ตอนที่ 1730: ชายหนุ่มถือพัด
เฟิงปูเล่อเหลือบมองเมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น เขาเดินไปรอบ ๆ ทางเข้าสุสานของราชาเทพต้วนมู่สองสามครั้งและเริ่มสนใจทันที เขากล่าวว่า “ทางเข้านั้นซ่อนอยู่ในมิติ มันยอดเยี่ยมมากถึงแม้ข้าจะใช้สายตาของข้าและข้าก็พยายามดิ้นรนเพื่อค้นหาตำแหน่งของมัน อย่างไรก็ตาม ข้าพอจะเรียนรู้ค่ายกลมาบ้าง ฉะนั้นแล้วข้าจะลองดู”
…….
ในเวลาเดียวกัน มีเมืองที่คึกคักในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ใกล้เคียงกับอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ฉิงหยาง ชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะอายุยี่สิบปีเดินผ่านถนนที่วุ่นวายอย่างช้า ๆ พร้อมกับพัดในมือ มุมปากของชายหนุ่มนั้นค่อนข้างเกรี้ยวกราด เขาดูยโสโอหังมากในขณะที่เขาสังเกตสภาพแวดล้อมด้วยความสนใจอย่างมากราวกับว่าเขาพบว่ามันเป็นสิ่งที่แปลกตา
ด้านหลังชายหนุ่มเป็นชายร่างผอมที่ดูเหมือนจะอยู่ในวัยยี่สิบปี เขาติดตามชายหนุ่มอย่างใกล้ชิด ชายผู้นี้ธรรมดามาก เขาไม่ได้แสดงพลังแห่งการมีอยู่ใด ๆ เลย ทำให้เขาดูเหมือนเป็นคนธรรมดา
“โลกภายนอกมีสีสันจริง ๆ ข้าเพิ่งได้เดินเล่นไปตามถนนสายนี้และโลกทัศน์ของข้าก็กว้างขึ้นแล้ว มันไม่เหมือนกับในตระกูลที่ข้าเห็นใบหน้าเดิมทั้งกลางวันและกลางคืน มาถึงจุดที่มันน่ารำคาญ ข้าเพิ่งผ่านการทดสอบหลังจากความสิ้นหวังมากมาย ในที่สุดผู้อาวุโสในตระกูลก็อนุญาตให้ข้าออกมา คราวนี้ข้าจะได้สนุกไปกับมัน ข้าจะไม่ไปไหนนอกเสียจากว่าพวกเขาเรียกข้ากลับไป…..” ชายหนุ่มเล่นกับพัดของเขา เขาอารมณ์ดีมาก
“นายน้อย ท่านออกมาฝึกซ้อมให้แข็งแกร่งขึ้น ไม่ใช่มาเที่ยวเล่น” คนที่อยู่ข้างหลังเตือนเขา
“ ลุงฉิน เที่ยวเล่นหรือ ? การเที่ยวเล่นไม่ใช่การฝึกหรือ ? มันไม่เหมือนกันหรอกหรือ ? ” ชายหนุ่มพูดอย่างไม่พอใจเล็กน้อย
“นายน้อย แน่นอนว่ามันไม่เหมือนกัน…” ชายวัยกลางคนพูดอย่างจริงจัง
ก่อนที่เขาจะพูดจบ ชายหนุ่มยักไหล่แล้วพูดว่า “เอาล่ะ ก็ได้ ลุงฉิน ข้าเข้าใจแล้ว ให้ข้าเดินเล่นรอบ ๆ ก่อนและข้าจะไปฝึกทีหลัง”
ในขณะนี้ รถม้าอันหรูหราที่ลากโดยสัตว์อสูรเก้าตัววิ่งไปตามถนน ท่าทางของคนทั้งสองข้างทางเปลี่ยนไปเมื่อพวกเขาเห็นรถม้า และพวกเขาก็รีบเปิดทางให้อย่างเร่งรีบ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงสาวสวย นางหวาดผวา ราวกับว่าพวกนางได้เห็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในโลกและพวกนางก็หนีไปอย่างรวดเร็ว
ในเวลานี้มีเชือกสีทองโผล่ออกมาจากรถม้า มันคลี่เข้าไปรอบ ๆ เชือกที่บางกว่าสิบเส้นและพันรอบผู้หญิงแต่ละคน ขณะที่พวกนางกรีดร้อง พวกนางก็ถูกดึงเข้าไปในรถอย่างรวดเร็ว
ผู้หญิงทุกคนที่ถูกจับเป็นหญิงสาวที่สวยที่สุดในบรรดาผู้หญิง
“นายน้อยของครอบครัวโม่ออกมาหาของเล่นอีกแล้ว เฮ้อ ผู้หญิงเหล่านี้ช่างโชคร้ายที่ต้องอยู่ในมือของนายน้อยผู้นั้น…”
“ใครจะรู้ได้ว่านายน้อยแห่งครอบครัวโม่ข่มเหงหญิงสาวไปกี่คน ผู้หญิงทั้งหมดที่เขาจับไม่เคยปรากฏตัวอีกครั้ง ใครจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกนาง … ”
“พวกเราจะทำอะไรได้บ้าง ? ครอบครัวโม่ครองตำแหน่งสูงสุดในแแคว้นนทีคราม. ไม่มีใครกล้าที่จะล่วงเกินครอบครัวโม่แห่งแคว้นนทีคราม ท้ายที่สุดแล้ว,ครอบครัวโม่ ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมแคว้นนทีคราม เป็นหนึ่งในห้าแคว้นที่ทรงอิทธิพลที่สุดในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ฉิงหยาง…”
……..
มีคนเดินผ่านไปมาสองสามคนคุยกันเรื่องนี้ที่ข้างถนน หญิงสาวหลายคนแสดงความเสียใจต่อหญิงสาวผู้โชคร้าย
ไม่มีใครยืนหยัดต่อต้านนายน้อยครอบครัวโม่ในการลักพาตัวหญิงสาวอย่างอุกอาจในที่ธารกำนัล หากพวกเขาทำ พวกเขาก็จะต้องตายสถานเดียว
“พี่สาว…พี่สาว…ปล่อยพี่สาวของข้า…”
เด็กที่ดูเหมือนจะอายุน้อยกว่าสิบปีวิ่งออกไปและพุ่งเข้าหารถม้า เขากลัวมาก
“เจ้าอยากตายรึ ? ” เสียงเย็น ๆ ดังออกมาจากรถม้า แส้ยาวโผล่ออกมาจากรถม้าโดยยื่นตรงไปที่เด็กโดยไม่มีใครปรากฎตัวออกมา เด็กคนนั้นเพิ่งเริ่มบ่มเพาะ เขายังไม่ได้เป็นเซียนปฐพีด้วยซ้ำ ดังนั้นเขาจะตายแน่นอนถ้าแส้โจมตีเขา
สายตาของชายหนุ่มที่ถือพัดหรี่แคบลงเมื่อเห็นสิ่งนี้ เขาตบมือ พัดของเขาก็ปิดและเขาก็ใช้พัดโจมตีตรงไปที่แส้จากระยะไกล ทันใดนั้น เส้นปราณพลังงานดั้งเดิมอันทรงพลังพุ่งออกมาและกระแทกแส้จากด้านข้าง
“เจ้ากล้าดียังไงถึงกล้าเข้ามาขวางทางของนายน้อย ? เจ้าเบื่อที่จะมีชีวิตต่อไปแล้วหรือ ? ” เสียงเย่อหยิ่งดังขึ้นจากรถม้า
ชายหนุ่มเดินเข้ามาภายใต้ความสนใจของทุกคนอย่างช้า ๆ เขาเคาะพัดในมือของเขาขณะที่เขายิ้มอย่างไม่สุภาพ “เจ้ากล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนายน้อยต่อหน้านายน้อยผู้นี้หรือ ? เจ้าช่างห้าวหาญมาก คนที่เบื่อที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปก็คือเจ้า”
“เจ้ากล้าพูดจายอกย้อนกับนายน้อยผู้นี้รึ ? ฆ่าเขา” นายน้อยของครอบครัวโม่พูดเสียงดังออกมาจากรถม้า
ผู้คุ้มกันรอบรถม้าพุ่งขึ้นมาทันทีขณะที่พวกเขาพุ่งเข้าหาชายหนุ่มอย่างอุกอาจ
มุมปากของชายหนุ่มกระตุก เขาพูดอย่างรังเกียจว่า “เจ้ากล้าดูหมิ่นนายน้อยคนนี้ได้อย่างไร ? เจ้าควรตายเพราะทำร้ายผู้หญิงผู้บริสุทธิ์ท่ามกลางสายตาของสาธารณชน เจ้าสมควรตายเพราะทำร้ายเด็ก เจ้าสมควรตาย” ชายหนุ่มกางนิ้วของเขาและเปิดพัดในมือ พัดพุ่งไปทางรถม้าโดยตรง
วูบ !
เปลวไฟลุกขึ้นทันทีพร้อมกับคลื่นของพัดพุ่งพล่านขึ้นสู่ท้องฟ้า เปลวไฟโหมกระหน่ำออกมาจากพัด กลายเป็นมังกรเพลิงที่รุนแรงซึ่งห่อหุ้มผู้คุ้มกันและรถม้าของครอบครัวโม่
เปลวไฟที่รุนแรงเข้ามาและจากไปอย่างรวดเร็ว มันหายไปในพริบตา ในขณะนั้นผู้คุ้มกันทั้งหมดและรถม้าที่ถูกห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิงก็พลันหายไป มีเพียงเถ้าถ่านหลงเหลืออยู่บนพื้น
ถนนเงียบไปในขณะนั้น ทุกคนตกตะลึง นี่เป็นไฟแบบไหน มันทำให้นายน้อยของครอบครัวโม่พร้อมกับรถม้าของเขากลายเป็นเถ้าถ่านในเวลาอันสั้น ในขณะที่บริเวณโดยรอบและคนรอบข้างก็ไม่ได้รับบาดเจ็บ ?
ทุกคนจ้องมองชายหนุ่มด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป นี่เป็นเรื่องแปลกที่น่าตกใจ เขาฆ่านายน้อยของครอบครัวโม่ ในดินแดนของครอบครัวโม่ นอกจากนี้ครอบครัวโม่เป็นหนึ่งในห้าตระกูลที่ทรงพลังที่สุดในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ฉิงหยาง พวกเขามีเหนือเทพและควบคุมทั้งแคว้น
“ขอบคุณท่านมาก ผู้มีพระคุณ” ผู้หญิงที่เขาช่วยไว้ทุกคนขอบคุณชายหนุ่มก่อนที่จะหนีไปด้วยความกลัว พวกนางหายไปในฝูงชน
“ครอบครัวโม่ไม่เคยทำอะไรดีเช่นกัน ลุงฉินไปกันเถอะ ไปจัดการครอบครัวโม่” ชายหนุ่มเก็บพัดและเดินออกไปอย่างเฉยเมย
“นายน้อยกวาดล้างไปสี่ตระกูลแล้วตลอดทาง เหยื่อคือผู้ที่อ่อนแอ นั่นคือกฎของโลกเซียน หากท่านต้องเข้าไปยุ่งกับทุกเรื่อง ท่านจะต้องล้มล้างหลายตระกูลบนที่ราบเมฆา” ชายข้างเขาพูดอย่างช่วยไม่ได้
“ถ้าเป็นเช่นนั้น ปล่อยครอบครัวโม่นี้ไว้ก่อน ลุงฉิน ข้าได้ยินมาว่าสุสานของราชาเทพปรากฏขึ้นในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียน ดูเหมือนว่าจะเป็นของใครบางคนที่ชื่อว่าต้วนมู่หรืออะไรสักอย่าง ไปดูกันเถอะ” ชายหนุ่มกล่าวด้วยความตื่นเต้นอีกครั้ง
“ต้วนมู่ …” ชายวัยกลางคนบ่นกับตัวเอง แสงแวบ ๆ ส่องผ่านดวงตาของเขาและเขาพยักหน้า “ลองไปดูกันเถอะ”
หมายเหตุ : ครอบครัวโม่ ในตอนนี้แตกต่างจากตระกูลโม่ที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้. เราสามารถแยกแยะระหว่างทั้งสองกลุ่มด้วยคำว่าตระกูลและครอบครัว กลุ่มหนึ่งคือครอบครัวโม่ คำว่าโม่ในภาษาจีนแปลว่าปีศาจ,ในขณะที่อีกกลุ่มคือตระกูลโม่ (ตระกูลที่ได้ให้การช่วยเหลือเจี้ยนเฉิน) นั้นแปลว่าน้ำหมึก