เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 297 เก็บกวาด

ตอนที่ 297 เก็บกวาด

 

 

ยอดฝีมือมากมายต่างก็หัวเราะเย็นชาติดต่อกัน จ้องมองไปที่เยี่ยจงในตอนนี้ หลังจากที่ไม่มียอดฝีมือคนใดที่พบว่ามีพลังอันแข็งแกร่งก่อตัวขึ้นมา พวกเขาต่างก็ย่างกรายกันเข้ามา ลงมือด้วยความรวดเร็วอย่างไม่ขาดสาย พวกเขาเกรงว่าเรื่องราวจะเปลี่ยนแปลงกลับกลาย หากว่ามีขุมกำลังอันแข็งแกร่งอื่นและอัจฉริยะรุดมาแล้วละก็ เช่นนั้นวาสนาที่เล่าจานกันเหล่านี้คงจะไม่กลายเป็นของพวกเขาแล้ว

 

ประกายแสงสาดส่องก่อตัวรวมกัน ทักษะยุทธ์อันแข็งกล้าก็ได้มุ่งฆ่าสังหารออกมา ในตอนนี้ผู้คนเหล่านี้ต่างก็ใช้ออกมาด้วยพลังฝีมือที่แข็งแกร่งของตนเอง จนปกคลุมไปทั่วทั้งผืนหุบเขา หมายที่จะฆ่าสังหารเยี่ยจง

 

คนนับสิบเหล่านี้ผสานมือกัน ดูไปแล้วน่าหวาดหวั่นเป็นอย่างยิ่ง จนทำให้พื้นดินต้นไม้อันเก่าแก่มลายหายไป เศษหินลอยอยู่ท่ามกลางอากาศ แตกกระจายเต็มพื้นดิน เมื่อได้ถูกปะทะขึ้น เห็นได้ชัดว่าเด็กน้อยเหล่านี้ถึงแม้ว่าจะไม่ยอมรับเยี่ยจงอยู่เต็มปาก แต่ว่าในช่วงเวลาอันคับขันเช่นนี้ พวกเขากลับไม่อาจที่จะปล่อยวางลงได้แม้แต่น้อย กระนั้นความแข็งแกร่งของเยี่ยจงนั้นมีอยู่มาก พวกเขาจึงหวาดเกรงว่าเรื่องราวจะมีการเปลี่ยนแปลง

 

“ ไก่ดินถูกสุนัขไล่ “

 

เยี่ยจงยังคงความสงบอยู่ เขายื่นมือขวาออกมา จากนั้นก็ได้เอนตัวออกไปทางด้านหน้าเล็กน้อย แล้วก็ได้ยินเสียง”ปุปุปุ”ดังขึ้นมา พุ่งตรงไปยังยอดฝีมือที่อยู่บริเวณทางด้านหน้าจนเกิดรูโลหิตอยู่บนหว่างคิ้ว สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความยากที่จะเชื่อ ศีรษะแตกระเบิดออกราวกับลูกแตกโมก็มิปาน

 

“ ตูม “

 

และในเวลาเดียวกัน บริเวณทางด้านหลังของเยี่ยจงก็ได้ปรากฏพลังเซียนเจ็ดสีขึ้นมา ค่อยๆหมุนวนไปมา จนก่อเกิดรังสีสังหารนับไม่ถ้วน ปกคลุมอยู่บนร่างของทุกผู้คน

 

“ ไม่ ……. อย่าได้ “

 

มีคนที่เหมือนกับเท้าหัก ในตอนนี้เยี่ยจงถึงยังสามารถลงมือได้ ก็ได้ทำให้พวกเขาตัวสั่นเทาขึ้นมา นั้นก็เพราะว่าไม่ว่าเยี่ยจงจะสำเร็จขั้นก่อเกิดระดับที่เก้าหรือไม่ ด้วยพลังฝีมือของเยี่ยจง คนเหล่านี้ก็แทบจะไม่มีปัญญาที่จะทำอันใดเขาอะไรเขาได้

 

ในตอนนี้ ราวกับไม่เกิดความลังเลแม้แต่น้อย พวกเขาหันกายหมายจะหลบหนีไป น่าเสียดายที่ช้าไปแล้ว

 

“ ในเมื่อมาแล้ว ก็อย่าได้คิดจะจากไป “ เยี่ยจงเอ่ยขึ้นมาเสียงดัง มือขวาสะบัดออกมาเล็กน้อย แล้วก็ได้พบว่าพลังเซียนเจ็ดสีของมังกรสีรุ้งได้พุ่งเข้าสู่วงล้อมแห่งการสังหารออกไปจนก่อเกิดเสียงดัง”กึงกึง”ขึ้นมา ร่างกายของยอดฝีมือแต่ละสายก็ได้แตกกระจายในเวลาเดียวกัน จนหายลับไปท่ามกลางผืนดิน พวกเขาที่เรียกได้ว่าอ่อนแอ แม้แต่โลหิตสักหยดก็ยังไม่อาจที่จะรักษาเอาไว้ได้

 

เสี่ยวหลุนลอยออกไป สาดประกายแสงสีขาวไปทีละแห่ง หลังจากนั้น มันก็ได้ด่าทอเป็นทางกลับไปยังติ่งหูของเยี่ยจง กล่าวว่า “ เจ้าพวกสวะเหล่านี้ มีฝีมือสวะก็ว่าไปอย่าง แม้แต่สิ่งของที่เป็นชิ้นเป็นอันสักชิ้นก็ยังไม่มี ท่านปู่หลุนอย่างข้าเป็นชนชั้นใดกัน หากมิใช่สมบัติระดับเซียน ข้าจะกลืนมันไปงั้นหรือ ? ยังมีพวกเศษขยะพวกนั้นอีก สิ่งที่อยู่บนตัว ใช้ไม่ได้เลยสักอย่าง “

 

“ งั้นหรือ ? “ เยี่ยจงยิ้มขึ้นมาเบาๆ เขาไม่ได้กล่าวอันใดออกมามากมาย เพียงแต่ไปตามเส้นทาง กระนั้นที่สวมไว้ด้วยชุดสีขาว เส้นผมสีดำก็ได้ลอยตามลมเล็กน้อย ให้ความรู้สึกที่แผ่ออกมาในอีกระดับหนึ่ง แทบจะเป็นเหมือนไม่เคยกับพึ่งได้ลงมือสังหารผู้คนไปนับร้อยสองร้อยคนมาก่อน

 

ทว่า เยี่ยจงก็ได้เดินออกไปในลักษณะเช่นนี้ เป็นเหมือนการบอกต่อผู้คนว่า ตนเองยังคงมีชีวิตอยู่ รีบมาเถอะ ท่ามกลางใจกลางพื้นที่แห่งนี้ ร่างกายของเขาก็ได้ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง และในครั้งนี้ ก็ได้เกิดเรื่องร่ำร้องขึ้นเสียดฟ้า ดังลอดไปเป็นยังที่ห่างไกล

 

“ อยู่ตรงนี้ เยี่ยจงอยู่ที่นี้ อย่าได้ให้เขาหนีไปได้ “ มีผู้คนไม่น้อยที่ตะโกนขึ้นมาอย่างลิงโลด มีคนผู้หนึ่งบีบไปที่ยันต์ส่งสารในมือออกไป เพื่อทำการเรียกพรรคพวก

 

“ ตูมตูมตูม “

 

เสียงดังสนั่นจากการปะทะก็ได้ดังขึ้นมา เผ่าสิ่งมีชีวิตโบราณชุดใหญ่และสิ่งมีชีวิตเขาหลิงซานก็ได้ปรากฏขึ้นมาในเวลาเดียวกัน บนตัวพวกมันเกิดความดุร้ายอย่างรุนแรง บนใบหน้าอดไม่ได้ที่จะมีรอยยิ้มขึ้นมา

 

อีกทั้งผู้ที่เป็นผู้นำสิ่งมีชีวิตทั้งหลายนี้ก็กลายอยู่รูปลักษณ์ของมนุษย์ พวกมันยิ้มขึ้นบนใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเย้ยหยัน สัตว์ประหลาดที่ตามหลังอยู่ มองดูไปแล้วก็ประหลาดอย่างถึงที่สุดพวกมันจ้องมองไปทางด้านของเยี่ยจงในระยะทางที่ไกล จ้องมองด้วยความโลภอย่างไร้ที่เปรียบ

 

“ นี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่มาจากเหร่ยหงส์ซานนิ ทั้งแข็งแกร่งและน่าหวาดกลัว กล่าวกันว่าพวกเขาถือเป็นครอบครองการแปรเปลี่ยนไร้ที่สิ้นสุดของสำนักหมื่นปีศาจ ตัวที่เป็นผู้นำนั้นทั้งน่ากลัวและแข็งแกร่ง ต่อกรด้วยได้ยาก หากว่าพวกเขาก็มาเพื่อแย่งชิงหัวใจพสุธาแล้วละก็ เกรงว่าคงจะยุ่งยากแล้ว “ มีคนขมวดคิ้วขึ้นมา เห็นได้ชัดว่ามีความรู้สึกที่ไม่ดีนักจากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ

 

“ ทุกท่าน เชิญไสหัวไปเถอะ “ ชายหนุ่มผู้หนึ่งที่เป็นผู้นำก็ได้เอ่ยขึ้นมาเสียงดัง เขานั้นมีรูปลักษณ์ธรรมดาอย่างยิ่ง แต่ว่าดวงตากลับมีสีเขียว จากนั้นก็ได้กวาดสายตาไปยังท่ามกลางสนาม เขาจดจ้องไปที่เยี่ยจงจากจุดสูงลงมา กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ มนุษย์หนุ่ม ไสหัวมานี้ แล้วส่งมอบสมบัติโลหิตมังกรแท้กับหัวใจพสุธามาให้พวกข้า ข้าจะคุ้มครองความปลอดภัยของเจ้าเอง “

 

“ เขาเหร่ยหงส์หลิงซาน พวกเจ้าเข้ามา พวกเจ้าต้องการที่จะแย่งชิงสมบัติโลหิตมังกรแท้ ข้านั้นกลับไม่มีความเห็นเป็นอื่น แต่ว่าหัวใจพสุธาต้องเป็นของพวกข้า “ ยอดฝีมือกลุ่มหนึ่งที่รวมตัวกันขึ้นมา คนที่เป็นผู้นำก็ได้หัวเราะอย่างเย็นชา พวกเข้าถึงกับไม่แยแสสิ่งมีชีวิตแห่งเขาเหร่ยหงส์หลิงซาน นั้นก็เพราะว่าพวกเขานั้นได้มาจากโรงฝึกยุทธ์เสวียนหยินอันน่าหวาดกลัวนั้นเอง

 

“ เหอะเหอะ เจ้าเข้าไปก่อนเถอะ “

 

แล้วก็ได้มีการปรากฏตัวของเด็กหนุ่มผมทองเหยียนหยี่ เขาจ้องเขม็งไปที่เยี่ยจงอย่างดุดัน แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ เยี่ยจง พวกเราต่างก็ถือได้ว่ามีความสัมพันธ์เก่าก่อน เห็นแก่ความสัมพันธ์เมื่อครั้งที่อยู่ที่ทะเลมายาโลหิต ขอเพียงเจ้าในตอนนี้ส่งมอบหัวใจพสุธาออกมา กลายเป็นกำลังรบของข้า ข้าเหยียนหยี่สัญญาว่าวันหน้าจะมอบรางวัลและฐานะสูงส่งให้แก่เจ้า “

 

“ เหยียนหยี่ เจ้าถือเป็นตัวอะไรกัน เจ้าคิดว่าตนเองนั้นมาจากรัฐกู่กวอ แล้วจะทำอันใดก็ได้อย่างงั้นหรือ ? เจ้าคิดว่าตนเองเป็นเหมือนดั่งองค์ชายสิบสามถังกู่หรืออย่างไรกัน ? “ มีคนไม่พอใจอย่างที่สุด เอ่ยปากขึ้นมาอย่างเย็นชา “ แค่เพียงเจ้า เกรงว่าคงจะไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะปกป้องเยี่ยจงเพียงคนเดียวได้หรอก ในที่แห่งนี้มีผู้คนมากมายที่คิดจะสังหารเขา เจ้าคุ้มครองเอาไว้ได้งั้นหรือ ? “

 

เหยียนหยี่สีหน้าเปลี่ยนไป จ้องมองไปยังผู้ที่เอ่ยขึ้นมา สีหน้าเย็นชาอย่างถึงที่สุด จากมุมมองของเขาแล้ว ถือได้ว่าเป็นการดูถูกอย่างมาก

 

“ เผ่ามนุษย์ พวกเจ้าหุบปาก พวกเขาไม่มีคุณสมบัติพอที่จะมาแย่งชิงกับข้า จะพวกสวะทั้งกลุ่ม เผ่ามนุษย์เองที่ยากจะเกิดอัจฉริยะขึ้นมาแม้คนหนึ่ง พวกเขากลับคิดที่จะฆ่าสังหารไป พวกเจ้าคิดว่าการทำเช่นนี้มันถูกแล้วงั้นหรือ อ๋องเช่นข้าขอบอกออกมาประโยคหนึ่ง กระทำได้งามยิ่ง ก็เป็นได้เพียงแค่กลุ่มแมงเม่าเท่านั้น อย่าได้สำคัญตนเองผิดไป “ ชายหนุ่มดวงตาสีฟ้าทอประกายเย็นชา เอ่ยวาจาเย้ยหยันขึ้นมา

 

หลังจากเงียบงัน ยอดฝีมือมากมายในเผ่ามนุษย์ก็ได้หน้าเปลี่ยนสีไป ควรทราบว่า การแย่งชิงมากมายท่ามกลางดินแดนซีฮวง ไม่เพียงแต่เป็นการแย่งชิงระหว่างรัฐ การแย่งชิงระหว่างของผู้มีชื่อเสียง ต่อให้เป็นตระกูลอันใหญ่โตก็ยังเกิดการต่อสู้ไม่ขาดสาย ถึงแม้จะกล่าวไป ก็ถือได้ว่าเป็นการวินิจฉัยสถานการณ์ในดินแดนซีฮวง แต่ก็คงจะเป็นเพราะว่าเผ่ามนุษย์นั้นมีอยู่เป็นจำนวนมากจนเกินไป เพียงแต่คงเป็นเพราะความเกี่ยวพันธ์ของพรสวรรค์และสภาวะของเผ่ามนุษย์ คิดที่จะมีการปรากฏขึ้นมาของยอดอัจฉริยะในระดับสูงสุดนั้นถือว่าเป็นไปได้ยาก ไม่ว่าจะเป็นตระกูลของราชวงศ์แต่ละคน ก็เรียกได้ว่ามีเพียงหนึ่งในหมื่นคนเท่านั้น

 

และเยี่ยจงในวันนี้ อีกทั้งยังอยู่ในจุดสูงสุดในตอนนี้ ความจริงแล้วก็ไม่ได้มีความแตกต่างจากเหล่าราชวงศ์อันเยาว์วัย และหากว่าเขาสามารถสำเร็จพลังขั้นก่อเกิดระดับที่เก้า สู่ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายได้ เข้าสู่ขอบเขตในตำนานได้แล้วละก็ เช่นนั้นเกรงว่าเผ่ามนุษย์คงจะพลิกกลับไปยังจุดสูงสุดใหม่ทั้งหมด

 

เพียงแต่ว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ในตอนนี้ต่างก็หัวเราะอย่างเย็นชาติดต่อกัน จากสิ่งที่กล่าวออกมา ยอดอัจฉริยะเผ่ามนุษย์ผู้นี้ ก็ยังถูกเผ่ามนุษย์ด้วยกันดูแคลนจนถึงขั้นนี้ นั้นก็เพราะว่าตลอดหลายวันนี้ที่ไล่ล่าเขานั้น ไม่เพียงมีแค่รัฐกู่กวอ หวังเฉา อีกทั้งยังมีคนที่มีชื่อเสียงของแต่ละฝ่ายอีก

 

ในตอนนี้เมื่อได้ถูกทักขึ้นมา ก็มียอดฝีมือเผ่ามนุษย์ไม่น้อยสีหน้าเปลี่ยนแปลงไป แต่ว่าไม่นานนัก สีหน้าของผู้คนไม่น้อยก็ได้เปลี่ยนเป็นเย็นชา

 

“ มีวาจาไร้สาระมากมายขนาดไหนกัน หลังจากที่ได้ครอบครองหัวใจพสุธาแล้ว คุณชายอย่างข้าคงสามารถเข้าสู่ขั้นก่อเกิดระดับที่เก้าแล้ว อยู่ในขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย กลายเป็นจุดศูนย์กลางของมวลมนุษย์ …… พวกเจ้ามีคุณสมบัติใดมาแย่งชิงกับคุณชายอย่างข้ากัน ? “ เหยียนหยี่กัดฟัน แล้วกล่าวขึ้นมาอย่างเย็นชา เส้นผมสีทองบนศีรษะก็ได้เคลื่อนไหวไปมาด้วยตัวของมันเอง เขาเตรียมพร้อมที่จะลงมือสังหารชายหนุ่มตาสีฟ้าที่กล่าววาจาต่อเขาอยู่ตลอดเวลา

 

“ อ๋อ ? คิดที่จะลงมือกับเหร่ยหงส์หลิงซานงั้นหรือ ? เช่นนั้นข้าก็อยากจะดูหน่อยว่า พวกเจ้ารัฐเหยียน ที่แท้มีความสามารถแค่ไหนกัน “ ชายหนุ่มตาสีฟ้าก็ได้ยิ้มขึ้นมาอย่างเย็นชา ก้าวออกมาอย่างช้าๆ

 

“ เคร่ง “

 

ทันใดนั้นเอง ท่ามกลางสนามก็ได้มีเสียงดังขึ้นมาสายหนึ่ง ทั่วทั้งพื้นที่ที่สงบก็ได้มีเสียงนี้ดังสะท้อนขึ้นมา ผู้คนทั้งหมดต่างก็เกิดความตะลึง วินาทีนั้นเอง ทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้าน ไม่ทราบว่ามีสิ่งมีชีวิตมากมายและยอดฝีมือจ้องมองเข้ามายังบริเวณแห่งนี้ในเวลาเดียวกัน

 

เยี่ยจงรู้สึกอึดอันยิ่ง เขาก็ได้นำเอาเตาหลอมขนาดใหญ่วางไว้บนพื้น เตรียมตัวที่จะนั่งลงไป แต่ก็คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเสียงดังขึ้นมาขนาดนี้

 

ในตอนนี้ก็พบว่ามีผู้คนมากมายจ้องมองไปยังตนเอง เขาหัวเราะเย็นชืดแล้วกล่าว “ ไม่ต้องมาดูข้า ไม่ต้องมาดูข้า พวกเจ้าไปมองทางนั้น อัจฉริยะแห่งรัฐเหยียนกำลังจะสู้กับนายน้อยแห่งเขาเหร่ยหงส์หลิงซาน ถือเป็นการต่อสู้ที่น่าดูยิ่ง หาดูได้ยากเลยนะ ข้าก็แค่คิดที่จะนั่งดูการแสดงก็เท่านั้น พวกเจ้าดู ไม่ได้หลอกพวกเจ้าใช่ไหม “

 

ในช่วงที่กล่าว เยี่ยจงก็ได้นำเม็ดถั่วออกมา จากนั้นก็ได้นั่งลงบนเตาขนาดใหญ่ แลดูสบายอย่างถึงที่สุด

 

“ เอาละ พวกเจ้าสู้กันต่อเถอะ สู้กันต่อ ไม่ต้องสนใจข้า “

 

เยี่ยจงส่งเสียงดังขึ้นมา มีผู้คนไม่น้อยต่างก็นิ่งกลายเป็นหิน โดยเฉพาะเหล่าอัจฉริยะเหล่านี้ แต่ละคนที่ต่างก็มีเส้นผมที่เต็มไปด้วยสีดำ เยี่ยจงผู้นี้ถึงกับทำเหมือนไม่มีเรื่องราวอันใดได้ ในช่วงเวลาเช่นนี้ เขาถึงกับไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย แต่กลับเป็นคนเหล่านี้ที่โดนดูถูก เห็นได้ชัด เมื่อมองจากการกระทำของเขา เขาแทบจะไม่เห็นเหร่ยหงส์หลิงซานและรัฐเหยียนอยู่ในสายตาตั้งแต่แรกแล้ว

 

“ เจ้าหนุ่ม เป็นเจ้าหาที่ตายเองนะ ช่างไม่รู้จักประมาณตน “ ชายหนุ่มตาสีฟ้าหันหน้ากลับมา มองไปทางด้านของเยี่ยจง บนร่างก่อเกิดรังสีสังหารขึ้นมาอย่างรุนแรง

 

“ อย่า อย่าได้เข้าใจผิด ข้าแค่มาดูการแสดง ไม่ได้เกี่ยวอันดับกับข้าจริงๆ “ เยี่ยจงเริ่มที่จะเบื่อหน่าย ในเมื่อมีการแสดงครั้งใหญ่ให้ดูเช่นนี้ คงจะงดงามไม่น้อย ถ้าเกิดว่าถูกตนเองฟาดจนตายก่อน คงจะไม่มีการแสดงให้ดูแล้ว

 

“ ทุกท่าน ยังคงอย่าได้วุ่นวายไปแล้ว เด็กน้อยผู้นี้ไม่ปกติ เขาอย่างน้อยคงจะกลืนกินโอสถปราณอันใดเข้าไป จนฟื้นคืนพลังการต่อสู้ ลงมือสังหารมันพร้อมกันแล้วค่อยว่ากันเรื่องอื่นเถอะ “ มีคนที่เอ่ยขึ้นมาด้วยความเคร่งเครียด คงเป็นเพราะการแสดงออกของเยี่ยจงนั้นพิเศษยิ่ง ไม่ว่าจะมองอย่างไรเขาในตอนนี้ก็ไม่มีความหวาดกลัว สมควรที่จะเป็นการฟื้นคืนพลังกลับมาแล้ว

 

หลังจากที่เงียบงัน ผู้คนมากมายต่างก็ตื่นตกใจ มีผู้คนไม่น้อยต่างก็ตัดสินใจที่จะถอยออกไป นั้นก็เพราะว่ารังสีที่กระจายออกมาจากตัวของเยี่ยจงนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก มีเพียงยอดอัจฉริยะเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่พอจะต้านเอาไว้ได้

 

“ ฟื้นคืนพลังการสู้รบกลับมายังจุดสูงสุดแล้วงั้นหรือ ? ก็ดี จะได้ฟาดเจ้าให้ตายคาที่อย่างชัดเจน ดีกว่าวันหน้าจะมีผู้คนมากล่าวหาว่าคุณชายอย่างข้ารังแกเผ่ามนุษย์ “

 

ชายหนุ่มดวงตาสีฟ้าพยักหน้า จากนั้นเขาก็ได้เดินออกไป วินาทีนั้น ร่างกายของมันราวกับเป็นหนึ่งเดียวกับสายลม กลายเป็นอสรพิษเขียวขนาดใหญ่ สะบัดหางอสรพิษฟาดลงไป คล้ายดั่งสามารถทำลายได้ทุกสิ่งก็มิปาน

 

“ ที่แท้ก็เป็นยอดฝีมือพลังอยู่ในขั้นก่อเกิดระดับที่แปด ขอบเขตชั้นฟ้านี้เอง “

 

“ หากว่าเยี่ยจงฟื้นคืนพลังกลับมาในตอนนี้ อย่างน้อยก็คงจะกลายเป็นการแย่งชิงของมังกรพยัคฆ์แล้ว “

 

“ นายน้อยแห่งเขาเหร่ยหงส์ซานท่านนี้มีความแข็งแกร่งที่ลี้ลับยิ่ง ถึงกับสามารถเป็นยอดอัจฉริยะแห่งเผ่าพันธุ์เทพได้ คงจะน่ากลัวไร้ที่เปรียบ เยี่ยจงต่อให้ฟื้นคืนพลังกลับมา ก็มีพลังอยู่เพียงแค่ระดับขั้นก่อเกิดระดับที่แปดขอบเขตชั้นฟ้าเท่านั้น อย่างน้อยก็ไม่อาจที่จะใช้กำลังต่อกรได้ ข้าไม่เชื่อว่าเขายังสามารถชนะได้อีก “

 

มีผู้คนไม่น้อยที่หัวเราะอย่างเย็นชา ต่างก็จ้องมองไปยังฉากเบื้องหน้า มองดูจนคล้ายกับมีหางสะบัดไปมา

 

และเยี่ยจงก็ได้ค่อยๆลุกขึ้นมา จากนั้นเขาก็ได้ใช้มือจับไปที่เตาหลอมใหญ่ที่พึ่งนั่งลง แล้วก็ได้ขวางออกไป

.

.

.

.

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 4/5/6/7/8 ราคา 450
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610

กลุ่ม8 https://goo.gl/Uzqf2x ตอนที่ 611-690 ล่าสุด654 Update 13/06/18

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset