เดิมพันเสน่หา – ตอนที่ 155 ลูกผู้ชายแข่งกันอย่างยุติธรรม

กู้จือเหาทำหน้าไม่พอใจ เขามองเหลิ่งรั่วปิงด้วยรอยยิ้มเหมือนลมในฤดูใบไม้ผลิ ในทางกลับกันหันไปมองไซ่หย่าเซวียนด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ “ไซ่หย่าเซวียน ทำไมถึงพูดแบบนี้ เดี๋ยวตีเข้าให้หรอก”

“หึ ตีฉัน? เข้ามาสิ!” ไซ่หย่าเซวียนเอามือเท้าสะเอวเชิดคางขึ้น เหมือนจะบอกกู้จือเหาว่าถ้าเก่งจริงก็เข้ามา

เหลิ่งรั่วปิงนิ่งเงียบ เธอเพียงแค่ชำเลืองตาขึ้นมอง ก็ทำให้กู้จือเหาที่กำลังง้างมือขึ้นถึงกับตกใจ กู้จือเหารีบเอามือลง “ต่อหน้าหนิงซยา ฉันไม่ถือสาเธอแล้วกัน ไปไหนก็ไป”

“หึๆๆ พูดเหมือนตัวนเองเป็นสุภาพบุรุษเลยนะ ฉันจำได้ว่าเมื่อก่อนนายทำร้ายหนิงซยาตั้งหลายครั้ง มีครั้งหนึ่งนายตีเธอจนเลือดกำเดาไหลแหนะ”

กู้จือเหาถูกไซ่หย่าเซวียนต่อว่าจนเสียหน้า เขามองไปที่เหลิ่งรั่วปิงด้วยสีหน้าอึดอัดใจ “หนิงซยา เมื่อก่อนผมผิดไปแล้ว หลังจากนี้ผมจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้วนะครับ”

สีหน้าของเหลิ่งรั่วปิงนิ่งเฉยราวกับเป็นน้ำแข็งในทะเลทราย เพียงแค่ลมพัดผ่านเม็ดทรายสีเหลืองทองก็พร้อมฝังกลบ เสียงของเธอนิ่งเรียบฉย “เรื่องในอดีตฉันลืมไปเกือบหมดแล้ว นอนเป็นเจ้าหญิงนิทรามาสามปีทำให้ฉันรู้สึกเหมือนผ่านไปเป็นชาติ ดังนั้นสิ่งที่คุณเคยทำฉันไม่ถือสาค่ะ” ปรายตามองสีหน้าดีใจของกู้จือเหา “แต่ว่าคุณกับฉันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก คุณเองก็รู้นี่หนิคะ ตอนนี้ฉันเป็นแฟนของคุณตี้จวิ้น ทางที่ดีที่สุดคุณช่วยอยู่ห่างๆ ฉัน”

สีหน้าของกู้จือเหาจากที่ดีใจกลายเป็นผิดหวังทันที “หนิงซยา พวกเราหมั้นกันแล้วนะ”

“นี่ กู้จือเหา นายยังมียางอายไหม ตอนนั้นใครกันที่ป่าวประกาศบอกว่าการหมั้นกับหนิงซยาคือเรื่องอับอายขายหน้าที่สุดในชีวิต แล้วใครกันที่รีบถอนหมั้นตอนที่หนิงซยากลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ตอนนี้หนิงซยาฟื้นขึ้นมาแล้ว เธอกลายเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ นายก็เลยพูดถึงเรื่องงานหมั้น นายไม่กลัวว่าจะทำให้ตระกูลกู้ของนายขายหน้าหรือไง”

คำพูดของไซ่หย่าเซวียนเจ็บแสบมาก ทำให้กู้จือเหาถึงกับหน้าดำหน้าแดง “ไซ่หย่าเซวียน แล้วเธอกับพี่ของเธอดีนักหรือไง เมื่อก่อนพี่ชายของเธอก็หนีหนิงซยาแทบตาย ทำอย่างกับหนิงซยาเป็นแมลงวัน ตอนนี้ก็ไม่ยอมรลามือจากหนิงซยาเหมือนกันไม่ใช่เหรอ เธอด้วยอีกคน เมื่อก่อนเอาแต่พูดว่าอยากฆ่าหนิงซยาให้ตาย ตอนนี้กลับตัวติดกับหนิงซยาเป็นตังเม”

“…” ไซ่หย่าเซวียนทำปากจู๋ ไม่รู้จะเถียงกลับยังไง สิ่งที่กู้จือเหาพูดเป็นความจริง เธอเองก็ไม่รู้ว่าเป็นฯเพราะอะไร จู่ๆ ความเกลียดชังที่มีต่อฉู่หนิงซยามานานนับสิบปีก็หายไป ทั้งยังรู้สึกดีกับเธอขึ้นมา

เหลิ่งรั่วปิงแคะหูไปมาด้วยความตลก รู้สึกว่าทั้งสองคนที่อยู่ตรงหน้าเข้ากันได้ดี “อันที่จริงฉันรู้สึกว่าพวกเธอเหมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน”

คำพูดนี้พูดออกมา ได้ผลประสิทธิภาพมาก ไซ่หย่าเซวียนและกู้จือเหาตกใจจนขนลุรุกชันขึ้นพร้อมกันบ

ไซ่หย่าเซวียน “หนิงซยา เธออย่าสาปแช่งฉันแบบนี้สิ หัวใจของฉันมีแค่พี่เทียนรุ่ยคนเดียว ผู้ชายอย่างกู้จือเหา ยังไม่เท่าเล็บเท้าของพี่เทียนรุ่ยเลย”

กู้จือเหา “หนิงซยา หัวใจของผมในตอนนี้มีแค่คุณคนเดียว ผู้หญิงอย่างไซ่หย่าเซวียนต่อให้เอาเงินมาให้ผมอีกร้อยล้านหยวน ผมก็ไม่มีวันชอบเธอ”

“กู้จือเหา ไอ้สารเลว!”

ไซ่หย่าเซวียนโมโหกำหมัดแน่นจะง้างหมัดจะต่อย กู้จือเหาไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษอยู่แล้ว เขาไม่สนแคร์ว่าไซ่หย่าเซวียนเป็นผู้หญิง จึงใช้กำลังกับเธออย่างไม่เกรงใจสักนิด ฝีมือการต่อสู้ของทั้งสองไม่เท่าไรหร่ ต่างก็แย่พอเหมือนกัน ทำให้เหมือนไก่โง่ๆ สองตัวกำลังตีกัน

เหลิ่งรั่วปิงยืนมองอยู่ข้างๆ สีหน้าของเธอนิ่งเฉย ทว่าภายในใจของเธอกลับรู้สึกตลกมาก ลมเย็นในต้นฤดูหนาวพัดผ่าน ผมสั้นของเธอปลิวไปตามแรงลม เผยให้เห็นใบหูของเธอ ทำให้เหลิ่งรั่วปิงดูสวยมีเสน่ห์มากขึ้น เธอคลี่ยิ้มบางๆ ถอดต่างหูออกมา กริยาท่าทางของเธอดูมีสง่าเหมือนนางฟ้า

ถึงยังไงผู้หญิงกับผู้ชายก็แตกต่างกัน พวกเขาสองคนทะเลาะตบตีกันอยู่พักหนึ่ง ไซ่หย่าเซวียนเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ขณะที่กู้จือเหาได้อกได้ใจกำลังจะตบปากไซ่หย่าเซวียน ขาของเขาก็ปวดแปล๊บขึ้นมา กู้จือเหาทรุดตัวลงคุกเข่ากับพื้น ไซ่หย่าเซวียนฉวยโอกาสถีบเขาทันที ทำเอากู้จือเหาล้มลง

ไซ่หย่าเซวียนกระตุกมุมปากอย่างได้ใจ “คนโง่ ยังจะต่อยกันอยู่ป้่ะ”

กู้จือเหากัดฟันกรอด อยากจะลุกขึ้นมาต่อยเธอ แต่จู่ๆ ขาของเขาก็ตะคริวกินขึ้นมา ไม่ว่าจะทำอย่างไรยังไงก็ลุกขึ้นยืนไม่ได้ สุดท้ายจึงะทำได้เพียงยอมแพ้

“หึ คนโง่ คราวหน้าถ้าฉันเห็นนายอีก ฉันจะต่อยนายให้หนักกว่านี้” ไซ่หย่าเซวียนหันไปเกาะแขนเหลิ่งรั่วปิง “ไปกันเถอะ หนิงซยา”

หลังจากที่เหลิ่งรั่วปิงแงและไซ่หย่าเซวียนเดินไป กู้จือเหาพยายามลุกขึ้นนั่ง เขามองดูเท้าที่ชาของตนเอง เห็นต่างหูขนาดเล็กปักลงมาบนเส้นประสาท ต่างหูนี้คุ้นตามาก เหมือนจะเป็นของฉู่หนิงซยา

จู่ๆ กู้จือเหาก็หายโมโห เขาดึงต่างหูที่ปักเอาไว้ตรงเท้าออกมา มองดูพระอาทิตย์ มุมปากแสยะยิ้ม นี่ถือเป็นของขวัญที่ฉู่หนิงซยาให้เขาหรือรึเปล่า

น่าเสียดาย เขายังไม่ทันได้ชื่นชมของขวัญที่คิดไปเองว่าเหลิ่งรั่วปิงเป็นคนให้อย่างหนำใจ ก็ถูกมือใหญ่แย่งไป

ไซ่ตี้จวิ้นกำต่างหูเอาไว้ในมือ พูดด้วยความเย้ยหยัน “จือเหา ต่างหูของแฟนฉัน ฉันเป็นคนเก็บรักษาเองดีกว่านะ”

กู้จือเหาลุกขึ้นยืนด้วยความไม่พอใจ “พี่ตี้จวิ้น เธอคือว่าที่เจ้าสาวของผม พี่จะใช้อำนาจในการแย่งเธอไปแบบนี้ไม่ได้”

ไซ่ตี้จวิ้นยิ้มเจ้าเล่ห์ “จือเหา ถ้าฉันจำไม่ผิด เมื่อสามปีก่อนนายได้ถอนหมั้นไปแล้วนะ”

กู้จือเหา “…”

“กู้จือเหา ในฐานะที่ตระกูลของพวกเรารู้จักกันมานาน ฉันจึงยอมอดทนกับพฤติกรรมของนาย แต่อย่าทำลายขีดจำกัดของฉัน ไม่อย่างนั้น…” ไซ่ตี้จวิ้นที่เป็นคนอบอุ่นและอ่อนโยนมาโดยตลอด เวลานี้สีหน้าของเขาเย็นยะเยือก “ฉันจะหักขาของนาย แล้วค่อยลากตัวนายกลับไปหาพ่อของนายให้ท่านจัดการ”

กู้จือเหาเป็นคุณชายที่เอาแต่เที่ยวดื่ม ถึงแม้เขาจะไม่สนใจการงาน แต่เขารู้จักไซ่ตี้จวิ้นเป็นอย่างดี ผู้ชายคนนี้มองจากภายนอกเหมือนเป็นผู้ชายอบอุ่น แต่ถ้าเขาเอาจริงขึ้นมาก็เหี้ยมโหดกว่าทุกคน พ่อของตนรักษาสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลไซ่มาโดยตลอด ไม่มีวันยอมให้ตนมีเรื่องกับไซ่ตี้จวิ้นแน่ แต่ว่า ฉู่หนิงซยาในตอนนี้เหมือนมีออร่าเปล่งประกายออกมาทั้งตัว เธอดึงดูดให้เขาตนอยากเข้าใกล้อย่างไม่สามารถควบคุมตัวตนเองไม่ได้

“พี่ตี้จวิ้น…” ท่าทีของกู้จือเหาอ่อนลง “เมื่อก่อนพี่เกลียดหนิงซยามากไม่ใช่เหรอครับ ยกเธอให้ผมไม่ได้เหรอ”

“เมื่อก่อนนายก็เกลียดหนิงซยามากไม่ใช่เหรอ” ไซ่ตี้จวิ้นเองก็ไม่อยากมีปัญหากับตระกูลกู้ เขาจึงอดทนกับคำพูดของกู้จือเหา

“แต่ตอนนี้ผมชอบเธอมากเลย”

ไซ่ตี้จวิ้นกระตุกมุมปาก ริมฝีปากของเขาทำมุมสวยงาม “บังเอิญมาก ตอนนี้ฉันก็ชอบหนิงซยามากเหมือนกัน และเธอก็ชอบฉันด้วย พวกเราทั้งสองฝ่ายต่างก็ชอบกัน จือเหา นายไม่มีโอกาสแล้ว”

“พี่ตี้จวิ้น พวกเราอย่าพึ่งอำนาจของตระกูล มาแข่งกันอย่างยุติธรรมแบบลูกผู้ชายดีไหม”

“…” ไซ่ตี้จวิ้นเงียบ

“ถ้าพี่สามารถรักษาเธอไว้ได้ จนในอนาคตข้างหน้าเธอกลายเป็นภรรยาของพี่ ผมจะก็ไม่มีวันตอแย แต่ถ้าผมจีบเธอติด พี่ต้องยอมแพ้”

“หึ!” ไซ่ตี้จวิ้นหัวเราะในลำคอ “อย่าให้ฉันเห็นว่านายไปตามตอแยเธออีก!”

พูดจบ ไซ่ตี้จวิ้นหันหลังเดินเข้าไปในบริษัทไซ่เหวย ทิ้งให้กู้จือเหามองดูแผ่นหลังกว้างนั้น ตลก เขาจะยอมรับคำท้าของกู้จือเหาได้อย่างไรยังไง เขารู้ว่ากู้จือเหาเป็นคนเช่นไรยังไง คนอย่างนั้นตามจีบเหลิ่งรั่วปิงร้อยปีก็ไม่ติดหรอก แต่เขาไม่มีวันปล่อยให้คนอย่างกู้จือเหาไปรบกวนเหลิ่งรั่วปิงเด็ดขาด

กู้จือเหาร้องตะโกนกับแผ่นหลังของไซ่ตี้จวิ้น “พี่จวิ้น พี่กลัวเหรอ พี่ไม่กล้ารับคำท้าของผม เป็นเพราะเธอไม่ได้รักพี่อย่างที่พี่คิด”

ไซ่ตี้จวิ้นหยุดชะงัก หันกลับไปสี่สิบห้าองศา ชำเลืองมองไปที่กู้จือเหา “กู้จือเหา ฉันจำเป็นต้องกลัวคนอย่างนายด้วยเหรอ คนอย่างนายมันไม่คู่ควร”

ผู้ชายที่มีสิทธิ์แย่งผู้หญิงของเขา ต้องระดับหนานกงเยี่ยเท่านั้น สำหรับเขาแล้ว กู้จือเหาเป็นแค่เด็กอมมือ

มองดูแผ่นหลังของไซ่ตี้จวิ้นหายเข้าไปในตึก กู้จือเหาโมโหแล้วเตะรถของตัวนเอง เดิมทีเขาอยากระบายความโกรธ แต่ใครจะไปคิดว่าจะทำให้ตัวนเองเจ็บตัวแทน กู้จือเหากอดขาของตัวนเองกระโดดเป็นวงกลม

ไซ่ตี้จวิ้นมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นผ่านหน้าต่าง เลิกคิ้วขึ้นด้วยความเย้ยหยัน คนอย่างนี้ วางไว้ตรงหน้าเหลิ่งรั่วปิง มีแต่จะทำให้เหลิ่งรั่วปิงรังเกียจ

*****

ไซ่หย่าเซวียนพาเหลิ่งรั่วปิงไปยังห้างสรรพสินค้าหรู เธอทำตามที่เหลิ่งรั่วปิงพูด ถอดเสื้อยืดและกางเกงยีนส์ทิ้ง เปลี่ยนเป็นเดรสกระโปรง จากนั้นไปทำผม ไซ่หย่าเซวียนไม่มัดหางม้าแล้ว แต่เปลี่ยนเป็นยืดผมแทน

เป็นจริงตามนั้น ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง หลังจากแต่งหน้าแต่งตัวทำผมใหม่ ไซ่หย่าเซวียนกลายเป็นผู้หญิงที่สวยมาก เธอทั้งสวยและมีความขี้เล่นเล็กน้อย เหมือนแฟรี่เทลขี้เล่นที่กระโดดโลดเต้นใต้แสงอาทิตย์

“หนิงซยา เธอแน่ใจเหรอว่าพี่เทียนรุ่ยจะชอบแบบนี้” แม้ไซ่หย่าเซวียนจะรู้สึกว่าตนเองสวยกว่าเดิม แต่ข้างในใจของเธอก็ยังไม่มั่นใจ

เหลิ่งรั่วปิงจับพวงมาลัยขับรถด้วยความตั้งใจ พร้อมกับตอบกลับ “จะชอบหรือไม่ชอบก็เรื่องของพี่เทียนรุ่ย เธอมีชีวิตเป็นของตัวนเองก็พอแล้ว”

ไซ่หย่าเซวียนเป็นกังวลขึ้นมา “ถ้าพี่เทียนรุ่ยไม่ชอบ สิ่งที่ฉันทำไปทั้งหมดจะมีความหมายอะไร”

เหลิ่งรั่วปิงส่ายหน้าไปมาด้วยความจนปัญญา “รู้ไหมว่าผู้หญิงแบบไหนมีเสน่ห์ที่สุด ผู้หญิงที่มีความเป็นตัวนเองคือผู้หญิงที่มีเสน่ห์ที่สุด เธอเอาแต่ใช้มีชีวิตในแบบที่พี่เทียนรุ่ยชอบ จนลืมตัวเองไปแล้ว พี่เทียนรุ่ยไม่มีวันเห็นคนแบบนั้นอยู่ในสายตาหรอก”

“แต่ว่า แต่ว่า…” ไซ่หย่าเซวียนพอจะเข้าใจ แต่ก็เหมือนไม่เข้าใจ “พี่เทียนรุ่ยเคยบอกว่า ชอบผู้หญิงใสซื่อบริสุทธิ์”

เหลิ่งรั่วปิงหัวเราะ รู้สึกว่าตนเองกำลังจะกลายเป็นกูรูด้านความรักไปแล้ว คันไม้คันมืออยากจะฝึกมีดบิน เพื่อทำลายความหวานเลี่ยนนี้ “ว่ากันว่าผู้หญิงปากอย่างใจอย่าง อันที่จริงบางครั้งพวกผู้ชายก็ชอบโกหกเหมือนกัน”

“หนิงซยา เดี๋ยวไปบ้านเธอ ฉันซื้ออะไรไปฝากพี่เทียนรุ่ยดี”

“ตอนกำลังคบกัน ผู้ชายต้องเป็นฝ่ายซื้อของขวัญให้ผู้หญิง”

“แต่ว่า…” แต่ว่า พวกเขาไม่ได้คบกันสักหน่อย มีแต่เธอที่ตามจีบเขามาเป็นสิบกว่าปี ตั้งแต่ตอนเป็นเด็กกะโปโลจนกลายเป็นผู้หญิงอายุยี่สิบเอ็ด ฉู่เทียนรุ่ยไม่เคยสนใจเธอมาก่อน

“ถ้าเธอไม่เชื่อฉัน ก็กลับไปเป็นเหมือนเดิมซะ”

“ไม่ๆๆ ฉันอยากลองสักครั้ง” ในที่สุดไซ่หย่าเซวียนก็ทำตามคำแนะนำของเหลิ่งรั่วปิง เพราะเธอรู้สึกว่า บางทีการเปลี่ยนแปลงตนเอง ถึจึงจะทำให้ฉู่เทียนรุ่ยสนใจเธอ เหมือนกับฉู่หนิงซยา เมื่อก่อนตามจีบไซ่ตี้จวิ้นแทบตาย แต่ไซ่ตี้จวิ้นกลับรังเกียจ ทว่าตอนนี้พอฉู่หนิงซยาทำตัวนิ่งๆ ทั้งยังแต่งตัวสวยสง่าเหมือนเทพธิดา ไซ่ตี้จวิ้นกลับเป็นฝ่ายจีบเธอแทน

บางที เธอควรจะเป็นผู้หญิงที่ทำอะไรด้วยตัวนเองเหมือนฉู่หนิงซยา

เดิมพันเสน่หา

เดิมพันเสน่หา

เดิมพันเสน่หา

Comment

Options

not work with dark mode
Reset