ตอนที่ 1090: ทำลายหอยามะ (1)
จอมยุทธทั้งหมดของสำนักดาบทรราชตกตะลึงอย่างมากเมื่อพวกเขาได้ยินเกี่ยวกับเรื่องที่ราวกับเทพนิยายนี้ เหมือนพวกเขาได้เปิดหูเปิดตามากขึ้น
“ผู้ก่อตั้งช่างสุดยอดจริง ๆ ที่รู้ทักษะที่ท้าทายสวรรค์แบบนั้น” จอมยุทธทั้งหมดชมเชยเขา ทุกคนรู้สึกตื้นตันมาก ผู้ก่อตั้งของพวกเขาได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาและสามารถควบคุมยุทธภัณฑ์จักรพรรดิได้อย่างสมบูรณ์ นี่เป็นพรของตระกูลผู้พิทักษ์จริง ๆ
หลายคนยังคิดไปไกลถึงอนาคตว่าสำนักดาบทรราชต้องเหนือกว่าตระกูลผู้พิทักษ์อีกเก้าตระกูลแน่
“สหายรักของข้าอีกทั้งเก้าคนเลือกวิธีการเดียวกันกับข้าในการฟื้นคืนชีพขึ้นมา มีข่าวเรื่องวุ่นวายอะไรเกิดขึ้นในตระกูลผู้พิทักษ์อื่น ๆ อีกทั้งเก้าหรือไม่ในช่วงนี้ ?” กุยไฮ่ ยี่เต่าถาม
“ผู้ก่อตั้ง ตระกูลผู้พิทักษ์อื่นทั้งเก้ายังไม่มีความวุ่นวายใด มีแค่อัจฉริยะที่ไม่เคยมีมาก่อนปรากฏตัวขึ้นในตระกูลเจียงหยาง เขาได้เป็นเซียนราชาโดยใช้เวลาไม่ถึงร้อยปี” ผู้อาวุโสสูงสุดอาวุโสตอบกลับอย่างสุภาพ
กุยไฮ่ ยี่เต่าลืมตาขึ้นแล้วคิดในใจ “เขาช่างเป็นอัจฉริยะที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจริงจริงที่ถึงกับเป็นเซียนราชาได้ในเวลาน้อยกว่าร้อยปี เขาคงจะเป็นอัจฉริยะแม้แต่ในโลกเซียน แต่ข้ารู้สึกว่านั่นคงไม่ใช่สหายของข้า”
กุยไฮ่ ยี่เต่านั่งเงียบอยู่สักพักก่อนที่จะพูดออกมา “ข้าเพิ่งได้เป็นเซียนราชาเท่านั้น พวกเจ้าทั้งหมดไปได้ ข้าจำเป็นต้องเก็บตัวฝึกฝนอีกช่วงเวลาหนึ่งเพื่อที่จะคืนความแข็งแกร่งเหมือนแต่ก่อนให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
“ขอรับผู้ก่อตั้ง ! ” จอมยุทธทั้งหมดของตระกูลผู้พิทักษ์ตอบกลับพร้อมกันก่อนที่จะจากไปอย่างช้า ๆ
ไม่นานหลังจากนั้น ประตูโลกของสำนักดาบทรรราชก็ปิดตัวลงสนิทและตัดขาดจากทวีปเทียนหยวนอย่างสมบูรณ์ เพื่อที่จะป้องกันข่าวรั่วไหล พวกเขาผนึกทั้งดินแดนเอาไว้ เผื่อว่าเกิดมีใครต้องการที่จะทำร้ายบรรพชนผู้ก่อตั้งก่อนที่เขาจะคืนความแข็งแกร่งสำเร็จ
มีหุบเขาเล็ก ๆ ที่น้อยคนนักจะรู้จักตั้งอยู่ที่ปลายของเทือกเขาครอส ทั่วทั้งหุบเขาถูกปกคลุมด้วยม่านพลังจาง ๆ มีชาวบ้านที่ซื่อ ๆ และธรรมดาอาศัยอยู่ที่นี่ พวกเขาปลูกพืชผักและอยู่แยกตัวออกจากโลกภายนอก
วันนี้ จู่ ๆ ประตูมิติก็ปรากฏขึ้นอย่างเงียบ ๆ ด้านนอกหมูบ้านในหุบเขาที่เงียบสงบ เจี้ยนเฉินที่อยู่ในเสื้อขาวออกมาพร้อมกับเฮยยู่ที่อยู่ในชุดดำ ก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปในหุบเขา
ม่านพลังด้านนอกใช้ในการขับไล่การโจมตีจากสัตว์อสูร ดังนั้นพวกเขาทั้งสองคนจึงผ่านเข้าไปได้โดยง่าย
หุบเขายั่งยืนดูเหมือนแต่ก่อน เจี้ยนเฉินเดินไปตามเส้นทางที่คุ้นเคยของหมู่บ้าน ชายไร่บางคนในทุ่งเห็นเจี้ยนเฉิน พวกเขาทักทายเจี้ยนเฉินอย่างกระตือรือร้น ในขณะที่เจี้ยนเฉินส่งยิ้มตอบกลับไป
เจี้ยนเฉินเจอลุงเซียวมี่กำลังสานตระกร้าใบใหม่อยู่ ผมของเซียวมี่ครึ่งหนึ่งกลายเป็นสีขาวไปแล้วตั้งแต่ครั้งก่อนที่เจี้ยนเฉินเจอเขา แม้แต่คิ้วของเขายังกลายเป็นสีเทาเล็กน้อย
“เจี้ยนเฉิน ในที่สุดเจ้าก็กลับมา” เซียวมี่ไม่ได้ตกใจเลยกับการกลับมาของเจี้ยนเฉิน เขาหยุดสิ่งที่กำลังทำ ปัดฝุ่นที่มือแล้วลุกขึ้น
“ลุงเซียวมี่ ผมของท่าน…” สายตาของเจี้ยนเฉินเต็มไปด้วยความประหลาดใจและสงสัย ในขณะที่เขาจ้องไปที่ผมสีขาวของเซียวมี่
เซียวมี่โปรยยิ้มออกมา “ไม่มีอะไรหรอก ข้ากำลังจะหมดอายุขัยแล้วก็เท่านั้น”
หัวใจของเจี้ยนเฉินสั่นไหวเมื่อเขาได้ยินแบบนั้น เขาพูด “ลุงเซียวมี่ ท่านพูดว่าอะไรนะ ? ท่านกำลังจะหมดอายุขัยงั้นหรือ ? ท่านเหลือเวลาอีกเท่าไร ? “
“เซียนสวรรค์มีอายุอยู่ได้พันปีเท่านั้น ข้าอยู่มามากกว่าพันปีแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะสมบัติสวรรค์หมื่นปีของท่านพ่อ ข้าก็คงตายไปนานแล้ว ข้าคงอยู่ได้อีกซักสามสิบหรือสี่สิบปี” เซียวมี่ถอนหายใจ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโศกเศร้าที่อธิบายไม่ได้
“ลุงเซียวมี่ อย่ากังวลไปเลย ก่อนจะถึงตอนนั้น ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อให้ท่านเป็นเซียนผู้คุมกฎให้ได้” เจี้ยนเฉินพูดอย่างเคร่งเครียด ในตอนที่อาวุธเซียนของเขาแตกสลายไปในตอนนั้น ลุงเซียวมี่เป็นคนพาเขามาที่หุบเขายั่งยืนเพื่อที่จะช่วยชีวิตเขา เขาจะไม่ยืนดูลุงเซียวมี่หมอายุขัยไปเฉย ๆ แน่
เซียวมี่ส่ายหน้า “เจี้ยนเฉิน ข้าขอบคุณในน้ำใจของเจ้ามาก แต่อย่าเสียเวลาเลย ข้าเป็นเซียนผู้คุมกฎไม่ได้หรอก”
“เป็นไปไม่ได้ เป็นแบบนั้นไม่ได้ ข้าจะหาทางได้แน่นอน” เจี้ยนเฉินสาบานออกมา
“เจี้ยนเฉิน เขามีความไม่สมบูรณ์แต่กำเนิด เขาเป็นเซียนผู้คุมกฎไม่ได้” เฮยยู่พูดอยู่ข้าง ๆ เจี้ยนเฉิน
“อะไรนะ! ความไม่สมบูรณ์แต่กำเนิด!” เจี้ยนเฉินอึ้ง เขาถาม “ท่านลุงเซียวมี่ นี่มันเรื่องอะไรกัน ? “
เซียวมี่ถอนหายใจออกมาเบา ๆ “ข้าจำเป็นต้องเล่าตั้งแต่เรื่องของท่านแม่ของข้า พันปีที่ผ่านมา ท่านแม่ของข้าตายในการต่อสู้ระหว่างนิกายดาบโลหิต หอยามะ นิกายใต้พิภพ ในตอนนั้น ข้ายังอยู่ในครรภ์และยังไม่เกิด ข้าไม่ได้เกิดมาอย่างปกติ ดังนั้นข้าจึงมีความไม่สมบูรณ์แต่กำเนิด ข้าไม่ได้มีข้อบกพร่องตอนเกิด แต่พรสวรรค์ของข้านั้นก็แย่มาก และมันก็เปลี่ยนไม่ได้แม้แต่จะใช้สมบัติสวรรค์ ข้าไม่สามารถเป็นเซียนผู้คุมกฎได้ ท่านพ่อของข้ายังเคยพูดเลยว่าการที่ข้าเป็นเซียนสวรรค์ได้นั้นทำให้เขาประหลาดใจจริง ๆ “
“ไม่มีทางไหนที่จะแก้ไขความไม่สมบูรณ์นี้เลยอย่างนั้นหรือ ? ” เจี้ยนเฉินรีบถาม
เซียวมี่ส่ายหัวและยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน “จริง ๆ แล้ว ทุกคนต้องพบกับความตาย แม้แต่เซียนจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ก็มีอายุขัยแค่หมื่นปีเท่านั้น ข้าแค่จากไปก่อน และทุกคนก็จะตามข้าไปไม่ช้าก็เร็ว ข้าไม่คิดเรื่องความตายแล้ว”
เจี้ยนเฉินเงียบไปในขณะที่เขายากที่จะยอมรับได้ในใจ
เซียวมี่เอาโถงศักดิ์สิทธิ์ออกมาจากแหวนมิติของเขาและส่งมันให้กับเจี้ยนเฉิน เขาพูด “เจี้ยนเฉิน พ่อของข้าได้ออกไปเก็บตัวฝึกฝน ก่อนที่เขาจะไป เขาได้บอกให้ข้ามอบโถงศักดิ์สิทธิ์นี้ให้กับเจ้า โถงศักดิ์สิทธิ์นี้เป็นฐานของนิกายดาบโลหิตของทวีป มันถูกควบคุมโดยหัวหน้านิกายมาทุกรุ่น และในตอนนี้เจ้าก็เป็นหัวหน้านิกายแล้ว โถงศักดิ์สิทธิ์นี่ควรจะเป็นของเจ้า”
เจี้ยนเฉินรีบเอาโถงศักดิ์สิทธิ์มาในขณะที่เขาจ้องไปที่เซียวมี่อย่างสับสน เขาพูดออกมาอย่างจริงจัง “ลุงเซียวมี่ มันไม่สำคัญหรอกว่าจะมีความหวังหรือไม่ ข้าจะหาวิธีการที่จะช่วยท่าน”
เซียวมี่ส่ายหัว “เจี้ยนเฉิน ข้ามีชะตาให้ไม่ได้เป็นเซียนผู้คุมกฎ ดังนั้นอย่าเสียแรงเปล่าเลย ในตอนนี้ท่านพ่อของข้าก็เหลือเวลาอีกไม่มากเช่นกัน ถ้าเขาจากไปเหมือนกัน มันจะเหลือเพียงเจ้าอ้วนน้อยและแม่ของเขาเท่านั้น ถ้าเจ้าต้องการที่จะช่วยข้า ช่วยข้าดูแลเจ้าอ้วนน้อยและเชลลี่ด้วย”
“เชลลี่เคยเป็นคุณหนูของตระกูลใหญ่มาก่อน หลังจากที่แต่งงานกับข้าไปเมื่อหลายสิบปีก่อน นางก็ใช้ชีวิตอยู่กับข้ากับข้าในหุบเขาที่ตัดขาดจากโลกภายนอกนี้ มันคงยากมากสำหรับนาง” เซียวมี่รู้สึกอาย
เพื่อไม่ให้เซียวมี่เสียใจ เจี้ยนเฉินจึงสาบานที่จะดูแลเจ้าอ้วนน้อยและแม่ของเขา จากนั้นเขาจึงถามลุงเซียวมี่ถึงสถานที่ซึ่งหอยามะตั้งอยู่
“เจี้ยนเฉิน พวกนั้นมาหาเรื่องเจ้าหรือเปล่าเจ้าถึงจู่ ๆ ก็ตามหาพวกเขา ? ” เซียวมี่ตื่นตัวขึ้นมาทันที เมื่เขาได้ยินเกี่ยวกับหอยามะ เขาจ้องไปที่เจี้ยนเฉินอย่างสนใจ
“ถูกต้อง” เจี้ยนเฉินตอบกลับ
“สถานที่ตั้งของหอยามะนั้นถูกซ่อนไว้เป็นอย่างดีมาเสมอ มันเปลี่ยนไปบ่อยมาก มันจึงไม่มีสถานที่ตายตัว อย่างไรก็ตาม พวกมันไม่สามารถซ่อนตัวจากผู้สืบสวนของนิกายดาบโลหิตได้ไม่ว่าพวกมันจะพยายามแค่ไหน ข้าเคยจัดการเรื่องของนิกายดาบโลหิตทั้งหมด ข้าเลยรู้ถึงที่ตั้งของพวกมันพอดี”
“พันปีที่แล้ว ท่านแม่ของข้าได้ตายไปจากการร่วมกันโจมตีของหอยามะและนิกายใต้พิภพ ข้าไม่เคยเห็นใบหน้าของท่านแม่ของข้า ท่านพ่อของข้ายังคงเก็บความเกลียดชังในสององค์กรนี้ แม้ว่าเขาจะแยกตัวออกมาจากทวีปได้หลายปีแล้ว แต่ท่านพ่อได้สาบานกับท่านแม่ไว้ในอดีต ท่านพ่อเลยทนเก็บความเกลียดชังไว้ในตัวเองและไม่ได้กวาดล้างทั้งสององค์กรนี้ เจี้ยนเฉิน ถ้าเป็นไปได้ ข้าหวังว่าเจ้าจะล้างบางหอยามะและแก้แค้นให้ท่านแม่ของข้าได้” สายตาของเซียวมี่เป็นประกายเย็นชา
“อย่ากังวลไปเลย ท่านลุงเซียวมี่ ในเมื่อท่านไม่สามารถล้างแค้นได้ด้วยตัวเอง ให้ข้าจัดการเอง” เจี้ยนเฉินสาบาน
หลังจากที่รู้ตำแหน่งของหอยามะแล้ว เจี้ยนเฉินก็ออกไปจากหุบเขายั่งยืนพร้อมกับเฮยยู่ อย่างไรก็ตาม เจี้ยนเฉินยังคงหนักใจเกี่ยวกับเรื่องที่ลุงเซียวมี่กำลังจะหมดอายุขัยอยู่
ถ้าเขาไม่พาเจี้ยนเฉินมาที่หุบเขายั่งยืนในตอนนั้น เจี้ยนเฉินก็คงตายไปนานแล้ว มันคงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะยังมีชีวิตอยู่และประสบความสำเร็จมากมายเช่นนี้ แม้ว่าท่านลุงจะไม่สนความเป็นความตายของตัวเขาเองเลย แต่เจี้ยนเฉินก็ไม่ต้องการที่จะเห็นเขาหมดอายุขัยและตายไป
“Senior Hei Yu, is there really no method for uncle Xiu Mi to reach Saint Ruler?” Jian Chen asked Hei Yu.
“ผู้อาวุโสเฮยยู่ ไม่มีวิธีการที่จะทำให้ท่านลุงเซียวมี่เป็นเซียนผู้คุมกฎได้เลยหรือ?” เจี้ยนเฉินถามเฮยยู่
เฮยยู่ส่ายหัว “เขามีความไม่สมบูรณ์แต่กำเนิดในวิญญาณของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเข้าใจความลึกลับของธรรมชาติได้ ดั้งนั้นเขาจึงไม่สามารถเป็นเซียนผู้คุมกฎได้ เอาจริง ๆ แล้ว มันก็น่าประหลาดใจมากที่เขาเป็นเซียนสวรรค์ได้ด้วยสภาพแบบนี้”
เจี้ยนเฉินหนักใจมากขึ้น และเขาก็ไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านี้
เจี้ยนเฉินเรียกรุยจิน หงเหลียน และเสือขาวออกมาจากมิติวัตถุเซียน ก่อนที่จะเข้าประตูมิติไปที่เมืองอัคนี เขาเรียกเซียนผู้คุมกฎทั้งหมดที่เข้าร่วมทหารรับจ้างอัคนีมา เหลือไว้เพียงเจียเต๋อไท่ที่ดูแลเมืองเท่านั้น
เจี้ยนเฉินออกไปพร้อมกับรุยจินและเซียนผู้คุมกฎทั้งห้า และผ่านประตูมิติไปยังที่ซึ่งหอยามะตั้งอยู่
นักฆ่าของหอยามะเคยพยายามที่จะเอาชีวิตของเจี้ยนเฉิน พวกเขายังเป็นฆาตกรที่ฆ่าแม่ของลุงเซียวมี่อีกด้วย พวกเขาเป็นหนี้เลือดกับครอบครัวของลุงเซียว ดังนั้น เจี้ยนเฉินจำเป็นต้องกำจัดหอยามะไม่ว่าจะเป็นเพื่อการแก้แค้นของเขาหรือเพื่อการแก้แค้นของลุงเซียว อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาทำในภายใต้ชื่อของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี มันคงทำให้พวกเขามีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้น
กลุ่มของเจี้ยนเฉิน 9 คนพร้อมกับพยัคฆ์ปีกเทวะเดินทางผ่านประตูมิติไป พวกเขาเดินทางไปที่หอยามะอย่างคุกคาม และในตอนที่พวกเขาไปถึง ข่าวเรื่องที่กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีต้องการที่จะจัดการกับหอยามะที่เป็นหนึ่งในสามองค์กรนักฆ่านั้นก็แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วทั่วกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี ข่าวนี้ทำให้เกิดความวุ่นวายใหญ่ที่เมืองอัคนี ก่อนที่จะกระจายออกไปเหมือนไฟลามทุ่ง ทุกคนที่ได้ยินข่าวนี้ต่างตกตะลึง