เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 299 เด็กหนุ่มราชาแห่งมาร

ตอนที่ 299 เด็กหนุ่มราชาแห่งมาร

 

 

ด้านนอกของป่าเขา ยอดฝีมือกลุ่มใหญ่ก็ได้เร่งรีบเข้ามาในตอนนี้ พวกเขาต่างก็มุ่งหน้าเพื่อมาทางด้านเยี่ยจง แต่ว่า ตอนนี้พวกเขาขณะที่พวกเขากำลังเข้าสู่ภายในป่าเขา ทุกผู้คนต่างก็อ้าปากตาค้าง แทบจะมองไม่ออกว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

 

ในตอนนี้ ยอดฝีมือชุดใหญ่ท่ามกลางป่าเขาก็ได้หลบหนีออกมา ร่ำร้องเสียงโหยหวน ดุจดั่งเจอผีก็มิปาน คล่ำครวญอย่างถึงที่สุด

 

ฉากนี้เป็นอะไรไปกัน ? พวกเขามิใช่มาเพื่อสังหารเยี่ยจงหรอกหรือ ? ทำไมถึงได้กลายเป็นเช่นนี้ได้

 

“ หนี หนีเร็ว อย่าได้หยุด เด็กน้อยนั้นเป็นราชาแห่งมาร เป็นเด็กหนุ่มราชาแห่งมาร หนีเร็ว “ เมื่อพบเจอกับยอดฝีมือที่กำลังวิ่งหนีออกมา เขาในตอนนี้ก็มีโลหิตอยู่เต็มร่าง มุ่งหน้าไปยังทางด้านขุมกำลังที่คุ้นเคยแล้วตะโกนออกมา

 

“ นี้ เป็นไปไม่ได้หรอก ? พวกเจ้ามีคนตั้งมากมายกลับไม่อาจที่จะทำอะไรกับสวะตะเกียงไร้น้ำมันได้งั้นหรือ ? พวกเจ้าเล่นตลกอะไรกัน ? “ ยอดฝีมือที่พึ่งจะมาถึงมากมายต่างก็ไม่เชื่อ เยี่ยจงเพียงแค่คนเดียว ต่อให้อยู่ในสภาวะที่สมบูรณ์ เขาจะจัดการกับคนมากมายขนาดนี้ได้อย่างไร ?

 

เพียงแต่ว่า คนอื่นๆในตอนนี้ต่างก็ไม่ตอบกลับมา พวกเขาต่างก็พุ่งทะยานหนีเอาชีวิตรอด มุ่งหน้าไปทางด้านของผู้ที่มาใหม่เหล่านั้นแล้วก็พุ่งทะลวงออกไป ในขณะนี้ก็ยังไม่คิดที่จะหยุดลง

 

จากนั้น เยี่ยจงในชุดคลุมสีขาวก็ได้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง เขาโบกมือขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ พลังเซียนเจ็ดสีก็ได้ฆ่าสังหารออกไป พลังกดดันอันน่ากลัวนี้ก็ได้กดทับลงไป ยอดฝีมือเหล่านี้เรียกได้ว่ามีการตอบสนองกลับมาได้ไม่ทัน ก็ได้แตกระเบิดไปในทันที กลายเป็นเพียงกองเลือด

 

ง่ายดายและตรงไปตรงมา ในขณะนี้ เยี่ยจงก็มิได้กล่าววาจาไร้สาระออกมามากมาย สิ่งที่เขาพึงกระทำ ก็คือการฆ่าฆ่าฆ่า ในเมื่อยอดฝีมือในบริเวณสถานที่แห่งนี้ โดยส่วนมากแล้วก็มาเพื่อที่จะสังหารเขา ในเมื่ออีกฝ่ายมีความคิดที่จะฆ่า เช่นนั้นเขาก็จะเกรงใจได้งั้นหรือ ? ฆ่ากลับไปก็ใช่แล้ว

 

“ บัดซบ “ ยอดฝีมือที่มาใหม่ต่างก็ไม่ยอมรับ ลงมือในทันที แต่ว่าไม่นานนัก คนที่ออกหน้าทั้งหายก็ได้ถูกพลังดัชนีของเยี่ยจง จนร่างกายแตกระเบิดออกท่ามกลางอากาศ

 

ไม่นานนัก ความจริงที่มีคนหยุดลงในตอนแรกก็ได้มีการตอบสนองกลับมา พวกเขาก็ได้เข้าใจแล้วว่า เพราะอะไรผู้คนเหล่านี้ถึงได้หลบหนีอย่างไม่คิดชีวิต นั้นก็เพราะว่าเยี่ยจงผู้นี้น่าหวาดกลัวจนเกินไปแล้ว

 

“ ตูม “

 

ยอดมือที่ถอยหนีไปเป็นสาย มุ่งหน้าถอยไปยังทั้งสี่ทิศแปดด้าน เยี่ยจงก็ไม่เร่งไม่รีบตามอยู่ทาด้านหลังของเขา แล้วก็ฟาดมือลงไป ฆ่าสังหารเหล่ายอดฝีมือไปไม่หยุด

 

โลหิตและเศษเนื้อ เกลื่อนกลาดอยู่ตามทาง จนในที่สุด ยอดฝีมือส่วนใหญ่ต่างก็ได้ออกไปนอกป่าเขา และเสี่ยวหลุนก็ได้ตกใจขึ้นมาเล็กน้อย มันก็ได้กลับไปยังติ่งหูของเยี่ยจง คล้ายกับกำลังอิ่มมาก ทั้งยังนำแหวนจักรวาลมาให้เยี่ยจงเป็นจำนวนมหาศาล

 

“ กินพอแล้วหรือยัง ? “ สายตาที่ดุดันจ้องมองไปยังทางด้านหน้า เยี่ยจงก็ได้เอ่ยปากขึ้นมา “ ถ้าหากยังไม่พอ พวกเราก็มาต่อกันเถอะ “

 

“ พอแล้ว พอแล้ว ถ้ายังต้องกลืนลงไปอีกข้าคงต้องระเบิดแล้ว “ เสี่ยวหลุนหลังจากที่เอ่ยปากขึ้นมาคล้ายกับหวาดกลัวขึ้นมาหลายส่วน เรียกได้ว่ามันในวันนี้ได้กลืนกินสมบัติเซียนไปมากมายจริงๆ กล่าวได้ว่า มันได้กลืนกินสมบัติเซียนไปนั้นเปรียบได้ดุจดั่งภูเขาลูกเล็กเลยก็ว่าได้ ถึงแม้ว่ามันจะมีที่มาลึกลับ แต่ว่าก็ไม่สามารถที่จะกลืนกินลงไปได้อีกแล้ว

 

“ น่าเสียดาย “ เยี่ยจงกล่าวออกมาเสียงดัง ถ้าไม่มีเสี่ยวหลุนคอยช่วยเหลือ ถึงแม้เขาจะสามารถจัดการกับผู้คนมากมาย แต่ว่าก็ใช่ว่าจะสามารถควบคุมระดับความเร็วของพวกเขาได้

 

“ น่าเสียดาย หลังจบการต่อสู้นี้แล้ว ข้าว่าคงจะไม่มีผู้ใดกล้าที่จะมาหาเรื่องเจ้าเองอีกแล้ว อีกทั้ง เมื่อกี้ข้าก็ค่อยสังเกตเห็นว่า กลุ่มที่ไล่ล่าพวกเราจากฟ้าจรดดินเมื่อหลายวันก่อน โดยส่วนต่างก็ถูกจัดการไปแล้ว พวกที่หนีรอดไปได้เหล่านั้น วันหน้าพวกเราค่อยจัดการอีกที ……. อีกอย่างในตอนนี้ ก็มีอยู่มากเกินไป อีกทั้งพวกเรายังไม่ได้มีความสนใจมากมายถึงขนาดนั้น หรือจะพอแค่นี้ก่อนดี “ เสี่ยวหลุนส่งเสียงออกมาเบาๆ คนเหล่านี้ที่เหลืออยู่ในตอนนี้ เรียกได้ว่ายังมีอยู่มากมาย หากว่าต้องกวาดล้างไปทั้งหมดจริงแล้วละก็ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่ว่าอย่างน้อยก็ทำให้เยี่ยจงสูญเสียพลังไปได้ไม่น้อย

 

เยี่ยจงพยักหน้าอย่างช้าๆ มองออกไปทางด้านหน้า ในตอนนี้สายตาที่มองไปทางด้านหน้าก็สงบนิ่งอย่างถึงที่สุด ไม่มีอะไรปิดกั้นเอาไว้ได้ เด็กน้อยเหล่านี้คิดที่จะหลบหนีแล้วละก็ ถ้าเกิดยังต้องไล่ล่าต่อไปคงจะยากกว่าเดิมอยู่หลายส่วน

 

เมื่อพบเห็นเยี่ยจงยืนอยู่ที่บริเวณสุดทางของป่าเขา ทั้งมิได้ไล่ล่าต่อ คนที่หลบหนีออกมาได้ไม่น้อยต่างก็มีความรู้สึกเหมือนกับได้เกิดใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มที่ถูกเยี่ยจงไล่ล่ามาตั้งแต่แรก ก็เกิดความยินดีจนโลดเต้นขึ้นมาภายในใจ ในตอนนี้ร่างกายของแต่ละคนต่างก็ชุมไปด้วยเหงื่อเย็น แม้แต่สายตาที่มองไปทางด้านของเยี่ยจงก็ยังมิอาจที่จะทำได้ นั้นก็เพราะว่าเยี่ยจงในตอนนี้ทั้งแข็งแกร่งและน่าหวาดกลัว ด้วยพลังเพียงหนึ่งเดียว กลับสามารถสังหารผู้คนจนกลายเป็นศพได้นับร้อยจนถึงพัน ฉากเบื้องหน้านี้ก็ช่างน่าหวาดกลัวจนเกิดไปแล้ว จนทำให้ผู้คนทั้งหมดจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

 

นับจากโบราณกาลจวบจนวันนี้ เกรงว่าคงจะไม่มีผู้ใดที่จะมีความสามารถตั้งแต่เยาว์วัย ในการเข้าสู่พลังขั้นก่อเกิดระดับที่เก้าได้เช่นนี้ อีกทั้งยังสังหารผู้คนไม่มากมายอีกด้วย

 

“ เยี่ยจงยังไม่ตาย ไม่เพียงแต่ยังไม่ตาย ทั้งยังไม่ใช่ตะเกียงที่ไร้น้ำมัน อีกทั้งเขายังทะลวงเข้าสู่พลังขั้นก่อเกิดระดับที่เก้าได้สำเร็จ เข้าสู่ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย “

 

“ ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย มันไม่ใช่สิ่งที่จะคิดเอาไว้ได้เลย ความนากลัวจนถึงตอนนี้ ภายในสมรภูมิฮวงกู้นี้ คงจะมีแค่บุคคลลึกลับผู้นั้นเท่านั้นจึงะสามารถจัดการกับเขาได้แล้วกระมั่ง ? ความน่าหวาดกลัวของเด็กน้อยผู้นี้ ภายใต้สถานการณ์ที่กำลังถูกไล่ล่า ยังถึงกับทะลวงขีดจำกัดได้สำเร็จอีกงั้นหรือ ? “

 

“ นั้นก็เป็นเพราะว่าได้ถูกผู้คนไล่ล่าจากฟ้าจรดดิน ดังนั้นเมื่อครู่ในช่วงที่ได้ลงมือ เขาจึงแทบจะไม่มีการยั้งมือไว้ไมตรีเลย พวกเราต่างก็ตายตกลงอย่างวุ่นวาย พวกเจ้าที่ไม่เห็นฉากที่เกิดขึ้นนั้น ที่ทั้งผืนฟ้าเต็มไปด้วยโลหิต ซากศพไม่ครบ …… “คนที่เอ่ยปากขึ้นมานึกถึงฉากที่เกิดขึ้นนั้น ร่างกายก็ได้สั่นเทาขึ้นมา

 

คิดที่จะกลับไปในตอนนี้ เมื่อครู่ที่ถูกเยี่ยจงจัดการกดดันมานั้น ที่แท้ได้มียอดฝีมือและอัจฉริยะตายไปมากน้อยเท่าใดกัน ? จำนวนนั้นในตอนนี้คงยากที่จะนับออกมาได้แล้ว เพียงกล่าวได้ว่า ขุมกำลังที่คอยไล่ล่าพวกเขาอยู่นั้น ในตอนนี้ต่างก็ได้ตายตกลงไปแล้ว คนที่เข้ามายังสมรภูมิฮวงกู่กว่าครึ่ง คงมีอยู่ไม่กี่คนเท่านั้นที่เหลือรอดมาได้

 

“ เจ้ากลุ่มพวกสวะ ถึงกับถูกคนเพียงคนเดียวไล่ล่าจากฟ้าจรดดิน ทั้งยังไม่มีความกล้าที่จะลงมือกลับไป “ ยอดฝีมือกลุ่มหนึ่งออกมาจากทางด้านหลัง คนที่เป็นผู้นำนั้นกลับเป็นเด็กชายอายุเจ็ดแปดปี ในตอนนี้ก็ได้จ้องมองไปที่เยี่ยจง ภายในดวงตาเต็มเปี่ยมด้วยด้วยความกังวล แต่ว่าที่มากไปกว่านั้นก็คือความชิงชัง

 

“ เป็นเจ้า “ ทางด้านข้างของป่าเขา สายตาของเยี่ยจงก็ได้ขยับไปมา มองไปจนเห็นคนม้ากลุ่มหนึ่ง บนใบหน้าของเขาก็ได้ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา ที่แท้คนกลุ่มนี้ก็คือนกฮวางเชวียนนั้นเอง ในตอนนี้พวกเขาก็ได้รวมกลุ่มเข้าด้วยกัน ดูแล้วแข็งแกร่งจนน่ากลัว

 

ทันใดนั้นเอง เยี่ยจงก็ได้ขยับร่างกาย ก้าวออกไปหนึ่งก้าว เห็นๆอยู่ว่าเป็นเพียงแค่ก้าวเดียว แต่กลับไปถึงยังบริเวณทางด้านหน้าของนกฮวางเชวียน จากนั้นก็ได้ฟาดไปหนึ่งฝ่ามือ วินาทีนั้นก็ได้ยินเสียง”ปึกปึก”ดังติดต่อกัน ยอดฝีมือที่นกฮวางเชวียนรวบรวมมาต่างก็ล้มลง จนท้ายที่สุดมีแต่เพียงทารกที่มีอายุคล้ายกับเจ็ดแปดปีก็มิปานยังคงยืนอยู่ มันอ้าปากตาค้าง แทบจะไม่มีปฏิกิริยากลับมาได้ทัน

 

“ เจ้ารู้หรือไม่ว่าทำไมข้าหรือไม่ฆ่าเจ้า ? “ เยี่ยจงเหม่อมองไปยังนกฮวางเชวียนที่อ้าปากตาค้าง แล้วก็ยิ้มขึ้นมาเบาๆ

 

นกฮวางเชวียนกรอกตาไปมา แต่ก็ได้ตัดสินใจที่จะส่ายหน้าไปมา มันถึงแม้จะได้รับข่าวสารมา แต่ว่าก็ไม่ถือได้ว่าสมบูรณ์ คิดไม่ถึงว่าเยี่ยจงไม่เพียงแต่สามารถฟื้นฟูพลังกลับมาได้ ทั้งยังมีพลังในระดับนี้ เข้าสู่ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย ท่ามกลางสมรภูมิฮวงกู่นี้ ยากที่จะหาคนที่สามารถต่อกรด้วยได้อีกแล้วหหหหหห

 

“ นั้นก็เพราะว่าข้านั้นมีความสนใจในชีวิตที่เรียกได้ว่าเป็นเผ่าพันธุ์เทพของพวกเจ้าไง เจ้าได้เตรียมที่จะคายออกมาเอง หรือจะให้ข้าล้วงบังคับเจ้ากัน ? “ เยี่ยจงอมยิ้ม คำพูดที่กล่าวออกมาก็ได้ทำให้นกฮวางเชวียนร่างกายสั่นเทาขึ้นมา เยี่ยจงในตอนนี้ที่แท้มีความน่าหวาดเกรงถึงระดับใดกัน ถึงกับสามารถพูดคำพูดแช่นนี้ออกมาได้

 

“ เจ้าฝันไปเถอะ “ นกฮวางเชวียนจ้องเขม็งไปที่เยี่ยจง ทันใดนั้นเอง กำลังภายในของมันก็ได้มีเสียงดังขึ้นมา ทั่วทั้งร่างกายก็ได้เกิดอาการเจ็บปวดขึ้นมาจนลงไปกองกับพื้น เมื่อพบเห็นฉากเบื้องหน้า เยี่ยจงก็ยกมุมปากขึ้น แต่ก็มิได้กล่าวอันใดมากมาย

 

ยอดฝีมือที่มองอยู่ต่างก็ตกใจ พลังความแข็งแกร่งในระดับนี้ คำพูดเพียงไม่กี่คำก็สามารถที่จะจัดการกับยอดอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งเผ่าพันธุ์ได้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาก็ทราบดี หากว่าต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ในมือเยี่ยจงแล้วละก็ เช่นนั้นสู้ตายไปยังดีกว่ามีชีวิตอยู่

 

“ ใช่แล้ว ความจริงแล้วก็อย่ามองข้าแบบนั้น ข้าก็ถือเป็นคนดีคนหนึ่งเหมือนกัน นอกเสียจากว่าจะมีคนลงมือต่อข้า พวกเจ้าก็เห็น ข้ายังไม่ได้ฆ่าไปเลยแม้แต่คนเดียว ? “ หลังจากที่มองไปยังศพของนกฮวางเชวียน สายตาของเยี่ยจงก็ได้กวาดไปออกไปท่ามกลางสถานที่แห่งนี้ ในสถานที่แห่งนี้มียอดฝีมือนับพันหมื่นที่กำลังอยู่ในอาการตกใจ ไม่กล้าที่จะสบตามองกับเขา

 

“ พวกเจ้าในเมื่อมารวมตัวกันเช่นนี้แล้ว คิดที่จะทำอะไร ข้าถึงแม้จะทราบดี ทว่า ข้าก็ไม่คิดที่จะทำการฆ่าล้างสังหารหรอกนะ ……. พวกเจ้าขอเพียงสามารถสังหารผู้คนที่คิดจะฆ่าข้า แค่เพียงคนเดียวเท่านั้น แล้วเอาศพของพวกเขาโยนมาทางด้านนี้ เช่นนั้นพวกเจ้าก็จะสามารถจากไปได้ ……. พวกเจ้าว่า ข้อเสนอนี้ไม่เลวเลยใช่ไหม ? “ เยี่ยจงยิ้มขึ้นเบาๆ เสียงที่ดังออกมาสะท้อนออกไป จนทำให้ผู้คนร่างกายหนาสั่นขึ้น เห็นได้ชัดว่า เยี่ยจงคิดที่จะปกปิดสิ่งที่เกิดขึ้นมาในสถานที่แห่งนี้ ถ้าหากมียอดฝีมือลงมือลงไปจริงแล้วละก็ วันข้างหน้าก็ไม่อาจที่จะชำระล้างได้ ผู้ใดก็คงจะไม่เชื่อใจ ว่าเยี่ยจงสามารถฆ่าคนไปได้มากมายถึงเพียงนี้

 

“ แน่นอน พวกเจ้าก็สามารถลงมือ เพียงแต่ว่า การฆ่าพวกเจ้าทั้งกลุ่มนั้นถึงแม้จะสิ้นเปลืองพลังไปมาก แต่ว่าข้าก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้ ในข้อนี้ พวกเจ้าย่อมทราบกันดีอยู่แล้ว “ เยี่ยจงยังคงยิ้มเบาๆ แต่ว่าในตอนนี้รอยยิ้มของเขาก็ได้ตกเป็นเป้าสายตาของยอดฝีมือมากมาย ดุจดั่งกำลังมองมารโฉดก็มิปาน

 

“ พวกเราหนีไปด้วยกัน ข้าไม่เชื่อว่า เขายังสามารถทำเช่นไรกับพวกเราได้จริง “ มีคนที่กัดฟันไปมา จากนั้นก็ได้ถอยไปไม่หยุด

 

“ เปรี้ยง “

 

เยี่ยจงเพียงสะบัดนิ้วมือออกไป ก็ได้พบว่าผู้ที่เอ่ยปากขึ้นมาร่างแตกกระจาย กลายเป็นเพียงเศษโลหิตกระจายออกมาในทันที เปรอะเปื้อนไปยังผู้คนรอบข้าง

 

หลังจากที่เคลื่อนไหวเช่นนี้เสร็จ เยี่ยจงก็มือไพร่หลัง ใครลงมือก่อนย่อมได้เปรียบ บนร่างของเขานั้นไม่มีคราบโลหิตแม้เพียงหยดเดียว อีกทั้งยังไม่มีแม้แต่ฝุ่นผง เขาอมยิ้มจ้องมองไปยังฉากเบื้องหน้า สงบนิ่งอย่างถึงที่สุด

 

“ ฆ่า “

 

จนกระทั่งมีคนที่ไม่อาจที่จะทนรับบรรยากาศเช่นนี้ได้ พวกเขาก็ได้ลงมือในทันที ฆ่ายอดฝีมือที่อยู่ทางด้านข้าง เมื่อมีคนหนึ่งเริ่มลงมือ ก็จะมีคนลงมืออีกนับหมื่น เพียงแต่ว่าวินาทีนั้นเอง ทั่วทั้งสถานที่แห่งนี้ก็ได้เปลี่ยนจนเต็มไปด้วยโลหิต ชั่วเวลาเพียงแค่หนึ่งชั่วน้ำเดือด อย่างน้อยก็มีหนึ่งในสามคนที่ตายลง แต่ว่าที่คนที่เหลืออยู่ต่างก็ยังคงฆ่าฟันด้วยดวงตาที่แดงซ่าน มิได้หยุดมือลง

 

“ เป็นการลงมือที่ดี “ เมื่อมองไปยังฉากเบื้องหน้า เสี่ยวหลุนก็มิได้พูดอันใด จากนั้นก็ถอนหายใจ การลงมือของเยี่ยจงนี้เมื่อเทียบกับที่ตนเองลงมือลงไปยังเรียกได้ว่าโหดเหี้ยมยิ่งกว่า

 

เยี่ยจงหัวเราะขึ้นมา เหม่อมองไปยังฉากเบื้องหน้าสายตา สีหน้ามิได้มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ คนเหล่านี้ในเมื่อต้องการที่จะให้เขาตาย ความคิดเช่นนี้ที่มีต่อเขา เช่นนั้นในตอนนี้เขาก็ต้องให้คนเหล่านี้ตาย ก็มิใช่เรื่องที่ผิดอันใด

 

ทันใดนั้น เยี่ยจงก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไป ออกไปยังอีกทางด้านหนึ่ง เขาอยู่ในที่แห่งนี้เหมือนกับมีบรรยากาศอันคุ้นเคยอยู่

.

.

.

.

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 4/5/6/7/8 ราคา 450
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610

กลุ่ม8 https://goo.gl/Uzqf2x ตอนที่ 611-690 ล่าสุด672 Update 20/06/18

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset