ตอนที่ 1418: สัตว์อสูรระดับ 8 ยอมจำนน
“เป็นไปไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้ เมื่อเจ้ามาถึงระดับ 8 ชั้นสวรรค์แต่ละชั้นนั้นยากที่จะบรรลุ และในระดับ 9 จะยิ่งยากขึ้นไปอีก เนื่องจากเจ้าเพิ่งจะกลายเป็นเซียนจักรพรรดิ มันเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะตัดผ่านชั้นสวรรค์ที่ 1 และไปสู่การบ่มเพาะในระดับที่สูงขึ้น” ชายชราที่สวมเสื้อคลุมสีทองเกิดความงุนงง แม้ว่าเขาจะเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง แต่เขาก็พบว่ามันยากมากที่จะเชื่อว่าความแข็งแกร่งของนูบิสเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแม้ว่าเขาจะเพิ่งตัดผ่านระดับ 9 เมื่อไม่นานมานี้
นูบิสยิ้มกว้างขึ้นเมื่อเขาเห็นว่าชายชราที่เศร้าสลดกลายเป็นอย่างไร เขารู้สึกดีมาก เขารู้มานานแล้วว่ามีอสรพิษทองริ้วเงินที่ทรงพลังซ่อนตัวอยู่ในทวีปสัตว์เทวะ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เขายังคงซ่อนตัวอยู่ในเขตนอกของเทือกเขาครอส เขาไม่ได้เข้าร่วมตระกูลกิลลิแกนภายในภูเขาเพราะเขาต้องการหลีกเลี่ยงไม่อยากให้ตัวเองตกเป็นเป้านิ่งของอสรพิษแก่ในทวีปสัตว์เทวะ
นี่เป็นเพราะเขาเคยเป็นสัตว์อสูรระดับ 7 มาก่อน เขามีความรู้สึกตามธรรมชาติของความกลัวและความหวาดระแวงต่ออสรพิษแก่ในทวีปสัตว์เทวะที่เขาเคยได้ยิน เขากังวลอย่างยิ่งว่าอสรพิษแก่จะแอบไปยังทวีปเทียนหยวนและจัดการเขา นี่คือเหตุผลว่าทำไมนูบิสจึงเลือกที่จะซ่อนตัวในเขตชานป่าของเทือกเขาครอส มันอยู่ใกล้กับเมืองทหารรับจ้างมากที่สุด ดังนั้นเขาจึงสามารถหลบหนีเข้าไปในเมืองได้ถ้าอสรพิษแก่เข้ามา
เรียกได้ว่าอสรพิษแก่ในทวีปสัตว์เทวะทำให้จิตใจของเขาหนักอึ้งดุจภูเขาที่มองไม่เห็น มันมีแรงกดดันทางจิตใจได้อย่างยอดเยี่ยม เขาเดินทางไปมาอย่างระมัดระวังตลอดเวลาเพราะกลัวว่าผู้คนมากขึ้นจะรู้ข่าวที่เขาเป็นอสรพิษทองริ้วเงิน
หลังจากนั้นอสรพิษแก่ในทวีปสัตว์เทวะก็แอบไปยังทวีปเทียนหยวนเมื่อทวีปสัตว์เทวะโจมตีและถูกสังหารโดยผู้อาวุโสสูงสุดของเมืองทหารรับจ้างซึ่งนูบิสได้รับซากศพมาจากเขา
หลังจากกลืนแก่นของอสรพิษแก่ไปแล้วเขาก็ได้รับมรดกความทรงจำส่วนหนึ่งของอสรพิษ เขาได้เรียนรู้ว่าในความจริงแล้วมีอสรพิษแก่อีกตัวที่ทรงพลังยิ่งกว่าในทวีปสัตว์เทวะ และอสรพิษที่ถูกเทียนเจี้ยนฆ่านั้นถูกควบคุมโดยอสรพิษที่แข็งแกร่งและอายุมากกว่าเสมอ
นูบิสจิตตกมากขึ้นเมื่อเขาเรียนรู้เรื่องนี้ เขากลัวอสรพิษที่ทรงพลังยิ่งกว่าเดิมอีก เขาได้ตัดสินใจด้วยว่าทวีปสัตว์เทวะเป็นดินแดนที่เขาจะไม่มีวันเหยียบย่างเข้าไปในชีวิต
กระนั้น ขณะที่เขาจ้องมองอสรพิษที่ครั้งหนึ่งเคยทำให้เขากลัวมากและทำให้เขาต้องกังวลใจ ตอนนี้กลับอยู่ในกำมือของเขาอย่างไร้อำนาจ เขาจึงถูกครอบงำด้วยความรู้สึกสบายใจที่ไม่อาจอธิบายได้ในทันที
เขาอยากจะแผดเสียงด้วยความดีใจในขณะนั้น
“เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ยาที่ข้าได้ใช้ความพยายามอย่างมากในการบำรุงรักษาต้องตายในทวีปเทียนหยวน ไม่อย่างนั้นข้าคงจะได้กลายเป็นเซียนจักรพรรดิ” ชายชราที่สวมเสื้อคลุมสีทองพึมพำด้วยสีหน้าเสียใจ
ในขณะนี้สัตว์อสูรระดับ 8 ทั้งแปดที่ไล่ล่านูบิสก่อนหน้านี้เริ่มลบพลังแห่งการมีอยู่ของพวกเขาและเริ่มเงียบลง ทั้งแปดพยายามถอยหลังหนีด้วยความกลัวอย่างที่สุดโดยที่ไร้สีเลือดบนใบหน้า พวกเขาตัวสั่น จิตใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความกลัวอย่างแรงกล้า
พวกเขารู้สึกเสียใจ พวกเขาสาปแช่งนูบิสที่เป็นจอมยุทธ์ระดับ 9 ที่ทรงพลัง แต่กลับปลอมตัวเป็นสัตว์อสูรระดับ 7 เพื่อหลอกพวกเขา นำพวกเขาทั้งแปดให้ไล่ล่าสัตว์อสูรระดับ 9 ไปทั่วทั้งครึ่งทวีปโดยไม่คิดไตร่ตรอง หากพวกเขารู้ว่านูบิสเป็นสัตว์อสูรระดับ 9 พวกเขาจะไม่ไล่ล่าเขาเลยแม้ว่าพวกเขาจะกล้าหาญกว่านี้ร้อยเท่าก็ตาม
นูบิสหรี่ตาและริมฝีปากของเขาก็แค่นยิ้มเยาะ เขาหันหน้าไปทางสัตว์อสูรทั้งแปดที่พยายามหลบหนีและพูดว่า “เด็กเหลือขอ พวกเจ้าไล่ตามนูบิสผู้ยิ่งใหญ่มานาน ทำไมเพิ่งวางแผนที่จะหนีอย่างเงียบ ๆ ในตอนนี้ ? ”
สัตว์อสูรทั้งแปดตัวแข็งทื่อทันทีเมื่อพวกเขาได้ยินนูบิสพูด หัวใจของพวกเขาเต้นในจังหวะผิดปกติและพวกเขาก็เผยสีหน้าเคร่งเครียดพร้อมกับความสิ้นหวัง
เมื่อนูบิสยืดนิ้วมือ ด้ายสีเงินก็พุ่งออกมาจากปลายมือเมื่อขณะที่เขามัดทั้งแปดไว้ เขาหัวเราะเสียงดัง “เจ้าวายร้าย ข้าจะไปหาเจ้าหลังจากที่ข้าจัดการกับอสรพิษแก่ตัวนี้”
หลังจากนั้นนูบิสก็ฆ่าชายชราที่สวมเสื้อคลุมสีทองอย่างไร้ความปราณีและใช้ทักษะลับในการเผาผลาญแก่นของเขา
นี่เป็นครั้งที่สามที่นูบิสได้กลืนกินแก่นของอสรพิษทองริ้วเงินอีกตัว ตัวที่เขากินก่อนหน้านี้มีความแข็งแกร่งของเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 4 เขาเป็นเพียงเซียนผู้คุมกฎเท่านั้นเมื่อเขากลืนกินมันลงไปและความแตกต่างของพละกำลังก็ยิ่งใหญ่มาก นี่คือสาเหตุที่นูบิสใช้เวลานานมากในการกลืนแก่นทั้งหมด และมันก็เป็นเหตุผลที่ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด
ตอนนี้นูบิสเป็นเซียนจักรพรรดิ กลืนกินแก่นของอสรพิษแก่ซึ่งเป็นเพียงเซียนราชาขั้นสูงสุดเท่านั้น มันจึงไม่ได้เพิ่มพลังของเขา แต่มันจะเสริมสร้างแก่นของตัวเขาเองและให้ประโยชน์กับเขาอย่างมาก
นูบิสกระพริบแสงสีทองจาง ๆ ไปทั่วหลังจากที่ได้ดื่มด่ำกับแก่นของอสรพิษแก่ ความแข็งแกร่งของเขายังคงเหมือนเดิม แต่พลังแห่งการมีอยู่ของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นอย่างชัดเจน
หลังจากนั้นนูบิสก็มองดูสัตว์อสูรระดับ 8 และหัวเราะในใจว่า “ตอนนี้ถึงตาเจ้าแล้ว เจ้าไล่ตามนูบิสผู้ยิ่งใหญ่มานานเกินไป ข้าจะจัดการกับพวกเจ้าอย่างไรดี ? ”
หัวใจของสัตว์อสูรแปดตัวสั่นระทึก บางตัวคุกเข่าลงและก้มศีรษะทันที
รอยยิ้มแปลก ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนูบิสขณะที่เขามองไปรอบ ๆ สัตว์อสูรทั้งแปดที่ติดอยู่ในด้ายสีเงินของเขา หลังจากใช้เวลาคิดครู่หนึ่งเขาก็พูดว่า “ช่างเถอะ เจ้าอาจไล่ข้าไปครึ่งทวีป แต่ถ้ามันไม่ได้เกิดขึ้น มันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะล่ออสรพิษแก่ให้ออกมา ชีวิตของเจ้าอาจได้รับการยกเว้น แต่ข้าก็ยังจะลงโทษพวกเจ้า จากนี้ไป ข้านูบิสผู้ยิ่งใหญ่เป็นนายของพวกเจ้า พวกเจ้ามีข้อขัดแย้งหรือไม่ ? ”
เมื่อได้รับการไว้ชีวิต สัตว์อสูรทั้งแปดก็เปล่งประกายด้วยความยินดี พวกเขาต่างก็โห่ร้องว่า “เราขอขอบคุณนูบิสผู้ยิ่งใหญ่ที่ไว้ชีวิตของเรา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เรายินดีที่จะเชื่อฟังคำสั่งของนูบิสผู้ยิ่งใหญ่” พวกเขามีความสุขมาก การลงโทษที่นูบิสกล่าวถึงนั้นดูเหมือนจะไม่ได้เป็นการลงโทษเลยในสายตาของพวกเขา มันเป็นพรที่เผ่าใหญ่ทั้งหลายใฝ่ฝัน
ความโหดร้ายของทวีปสัตว์เทวะเหนือกว่าทวีปเทียนหยวน ความขัดแย้งมักจะเกิดขึ้นระหว่างกลุ่มที่มีสัตว์อสูรระดับ 8 และการล่มสลายของเผ่าเป็นเรื่องธรรมดา แม้ว่ามันจะได้รับการปกป้องจากจอมยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมทั้งสามของทวีป แต่พวกเขาไม่เคยแทรกแซงความขัดแย้งของผู้อื่นเพราะมีกลุ่มมากมายที่มีรูปแบบและขนาดที่ต่างกันในอาณาเขตที่พวกเขาควบคุม แม้แต่การล่มสลายของกลุ่มขนาดใหญ่ก็ยังไม่ได้รับความสนใจมากมาย.
อย่างไรก็ตาม,นูบิสแตกต่างกัน. จากความเข้าใจของพวกเขา,นูบิสเพิ่งมาถึงระดับ 9, แต่เขาก็มีพละกำลังมากกว่าสัตว์อสูรระดับ 9. เขาไม่ได้อยู่ในการควบคุมของกลุ่มใด ๆ, ดังนั้นหากทั้งแปดยอมจำนน,พวกเขาก็จะกลายเป็นพลังคลื่นลูกแรกของเขา. พวกเขาจะได้รับการสนับสนุนอย่างเฉพาะเจาะจง,ทำให้พวกเขามีสถานะพิเศษ
นูบิสยิ้มอย่างพึงพอใจ เขาโบกมือแล้วพูดว่า “พวกเจ้าไปได้ สำหรับคนในเผ่าของพวกเจ้า ชีวิตของพวกเขาไม่ได้ถูกคุกคาม ข้าแค่ทำให้พวกเขาหมดสติไปเท่านั้น ดังนั้นพวกเขาจึงควรตื่นขึ้นมาในตอนนี้ โอ้ใช่ เมื่อพวกเจ้ากลับไป อย่าลืมที่จะสร้างรูปปั้นของข้า นูบิสผู้ยิ่งใหญ่ในเผ่าของเจ้า รูปปั้นจะต้องทำมาจากทองคำบริสุทธิ์เท่านั้น ถึงจะเหมาะสำหรับสถานะที่สูงส่งของข้า”
สัตว์อสูรทั้งแปดพยักหน้าอย่างแข็งขัน พวกเขาเงยหน้าขึ้นมองดูนูบิสอย่างระมัดระวัง พยายามจดจำหน้าตาของเขาไว้ในใจ
หลังจากที่ทั้งแปดจากไป นูบิสก็ม้วนแขนเสื้อกว้างของเขาขึ้น มันเผยให้เห็นแขนสีทองของเขาทันที และบนแขนของเขา แสงสีทองที่คลุมเครือก็หมุนอยู่บนพื้นผิว มันมีลวดลายพิเศษปกคลุมแขนของเขา
ถ้าให้อธิบายอย่างละเอียดก็คือ รูปแบบพิเศษนั้นคล้ายกับเกล็ด แต่จริง ๆ แล้วมันไม่เหมือนกับเกล็ดอสรพิษ ตอนนี้มันยังไม่มั่นคง มันจึงพร่ามัวราวกับว่ามันยังไม่สมบูรณ์
