ตอนที่ 1336: มีชื่อเสียงไปทั่วอาณาจักรทะเล
เจี้ยนเฉิน กลับไปที่เผ่าเต่าพร้อมกับเถี่ยต้าและโถงศักดิ์สิทธิ์ แต่กลุ่มเซียนราชายังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน พวกเขาทุกคนยังคนพูดคุยกันเกี่ยวกับจักรพรรดิของเผ่าเต่าและวิธีการที่เขาร่วมมือกับจักรพรรดิที่ไม่รู้จักเพื่อต่อสู้กับเจ้าศาลาแห่งศาลาเทพเจ้าอสรพิษ พวกเขาถกเถียงเรื่องพวกนี้กันแบบลับ ๆ เพราะกลัวว่าเจ้าศาลาจะรู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกัน
พวกเขาทั้งหมดเป็นผู้เชี่ยวชาญที่อาศัยอยู่ในอาณาจักรทะเลมาหลายปี รู้ดีว่าเจ้าศาลาแห่งศาลาเทพเจ้าอสรพิษเป็นคนหนึ่งที่กลายเป็นจักรพรรดิเมื่อนานมาแล้ว เขาเป็นผู้ที่เก่งกาจมากในอาณาจักรแห่งนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงรู้สึกตกใจเมื่อจักรพรรดิแห่งเผ่าเต่าผู้ที่เพิ่งจะกลายเป็นจักรพรรดิสามารถต่อสู้กับเขาได้อย่างสูสีและทำให้เขาบาดเจ็บได้
แม้ว่าจักรพรรดิของเผ่าเต่าจะร่วมมือกับผู้อื่น พวกเขาก็สามารถแยกแยะความต่างของความแข็งแกร่งและอ่อนแอได้ในระดับของการฝึกฝน
“ข้าไม่เคยคิดว่าผู้คุมกฎแห่งตระกูลเต่าจะกลายเป็นจักรพรรดิมาก่อนเลย นี่เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อจริง ๆ เลย ในประวัติศาสตร์ของเผ่าเต่า เรามีผู้เชี่ยวชาญเพียงไม่กี่คนที่อยู่ในระดับของผู้อาวุโสประจำศาลาในสมัยที่รุ่งโรจน์ ซึ่งเป็นเพียงจักรพรรดิเพียงคนเดียวในประวัติศาสตร์ทั้งหมดของเราที่เรามี”
” ข้าแปลกใจว่าจักรพรรดิอีกคนเป็นใครและเขามีความสัมพันธ์กับจักรพรรดิแห่งเผ่าเต่าได้อย่างไร..”
” ข้าไม่เคยคิดว่าจำนวนจักรพรรดิในอาณาจักรทะเลจะเพิ่มเป็น 2 คนในรวดเดียว และตอนนี้ทั้งสองจักรพรรดิได้ออกไปจากอาณาเขตของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ข้าแปลกใจว่าความสมดุลของอาณาจักรทะเลจะเปลี่ยนไปนับตั้งแต่การถือกำเนิดของทั้งสองจักรพรรดิ
ผู้เชี่ยวชาญมากมายต่างถกเถียงกับสถานการณ์นี้ ก่อนหน้านี้ พวกเขาเพิ่งเห็นจักรพรรดิทั้ง 3 คนและแต่ละคนก็จะตั้งกฎในอาณาเขตของตนเอง ตอนนี้กลับปรากฏว่าจักรพรรดิทั้งสองปรากฏตัวพร้อมกันและร่วมมือกัน ความสมดุลของอาณาจักรทะเลจะต้องเปลี่ยนไปครั้งยิ่งใหญ่แน่นอน
เจ้าศาลาแห่งศาลาเทพเจ้าอสรพิษคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน สีหน้าของเขามืดมนในท่าทางที่น่ากลัว ถึงแม้เขาจะเพิกเฉยต่อบาดแผลที่เจี้ยนเฉินฝากไว้ให้กับเขา เพียงแค่การปรากฏตัวขึ้นของสองจักรพรรดิก็สามารถทำให้เกิดบาดแผลร้ายแรงต่อเขาได้ ในเวลาเดียวกัน พวกเขาได้ทะเลาะกับเจี้ยนเฉิน เขาจึงเป็นกังวลเล็กน้อยว่าเจี้ยนเฉินและเถี่ยต้าจะทำลายองค์กรแห่งศาลาเทพเจ้าอสรพิษของเขาหรือไม่
เจ้าศาลาแห่งศาลาวิญญาณสวรรค์กำลังซ่อนตัวอย่างลับ ๆ อยู่รอบ ๆ โดยการอำพรางพลังแห่งการมีอยู่ของเขาไว้ เขาจ้องมองไปที่เจ้าศาลาแห่งศาลาเทพเจ้าอสรพิษอย่างเงียบ ๆ ก่อนที่จะละสายตาไปทางเจี้ยนเฉินซึ่งกำลังเดินทางอยู่ ดวงตาของเขาจ้องมองอย่างลึกซึ้ง
“ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วขนาดนี้ เขาสมควรจริงๆที่ถูกเรียกว่าอัจฉริยะที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” เจ้าศาลาถอนหายใจยาว ๆ ความเร็วของการเติบโตของเจี้ยนเฉินนั้นเกินกว่าสิ่งที่เขาจินตนาการเอาไว้ เขารู้ว่ามันยากสำหรับเขาที่จะขู่เจี้ยนเฉินแล้วตอนนี้ เนื่องจากเจี้ยนเฉินสามารถทำให้เจ้าศาลาแห่งศาลาเทพเจ้าอสรพิษอยู่ในสภาพย่ำแย่เช่นนี้ได้ มันจึงหมายความว่าเจี้ยนเฉินมีความแข็งแกร่งที่จะจัดการกับเขาได้เช่นกัน เจี้ยนเฉินไม่ใช่คนที่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
“เจี้ยนเฉินสนิทสนมกับศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลมาก นะ…นี่มันไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่” เจ้าศาลาคิด ดวงตาของเขากระพริบ 2-3 ครั้งก่อนที่เขาจะออกไปอย่างเงียบ ๆ
เผ่าเต่าได้กลับมาบุกเบิกอีกครั้งหลังจากความสงบ 2-3 วันในอาณาเขตของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล พรรคพวกทั้งหมดที่ซ่อนตัวอยู่ในโถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดเนื่องจากการข่มขู่ของตระกูลเต๋า จนถึงตอนนี้การข่มขู่เหล่านั้นได้ถูกจัดการไปเรียบร้อยแล้ว พรรคพวกทั้งหมดสามารถกลับบ้านของพวกเขาได้อย่างสบายใจ
เผ่าเต่าต่างปลื้มปิติมาก ๆ วันนี้ พวกเขาเป็นสุขอย่างเหลือล้น สมาชิกทุก ๆ คนของเผ่าต่างมีรอยยิ้มบนใบหน้า พวกเขาทั้งหมดมีความสุข ปิติ ในขณะที่บางคนเริ่มกันร้องเพลงจากสิ่งที่พวกเขารู้สึก
นี่เป็นเพราะตระกูลทั่วทั้งหมดรู้ว่าผู้คุมกฎของเขากลายเป็นจักรพรรดิแล้วตอนนี้ ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในระดับเดียวกันกับเจ้าศาลาแห่งศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ศาลาเทพเจ้าอสรพิษ และศาลาวิญญาณสวรรค์ ไม่เพียงแต่เรื่องนี้เป็นเกียรติยศอันยิ่งใหญ่ต่อเผ่าเต่าแล้ว มันยังแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของพวกเขาและเพิ่มสถานะพวกเขาไปอีกด้วย
และมากไปกว่าผู้คุมกฎของเขา ผู้คุมกฎของเขายังมีเพื่อนสนิทที่เป็นจักรพรรดิเช่นกัน ตอนนี้ เผ่าได้มี 2 จักรพรรดิ ในขณะที่โถงศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 3 ต่างมีจักรพรรดิของอาณาเขตตนเองเพียงคนเดียว
ไม่นานหลังจากเจี้ยนเฉินได้หวนกลับมาที่ตระกูล ข่าวของผู้คุมกฎแห่งตระกูลเต่าได้ก้าวขึ้นเป็นจักรพรรดิก็แพร่กระจายไปทั่วอาณาจักรทะเลราวกับพายุ ข่าวนี้ได้สั่นสะเทือนไปทุก ๆ ที่ในทันที ผู้คนมากมายต่างแปลกใจและส่งเสียงร้องในความสงสัยของพวกเขา ในตอนนี้ ผู้คนทั้งหมดและองค์กรต่าง ๆ ในอาณาจักรทะเลได้ถกเถียงถึงข่าวนี้ และยังมีบุคคลสำคัญมากมายขององค์กรสูงสุดมุ่งหน้ามาที่เผ่าเต่าพร้อมกับของขวัญล้ำค่าเพื่อมายืนยันเรื่องนี้
หลายปีที่ผ่านมา อาณาจักรทะเลยืนอยู่ในความสมดุลเสมอระหว่างทั้ง 3 องค์กร ตอนนี้ ทั้ง 2 จักรพรรดิได้ปรากฏตัวขึ้น มันเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ และยังทำให้อาณาจักรทั้งหมดต่างสั่นสะเทือน คนมากมายแปลกใจว่าความสมดุลจะแตกหักหรือไม่
เจี้ยนเฉินไม่รู้ว่าการก้าวขึ้นเป็นจักรพรรดิของเขาจะถูกบอกกล่าวไปทั่วอาณาจักรทะเลเหมือนกับไฟป่าและถูกพัดให้ลุกลามไปด้วยพายุ ตอนนี้เขาอยู่ในห้องประชุมของเผ่าเต่า ฉิงยี่หยวน ไทโตว หลานจิง ซินเปียน และโมชาส พวกเขาทั้งหมดมา ในขณะที่ผู้อาวุโสเซียนผู้คุมกฎแห่งตระกูลรวมตัวกันอยู่ข้างล่าง ผู้อาวุโสทั้งหมดต่างแก้มแดงเนื่องจากเขาตื่นเต้นมาก ๆ จนเกินไป
“ข้าได้เรียกทุกคนมารวมตัวที่นี่ในวันนี้เพื่อประกาศเรื่อง 2-3 เรื่อง เรื่องแรกคือนับตั้งแต่วันนี้ไป เผ่าเต่าจะสามารถอยู่ได้อย่างเหมาะสมในอาณาจักรทะเล ไม่มีความจำเป็นที่ต้องกลัวองค์กรต่าง ๆ แล้ว” เจี้ยนเฉินพูดด้วยจิตกล้าแกร่งขณะที่เขาแสดงความมั่นใจอย่างทรงพลัง เขามีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะพูดเรื่องนี้ได้แล้วในตอนนี้
เสียงกำลังใจแห่งความปิติดังออกมาจากข้างใต้ ผู้อาวุโสบางคนร้องไห้ออกมาด้วยความสุขและความตื่นเต้น พวกเขาไม่เคยรุ่งเรืองมาก่อนเลยในประวัติศาสตร์ของเผ่า
เมื่อเห็นผู้อาวุโสอยู่ข้างใต้ เจี้ยนเฉินอดคิดถึงใบหน้าของผู้อาวุโสสูงสุดไม่ได้เลย เขาถอนหายใจและคิด “ผู้อาวุโสสูงสุด ข้าได้ทำตามความปรารถนาสุดท้ายของท่านแล้ว ไม่นาน ถึงแม้ไม่มีข้า เผ่าเต่าจะสามารถยืนอยู่ในจุดสูงสุดแห่งอาณาจักรทะเล”
เจี้ยนเฉินพูดต่อในขณะที่ทุก ๆ คนสงบสติอารมณ์ลง “เรื่องที่สองคือข้าได้จับกลุ่มสมาชิกที่สำคัญทั้งหมดของพันธมิตรแห่งตระกูลเต๋า พวกเขาเคยข่มขู่เพื่อทำลายเผ่าเต่าของเขา ดังนั้นข้าจะส่งคนพวกนี้ให้กับพวกท่านเพื่อให้พวกท่านจัดการ” เจี้ยนเฉินปล่อยตัวเต๋าเจิ้งเทียนและเซียนราชาอีก 4 คนจากวัตถุมิติ พวกเขาทั้งหมดบาดเจ็บสาหัสและไม่มีความสามารถที่จะทำอะไรได้เลย พวกเขาไม่มีแรงแม้แต่จะวิ่งด้วยซ้ำ
“เราต้องฆ่าคนพวกนี้จึงจะทำให้พรรคพวกทั้งหมดของเราสงบสุขด้วยเลือดของพวกมัน นั่นเป็นหนทางเดียวที่เราสามารถอธิบายให้กับพรรคพวกที่ตายจากเราไป” ผู้อาวุโสต้องการความเป็นธรรม ความเกลียดชังต่อเซียนราชาทั้ง 5 ได้เกินขีดจำกัดไปแล้ว
ในท้ายที่สุด เซียนราชาทั้ง 5 ได้ถูกนำตัวไป พวกเขาถูกกำหนดให้ต้องทนทุกข์กับชะตากรรมที่น่าหดหู่ แต่ เจี้ยนเฉินไม่ได้สนใจเรื่องนี้อีกแล้ว
