ตอนที่ 289 เลือดเนื้อที่กลายเป็นทอง เส้นทางที่ไร้การสูญสลาย
ในขณะนั้นเอง โลหิตทิพย์ที่ไหลเวียนอยู่ภายในร่างกายของเยี่ยจง ก็ได้ปรากฏสีทองเข้มข้นชนิดหนึ่งขึ้นมา สีทองชนิดนี้ก็ได้สาดเป็นประกายขึ้นมาไม่หยุด ราวกับการลอกคราบ
ประกายสีทองนี้ได้สาดไปมา ภายในร่างกายของเยี่ยจงราวกับว่ามีพลังแห่งชีวิตอันแข็งแกร่งชนิดหนึ่งจะระเบิดออกมา จนทำให้บาดแผลบนร่างกายของเขาหยุดการไหลของโลหิตลง จากนั้นประกายแสงสีทองนั้นก็ได้ปกคลุมไปทั่วทั้งร่างของเยี่ยจง ปกป้องคุ้มครองทั่วทั้งร่างเอาไว้
“ เอ๊ะ ? นั้นคือ ? “
“ เลือดเนื้อกลายเป็นทอง ? เส้นทางที่ไร้การสูญสลาย ? “
มีคนที่พูดขึ้นมาอย่างอ้าปากตาค้าง จากนั้นก็เกิดอาการตื่นตกใจขึ้นมา ความจริงที่มีอาการบาดเจ็บอย่างหนัก เยี่ยจงที่ต้องตายอย่างไม่ได้สงสัย แต่กลับคิดไม่ถึงว่า ในช่วงเวลาอันคับขันที่สุด ภายในร่างกายของเยี่ยจงก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมา อีกทั้งการเปลี่ยนแปลงชนิดนี้ ราวกับเป็นเหมือนการเปลี่ยนแปลงที่เล่าขานกันก็มิปาน
ในขณะนี้ แม้แต่ตัวเยี่ยจงเองก็ยังงุนงงขึ้นมาเล็กน้อย เขาสามารถสัมผัสได้ถึงการก่อเกิดพลังชีวิตชนิดหนึ่งขึ้นมาภายในร่างกายของตนเอง บรรยากาศเช่นนี้เอง ก็ได้ค่อยๆเปลี่ยนแปลงเลือดเนื้อของตนเองไปทีละนิด ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของตนเอง ความรู้สึกชนิดนี้ คาดว่า ……. ตนเองคงจะได้ก้าวเข้ามายังก้าวสุดท้ายแล้ว เข้าสู่ขั้นก่อเกิดระดับที่เก้า ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายหรือนี้ ?
“ คิดไม่ถึงว่าความรู้สึกที่สัมผัสได้ขึ้นมาในตอนนี้อย่างกะทันหัน …… ทว่า โอกาสวาสนาชนิดนี้ทั้งชีวิตจะมีเพียงแค่ครั้งเดียว แน่นอนว่าย่อมมิอาจที่จะผิดพลาดไปได้ เมื่อข้าได้เข้าสู่ขั้นก่อเกิดระดับที่เก้าแล้ว ข้าจะดูว่ามีผู้ใดบ้างที่กล้ามีปัญหากับข้า “ ร่างกายของเยี่ยจงหนักแน่นขึ้นมา จากนั้นก็ได้เตรียมตัวที่จะถอยออกไป ในตอนนี้หากว่าต้องพัวพันกับหญิงสาวเผ่าหวินฮู่ต่อไปคงจะเรียกได้ว่าไม่ฉลาดอย่างยิ่ง
“ สวรรค์ ข้าไม่ได้ดูผิดไปใช่ไหม ? เยี่ยจงนั้นถึงกับเข้าสู่เส้นทางที่ไร้การสูญสลายในเวลาเช่นนี้งั้นหรือ ? “
“ เป็นไปไม่ได้ เผ่ามนุษย์ทำไมถึงสามารถเข้าสู่ขั้นก่อเกิดระดับที่เก้า ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายได้กัน “
“ หยุดเขาเอาไว้ อย่าได้ให้เขาทำได้สำเร็จ ไม่เช่นนั้นแล้วละก็ เผ่ามนุษย์คงจะต้องมีอัจฉริยะอันดับหนึ่งขึ้นเป็นแน่ ทั้งยังไม่ส่งผลดีต่อข้าด้วย “
กลุ่มผู้คนต่างก็ตื่นตกใจขึ้นมา สีหน้าทอแววประหลาด เยี่ยจงถึงกับทะลวงเข้าสู่อีกขั้นในเวลาเช่นนี้ เรียกได้ว่าอยู่เหนือความคาดหมายของผู้คน มีผู้คนไม่น้อยเลยที่มีปฏิกิริยากลับมาไม่ทัน
ร่างกายของหญิงสาวเผ่าหวินฮู่ได้สั่นเทาไปมา สาดประกายสายตาเหม่อมองไปที่เยี่ยจงอย่างไม่หยุดยั้ง สิ่งที่เกิดขึ้นเบื้องหน้าสายตาต้องมิใช่เรื่องจริงอย่างแน่นอน นางไม่ว่าจะอย่างไรก็คาดคิดไม่ออกว่า เพราะอะไรในตอนนี้ เยี่ยจงถึงกับสามารถเข้าสู่ขอบเขตไม่สูญสลายได้
ในตอนนี้ บรรยากาศประกายสีทองก็ได้เริ่มที่จะปกคลุมไปทั่วทั้งร่างกายของเยี่ยจงเอาไว้ กระทั้งสาดส่องเป็นประกายขึ้นมา แต่ว่าร่างกายเลือดเนื้อของเยี่ยจงก็ได้ค่อยๆเปลี่ยนแปลงไป เพียงแค่ชั่วเวลาหนึ่งกาน้ำชาเดือด อาการบาดเจ็บที่อยู่บนร่างของเยี่ยจงเกือบครึ่งก็ได้รับการฟื้นฟู สายตาที่มองไปที่การฟื้นฟูของบาดแผลบนเนื้อตัวของเขา เช่นนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นการเข้าสู่ขอบเขตไม่สู่สลายได้แล้ว
“ ฆ่า “
หลังจากที่ได้รับรู้สัมผัสความหวาดกลัวนี้ หญิงสาวเผ่าหวินฮู่ในตอนนี้ก็ได้ขบเคี้ยวเขี้ยวฟันไปมา วาดมือขวาออกไป วินาทีนั้นก็ได้พบว่าแขนทั้งสองข้างที่เป็นดุจดั่งหยาดน้ำก็ได้ถูกกวาดออกไปดั่งฝนดาวตกก็มิปาน ภายใต้เหล่าหยาดน้ำนี้ก็ได้ก่อรวมไปด้วยรังสีสังหารขนาดใหญ่เอาไว้ ในตอนนี้ก็ได้โจมตีออกไปในเวลาเดียวกัน น่าหวาดกลัวสุดเปรียบปาน
“ ไสหัวไปซะ “
เยี่ยจงส่งเสียงขึ้นมาอย่างเย็นชา ฟาดมือขวาออกไปทางด้านหน้าอย่างกะทันหัน การเปลี่ยนแปลงอันประหลาดบนร่างกายของเขาในตอนนี้ ก็ได้ทำให้โลหิตที่ความจริงสูญเสียไปมากฟื้นฟูขึ้นมาในทันที อีกทั้งภายใต้สภาพที่เป็นสีทอง บ่งบอกถึงความลี้ลับอย่างถึงที่สุด
วินาทีนั้น แสงเซียนเจ็ดสีสายหนึ่งก็ได้พุ่งขึ้นสู่ฟ้า มุ่งหน้าเข้าสังหารออกไปบริเวณทางด้านหน้า น่ากลัวสุดเปรียบปาน
“ กร๊อบ “
แสงเซียนเจ็ดสีได้กดทับลงไป จนแตกกระจายกลายเป็นหยาดน้ำผืนหนึ่งทำลายทุกสิ่ง ท่ามกลางอากาศก็ได้กลายเป็นฝุ่นผงทั้งหมด
สภาพที่อยู่ทางด้านหน้าเรียกได้ว่าน่าแปลกอย่างถึงที่สุด เหล่าประกายหยาดน้ำนี้เห็นได้ชัดมีความแข็งแกร่งอย่างเต็มเปี่ยม เพียงพอที่จะทลายหินผาหมู่ไม้เก่าแก่ได้เลย ต่อให้เป็นยอดฝีมือที่มีพลังกายแข็งแกร่งก็ยังยากที่จะทานรับได้ แต่ว่าหยาดน้ำทั้งหมดในตอนนี้ก็ได้แตกกระจายขึ้นท่ามกลางอากาศอย่างไม่หยุดยั้ง ไม่หลงเหลือแม้เพียงเศษเสี้ยว
สีหน้าที่เปลี่ยนไปของยอดอัจฉริยะจำนวนมากของแต่ละฝ่าย นับตั้งแต่ช่วงเวลาที่เยี่ยจงได้เริ่มเข้าสู่ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย มีผู้คนไม่น้อยที่ต่างก็มองออก ภายใต้กระบวนท่าเดียวกัน ในตอนนี้ที่เยี่ยจงได้ใช้ออกมา แต่พลังทำลายเรียกได้อยู่ในระดับคนละชั้นกับตอนแรกเลยทีเดียว อย่างน้อยๆก็แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมถึงห้าชั้น เขาในตอนนี้ที่เรียกได้ว่าอยู่ในขอบเขตแรกของการก้าวเข้าสู่ขอบเขตกล้ามเนื้อไม่สูญสลาย หากว่าเขาสำเร็จจริงแล้วละก็ เรียกได้ว่ายากที่จะคาดเดาได้ ว่าพลังในการต่อสู้จะอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งถึงขนาดใด
“ ยังไงก็ไม่อาจที่จะให้เจ้าทำสำเร็จได้ “ หญิงสาวเผ่าหวินฮู่กัดฟันไปมา นางในตอนนี้กล่าวได้ว่ามีความแค้นกับเยี่ยจงอยู่ลึกล้ำ ถ้าหากว่าเยี่ยจงทะลวงเข้าสู่พลังขั้นก่อเกิดระดับที่เก้า ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายได้แล้วก็ ผู้ที่จะต้องตายเป็นคนแรก เกรงว่าคงจะต้องเป็นนางแล้
และในตอนนี้ นอกจากสภาพในตอนนี้เท่านั้นที่พอจะมีโอกาสในการฆ่าสังหารเยี่ยจงได้ ถ้าหากพลาดโอกาสครั้งนี้ไป ก็คงจะไม่มีโอกาสเฉกเช่นนี้อีกแล้ว
“ ฆ่า “
หญิงสาวเผ่าหวินฮู่โบกมือครั้งหนึ่ง ก็ได้มีบางอย่างที่ใหญ่โตออกมาจากยอดเขา กดทับเข้าไปทางด้านเยี่ยจง สิ่งนี้เป็นสมบัติเซียนอีกชิ้นหนึ่งของนาง เพียงพอที่จะสังหารยอดฝีมือที่แท้จริงได้
เพียงแต่ว่าชั่วเวลาเพียงครู่เดียว บนยอดเขาก็ได้เปลี่ยนไปดั่งยอดเขาเหนือเมฆหมอกก็มิปาน ประทับลงยังบริเวณฉากท้องนภา คิดหมายที่จะกดทับร่างของเยี่ยจงให้แหลกลานลง
“ ผนึกให้ข้าซะ “
สีหน้าของเยี่ยจงเปลี่ยนเป็นเย็นชา เขาพลิกทั้งสองมือออกมา แล้วก็ได้ใช้มือรวมรั้งพลังชี้ออกไปที่นภาข้างพสุธาข้างกลายเป็นพลังอันลี้ลับ ก่อตัวรวมอยู่ท่ามกลางอากาศเข้าไป
“ ตูม “
ฝ่ามือขนาดใหญ่ทั้งสองข้างก็ได้ปรากฏขึ้นมาจากทั้งบนนภาและใต้ผืนพสุธาในเวลาเดียวกัน ดุจดั่งพลังมายาขั้นสูงสองอย่างก็มิปาน แล้วก็ได้มุ่งหน้าเข้ากดดันเข้าไปยังบริเวณยอดเขาในเวลาเดียวกัน ภูเขาลูกใหญ่ที่อยู่สูงเหนือเมฆหมอกก็ได้ถูกทำลายลงก็มิปาน จากนั้นหินผาก็ได้แตกละเอียด ตัวเขาก็ได้สั่นไหวขึ้น แล้วก็ได้แตกออกในเวลาต่อมา
“ บรึม “
ในที่สุด กลางภูเขาก็ได้ปรากฏรอยร้าวขึ้น ถูกตราผนึกนภาของเยี่ยจงทำให้กลายเป็นสภาพเช่นนี้ เผยให้เห็นช่องว่าที่เป็นพื้นดินอยู่ เปลี่ยนจนกลายเป็นก้อนหินที่แตกร้าวแยกกันสองก้อน
ในตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าพลังทำลายของตราผนึกนภานี้ก็แข็งแกร่งมากขึ้นกว่าแต่ก่อนอยู่มาก เรียกได้ว่าอาจจะเป็นพลังทำลายที่แท้จริงของตราผนึกนภาก็เป็นได้ หมื่นสรรพสิ่งไม่อาจที่จะต้านทานได้
“ บรึม “
ในบริเวณที่เผชิญหน้ากัน สีหน้าหญิงสาวเผ่าหวินฮู่ก็ยังคงอยู่ในอาการเช่นเดิม ในตอนนี้ร่างกายของนางก็ได้สั่นไหวคราหนึ่ง โลหิตก็ได้ไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ดออกมา ความจริงที่มีใบหน้าอันงดงาม ในตอนนี้ก็ได้เปลี่ยนจนกลายเป็นดั้งภูติผีอันดุร้ายก็มิปาน
เยี่ยจงจ้องมองไปที่หญิงสาวเผ่าหวินฮู่อย่างเย็นชา ค่อยๆที่จะเดินออกมา เตรียมพร้อมที่จะทำการฆ่าสังหารในสถานที่แห่งนี้ เพียงแต่ว่า ทันใดนั้นเอง ประกายสีทองบนร่างกายของเยี่ยจงก็ได้กระพริบถี่ๆขึ้นมา จนทำให้เขาเกิดความลังเลขึ้นมาเล็กน้อย
ความจริงหลังจากที่เยี่ยจงฆ่าสังหารหญิงสาวเผ่าหวินฮู่ไปแล้ว ก็จะออกจากบริเวณที่แห่งนี้ เสาะหาสถานที่อันลี้ลับเพื่อทะลวงข้ามขอบเขต แต่ว่าจากที่ดูในตอนนี้ ถ้าหากตนเองยังมัวแต่เสียเวลาอยู่แล้วละก็ โอกาสที่ยากได้รับมานี้ก็คงจะสลายหายไป เกรงว่ากลายเป็นความผิดพลาดไป
“ เสี่ยวหลุน เจ้าว่าไงนะ ? “ เยี่ยจงขมวดคิ้ว เอ่ยปากขึ้นมาเสียงเบา
“ ข้าก็ไม่ทราบ นั้นก็เป็นเพราะว่าข้าก็เป็นครั้งแรกที่พบเจอคนที่สามารถเข้าสู่ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายได้อย่างแท้จริง แต่ว่ามีความเป็นไปได้ว่าโอกาสจะมีเพียงแค่ครั้งเดียว หากว่าเจ้าผิดพลาดไป ก็จะไม่อาจกระทำได้อีก “ เสี่ยวหลุนเอ่ยขึ้นมาอย่างลังเล เห็นได้ชัดว่าเรื่องเช่นนี้มันก็ไม่เคยประสบพบพานมาก่อน มันถึงแม้จะกล่าวได้ว่าช่วยเหลือเยี่ยจงในการทะลวงผ่าน แต่ว่าความหมายของมันคือให้เยี่ยจงต่อสู้ หลังจากนั้นก็ค่อยวิเคราะห์ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเยี่ยจงกลับใช้เวลาต่อสู้ไปเพียงแค่ครึ่งเดียวก็มีสภาพเช่นนี้ ก้าวเข้าสู่ด่านที่ยากจะข้ามผ่าน ในตอนนี้ก็ได้ก้าวเท้าเดินออกมา หากว่าก้าวเดินในก้าวนี้ไม่สำเร็จแล้วละก็ คงจะเรียกได้ว่าเป็นความผิดพลาดอันใหญ่หลวงก็ว่าได้
“ ข้าทราบแล้ว “
เยี่ยจงไม่มองไปที่หญิงสาวเผ่าหวินฮู่อีก เขาในตอนนี้ก็ได้พลิกทั้งสองมือออก ควบคุมพลังลมปราณกระบี่หกสุสานอย่างรวดเร็ว ไม่ให้โลหิตภายในร่างกายไหลเวียนด้วยตัวมันเองอีก แต่ให้อยู่ภายใต้การควบคุมของตนเอง แล้วก็ค่อยๆที่จะให้เลือดเนื้อเหล่านี้ยื้อเวลาในการสาดประกายสีทองขึ้นมา เพื่อที่ตนเองทำการหลอมเข้ากับการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้
ในขณะนี้เอง เยี่ยจงก็รู้สึกได้ถึงความแปลกประหลาดชนิดหนึ่ง ราวกับว่าเลือดเนื้อกระดูกทั่วทั้งร่างกายของตนเองเหมือนดั่งกลายเป็นสีทองก็มิปาน ในเวลาเดียวกันเยี่ยจงก็ได้เข้าใจขึ้นมา หากว่าเลือดเนื้อของตนเองกลายเป็นสีทองนับไม่ถ้วน เช่นนั้นก็เป็นตัวบ่งบอกว่า สิ่งที่ตนเองกำลังเผชิญอยู่นี้ ก็คือขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายในตำนานนั้นเอง
แต่ว่า ในเวลาเช่นนี้ไม่ถือว่าง่ายดายเช่นนั้น ถึงแม้ว่าเยี่ยจงจะพอที่จะควบคุมเอาไว้ได้อยู่ เลือดเนื้อที่กลายเป็นสีทองอย่างรวดเร็วอยู่หลายส่วน แต่ว่าก็ยังห่างจากการเข้าสู่ขอบเขตได้อย่างแท้จริง ราวกับว่ายังมีระยะทางอีกช่วงหนึ่งอยู่ก็มิปาน
“ เด็กน้อยผู้นี้ ถึงกับทะลวงพลังท่ามกลางการต่อสู้เช่นนี้ เล่าลือกันว่าการทะลวงเข้าสู่ขั้นก่อเกิดระดับที่เก้า คิดที่จะเข้าสู่ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายนั้นไม่ถือว่าง่ายดาย “ มียอดฝีมือขยี้ตาของตนเอง ราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น ควรทราบว่า ทุกครั้งที่มีการขึ้นสู่อีกขอบเขตถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่อันตรายอย่างไร้ที่เปรียบ กล่าวโดยทั่วไปแล้ว ไม่ว่าผู้ใดที่คิดจะทะลวงขึ้นสู่อีกระดับขั้น ต่างก็จะเลือกสถานที่อันปลอดภัยเอาไว้ ไม่ให้ตนเองได้รับการรบกวนใดๆ แต่ว่าเยี่ยจงผู้นี้กลับกลายเป็นว่า ในตอนนี้ไม่เพียงแต่ถูกรายล้อมไปด้วยผู้คน ทั้งยังกล้าที่จะทะลวงขึ้นสู่พลังขั้นก่อเกิดระดับที่เก้า เรียกได้ว่าไม่มีผู้ใดหรือใครที่จะกระทำเช่นนี้ได้อีกแล้ว
“ ทว่าเขาเมื่อทำเช่นนี้ คาดว่าเขาก็คงจะมีวิธีภายในท่ามกลางการไร้วิธี ลือกันว่า โอกาสที่จะเข้าสู่ขั้นก่อเกิดระดับที่เก้านั้นมีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย ในช่วงชีวิตมีเพียงครั้งเดียว หากว่าเขาพลาดไปแล้วละก็ เกรงว่าชั่วชีวิตนี้ก็คงจะไม่มีทางสำเร็จ “ มีคนที่มองออกอย่างทะลุปรุโปร่ง กล่าวขึ้นมาอย่างช้าๆ ในเวลาเดียวกันดวงตาก็ได้เต็มเปี่ยมไปด้วยความอิจฉาริษยาและสีหน้าของความชิงชัง หากว่าเยี่ยจงก้าวออกไปจนถึงขั้นนั้นได้แล้วละก็ เช่นนั้นแน่นอนว่าเขาคงจะสามารถทิ้งห่างจากเหล่าอัจฉริยะทั้งหมดไปไกลแล้ว
“ ทุกท่าน พวกท่านมิใช่ต่างก็คิดที่จะแย่งชิงหัวใจพสุธาจากเขาอย่างงั้นหรือ ? เขาในตอนนี้อย่างมากก็ยังไม่ได้หล่อหลอมหัวใจพสุธาไปหรอก เพียงแต่ว่าเมื่อได้พกพาหัวใจพสุธาเอาไว้ คงจะได้รับพลังอยู่บ้างก็เท่านั้น จึงทำให้เข้าสู่ขั้นก่อเกิดระดับที่เก้า หากว่าเป็นอย่างที่กล่าวออกมา ข่าวลือที่ว่าหัวใจพสุธาพอที่จะทำให้เข้าสู่ขั้นก่อเกิดระดับที่เก้าได้ก็คงจะเป็นความจริง พวกท่านไม่คิดที่จะเข้าสู่ขอบเขตนั้นอย่างงั้นหรือ ? “ หญิงสาวเผ่าหวินฮู่ในตอนนี้ก็ได้กัดฟันพูดขึ้นมา เพียงแต่ว่า คำพูดที่นางพูดออกมาแม้แต่นางเองก็ยังเชื่อไม่ลง อย่างน้อยที่สถานการณ์ที่เห็นอยู่นี้ กว่าแปดส่วนเยี่ยจงก็คงจะหล่อหลอมหัวใจพสุธาจริงแล้ว เพียงแต่ว่า หากว่าเอาแต่มองดูเยี่ยจงเข้าสู่ขั้นก่อเกิดระดับที่เก้า หญิงสาวเผ่าหวินฮู่ไม่ว่าจะอย่างไรก็คงจะกระทำไม่ได้
ทว่าก็ไม่ได้มีคนที่สนใจคำพูดของหญิงสาวเผ่าหวินฮู่ ถึงแม้ว่าจะเป็นจูเยียนในตอนนี้ก็ยังเกิดความลังเลขึ้น นั้นก็เพราะว่าไม่มีผู้ใดสามารถยืนยันได้ว่าเยี่ยจงจะทะลวงได้สำเร็จในทันทีได้หรือไม่ หากว่าเขาทำสำเร็จแล้วละก็ ผู้คนทั้งหมดที่ลงมือต่อเขาในตอนนี้ เกรงว่าจะต้องถูกสังหารลงในทันที ดังนั้นในขณะนี้ จึงไม่มีผู้ใดคิดที่จะลงมือ
ท่ามกลางบริเวณสนาม เยี่ยจงก็ได้เงยหน้าขึ้น เขามิได้ผ่อนตราสัญลักษณ์ในมือลง แต่ว่ากลับจ้องมองไปที่หญิงสาวเผ่าหวินฮู่อย่างเย็นเยียบ กล่าวออกมาเสียงดัง “ หากว่าข้าเป็นเจ้าแล้วละก็ ตอนนี้จะหันกายจากไป หาสถานที่แห่งหนึ่งค่อยซ่อนตัวเอาไว้ รอคอยช่วงเวลาของสมรภูมิฮวงกู่สิ้นสุดลง เช่นนั้นยังพอที่จะรักษาชีวิตเอาไว้ได้ ……. ยิ่งไปกว่านั้น เจ้ายังไม่มีคุณสมบัติคู่ควรพอที่จะขัดขวางการก้าวไปจนถึงก้าวสุดท้ายได้ “
หลังจากที่สิ้นเสียง เยี่ยจงก็ได้หันกายไป มุ่งหน้าเข้าไปบริเวณทางเข้าของสุสานกระบี่ สภาพการณ์ในตอนนี้ถือได้ว่าพิเศษอย่างยิ่ง หากว่ายังอยู่ในสถานที่แห่งนี้ถือได้ว่าอันตรายอยู่ถึงที่สุด ราวกับว่าพึ่งจะผ่านพ่นด่านแห่งความตายมาได้ ดีกว่าเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น อีกทั้งถ้าต้องการจะทะลวงวงล้อมไปก็ไม่ถือว่าง่ายดาย การกลับเข้าไปยังสุสานกระบี่อีกครั้งจึงถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว
.
.
.
.
กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 4/5/6/7/8 ราคา 450
กลุ่ม3 https://goo.gl/dV1p9e ตอนที่ 210-290
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610
กลุ่ม8 https://goo.gl/Uzqf2x ตอนที่ 611-690 ล่าสุด641
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ
https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/