เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 379 ศิลา

ตอนที่ 379 ศิลา

 

อาณาจักรไฟนั้นมีความเก่าแก่และเจิดจรัสอย่างยิ่ง ใหญ่โตเต็มสิบส่วน กินอาณาบริเวณกว้างใหญ่ไพศาล มีการคงอยู่มาอย่างยาวนานนับสิบรุ่นสมัย กล่าวกันว่าเป็นผู้ที่มาจากรัฐเพลิงไฟที่มีอยู่มาอย่างยาวนานนับหมื่นปี อาณาจักรไฟยังไม่เคยสูญสิ้นมาก่อนเสียด้วยซ้ำไป จริงได้มีความรุ่งโรจไม่ขาดสาย

 

ตัวอาณาจักรของรัฐไฟที่ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเก้ารัฐใหญ่โบราณ มีการคงอยู่มาอย่างยาวนาน อยู่นอกเหนือจากความธรรมดาสามัญทั้งปวง แล้วก็ได้มีคำนานเล่าขานในตัวของมันเองอยู่ไม่น้อย

 

ตอนนี้ ยอดฝีมือรุ่นเยาว์ที่ได้มาจากทั้งสี่ดินแดนก็ได้รวมตัวกันอยู่ที่อาณาจักรไฟ จนมีเสียงของคนปกคลุมอยู่ไปทั่ว เป็นเป้าหมายการของผู้คน นั้นก็เพราะว่ากล่าวกันโดยส่วนมาก ยอดฝีมือที่มาต่างก็มาจากทั้งสามดินแดนตงฮวง เป่ยฮวง หนานฮวงเป็นต้น อีกทั้งยังจ่ายค่าตอบแทนไปไม่น้อย แต่ว่าในตอนนี้พวกเขาก็มาเพื่อเยี่ยจงเท่านั้น เรียกได้ว่าน่าตื่นใจเป็นอย่างยิ่ง

 

“ช่างน่าเสียดายจริงๆ ต่างก็กล่าวกันว่าเยี่ยจงนั้นอยู่เกินกว่าธรรมดาสามัญไปมาก ฆ่าสังหารองค์ชายสิบสามตระกูลถัง เข้าสู้ศึกกับยอดฝีมือราชันทั้งสามพร้อมกัน ไร้ผู้ต้านในแดนเทพ สังหารอัจฉริยะไปนับสิบ ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ใดก็ถือได้ว่า เป็นที่น่าตกใจยิ่งนัก……แต่ว่ามาจนถึงตอนนี้ พวกเราต่างก็ยังมิอาจที่จะพบเจอกับเยี่ยจง ดินแดนซีฮวงนี้มีบุคคลที่ยอดเยี่ยมได้ถึงเพียงนั้นเชียวงั้นหรือ ? คงมิใช่เป็นเพียงแค่ข่าวลือเท่านั้นหรอกนะ ? ”

 

เหล่ายอดฝีมือรุ่นเยาว์ที่มาจากภายนอกของดินแดนต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กัน การมาของพวกเขาต่างก็มาเพราะคำเล่าขานของสุดยอดรุ่นเยาว์เยี่ยจง แต่ว่าผลสุดท้ายตลอดหลายวันมานี้ ต่างก็กลับไม่อาจที่จะสามารถพบเจอกับบุคคลที่ถูกเล่าขานผู้นั้น สามารถกล่าวได้ว่าผิดหวังเป็นอย่างมาก

 

“คงมิใช่เพราะว่าได้ยินการมาของพวกเราที่มาจากต่างแดน เด็กน้อยผู้นั้นก็ได้ซุกหัวกลับไปแล้วหรอกนะ ? ก่อนหน้านี้ข้าเคยได้ยินมาว่า ดินแดนซีฮวงเปรียบเสมือนดั่งลำธารที่ตายไปแล้ว หลายปีมานี้ไม่มีการปรากฏของผู้เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ จากที่ดูในวันนี้ คาดว่าคงจะเป็นความจริงเช่นนั้นแล้ว ! ”มีคนหัวเราะออกมายกใหญ่ ทั้งยังแฝงไว้ด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน ด้วยท่าทีที่สูงส่ง ทอดตามองไปทั่วทั้งดินแดนซีฮวง

 

หลังจากที่เงียบงัน ยอดฝีมือตลอดรายทางไม่นอนของอาณาจักรไฟต่างก็กำลังจ้องมองพวกเขาด้วยสายตาที่ชิงชัง แต่ว่ากลับไม่มีผู้ใดคิดที่จะลงมือ นั้นก็เพราะว่า คนที่สามารถอยู่ในอาณาจักรไฟแห่งนี้ได้ต่างก็ทราบกันเป็นอย่างดี ยอดฝีมือเหล่านั้นที่มาจากดินแดนภายนอกในเมื่อถึงกลับหาญกล้ากล่าวออกมาเช่นนี้ เช่นนั้นก็ย่อมต้องมีความเชื่อมั่นในพลังฝีมือของตนเองอย่างเต็มเปี่ยม ไม่มีคนใดที่จะยินยอมที่จะเสาะหาความยุ่งยากที่ไม่ทราบถึงเส้นสายกลในเช่นนี้อย่างแน่นอน

 

หลังจากที่เยี่ยจงมองไปยังคนเหล่านี้ จากนั้นก็ได้ยิ้มเยาะออกมาแล้วจากออกไป มิได้มีความสนใจมากมายนัก เพียงแต่พยายามที่จะสืบข่าวและเดินเล่นอยู่ภายในอาณาจักรไฟด้วยความเพลิดเพลิน

 

อาณาจักรไฟไม่แต่เพียงขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในอาณาจักรใหญ่แห่งดินแดนซีฮวง อีกทั้งยังมีร้านค้าที่มีนามเลื่องลือ ซึ่งเป็นร้านค้าโบราณที่มีอายุมานานไม่น้อยกว่าพันปี ด้านในนั้นก็ได้ตั้งขายเอาไว้ด้วยโอสถปราณ สมบัติปราณเป็นต้น อีกทั้งคุณภาพยังจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่สูงล้ำ ผู้ฝึกยุทธ์ต่างก็มีการเข้าๆออกในสถานที่แห่งนี้อย่างมากมาย เพื่อที่จะเลือกซื้อสิ่งของ

 

เยี่ยจงเดินเล่นอย่างสบาย ทั้งยังมีท่าทางที่ผ่อนคลายชนิดอยู่ เพราะว่ากล่าวไปตามจริงแล้ว สิ่งของเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของใดแล้ว ต่างก็ไม่อยู่ในสายตาของเขาอยู่แล้ว

 

เพียงแต่ว่า อาจจะเพื่อที่จะเข้ามาดูสิ่งของเหล่านี้ เพื่อที่จะได้เปิดโลกทัศน์ ก็ถือได้ว่ามีส่วนช่วยในการฝึกยุทธ์ในทางที่ดีในอีกแบบหนึ่ง

 

“อืม ? ”

 

ในช่วงเวลาที่เมื่อเดินเข้ามาถึงยังส่วนที่ขายวัถตุดิบนานาชนิดของร้านค้า เสี่ยวก็ได้สั่นไหวขึ้นมาเล็กน้อย ส่งเสียงเข้าไปยังภายในจิตใจ เยี่ยจงกวาดสายตามองเข้าไปอย่างรวดเร็ว สีหน้าทอประกายประหลาดออกมาเป็นสาย

 

ร้านขายของนี้ถือได้ว่ามีสิ่งของที่ไม่ธรรมดาอย่างถึงที่สุด แต่ว่า ตอนนี้เยี่ยจงกลับให้ความสนใจไปที่ศีรษะราชสีสีเทาชิ้นหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด มีขนาดประมาณเท่าหัวของมนุษย์ ดูไปแล้วมิได้มีความแปลกประหลาดอันใด แต่ว่าเสี่ยวหลุนนั้นกลับสารยายประโยชน์จนทำให้เยี่ยจงเข้าใจออกมาอย่างกระจ่าง ว่าสิ่งของชิ้นนี้มีดีอันใด

 

“เจ้าเด็กน้อย คิดที่จะหลอมอุปกรณ์อย่างงั้นหรือ ? สิ่งของของข้าผู้ชราในที่แห่งนี้ถึงแม้จะมิใช่ของที่ดีมากนัก แต่ทว่าก็ต่างก็มีอยู่มากมายที่มิได้ด้อยนัก มามามา เจ้าลองดูเหล็กมังกรชิ้นนี้ นี้สามารถกล่าวได้ว่าเป็นสิ่งของที่สกัดออกมาจากโลหิตของมังกรเชียวนะ มีค่ามากอย่างถึงที่สุด ใช้ไว้เพื่อการหล่อหลอมอุปกรณ์โดยเฉพาะ มีพลังทำลายที่ไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง……แล้วก็ยังมีนี้ นี้ก็คือแกนกระดูกแท้จริง ที่ได้มาจากปีศาจดุร้ายที่อยู่ที่เขตชายแดน ความจริงถ้านำเป็นสร้างเป็นอาวุธมีคมก็ถือได้ว่าไม่เลวเลยละ ”ทันใดนั้นก็ได้มีตาเฒ่าผมขาวโพนผู้ดูแลร้านค้าผู้หนึ่ง ในตอนที่เขามองเห็นว่ามีคนเดินเข้ามายังร้าน ก็ได้สารยายแนะนำคุณประโยชน์อย่างแข็งขัน

 

เยี่ยจงจดจ้องไปบนสิ่งของที่ชายชราแนะนำมา แล้วก็ได้กรอกนัยน์ตาไปมาเบาๆ ด้วยสายตาอันกล้าแข็งของเขาย่อมต้องมองออกว่า สิ่งของเหล่านี้ ต่างก็ถือได้ว่าเป็นวัตถุดิบที่มีคุณภาพเพียงเศษเสี้ยวเท่านั้น กล่าวอย่างง่ายดายก็คือ เป็นเพียงแค่สิ่งของที่หลงเหลือจากการหล่อหลอมของคนก่อนหน้าหลงเหลือเอาไว้ แต่ว่าชายชราผู้นี้ยังถึงกลับแนะนำสารยายไม่รู้จบ เห็นได้ชัดว่าได้เตรียมที่จะเอาเปรียบอย่างแน่นอน

 

นี้ได้ทำให้เยี่ยจงไร้คำพูดจะกล่าวออกมาอย่างเต็มสิบส่วน ถ้าหากมิใช่เสี่ยวหลุนมีความเสนาะสนใจในศิลาชิ้นนี้แล้วละก็ เขาในตอนนี้ก็คงจะหันกายจากไปแล้ว

 

ราวกับสัมผัสได้ว่าเยี่ยจงคิดที่จะจากไป เสี่ยวหลุนก็ได้รีบส่งเสียงออกมาอย่างรวดเร็ว กล่าวอย่างร้อนรนว่า “ข้าต้องการหินศิลาชิ้นนั้น สามารถนำมาใช้แทนสมบัติเซียนสิบชิ้นได้เลยเชียวนะ ขอเพียงเจ้าช่วยให้ข้าครอบครองมาอยู่ในกำมือได้ เจ้าก็ไม่ต้องติดค้างอะไรต่อข้าอีก ”

 

“นี้ ที่แท้คือสิ่งของใดกัน ”ทันใดนั้นเยี่ยจงก็ได้เกิดความสงสัยขึ้นมา คิดไม่ถึงว่าสิ่งของที่อยู่ตามร้านรวงชนิดนี้ เจ้าเด็กน้อยเสี่ยวหลุนนี้ยังถึงกับให้ความสำคัญได้ถึงเพียงนี้

 

ต่อมา ที่ด้านข้างเยี่ยจง ในจุดที่เฒ่าชราสาดส่องดวงตาสีขาวเข้าไป ที่กองเอาไว้อย่างระเกะระกะอยู่ตรงหัวมุม แน่นอนว่า สิ่งของเหล่านี้โดยส่วนมากแล้วมิได้มีประโยชน์อันใด เยี่ยจงก็เข้าเข้าไปเลือกหินสีดำคล้ำชิ้นนั้นมาไว้อยู่บริเวณด้านหน้าของตนเอง จึงได้ยื่นมือนำเอาหินปราณระดับสูงออกมาทั้งหมดสิบเม็ด กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ผู้ดูแลร้าน นี้พอแล้วหรือยัง ? ”

 

ผู้ดูแลร้านเกิดความสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย ความจริงยังคิดว่ายังพอที่จะสามารถจัดการได้เหมือนดั่งลูกกระต่ายน้อยตัวหนึ่ง แต่ว่าในตอนนี่กลับพบเห็นความเคลื่อนไหวของเยี่ยจง หลังจากที่เขาลังเลแล้ว จึงได้เผยรอยยิ้มออกมาแล้วกล่าว “พอแล้ว พอแล้ว ! ”

 

วัสดุหล่อหลอมเหล่านี้ต่างก็เป็นระดับปลายแถว แทบจะมิได้มีราคาคางวดอันใด ในเมื่อมีคนต้องการแล้ว ผู้ดูแลร้านย่อมไม่อาจที่จะไม่ขาย

 

“ขอบใจนะ ”เยี่ยจงยิ้มขึ้นมาเบาๆ จากนั้นเขาก็ได้ยกศิลาชิ้นนั้นขึ้นมารับเอาไว้ ก้าวนาวๆเดินจากไป ขณะนั้นเองก็ได้หายวับไปจากหัวมุมถนน

 

ผู้ดูแลร้านเหม่อมองไปยังฉากเบื้องหน้าด้วยความงุนงง หลัวจากนั้น เขาจึงได้ค่อยมีปฏิกิริยากลับมา ร้องโอ๊ยออกมาเสียงหนึ่ง เห็นได้ชัดว่า ในครั้งนี้เขาได้ถูกคนหลอกเข้าแล้ว เห็นอยู่ตำตาว่าไม่ว่าจะดูยังไง สีดำคล้ำชิ้นนั้นที่เยี่ยจงเอาไปมีราคาสูงล้ำถึงเพียงใด

 

เพียงแต่ว่า ตอนนี้ต่อให้เขาร่ำร้องออกมาเช่นไรก็ไม่มีประโยชน์แล้ว

 

ไม่นานนัก ก็ได้มาจนถึงบริเวณสถานที่ที่ไร้ผู้คน เยี่ยจงน้ำเอาหินสีดำคล้ำลูกนั้นออกมา ขมวดคิ้วแล้วกล่าว “นี้ที่แท้คือของสิ่งใดกัน มีราคาค่างวดมากนักหรือไง ? ”

 

เสี่ยวหลุนสาดประกายแสงสีขาวออกมาเป็นสาย ทันใดนั้นก็ได้กลืนกินก้อนศิลาสีดำคล้ำนั้นลงไปในทันที แล้วก็เหมือนกับเร่อออกมาเสียงดังด้วยความอิ่ม กล่าว “นี้ก็คือศิลาชำระสวรรค์ในตำนาน ต่อให้เป็นทั่วทั้งดินแดนซีฮวง คาดว่าก็คงจะมีเพียงไม่กี่ก้อนเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าในสถานที่กันดารเช่นนี้ยังถึงกับสามารถพบเจอศิลาชำระสวรรค์ได้ถึงก้อนหนึ่ง ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า……การฟื้นคืนกลับมาของปู่หลุนเห็นทีจะมีความหวังแล้ว ! ”

 

“ศิลาชำระสวรรค์ ! ? ”เยี่ยจงอ้าปากตาค้าง จนเกือบที่จะกระอักโลหิตออกมาคำหนึ่ง เขาย่อมต้องทราบว่าศิลาชำระสวรรค์นั้นคือสิ่งใด ถือได้ว่าเป็นวัตถุดิบในระดับเซียนในตำนานเลยก็ว่าได้ กล่าวกันว่าเพียงแค่เพิ่มเข้าไปในระหว่างที่หล่อหลอมสมบัติเซียนเพียงเล็กน้อย ก็เพียงพอที่จะทำให้สมบัติเซียนนั้นมีพลังที่เกินกว่าธรรมดาได้แล้ว และสิ่งของเช่นนี้ ขอเพียงแค่มีการปรากฏขึ้นมาแม้เพียงแค่มีขนาดใหญ่เท่าเล็บมือ ก็เพียงพอที่จะดึงดูดยอดฝีมือมหาราชันเข้าต่อสู้เพื่อแก่งแย่งกันได้แล้ว

 

แต่ว่า ศิลาชำระสวรรค์ชิ้นนี้ในตอนนี้ถึงกับมีขนาดใหญ่เท่าศีรษะของผู้คน กระนั้นสิ่งของเช่นนี้กลับถูกเสี่ยวหลุนกลืนกินเข้าไปภายในคำเดียวอย่างงั้นหรือ ?

 

ในขณะนี้เอง ต่อให้เป็นเยี่ยจงเองก็ยังต้องเกิดความบ้าคลั่งขึ้นมาภายในจิตใจ จนทำให้เกิดความรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาอย่างไร้ที่เปรียบ

 

“เจ้าปวดใจอะไรกัน ในเมื่อเจ้าก็หล่อหลอไม่เป็นอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ระดับขอบเขตของเจ้ายังมิได้สูงมากนัก ปู่หลุนจะรีบฟื้นคืนพลัง ยังไงซะก็ส่งผลดีต่อตัวเจ้าอยู่ดี……ทว่าเด็กน้อยเจ้าถือได้ว่าเป็นดาวนำโชคของปู่หลุนอย่างข้าเสียจริง ปู่หลุนอย่างข้าแน่นอนว่าย่อมติดตามเจ้าแล้ว……เจ้าวางใจเถอะ หากว่าเจ้ามีความลำบากอันใด ปู่หลุนไม่อาจที่จะไม่ช่วยเหลืออยู่แล้วละ ”เสี่ยวหลุนกล่าวอย่างได้ใจเป็นอย่างยิ่ง เกิดความลิงโลดขึ้นเต็มสิบส่วน จนทำให้เยี่ยจงต้องขบเคี้ยวเขี้ยวฟันเสียงดังครืนคราดไปมา

 

ทว่าหลังจากนั้นเอง เขาก็ได้แต่เพียงแค่ถอนหายใจออกมา มิได้คิดถึงเรื่องเหล่านี้อีกต่อไป นั้นก็เพราะว่าสิ่งของก็ได้ถูกเสี่ยวหลุนหลอกลวงจนกลืนกินลงไปแล้ว ถ้ายังคิดต่อไปคงมีแต่ทำให้ยิ่งหดหู่ คงไม่อาจมีประโยชน์อื่นใด

 

“เอาเถอะ เยี่ยจงน้อย ไม่ต้องหดหู่แล้ว ปู่หลุนตอนนี้จิตใจเบิกบาน ข้าจะช่วยชี้แนะแก่เจ้าให้เล็กน้อย เจ้าทราบไหมว่าท่ามกลางอาณาจักรไฟ มีศิลาตะวันบริสุทธิ์อยู่ชิ้นหนึ่งไหม ? กล่าวกันว่าเมื่อสมัยครั้งที่บนท้องนภายังมีดวงตะวันลอยอยู่สิบดวง หลังจากนั้นก็ได้มีอยู่เก้าดวงที่ได้ถูกเผ่ามนุษย์พิชิตดวงอาทิตย์ได้ทำลายดวงตะวันไปทั้งหมดเก้าดวงไปแล้ว ก็ได้ร่วงหล่นมายังแดนรกร้างทั้งสี่ และหนึ่งในนั้นก็ได้อยู่ในสถานที่แห่งนี้ จนทำให้ก่อเกิดพื้นผิวทะเลทรายอันกว้างใหญ่ไพศาล และกล่าวกันว่าถือได้ว่าเป็นรากฐานของรัฐไฟแห่งนี้ แล้วก็น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการดับสูญของดวงตะวัน เจ้ามีความสนใจต่อของสิ่งนี้หรือไม่ ? ”เสี่ยวหลุนกล่าวต่อออกมาอย่างมีความสุข ในเวลาเดียวกันก็ได้ชี้ไปยังทิศทางที่เยี่ยจงควรจะเดินทางไป

 

“การดับสูญของดวงตะวัน ? กลายเป็นศิลาตะวันบริสุทธิ์ ? ”เยี่ยจงหลังจากที่เงียบงันก็ได้เกิดความสนใจขึ้นอย่างยิ่ง ต่อมาภายใต้การชี้นำของเสี่ยวหลุน ก็ได้มาจนถึงอาณาจักรไฟใจกลางของอาณาจักรแห่งนี้

 

ในช่วงเวลาที่ได้มาถึงยังส่วนหนึ่งของเขตๆหนึ่งของอาณาจักรแห่งนี้ เยี่ยจงก็ได้ถอนหายใจออกมาคำหนึ่ง สีหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยความประหลาดใจ

 

ศิลาที่มีรูปร่างขนาดกลมใหญ่โตอย่างไร้ที่เปรียบก้อนหนึ่ง ประดุจขุนเขาลูกเล็กๆก็มิปาน อีกทั้งตัวของมันยังมีสีแดงเพลิงดุจดั่งหยกแดงก็มิปาน อีกทั้งในระหว่างนั้นก็ได้มีพลังปราณสีแดงเพลิงลอยขึ้นมาอยู่บนผิวของมัน และเป็นเพราะมีการคงอยู่ของมัน จึงได้ทำให้อุณหภูมิรอบข้างทั่วทั้งสี่ด้านสูงขึ้นกว่าเดิมอยู่หลายส่วนก็มิปาน

 

ศิลาก้อนใหญ่โตเช่นนี้ ความจริงตัวของมันก็แทบจะเทียบเท่าเมืองๆหนึ่งเลยก็ว่าได้ หากมิใช่เป็นเพราะอาณาจักรไฟนั้นมีขนาดใหญ่โตมโหฬารอย่างไร้ที่เปรียบแล้วละก็ เกรงว่ายังคงไม่อาจที่จะเก็บศิลาขนาดใหญ่เช่นนี้ได้

 

“ศิลาตะวันบริสุทธิ์ ที่แท้ตำนานที่เล่าขานกันก็เป็นเรื่องจริง การเปลี่ยนแปลงของดวงตะวันใหญ่บนฟากฟ้า ความจริงแล้วก็เหมาะที่จะเป็นวัตถุดิบในการหล่อหลอมขั้นสูงอยู่แล้ว ! ”นอกเสียจากเยี่ยจงแล้ว ตอนนี้ก็ได้มีคนอยู่มากมายที่หมายปองศิลาขนาดใหญ่นั้น ต่อมาก็ได้มีคนถอนหายใจออกมา จ้องมองไปด้วยความประหลาดใจและตื่นเต้น

 

“ท่ามกลางคำเล่าขาน การมีอยู่ของหยดศิลาดวงตะวันมีความเก่าแก่เท่ากับอายุที่มีมาอย่างยาวนานของอาณาจักรไฟ นับตั้งแต่โบราณกาลมาก็ได้ถูกเก็บรักษาเอาไว้เช่นนี้มาโดยตลอด พลังแดงเพลิงของปราณไฟที่ไม่มีวันดับสลาย กล่าวกันว่าที่ด้านในนั้นได้รวมเอาไว้ด้วยยันต์อักขระก่อฟ้าอยู่ส่วนหนึ่ง หากว่าสามารถทำความเข้าใจได้แล้วละก็ ตนเองก็จะสามารถใช้ออกมาพลังในระดับของทักษะเซียนหรือมนต์ตราเทพที่มีพลังอันน่าสะพรึงกลัวออกมาได้……แต่น่าเสียดาย หลายปีมานี้ เพียงแต่ได้ยินว่ามีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นทีได้รับวาสนาเช่นนี้ และคนที่พอจะสามารถกระทำเรื่องเช่นนี้ออกมาได้ ต่างก็เรียกได้ว่าหาได้ยากเสียยิ่งกว่ายากในหมู่ของผู้คนเลยก็ว่าได้ ! ”

 

“นอกจากบริเวณที่แห่งนี้แล้ว ก็มีแต่เพียงราชวงศ์แห่งรัฐไฟที่สามารถจะมีของสิ่งนี้ได้ กล่าวกันว่าราชวงศ์รัฐไฟตามตำนานที่สืบทอดกันมา ก็มีที่มามาจากหยดศิลาดวงตะวันนี้ มีความน่าหวาดกลัวอย่างยิ่งยวด ! ”

 

มีคนกล่าววิพากษ์วิจารย์ออกมาเสียงทุ่มต่ำ แฝงเอาไว้ด้วยความปรารถนาชนิดหนึ่ง หวังว่าตนเองจะได้รับโอกาสวาสนาเช่นนั้นได้

 

เยี่ยจงฟังคำเล่าลือเหล่านี้อย่างละเอียด มีความเสนาะสนใจเป็นอย่างมาก

 

และในเวลาเดียวกัน ในขณะที่เยี่ยจงพึ่งจะออกไปจากร้านขายของนั้นเอง ก็ได้มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาอย่างช้าๆ

 

“นายน้อย เป็นสถานที่แห่งนี้แหลาะ ! ของสิ่งนั้นได้ปรากฏขึ้นในสถานที่แห่งนี้ ”มีคนโค้งคำนับพร้อมทั้งเอ่ยปากกล่าวออกมา เหม่อมองไปยังชายหนุ่มผมสีม่วงที่ดูดีมีสง่าท่ามกลางกลุ่มคน

 

ชายหนุ่มผมสีม่วงก็ได้พยักหน้า สายตากวาดออกไปยังภายในอยู่เที่ยวหนึ่ง จากนั้นก็ขมวดคิ้วแล้วกล่าว “เสี่ยวลิ่วจื่อ เจ้ากำลังล้อเล่นอะไรกัน ? สถานที่แห่งนี้มิได้มีรังสีของสิ่งของนั้นเลยนะ ”

 

“นี้เป็นไปไม่ได้ ข้าเห็นๆอยู่ว่า……”บุคคลที่เอ่ยปากขึ้นมาก่อนหน้านี้ก็ได้หน้าเปลี่ยนสีไป จากนั้นก็ได้กวาดสายตามองเข้าไป หน้าก็เปลี่ยนสีไปในทันที คนที่เป็นผู้ดูแลรถผู้นั้นก็ได้คว้าไปที่คอเสื้อของผู้ดูแลร้าน แล้วกล่าวออกมาด้วยความสงสัย “ตาเฒ่า ศิลาสีดำคล้ำชิ้นนั้นไปไหนแล้ว ? ”

 

ผู้ดูแลร้านในตอนนี้ก็ได้ขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน ย่อมต้องทราบได้ว่า ตนเองได้สูญเสียผลประโยชน์ไปมากแล้ว ศิลาก้อนนั้นอย่างน้อยก็ต้องเป็นสิ่งของที่เกินกว่าที่จะคาดเดาเอาไว้ได้ แต่ว่าในตอนนี้เขายังไม่ทันที่จะได้เจ็บปวดใจ กลุ่มคนเบื้องหน้าสายตาเขาย่อมมิอาจที่จะมีปัญหาด้วยได้ จึงได้ชี้ออกไปทางด้านหนึ่งอย่างร้อนรน ในเวลาเดียวกันก็ได้บอกกล่าวออกไปถึงลักษณะพิเศษของเยี่ยจง

.

.

.

.

กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่นพิเศษ เข้ากลุ่ม 5/6/7/8/9/10/11 ราคา 600

VIP5 https://goo.gl/ekcF7V

VIP6 https://goo.gl/4rqw89

VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA

VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x

VIP9 https://goo.gl/1jPZtn

VIP10 https://goo.gl/L8awva

VIP11 https://goo.gl/rojEiG

ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset