เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 380 หอสวรรค์

ตอนที่ 380 หอสวรรค์

 

บริเวณใกล้เคียงศิลาตะวันบริสุทธิ์ มีคนมากมายกำลังกล่าววิพากษ์วิจารย์กันอยู่ เมื่อได้ฟังก็ต้องถอนหายใจออกมา กล่าวกันว่าในครั้งโบราณกาล ท้องฟ้าประดับเอาไว้ด้วยดวงตะวันนับสิบ ดวงเดือนนับสิบทอประกายแสงอยู่ท่ามกลางหมู่ดาว ตอนนี้กล่าวขึ้นมาก็เหมือนกับเป็นดั่งเทพนิยายก็มิปาน ทำให้ผู้คนเกิดความคิดมากมายอยู่ภายในจิตใจ

 

“ เหอะ พวกเจ้ายังคงอายุยังน้อยกันจนเกินไป เพียงแต่ทราบแค่เพียงส่วนหนึ่ง อีกทั้งยังไม่ทราบมากมาย ข้ามีตำนานอีกบทจะเล่าให้ฟัง ทว่าเมื่อกล่าวออกไปแล้วคงจะไม่เชื่อไปกว่าครึ่ง ” ชายชราหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายดั่งนักพรตลอยมาตามสายลม ในตอนที่เข้าได้เดินออกมา ก็ได้แผ่บรรยากาศความไม่ธรรมดาแผ่ออกมา จากนั้นก็ได้ยิ้มออกมาเล็กน้อย

 

“ ยังไงก็ขอเชิญท่านผู้อาวุโสสอนสั่ง ” มีคนมีสีหน้าสงสัย จากนั้นก็ได้คารวะเพื่อที่จะขอคำสั่งสอน

 

“ พวกเจ้าน่าจะยังไม่ทราบกัน ภายในตำนาน สุดยอดฝีมือแห่งเผ่าวิหคทอง สามารถที่จะกลายร่างจนกลายเป็นดวงอาทิตย์ขนาดใหญ่ได้ แต่ว่า เพียงเหตุใดกันที่หลังจากที่ดวงอาทิตย์ดับสูญลง มิได้กลับคืนสู่ร่างของวิหคทอง เพียงแต่กลายเป็นเพียงศิลาตะวันบริสุทธิ์ก้อนหนึ่ง ? ” ชายชรายิ้มขึ้นมาเล็กน้อย “ นั้นก็เพราะว่า ในครั้งโบราณกาล ดวงอาทิตย์บนท้องฟ้ามิได้มาจากการกลายร่างของเผ่าวิหคทองเสียทั้งหมด เพียงแต่เล่าขานกันว่าท่ามกลางปราณทั้งสี่แห่งสวรรค์นั้นมีหนึ่งในนั้นได้มาจากจูเหยียน แล้วก็ยังมีหงสาไม่สูญสลายกลายร่างมา มีตำนานเล่าขานกันว่า ท่ามกลางศิลาตะวันบริสุทธิ์นี้ มีการคงอยู่ของหงสาไม่สูญสลายตนหนึ่งอยู่ มันเมื่อก่อนหน้านี้ถึงแม้ว่าจะถูกเผ่ามนุษย์พิชิตรดวงอาทิตย์สังหารลง แต่ว่าตัวพวกมันซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์ที่ไม่มีวันตาย จึงได้เข้าสู่การนิพพาน มันในตอนนี้หลังจากที่ผ่านคืนวันการนิพพาน……และถ้าหากว่าสามารถทำช่วยให้มันเข้าสู่การนิพพานได้ หากทำสำเร็จข้อตกลงชนิดนี้แล้วละก็ ก็จะสามารถได้รับทักษะเซียน มนต์ตราเทพ พลังเทวะส่วนหนึ่งมาได้ แน่นอนว่าย่อมต้องมีความเกี่ยวพันกับเผ่าพันธ์ของพวกมันอีกด้วย ”

 

“ อะไรกัน ! ” หลังจากที่เงียบงัน ผู้คนมากมายต่างก็กำลังอยู่ในอาการตกตะลึง ถึงแม้ว่าจะมีตำนานเช่นนั้นอยู่ ถ้าหากว่าด้านในศิลาตะวันบริสุทธิ์นี้มีการคงอยู่ของหงสาไม่สูญสลายอยู่ตนหนึ่งจริงแล้วละก็ เช่นนั้นถ้าหากมันเข้าสู่การนิพพานได้สำเร็จ พลังฝีมือจะอยู่ในระดับความน่าหวาดกลัวถึงขั้นใดกัน ?

 

“ พวกเจ้าคงมิได้คิดจริงหรอกนะว่า ยอดฝีมือรุ่นเยาว์แห่งสามดินแดนนอกจากดินแดนซีฮวงแล้ว ต่างก็เพียงเพราะมาเพื่อการมาของเยี่ยจงเพียงถ่ายเดียว ? เยี่ยจงถึงแม้จะเป็นอีกเหตุผลหนึ่ง แต่ว่าก็ยังมีสิ่งที่อยู่อีกทางด้านหนึ่งเผยแผ่ออกมา แน่นอนว่า มีแต่แพร่สะพัดอยู่ในอาณาจักรไฟเท่านั้น……ข่าวสารนั้นก็คือ ระยะเวลาของการนิพพานของหงสาไม่สูญสลายนั้นเหลืออีกไม่นานแล้ว หากว่ามีวาสนาโอกาส ก็คงจะได้ครอบครองตำนานหงสาไม่สูญสลาย……สิ่งนี้จึงเรียกได้ว่าเป็นการดึงดูดผู้คนอย่างแท้จริง ” ชายชราเอ่ยขึ้นมา ทั้งยังแฝงเอาไว้ด้วยน้ำเสียงที่เย้ยหยันอย่างเข้มข้น “ เพียงแต่ว่า หลังจากที่แพร่ข่าวสารนี้ออกมาแล้ว กลุ่มคนที่ได้รวมตัวกัน ก็ได้ตกอยู่ในสภาวะการคิดคำนวณอยู่ ”

 

“ เป็นไปไม่ได้ ! ” มีผู้คนมากมายต่างก็ไม่เชื่อ ว่าการคงอยู่ของศิลาตะวันบริสุทธิ์นี้จะยังคงอยู่อีกนาน เป็นไปได้อย่างไรกันที่จะสามารถสร้างความเคลื่อนไหวเช่นนี้ออกมาได้ แล้วยังมีเหล่าผู้ที่มีความสามารถได้รับวาสนาอีกงั้นหรือ ? นี้เมื่อได้ยินแล้วก็ถือได้ว่าเป็นที่น่าประหลาดอย่างยิ่ง

 

“ เหอะ จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็อยู่ที่พวกเจ้า ข้าผู้ชราเมื่อครู่ก็ได้บอกออกไปแล้ว ในเมื่อตอนนี้คำพูดก็ได้กล่าวออกไปแล้ว อย่างน้อยก็คงต้องมีคนที่ไม่เชื่อ ” ชายชราถอนหายใจออกมา จากนั้นก็ได้มือไพล่หลังแล้วเดินจากออกไปอย่างช้าๆ เห็นได้ชัดว่า เขามิได้สนใจว่าคนอื่นๆนั้นจะเชื่อหรือไม่ด้วยซ้ำไป

 

“ ดูเหมือนว่า คงจะมีข่าวลือเช่นนี้ออกมาจริง ในวันนี้ข้าก็ได้ยินคนของสำนักข้าเหล่านั้น ต่างก็กำลังถกกันถึงเรื่องตำนานของหงสาไม่สูญสลาย ดูเหมือนว่า มีความเป็นไปได้จริงที่จะสามารถปรากฏตัวขึ้นมาในดินแดนแล้ว ” แล้วก็ได้มีคนเอ่ยขึ้นมาจากทางด้านข้าง น้ำเสียงดูไปแล้วเร่งรีบอยู่ไม่น้อย

 

“ ข้าก็ได้ข่าวของการนิพพานเหล่านี้มาเช่นเดียวกัน ดูเหมือนว่าจะมีคนที่ไม่ยินยอมให้หงสาไม่สูญสลายปรากฏตัวขึ้นมา แต่ว่าพวกเขากลับคาดหวังที่จะวิชาของหงสาไม่สูญสลายถูกเปิดเผยออกไป ทางที่ดีที่สุดก็คือการทำให้ตนเองได้รับโอกาสนั้น ” แล้วก็ได้มีคนเอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงแผ่วเบา ดูเหมือนกับเป็นการแนะมุมมองอีกด้านออกมา

 

“ ภายในตำนาน สุดยอดรุ่นเยาว์เยี่ยจงผู้นั้นก็ได้ศึกษาวิชาของเผ่าพันธ์ที่อยู่ในแดนเทพอยู่ในกาย ยกตัวอย่างเช่นวิชาแขวงกิเลนเป็นต้น ความจริงก็ถือได้ว่าเป็นดั่งสมบัติที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้ ต่างก็เป็นที่ต้องการของผู้คนจำนวนมาก ในตอนนี้กลับมีข่าวลือออกมาเช่นนี้อีก ดูเหมือนว่า ดินแดนซีฮวงนี้คงต้องเกิดความวุ่นวายขึ้นแล้ว ! ”

 

“ ดินแดนซีฮวงคงจะมิได้วุ่นวายเพียงแค่นี้แน่ แต่ว่าอย่างน้อยๆ อาณาจักรก็คงจะถูกก่อความวุ่นวายขึ้นมาแล้วในตอนนี้ ตำนานของหงสาไม่สูญสลาย มีผู้ใดบ้างที่จะยินยอมผิดพลาดไป ? ”

 

เยี่ยจงที่ยืนอยู่ภายในด้านข้างของกลุ่มคน ก็ได้ทอสีหน้าสงบ จากนั้นสักพัก เขาจึงได้หันกายมองไปยังศิลาตะวันบริสุทธิ์ กล่าวเสียงแผ่วเบา “ เสี่ยวหลุน ภายในศิลาตะวันบริสุทธิ์นี้ มีการคงอยู่ของหงสาไม่สูญสลายจริงอย่างงั้นหรือ ? ”

 

หลังจากที่เสี่ยวหลุนครุ่นคิด ก็ได้ตอบกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา “ เมื่อก่อนหน้านี้ข้าก็เคยได้รับข่าวสารเช่นนี้มาก่อน อีกทั้งยังเคยผ่านประสบการณ์นี้มาก่อน แต่ว่า ขอเพียงแต่สามารถตอบเจ้าได้เพียงว่า ภายในศิลาตะวันบริสุทธิ์นี้ดูเหมือนว่ามีสิ่งที่ยิ่งกว่าจะคาดคิดเอาไว้ได้จริง เพียงแต่ว่าข้าก็ไม่อาจแน่ใจได้ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตหรือสิ่งอื่นใด นั้นก็เพราะว่ามันนั้นมีพลังความแข็งแกร่งอย่างน่าหวาดกลัว สามารถเป็นที่หมายปองมาโดยตลอด……แต่ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นย่อมต้องมีเหตุผล ในเมื่อมีข่าวลือเช่นนี้แพร่ออกมา อย่างน้อยก็คงจะเป็นเรื่องจริง อีกทั้ง ตำนานหงสาไม่สูญสลายนั้น ดูเหมือนว่าคงจะมิอาจที่จะผิดพลาดไปได้…… ”

 

“ ตำนานหงสาไม่สูญสลาย…… ” เยี่ยจงบ่นขึ้นมาเบาๆ จากนั้นก็ได้กลับคืนสู่สภาพจิตใจปกติดั่งเดิม สถานการณ์ของเขานี้พิเศษอย่างยิ่ง ในตอนนี้ตนเองได้ถูกกล่าวขานภายในอาณาจักรนี้ว่าเป็นหนึ่งในสอง “ สุดยอดสมบัติ ” การคิดวิเคราะห์ทั้งหมดนั้นคงจะเหลือแต่เพียงว่าสมควรที่จะจากออกไปเช่นไรดีแล้วละ

 

เพียงแต่ว่า ตอนนี้ท่ามกลางอาณาจักรก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงไม่น้อย ความคิดแรกของเยี่ยจงกลับไม่อาจที่จะจากไปได้ ก่อนอื่น เขามีความสนใจต่อตำนานหงสาไม่สูญสลายอยู่หลายส่วน นั้นก็เพราะว่า ตำนานที่มีความเป็นสุดยอดเช่นนี้ได้ปรากฏขึ้นมา ในเวลาเดียวกัน การรวมตัวกันของกลุ่มคนในตอนนี้ เขากลับเดินทางเพียงลำพัง คิดที่จะจากออกไปแล้วละก็ มีความเป็นไปได้ว่าจะกลาบเป็นจุดสนใจของผู้คนได้

 

ในสถานที่ที่อันตรายที่สุด ก็คือสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด ดังนั้นสิ่งที่เยี่ยจงสมควรกระทำที่สุดในตอนนี้ก็คือ การเก็บตัวอยู่ภายในอาณาจักร แฝงตัวเป็นปลาในบ่อเดียวกัน รอคอยช่วงเวลาที่เหมาะสมมาถึงจึงค่อยจากไปอีกครั้ง เช่นนี้จึงถือได้ว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดก็ว่าได้

 

ยังดีที่ในตอนนี้เขาได้เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ไปแล้ว ขอเพียงไม่ใช้ออกด้วยพลังฝีมืออย่างพร่ําเพรื่อจนเกินไป ในเวลานี้ก็พอที่จะสามารถเปิดเผยสถานะของทักษะเซียน、มนต์ตราเทพออกไปแล้วละก็ เช่นนั้นที่ทำมามากมายก็คงจะสูญเปล่าไปกว่าครึ่งแล้ว

 

“ นี้เจ้าคิดที่จะเตรียมพร้อมจะอยู่ต่อไปอย่างงั้นหรือ ? ” เสี่ยวหลุนถอนหายใจออกมา แต่ว่าก็ไม่อาจที่จะไม่ยอมรับได้ว่า สิ่งที่เยี่ยจงตัดสินใจมาทั้งหมดในตอนนี้ถือได้ว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้องที่สุดเลยก็ว่าได้ “ เอาเถอะ หากว่าตกอยู่ในสถานการณ์ที่คับขันจริงแล้วละก็ ข้าจะลงมือเอง เพียงแต่ว่า สามารถที่จะทำให้ข้าไม่ต้องลงมือได้ ยังคงอย่าได้ให้ข้าลงมือจะดีเสียกว่า นั้นก็เพราะว่าอันตรายจนเกินไป ”

 

เยี่ยจงพยักหน้าตอบรับ เพียงแต่ทอดตามองเข้าไปยังบนของศิลาตะวันบริสุทธิ์อีกครั้ง แล้วก็ตกอยู่ในห้วงความคิด คิดวิเคราะห์ขึ้นมา

 

“ เอาเถอะ ทุกท่าน ในเมื่อมาจนถึงบริเวณนี้กันแล้ว ไม่ลองขึ้นไปยังหอสวรรค์ดูหน่อยหรือ ถกวิทยายุทธ์ หากคิดว่าสถานที่แห่งนี้ไม่เลว ในเมื่อได้มาถึงยังอาณาจักรก็อย่าได้เสียโอกาสในครั้งนี้อีกเลย ! ”

 

ทันใดนั้น ก็ได้มีคนหัวเราะฮาฮาขึ้นมาเสียงดัง จากนั้นก็ได้กระโดดขึ้นไปท่ามกลางอากาศ

 

เมื่อได้ยินสิ่งที่คนเหล่านี้กำลังคุยกัน เยี่ยจงก็ได้เกิดความคิดขึ้น สายตาทอดมองไปยังท่ามกลางอากาศ ที่แห่งนั้น มีตึกใหญ่อยู่ทั้งหมดเก้าตึก ตึกใหญ่โตเหล่านี้นั้นมีความสูงที่อยู่ในถึงหัวไหล่ของศิลาสูงใหญ่ก้อนนั้น เทียบได้กับความสูงของศิลาตะวันบริสุทธิ์พอดี จนสามารถจ้องมองเข้าไปยังศิลาตะวันบริสุทธิ์ได้พอดิบพอดี

 

ในสถานที่แห่งนี้ ต่อให้เป็นเยี่ยจงในตอนนี้ก็ยังถือได้ว่ามีความสนใจอยู่อย่างเต็มเปี่ยม ต่อมาเขาก็ได้เดินไปตามการหลั่งไหลของผู้คน มุ่งหน้าเข้าไปยังบริเวณสถานที่ที่เป็นดั่งตึกขนาดใหญ่นั้น ไม่นานนักก็ได้ขึ้นมาจนถึงชั้นบนสุด

 

ทว่าหลังจากที่มาถึงสถานที่แห่งนี้ เยี่ยจงค่อยพบว่า สถานที่แห่งนี้ประดับประดาเอาไว้ด้วยสิ่งของราคาแพงอยู่มากมาย อย่างน้อยๆแค่เพียงการนั่งทำสมาธิลงในตอนนี้ ต่างก็จำต้องจ่ายออกมาด้วยค่าตอบแทนที่สูงล้ำอย่างแน่นอน

 

เพียงแต่ว่า ตึกใหญ่นั้นได้ถูกควบคุมเอาไว้ด้วยความเคลื่อนไหวของค่ายกลยันต์วิญญาณเอาไว้อยู่ เพื่อดูดซับพลังปราณแห่งไฟจากศิลาตะวันบริสุทธิ์ที่แผ่ออกมา เพียงแค่การนั่งลงอยู่ในสถานที่แห่งนี้เฉยๆ ดูเหมือนว่าจะสามารถก่อให้เกิดประโยชน์ต่อวิทยายุทธ์ได้อยู่ไม่น้อย

 

หลังจากที่ทำการสำรวจอยู่เล็กน้อย เยี่ยจงก็ไม่เกรงใจอีกต่อไป หลังจากที่ควักหินปราณออกมาก้อนหนึ่งแล้ว ก็ได้เลือกสถานที่นั่งภายในตึกใหญ่จุดหนึ่งที่ติดหน้าต่าง จ้องมองไปยังศิลาตะวันบริสุทธิ์ที่อยู่ที่ทางด้านนอกอย่างลึกล้ำ

 

ท่ามกลางตึกใหญ่ สามารถกล่าวได้ว่าท่ามกลางภายในอาณาจักรตอนนี้ถือได้ว่าเป็นจุดสถานที่สำคัญในการรวมตัวกันมากที่สุดในตอนนี้ก็ว่าได้ การที่จะสามารถเข้ามายังสถานที่เช่นนี้ ยังไงเสียก็จำเป็นที่จะต้องมีพลังฝีมือที่น่าตื่นตกใจ ไม่เช่นนั้นก็ย่อมต้องมีผู้สนับสนุนอันน่าสะพรึงกลัว เรียกได้ว่ามิมีผู้ใดคนใดคนหนึ่งที่ปกติสามัญธณรมดาแม้แต่คนเดียว

 

ในเวลาเดียวกัน คนเหล่านี้ก็ได้เลือกที่จะขึ้นไปยังชั้นบนของหอสูงนี้เพื่อพูดคุยกัน เพื่อที่จะพูดคุยกันในเรื่องเกี่ยวกับข่าวสารที่สำคัญเหล่านี้ จนทำให้เยี่ยจงพอที่จะทราบรายละเอียดและสภาพการภายในดินแดนซีฮวงในตอนนี้

 

“ หลังจากที่สิ้นสุดการศึกของลัทธิแห่งดวงดาวแล้ว แดนลับแลนับสิบสายต่างก็ได้รับความเสียหายอย่างหนัก กล่าวกันว่ายอดฝีมือมหาราชันทั้งสี่ต่างก็ได้รับบาดเจ็บในไม่แพ้กัน จำเป็นที่จะต้องใช้เวลาในการฟื้นฟู แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ แดนลับแลทั้งสิบสายนี้ได้สูญเสียกองกำลังไม่เป็นอย่างมากมายมหาศาล จนทำให้ขุมกำลังอันแข็งแกร่งของพวกเขาอ่อนโทรมลงไปเป็นอย่างมาก ตอนนี้กล่าวกันว่าพวกเขาต่างก็ยังคงตระเตรียมมาตราการรับมือเอาไว้อยู่ พร้อมที่จะลงมือได้ทุกเวลา และพวกเขายังได้เก็บขุมกำลังเอาไว้อยู่แต่ภายใน โดยเฉพาะเหล่ายอดฝีมือระดับราชัน、มหาราชันก็ได้เร้นกายไปเป็นจำนวนมาก เพื่อที่จะกลับไปคุ้มกันปกป้องพื้นที่ของตนเอง จากที่ดูในตอนนี้แล้ว ดินแดนซีฮวงนี้ อย่างน้อยคงจะต้องเกิดความวุ่นวายขึ้นมาไม่น้อยเลย ! ” มีคนถอนหายใจออกมา กล่าวออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา

 

“ ในครั้งนี้ ขุมกำลังนับสิบสายนี้ถือได้โอกาสในการสะสมกองกำลังทหารเอาไว้ ทว่ายังมีคำเล่าลือออกมาว่า พวกเขาได้ร่วมมือด้วยกัน จนกลายเป็นพันธมิตรทางการทหาร จนทำให้ขุมกำลังชั้นนำอื่นๆของดินแดนซีฮวง เป็นดั่งลัทธิเทพแดนลี้ลับ、แดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์、ตระกูลถังเป็นต้นต่างก็ไม่อาจอยู่อย่างเป็นสุขได้ เกรงว่าพวกเขาคงจะลงมือก่อนอย่างแน่นอน ตอนนี้สามารถกล่าวได้ว่าได้อยู่ในสถานการณ์อันตึงเครียดเลยก็ว่าได้ ! ”

 

“ ทว่ายังมีคำบอกเล่ามาอีกว่า ขุมกำลังเหล่านี้ดูเหมือนว่าจะมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เยี่ยจงกระทำ ตอนนี้ภายในดินแดนซีฮวงมากมาย รวมไปจนถึงวีรบุรุษผู้กล้านอกดินแดน、อัจฉริยะต่างก็เตรียมการความพร้อมเอาไว้ เตรียมความพร้อมสำหรับการลงมือต่อเยี่ยจง ทว่าเยี่ยจงก็แข็งแกร่งจนเกินไป ตอนนี้หากไม่มีผู้อาวุโสระดับราชันหรือยอดฝีมือระดับมหาราชันลงมือ เพียงแต่พึ่งพายอดฝีมือรุ่นเยาว์ในการลงมือ ข้ามองว่ายังถือได้ว่าไม่เพียงพอหรอก ! ”

 

“ ข้าไม่ได้มีความเห็นเช่นนั้น เยี่ยจงถึงแม้จะแข็งแกร่งอย่างไร้ที่เปรียบ ถูกเรียกขานว่าเป็นสุดยอดฝีมือรุ่นเยาว์อันดับหนึ่ง แต่ว่าแดนลับแลเหล่านี้ก็ยังคงให้อัจฉริยะรุ่นเยาว์เป็นคนลงมือ อย่างน้อยไม่ว่าจะอย่างไรก็ต้องมีความเคลื่อนไหวกันบ้าง เช่นนั้น อัจฉริยะที่แท้จริงมากมายต่างก็ยังคงไม่ลงมือ ตอนนี้เพียงแต่ติดตามความเคลื่อนไหวของเยี่ยจงจากรอบด้าน เยี่ยจงผู้นี้ก็ถือได้ว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถเลยทีเดียว ! ”

 

“ กล่าวกันว่าเยี่ยจงผู้นี้เป็นเหมือนดั่งมนุษย์สมบัติเคลื่อนที่ผู้หนึ่ง ใครที่สามารถจับกุมเขาอย่างมีชีวิตกลับไปได้ ผู้นั้นก็จะสามารถได้รับประโยชน์เป็นอย่างมากกลับไป นี้มีหรือที่จะไม่ทำให้ผู้คนสนใจได้ ! ”

 

“ เจ้าอย่าได้คิดแล้ว ต่อให้เยี่ยจงปรากฏตัวขึ้นมาจริง ก็ยังไม่ถึงคราวของพวกข้าที่จะต้องลงมือหรอก ? ”

 

เยี่ยจงขมวดคิ้วไปมา บนใบหน้าก็ได้ปรากฏแววตาเย็นเยียบขึ้นมา เจ้าเด็กน้อยเหล่านี้ยังคงไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย ถึงกับยังหาญกล้าส่งยอดฝีมือรุ่นเยาว์กลุ่มนี้มาไล่ฆ่าสังหารเขา เพียงแต่ว่า ข่าวสารเช่นนี้ก็ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อเขา นั้นก็คือกลับไม่มีตาเฒ่าในระดับของมหาราชัน、ยอดฝีมือระดับราชันปรากฏตัวขึ้นมาแล้วละก็ ต่อให้เขาถูกเปิดเผยสถานะออกมาจริง อย่างน้อยก็ยังพอที่จะหลบหนีรอดไปได้

 

“ แล้วยัง สามารถได้รับข่าวสารอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ! ” เยี่ยจงหัวเราะอยู่ภายในใจอย่างเย็นชา นิ้วมือก็ได้เคาะไปยังบนโต๊ะเบาๆ คนเหล่านั้นคิดที่จะใช้ยอดฝีมือรุ่นเยาว์กลุ่มนี้เพื่อที่จะควบคุมตนเอง ถือได้ว่าช่างไร้เดียงสาจนเกินไปแล้ว เมื่อครั้งที่แล้วยังมิได้ทำให้พวกเขาสูญเสียอย่างหนัก ในครั้งนี้ก็ถือได้ว่าเป็นโอกาสแล้ว เยี่ยจงมิได้ใส่ใจถึงเหล่ายอดฝีมือรุ่นเยาว์ทั้งหมดนั้นที่จะมาฆ่าสังหารเข้าเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่จะมอบ ” ของขวัญชิ้นใหญ่ ” ให้แก่พวกเขาคนละชุดเท่านั้น

 

หลังจากที่ได้ยินข่าวสารเช่นนี้แล้ว เยี่ยจงก็ได้ฟังอย่างละเอียดต่อไป นั้นก็เพราะว่าเขาในตอนนี้จำเป็นที่จะต้องรวบรวมข่าวสารออกมาในแต่ละอย่างให้ได้มากที่สุด สิ่งที่เกิดขึ้นมาในตอนนี้เมื่อมองในมุมมองของเขาในตอนนี้ ถือได้ว่าอยู่ในช่วงที่สำคัญที่สุดก็ว่าได้

 

“ ใช่แล้ว เมื่อพูดถึงตำนานหงสาไม่สูญสลาย พวกเจ้ามีข่าวสารอะไรกันบ้างอย่างงั้นหรือ ? ” ทันใดนั้นก็ได้มีคนเอ่ยปากขึ้นมา ทั้งยังมีความสงสัย ในขณะนี้เอง สายตาของผู้คนทั้งหมดก็ได้ทอดมองไปยังบริเวณหน้าต่างออกไป

 

“ ทางด้านของพวกเรานั้นได้เข้าไปยังภายในราชวังสืบข่าวแล้ว กล่าวกันว่าทางด้านของราชาแห่งอาณาจักรไฟยังไม่คิดที่จะเปิดเผยตัวออกมา แต่ว่าเหล่าองค์ชายมากมาย กลับมีอยู่หลายคนที่คิดจะออกหน้าอยู่บ้าง ลือกันว่าเหล่าองค์ชายจะเป็นผู้ตัดสินเอง เรื่องนี้คงจะเป็นเรื่องจริง เพียงแต่ว่าบุคคลภายนอกนั้นกลับไม่อาจที่จะมีอาสมากมายนักก็ว่าได้ ! ”

 

“ เชอะ ในเมื่อมีการปรากฏขึ้นของตำนานหงสาไม่สูญสลาย โอกาสจะเป็นของผู้ใดนั้น ยังต้องรอให้อาณาจักรไฟเอ่ยขึ้นอีกเช่นนั้นหรือ ! ” มีคนหัวเราะขึ้นมาอย่างเย็นชา อีกทั้งยังสาดสีหน้าเย้ยหยันออกมา

 

“ ตูม—— ”

 

ทันใดนั้น ประตูของตึกใหญ่ก็ได้ถูกเท้าของผู้คนถีบจนเปิดออกมา พริบตานั้น ก็ได้มีสายตามากมายนับไม่ถ้วนกวาดเข้ามา

.

.

.

.

กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่นพิเศษ เข้ากลุ่ม 5/6/7/8/9/10/11 ราคา 600

VIP5 https://goo.gl/ekcF7V

VIP6 https://goo.gl/4rqw89

VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA

VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x

VIP9 https://goo.gl/1jPZtn

VIP10 https://goo.gl/L8awva

VIP11 https://goo.gl/rojEiG

ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset