ตอนที่ 1839 : บัวดึงวิญญาณปรากฏตัว
ตอนนั้นห้องประมูลก็เงียบไป หลังจากที่พิธีกรสาวประกาศราคาเริ่มต้น มันก็ไม่มีใครเสนอเพิ่ม
ทุกคนมองไปที่กล่องในมือของอู๋ตี้ มันไม่มีข้อยกเว้นแม้แต่ตระกูลที่มีขั้นเหนือเทพ แสงในตาพวกเขาสั่นไหวและพากันขบคิด
อู๋ตี้ยืนอยู่บนเวทีเงียบ ๆ การปรากฏขึ้นมาของกระบี่มรรคาแน่นอว่าต้องนำไปสู่การประมูลระดับสูงกว่าเดิม
นี่เพราะกระบี่มรรคานั้นมีค่ามากกว่าของที่ประมูลมาก่อนหน้านี้
“เนื่องจากไม่มีใครประมูล งั้นข้าเริ่มเอง 600,000 ทุกคน หากท่านต้องการกระบี่มรรคานี้ก็อย่าเอาแต่เงียบ ไม่งั้นแล้วนางจะนับถึงสาม กระบี่มรรคาจะตกเป็นของข้าด้วยราคา 600,000 “ มีเสียงประหลาดดังขึ้น มันคือเสียงของชายวัยกลางคนซึ่งดูมั่นใจ เสียงของเขามาจากห้องส่วนตัวและฟังดูราวเขากำลังยิ้มอยู่ตอนที่พูดออกมา
“ท่านคงพูดล้อเล่น พี่ชาย ยังไงซะกระบี่มรรคานี้ก็ไร้ค่าสำหรับขั้นเหนือเทพ แต่มันมีความหมายต่อเราอย่างมาก ท่านคงทำให้กระบี่นี้เสียเกียรติหากซื้อมันไปด้วยราคา 600,000 มันคงเสียชื่อขั้นเหนือเทพที่สร้างมันขึ้นมา” เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากห้องส่วนตัวอีกห้องทันทีที่ชายวัยกลางคนพูดจบ เสียงนี้เป็นเสียงของผู้หญิงซึ่งแสดงความไม่พอใจออกมา
หลังจากนั้นนางก็บอกราคาออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาหลังจากที่เงียบไปไม่นาน “ตระกูลซานอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์เมฆแดงจะจ่าย 1 ล้าน “
“คนจากตระกูลซานนี่เอง ข้าไม่คิดว่าห้องส่วนตัวนั่นจะเป็นของตระกูลซาน…”
“ไม่ใช่เพียงแต่ตระกูลซานจะมีขั้นเหนือเทพแต่พวกเขาก็ยังแข็งแกร่งเช่นกัน ในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์เมฆแดงแล้วพวกเขาเทียบได้กับตระกูลหยางในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียน…”
“พวกเขาเป็นแค่ตระกูลที่มีขั้นเหนือเทพ 2 คนในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์เมฆแดงงั้นหรือ ? ”
…..
หลังจากที่ตระกูลซานบอกตัวตนของตัวเองออกมา มันก็มีการถกเถียงกันไปทั่วรอบห้องประมูล หลายคนได้แสดงท่าทีแปลกใจเมื่อพูดถึงตระกูลซาน
มันหายากที่ตระกูลจะมีขั้นเหนือเทพ 2 คนในอาณาจักรใกล้เคียง แม้แต่มองทั้งอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดภายในเขตนี้แล้ว มันก็หายากที่จะมีตระกูลอื่นที่มีขั้นเหนือเทพ 2 คน
ชื่อเสียงของตระกูลซานนั้นโด่งดังไปทั่ว
แต่ชื่อเสียงก็เป็นแค่ชื่อเสียง คนกว่าเก้าในสิบส่วนที่นั่งอยู่ในห้องส่วนตัวก็มาจากตระกูลที่มีขั้นเหนือเทพ เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะไม่ยอมเสียหน้ากับสมบัติเช่นนี้
“1,200,000….”
“1,300,000….”
….
ราคากระบี่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยพื้นฐานแล้วคนส่วนมากที่มาจากตระกูลที่มีขั้นเหนือเทพจะเข้าร่วมการประมูลกระบี่นี้ ยังไงซะกระบี่มรรคาก็มีพลังในการฆ่าขั้นเทพได้ทันทีและแม้แต่ขั้นเทพช่วงปลายก็ไม่อาจจะหลีกหนีชะตานั้นได้ ตระกูลที่มีขั้นเหนือเทพย่อมเห็นค่าสมบัติเช่นนี้เป็นธรรมดา
ราคาพุ่งทะยานเกินสองล้านอย่างรวดเร็ว ตระกูลที่มีขั้นเหนือเทพหลายตระกูลได้ยอมแพ้ แต่มันก็ยังมีอีกเยอะที่ยังไม่ยอม พวกเขาพากันเพิ่มราคากันขึ้นอย่างต่อเนื่อง
มันถึงกับมีคนที่เริ่มบอกชื่อตระกูลตัวเองโดยหวังว่าชื่อเสียงของตระกูลตนนั้นจะเอาชนะคนอื่น ๆ ได้ โชคร้ายที่ตระกูลอื่น ๆ นั้นไม่ได้กลัวกันเพราะพวกเขามาจากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์แตกต่างกันไป
สุดท้ายกระบี่มรรคานี้ก็ตกเป็นของตระกูลที่มาจากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์นวดาราด้วยราคาเหรียญผลึกระดับสูง 4 ล้านชิ้น
แม้แต่เจี้ยนเฉินเองก็ตะลึงกับราคานี้ เขารู้เรื่องกระบี่มรรคาจากซวนเตา การสร้างมันขึ้นมาไม่ใช่เรื่องยากสำหรับขั้นเหนือเทพ ที่พวกเขาต้องการคือเวลา อุปสรรคที่แท้จริงคือการหาหินมรรคาที่สามารถรองรับกฎของโลกได้
หากเขามีหินมรรคา ไม่ใช่ว่าเขาจะทำเงินได้หลายล้านเหรียญผลึกระดับสูงง่าย ๆ รึไง ?
หลังจากนั้นก็มีของอีกหลายชิ้นถูกขายไป ทุกชิ้นต่างก็โดดเด่น แม้แต่ตระกูลที่มีขั้นเหนือเทพก็หมายตาสมบัติเหล่านั้น ราคาสุดท้ายพุ่งทะยานขึ้นมาด้วยราคาเหรียญผลึกระดับสูงหลายแสนชิ้นเป็นอย่างน้อย
ยังไงซะสมาคมการค้าของราชสำนักก็ท่องไปทั่วแผ่นดินเพื่อหาสมบัติเหล่านี้มา สิ่งที่พวกเขานำมาประมูลแน่นอนว่าต้องมีค่า
“ทุกคน ของชิ้นต่อไปนี้มีค่าอย่างมากแต่เพราะคุณสมบัติพิเศษของมันแล้ว มันจึงไม่อาจจะเปิดเผยต่อโลกภายนอกได้นานนักและต้องเก็บไว้อย่างดีเพื่อรักษาประสิทธิภาพของมัน ทุกคนโปรดดูดี ๆ ” อู๋ตี้ยกกล่องไม้โบราณที่ยาวและกว้าง 1 ฟุตขึ้นมา กล่องนั้นผนึกไว้อย่างดีและตอนที่นางพูดนั้นนางก็เปิดมันออก กลิ่นอันวิเศษได้แผ่ออกมาทันที
กลิ่นหอมนี้ทำให้วิญญาณของทุกคนสั่นคลอน ตอนนั้นทุกคนรู้สึกว่าวิญญาณพวกเขาสั่นไหวโดยไม่อาจจะควบคุมได้ ความรู้สึกสบายและลุ่มหลงตราตรึงอยู่ในหัวพวกเขา
เจี้ยนเฉินลืมตาขึ้นมาทันที สายตาเขาดูแปลกไปเมื่อมองไปที่กล่องไม้นั่น
ด้านในกล่องไม้นั้นมีบัววางเอาไว้ มันมีขนาดเท่ากับกำปั้นและมีสีดำราวกับหมึก ใบทั้งเก้าของมันเปิดออกและสั่นไหวเล็กน้อย ใบแต่ละใบมีรูปแบบประหลาดเหมือนเกี่ยวพันกับกฎของโลก พวกมันเหมือนจะมีพลังลึกลับอยู่ในตัว
แค่เสี้ยววินาที อู๋ตี้ก็ปิดกล่องลงและใช้ค่ายกลกับกล่องปิดพลังของบัวดึงวิญญาณไป นางยิ้มออกมาเล็กน้อย “นี่คือบัวดึงวิญญาณ มันหายากอย่างมากและมีประสิทธิภาพสูงในการฟื้นฟูบาดแผลทางวิญญาณ ในเวลาเดียวกันมันก็อัดแน่นและเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับวิญญาณได้ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 500,000 เหรียญผลึกระดับสูง”
“บัวดึงวิญญาณ มันคือบัวดึงวิญญาณจริง ๆ ด้วย หาทางช่วยผู้อาวุโสสูงสุดของเราได้แล้ว” ชายวัยกลางคนที่มีคิ้วตรงราวกับกระบี่มองไปที่กล่องไม้ในมือของอู๋ตี้ แล้วพูดขึ้นมาด้วยเสียงที่สั่น
“บัวดึงวิญญาณต้องได้ผล ไม่ว่าผู้อาวุโสสูงสุดของเราจะมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ตาม ผลก็คือเราต้องซื้อมันมาให้ได้” มันมีคนอีกสามคนที่ดูอายุเท่ากับชายคนแรกที่พูด หนึ่งในนั้นได้พูดขึ้นมาอย่างเย็นชาและสายตาที่มั่นใจ เขาอยากจะได้มันมาครอง