานนำทางมูลค่าร้อยเหรียญทอง เนื่องจากว่าข้ามีสิทธิ์คุณสมบัติ ข้ารวบรวมความกล้าและขอรับงาน… ข้าไม่ได้โกหกจริงๆ ข้าจะกล้ามาสอดแนมที่นี่ได้ยังไง ยิ่งกว่านั้นอาณาจักรสือจินริบทรัพย์สินของบิดาข้าไปเมื่อสิบปีก่อน เขาเกือบจะฆ่าตัวตายเพราะอาการซึมเศร้า ข้าไม่เคยชอบพวกเขาเลย ข้าจะยอมเป็นคนสอดแนมให้พวกเขาได้ยังไง…” ด้วยมือที่ยังสั่น ขโมยน้อยเรียกอสูรควันยางยืดทองแดงระดับสองออกมา
“ก่อนที่เราจะตรวจสอบเรื่องนี้โดยตลอด เจ้าจะต้องอยู่ในปราสาทตระกูลเย่ว์ก่อน ถ้าปรากฏว่าเจ้าเป็นแค่คนส่งข่าวจริงๆ เราจะจ่ายค่าป่วยการให้เจ้าร้อยห้าสิบเหรียญทอง” องค์ชายเทียนหลัวยื่นยากล่อมประสาทให้ขโมยน้อยกิน
“ท่านคิดจริงหรือว่าเราสามารถเชื่อถือเขาได้? ต่อให้เป็นคนโง่ก็ควรจะรู้ว่าเราไม่มีทางขอพบจื้อจุนได้…” เจ้าอ้วนไห่ยังคงไม่เชื่อเขา
“ถ้าพวกนางไม่คุ้นเคยกับทวีปมังกรทะยาน หรือสถานการณ์เร่งด่วน มีแต่เพียงจื้อจุนที่สามารถคลี่คลายปัญหานี้ได้” ข้อคิดวิเคราะห์ขององค์ชายเทียนหลัวทำให้หัวใจทุกคนตกวูบ
ถ้านั่นเป็นเรื่องจริง หลายอย่างคงแย่แน่
ถ้าจื้อจุนต้องเข้ามาแทรกแซง แสดงว่านี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก ต้องเกี่ยวข้องกับราชาเฮยอวี้
อาจเป็นไปได้ไหมว่า ราชาเฮยอวี้จู่โจมทำร้ายเย่ว์หยางหรือเปล่า? ถ้าทั้งสองคนเป็นผู้ส่งสารของเย่ว์หยาง อย่างนั้นทำไมพวกนางถึงไม่มาตระกูลเย่ว์ แต่กลับไปขอความช่วยเหลือที่อื่นแทน?
เสวี่ยทันหลางและองค์ชายเทียนหลัวต่างมองหน้ากัน “พวกเจ้าทุกคนรออยู่ที่นี่, เราจะเดินทางไปวังเทียนหลัวก่อน”
ทุกคนได้แต่เงียบ เป็นไปได้ไหมว่าสตรีทั้งสองคนเดินทางไปยังวังเทียนหลัวเพื่อตามหาจักรพรรดินีราตรี?
ตอนนี้ทุกคนปรารถนาให้ขโมยน้อยผู้นี้เป็นคนสอดแนมหรือไม่ก็เป็นเรื่องโกหก พวกเขาหวังว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริง… เย่คงบอกเจ้าอ้วนไห่ “อ้วน! เจ้าอยู่ดูแลที่นี่ ข้าจะไปหาอาจารย์ขอคำแนะนำเขา” อาจารย์ที่เย่คงพูดถึงก็คืออาจารย์จิ้งจอกเฒ่านั่นเอง เมื่อเห็นสถานการณ์แย่ลง คงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รายงานอาจารย์จิ้งจอกเฒ่าและคนอื่น
“ระวังตัวด้วย นี่อาจเป็นแผนของศัตรูก็ได้!” เจ้าอ้วนจริงจังผิดปกติ
ดาวเงินสองดวงปรากฏขึ้นในท้องฟ้า
ดาวทั้งสองดวงนั้นพุ่งข้ามขวางท้องฟ้า
ก่อนที่ผู้ใดจะทันรู้ตัว ดาวทั้งสองดวงก็พุ่งวาบมาอยู่ต่อหน้าพวกเขาแล้ว
เสวี่ยทันหลางปฏิกิริยาไวที่สุด เขาสร้างแนวป้องกันน้ำแข็งในท้องฟ้าทันทีและฟาดไปที่ฝ่ายตรงข้าม แม้ว่าพลังน้ำแข็งของเขาจะไม่สามารถขับไล่คู่ต่อสู้ได้ แต่ก็สามารถเป็นแนวกันชนให้สหายของเขาได้
มือที่ขาวดุจหยกข้างหนึ่งควบแน่นพลังน้ำแข็งเย็นอากาศไว้ในแก้วผลึกน้ำแข็งเล็กๆ เสวี่ยทันหลางตกตะลึง ก่อนที่เขาจะทันได้ถอยออกไป มือหยกนั้นก็ยื่นมาหยุดอยู่ต่อหน้าเขาแล้ว เขาถึงกับหลั่งเหงื่อเยียบเย็น ศัตรูผู้นี้ทรงพลังมากจนเขาไม่สามารถทนรับการโจมตีได้แม้แต่ครั้งเดียว เหลือเชื่อเกินไปแล้ว
“เป็นไปได้หรือนี่ เจ้าจำข้าไม่ได้หรือไง วอนถูกตีจริงๆ เลย” เจ้าของเสียงไพเราะเพียงกระดิกนิ้ว เสวี่ยทันหลางก็ปลิวกระเด็น
“พี่อู๋เสีย!” เสวี่ยทันหลางถอยหลังไปหลายก้าว เขารีบยกมือห้ามเย่คงและเจ้าอ้วนไห่ จากนั้นวิ่งเข้าไปหาเสวี่ยอู๋เสียด้วยความตื่นเต้นและตะโกนถาม “พี่อู๋เสีย! ทำไมท่านถึงกลับมาเล่า?”
ข้างๆ เสวี่ยอู๋เสียมีแฝดเทพธิดาองครักษ์ยืนอยู่ข้างนางทั้งสอง
การปรากฏตัวของเสวี่ยอู๋เสียทำให้ทุกคนสงบลง
ตอนที่พี่สาวคนโตผู้มีพรสวรรค์ที่สุดของตระกูลเสวี่ยกลับมาช่วยดูแลเรื่องแล้ว หลายอย่างคงตัดสินใจได้ง่าย
ทุกคนเริ่มคุยเรื่องที่เกิดขึ้นทันที หวังว่าเสวี่ยอู๋เสียจะตัดสินใจได้ถูกต้อง เสวี่ยอู๋เสียโบกมืองดงามดุจหยกของนางเบาๆ ในทำนองให้ทุกคนสงบลง จากนั้นนางกล่าวด้วยความมั่นใจ “เป็นเรื่องจริง”
ประโยคนี้ทำให้ทุกคนหัวใจหยุดเต้นไปชั่วครู่
เสวี่ยอู๋เสียไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง “เมื่อข้ากำลังจะกลับมาจากการฝึกฝนที่หอทงเทียนชั้นสิบ สตรีคนหนึ่งนามว่าไห่อิงอู่ส่งจดหมายลับสุดยอดให้ข้าขณะที่ข้ามาถึงหอทงเทียนชั้นที่หก ในจดหมายระบุว่าในตอนนี้เย่ว์หยางอยู่ในสถานที่พิเศษมาก และกำลังสู้กับราชาเฮยอวี้และศัตรูผู้ทรงพลังที่ไม่รู้จัก นางบอกให้เราตามหาจื้อจุน เพราะข้อความของเย่ว์หยางที่ส่งให้ไห่อิงอู่มีแค่สิบตัวอักษร จดหมายไม่ชัดเจนนัก แต่เราสามารถอนุมานได้ว่าเย่ว์หยางอยู่ในเขตอันตราย เมื่อข้ากลับมาที่ชั้นหก ท่านโอวเกินจากสมาคมนักรบตรวจสอบพบว่าเย่ว์หยางได้ถูกราชาเฮยอวี้ขัดขวางไว้ หลังจากที่ผู้เฒ่าหนานกงวิ่งเข้ามาช่วยเหลือ และด้วยเหตุผลที่ไม่รู้ชัด พวกเขาทุกคนจากไปพร้อมกับราชันย์ปีศาจใต้ไปยังขอบสวรรค์ชั้นนอกของหอทงเทียนชั้นที่สิบ”
เจ้าอ้วนไห่เริ่มกังวล “ตอนนี้เราจะทำยังไงดี?”
เสวี่ยอู๋เสียพูดให้ทุกคนสงบลง ด้วยฝีมืออย่างพวกเจ้าอย่าได้คิดไปหอทงเทียนชั้นที่สิบเลย ต่อให้ข้าไป เป็นไปได้ที่จะช่วยอะไรได้น้อยมาก สิ่งที่พวกเจ้าต้องทำหลักๆ ก็คือป้องกันการบุกโจมตีของกองกำลังนรกดำ! ข้าส่งจดหมายไปให้จื้อจุน, จักรพรรดินีราตรีและมารกฎฟ้าแล้ว ขอให้พวกนางตัดสินใจดำเนินการ สิ่งที่เราต้องทำก็คือรอสัญญาณจากจื้อจุน เพราะนางเป็นคนที่ช่วยเย่ว์หยางได้จริงๆ ทั้งผู้เฒ่าหนานกงก็อยู่ที่นั่นด้วย ข้าเชื่อว่าเย่ว์หยางยังจะปลอดภัยในตอนนี้ก่อน เราต้องเชื่อมั่นในตัวเขา”
คำพูดของนางทำให้ทุกคนรู้สึกดีขึ้น
นางพูดถูก เย่ว์หยางเคยทำให้พวกเขาผิดหวังเมื่อใดกัน? ต่อให้ราชาเฮยอวี้แข็งแกร่งมากก็ตาม เย่ว์หยางก็ยังมีผู้เฒ่าหนานกงอยู่กับเขา เขาน่าจะยันได้อยู่จนกระทั่งจื้อจุนมาช่วยเหลือ
ปัญหาก็คือ ตอนนี้เขาอยู่ในโลกไหน?
แอนนาและหลิวเย่เป็นคนละเอียด ทั้งสองสังเกตว่าเสวี่ยอู๋เสียไม่ได้พูดถึงตำแหน่ง พวกนางตระหนักทันทีว่า แม้แต่นางก็ไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนและเริ่มตื่นกลัว
หญิงสาวทั้งสองเข้าใจว่านี่ไม่ใช่เวลาเก็บเอามาคิด มิฉะนั้นทุกคนจะเริ่มเป็นกังวล พวกนางขับความตื่นกลัวออกไปและอยู่นิ่งเงียบๆ
ในระยะห่างออกไป แสงประหลาดสว่างวาบขึ้นจากศูนย์กลางวงแหวนเทเลพอร์ต
“อู๋เสีย! รีบมาเร็วเข้า” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนวิ่งออกมาจากวงเวทเทเลพอร์ต นางฉุดเสวี่ยอู๋เสียไปพร้อมกับนางและตะโกนบอกเย่คง, เจ้าอ้วนไห่, เสวี่ยทันหลางและองค์ชายเทียนหลัวก่อนที่นางจะเข้าวงเวทเทเลพอร์ต พวกเจ้าทุกคนรั้งอยู่ก่อน และอย่าสร้างปัญหาให้ข้า! รายงานท่านผู้เฒ่าด้วย ให้รอฟังข่าวอยู่ที่นี่เงียบๆ ถ้ากองกำลังนรกดำบุกมาจริงๆ นั่นเป็นปัญหาของพวกเจ้า ถ้าพวกเจ้าแก้ปัญหาได้ไม่ดี เมื่อข้ากลับมา ฮึ.. แม่จะฟันไม่เลี้ยง!”
“องค์หญิง, ตาแก่อย่างข้าสามารถช่วยได้ไหม?” ไม่รู้ว่าอาจารย์จิ้งจอกเฒ่าได้ยินข่าวจากที่ใด แต่เขารีบเข้ามาหา
“ไม่มีอะไรที่ท่านทำได้เลย, คอยดูแลพวกเขาเถอะ…” ก่อนที่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนจะพูดจบ นางเดินเข้าวงเวทเทเลพอร์ตไปพร้อมกับเสวี่ยอู๋เสียและสองพี่น้องเทพธิดาองครักษ์
“อะฮู้ว..” มีแต่ฮุยไท่หลางที่วิ่งเข้ามาเหมือนกับแสงและหายเข้าไปในวงเวทเทเลพอร์ต
****************