เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 426 แย่งชิงหยาดน้ำ

ตอนที่ 426 แย่งชิงหยาดน้ำ

 

ในขณะนี้เอง ราชาปีศาจมากมายและอัจฉริยะที่มาจากภายนอกในระหว่างนั้นเองก็ได้หันกระบี่เข้าห้ำหั่นกัน ในทันใดนั้นเองผู้คนก่อนหน้านี้ถึงแม้จะอยู่ในการอยู่นิ่งเฉย ไม่ลงมือ แต่ว่า ก็ได้พบเห็นน้ำตาเทวะแห่งดวงอาทิตย์ที่แท้จริงได้หลุดออกมาในทันที ภายในดวงตาของยอดฝีมือทุกคน ต่างก็ได้ปรากฏรังสีฆ่าฟันขึ้นมา

 

“จะให้โอกาสแก่พวกเจ้าอีกครั้งหนึ่ง หากว่ายังไม่ยอมถอยออกไปแล้วละก็ จะต้องถูกฆ่าทั้งหมด!” ราชาวิหคตะวันทองคำก็ได้จ้องมองเข้าไปยังอัจฉริยะที่มาจากภายในทั้งหมด ทอสีหน้าเย็นชาอย่างถึงที่สุด

 

อัจฉริยะทั้งหมดต่างก็หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา น้ำตาเทวะแห่งดวงอาทิตย์สิ่งนี้ถือได้ว่าเป็นสิ่งของล้ำค่าจนเกินไป ราวกับว่าทั้งชีวิตที่โลดแล่นมานี้ จะมีแค่เพียงแต่ช่วงเวลานี้เท่านั้น จะมีผู้คนยอมถอยออกอย่างงั้นหรือ?

 

“พวกเจ้าหาที่ตาย!” ราชาเผ่าพันธุ์ควาฟู่เป็นคนแรกที่โกรธขึ้นมายกใหญ่ แล้วก็ได้พุ่งร่างกายที่มีขนาดใหญ่โตออกไป มุ่งหมายที่จะฆ่าสังหารออกไปทางด้านหน้าเป็นคนแรก

 

“ทุกท่าน ในเวลาเช่นนี้พวกข้าหากว่ายังคงต่างคนต่างสู้แล้วละก็ อย่างน้อยก็คงจะต้องถูกทำลายกระบวนท่าไปอย่างแน่นอน หรือไม่ว่าทุกคนผสานร่วมมือกัน จัดการกับราชาปีศาจเหล่านี้ก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกครั้ง หากว่าปล่อยให้น้ำตาเทวะแห่งดวงอาทิตย์นี้ตกไปอยู่ในมือของราชาปีศาจกลุ่มนี้ พวกเราอย่างน้อยก็คงจะจากไปไม่ได้อย่างแน่นอน!” เหยียนหลิงหลงส่งเสียงอันไพเราะออกมา ทอสีหน้าเคร่งเครียดอย่างถึงที่สุด เห็นได้ชัดว่านางย่อมต้องทราบถึงความลี้ลับเหล่านี้อย่างแน่นอน

 

หลังจากที่เงียบงัน หลังจากที่ราวกับว่าอัจฉริยะผู้โดดเด่นทั้งหมดได้เกิดความลังเลขึ้นมา ต่างก็ได้รวมตัวกันขึ้นมาด้วยกัน ลงมือออกไปพร้อมกัน

 

เยี่ยจงค่อยๆ ขมวดคิ้วขึ้นมา จากนั้นก็ได้เข้าไปรวมตัว ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เขาย่อมไม่อาจที่จะเปิดเผยไพ่ตายของตนเองออกไปได้ ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องร่วมมือกับคนเหล่านี้เพียงชั่วคราว ยังไงเสียก็ถือได้ว่าเป็นการวางตัวที่เหมาะสมที่สุดของตนเองแล้ว

 

“ตูม——”

 

ทันทีที่ได้ปะทุการต่อสู้อันวุ่นวายขึ้นมาในทันที ทั้งสองฝ่ายก็ได้ลงมือออกไปในเวลาเดียวกัน ในตอนนี้ก็ได้กลายเป็นสองขบวน ต่างก็เข้าห้ำหั่นกัน เมื่อพบเห็นการปรากฏขึ้นมาของน้ำตาเทวะแห่งดวงอาทิตย์ ในช่วงเวลานี้เอง ทุกผู้คนก็ยิ่งทวีดวงตาอันร้อนผ่าวในการสังหารออกไป

 

“ชิ——”

 

ในมือของบุตรมารอัสนีก็ได้รวมพลังมารอัสนีเอาไว้จนกลายเป็นหอกอัสนีขึ้นมา มุ่งหน้าแทงออกไปบริเวณทางด้านหน้า จนทำให้ร่างกายของราชาปีศาจตนนี้ลอยกระเด็นออกไป

 

และในเวลาเดียวกันนี้เอง คนที่มีผิวหนังสีเขียวผู้นั้นก็ได้ฆ่าสังหารออกมา เขาก็คือการแปลงร่างของเผ่างูยักษ์นั้นเอง แล้วก็ได้อ้าปากเพื่อที่จะพ่นไอพิษขนาดใหญ่ออกมา จนทำให้อัจฉริยะมากมายขมวดคิ้วขึ้นมาถอยร่นออกไปอย่างรวดเร็ว

 

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้เอง ผู้คนทั้งหมดต่างก็ลงมือออกไปอย่างบ้าคลั่ง นั้นก็เพราะว่าถ้าหากชักช้ากว่านี้แล้วละก็ ผลลัพธ์คงจะมีแต่ต้องตายลงไปเท่านั้น แน่นอนว่าย่อมต้องไม่มีผลลัพธ์ที่สองอื่นได้อย่างแน่นอน

 

“คิดไม่ถึงว่าเจ้ายังถึงกลับไม่ตาย ท่านซิง ผู้น้อยขอยอมรับเลย!” ร่างกายซูม่อหยงก็ได้ปรากฏขึ้นมาบริเวณข้างกายของเยี่ยจง นางถือได้ว่ามีมารยาร้อยเล่มเกวียน ตอนนี้ท่ามกลางการต่อสู้ศึกครั้งใหญ่ ก็ยังคงทอความหยาดเยิ้มจนเป็นที่น่าตกใจของผู้คน

 

และในเวลาเดียวกันนี้เอง เยว่จิ่งก็ได้ปรากฏขึ้นมาในทิศทางอีกทางด้านหนึ่ง นางมองไปทางด้านของเยี่ยจง ทอสีหน้าเย็นชาออกมาอย่างถึงที่สุด

 

หากกล่าวถึงผู้คนมากมาย การที่จะสามารถเคียงบ่าเคียงไหล่กับสองสาวงามที่ไม่เป็นสองรองใครในเวลาเดียวกันทั้งสองคนเช่นนี้ ย่อมต้องเป็นเรื่องที่เบิกบานใจได้อย่างถึงที่สุด เพียงแต่น่าเสียดาย ตอนนี้ทั้งสองคนก็ถือได้ว่าเป็นผู้ที่มีความแค้นกับเยี่ยจงอยู่ไม่น้อย เกลียดชังจนต้องการที่จะฆ่าให้ตายลงไปในสถานที่แห่งนี้ก็ว่าได้

 

“นางเซียนทั้งสองท่านคิดที่จะต้องการลงมือในตอนนี้อย่างงั้นหรือ? หากว่าเป็นเช่นนั้นจริงแล้วละก็ ผู้น้อยก็คงต้องรับความเชิญแล้ว ” เยี่ยจงยิ้มน้อยๆ ขึ้นมา มองไปทั้งสองคน ทอสีหน้าเรียบเฉยอย่างถึงที่สุด แต่ก็มิได้เป็นเพราะความหวั่นไหวต่อความงามของทั้งสอง อีกทั้งยังมีสีหน้าที่แปรเปลี่ยนกลับกลายบางอย่างแฝงเอาไว้

 

“ยังไงก็คงจะคิดเช่นนั้นมิได้หรอก ” เยว่จิ่งทอสีหน้าเย็นชาอย่างยิ่ง ใบหน้าอันเย็นเยียบกลับมิได้แสดงอารมณ์อันใดออกมาแม้แต่น้อย จะมีก็แต่เพียงความเย็นชาเท่านั้น

 

“ท่านซิงเจ้าต้องระวังเอาไว้นะ มู่ซูถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่สวะคนหนึ่ง แต่ว่ากระนั้นเขาก็ยังเป็นคนของข้า ” ซูม่อหยงหัวเราะออกมาเสียงหนึ่ง จากนั้นนางก็ได้ถอยร่นออกไปยังทิศทางอีกทางด้านหนึ่งอย่างรวดเร็ว

 

“โครม——”

 

และในเวลาเดียวกันนี้เอง ราชาเผ่าพันธุ์ควาฟู่ก็ได้เข้าสังหารเข้ามาอีกครั้ง มันได้ฟาดฝ่ามือจนอัจฉริยะตายลงไปคนหนึ่งแล้ว ตอนนี้จึงเริ่มที่จะมีชีวิตชีวาขึ้นมาอย่างยิ่ง ภายในหนึ่งกระบวนท่า ก็ได้เตรียมพร้อมที่จะสังหารเยี่ยจงลงไปในสถานที่แห่งนี้

 

ผู้คนทั้งสามสี่คนที่อยู่ทางด้านข้างของเยี่ยจงก็ได้แตกฮือออกราวกับนกกระจิบแตกขบวนไปในทันทีก็มิปาน เยี่ยจงทอประกายสายตาขึ้นมา จากนั้นก็ได้ฟาดฝ่ามือออกไปอย่างรวดเร็ว

 

“เปรี้ยง——”

 

เสียงดังสนั่นได้ดังขึ้นมา ร่างกายของเยี่ยจงก็ได้ลอยกระเด็นออกไป เขาก็ได้กระอักโลหิตออกมาอย่างรวดเร็วคำหนึ่ง เมื่อดูแล้วแล้วคล้ายกับได้รับบาดเจ็บอย่างหนักยังไงอย่างงั้น ร่างกายก็ได้กระแทกเข้าไปชนบริเวณพื้นดินอย่างรุนแรง

 

“คำเล่าขานของสุดยอดอันดับหนึ่งแห่งยุค ถึงกับถูกฟาดลอยกระเด็นไปเช่นนี้เลยอย่างงั้นหรือ!?” อัจฉริยะมากมายต่างก็เกิดอาการตกใจขึ้นมายกใหญ่ สีหน้าของผู้คนไม่น้อยต่างก็แตกตื่นขึ้นมาอย่างไม่อาจจะหยุดได้ ความแข็งแกร่งของกายเนื้อของ” ซิง” ผู้นี้ พวกเขาย่อมทราบได้เป็นอย่างดี แต่ว่าคิดไม่ถึงว่ายังถึงกับไม่อาจที่จะต้านทานกระบวนท่าเดียวของราชาเผ่าพันธุ์ควาฟู่ได้ เพียงแค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนเกิดอาการยากที่จะเชื่อขึ้นมาได้แล้ว

 

จากนั้นราชาเผ่าพันธุ์ควาฟู่ค่อยๆ ขมวดคิ้วขึ้นมา มันรู้สึกได้ว่าฝ่ามือของตนเองเมื่อครู่ราวกับกระแทกเข้ากับความว่างเปล่าก็มิปาน แต่ว่ากลับคิดไม่ถึงว่ากลับมีผลลัพธ์ออกมาเช่นนี้ได้

 

“น้ำตาเทวะแห่งดวงอาทิตย์หลุดออกมาแล้ว!”

 

ทันใดนั้น ก็ได้มีคนตะโกนออกมา วินาทีนั้น ไม่ว่าจะกลุ่มราชาปีศาจหรือว่าจะเป็นอัจฉริยะมากมาย ในตอนนี้ต่างก็ฆ่าสังหารออกไปในเวลาเดียวกัน มุ่งหน้าพุ่งออกไปบริเวณทางด้านหน้า ไม่มีผู้คนต้องการที่จะพลาดจากน้ำตาเทวะแห่งดวงอาทิตย์ไปได้

 

“ตูม——”

 

ร่างกายของเยี่ยจงทันใดนั้นก็ได้หายวับไปในทันที ร่างกายปกคลุมไปด้วยประกายแสงสีขาว เสี่ยวหลุนในตอนนี้ก็ได้ลงมือเพื่อซ่อนเร้นเขาเอาไว้ เขาขยับร่างกายคราหนึ่ง ในขณะที่ผู้คนทั้งหมดต่างก็มิได้มุ่งความสนใจเข้ามาก็ได้หายวับเข้าไปยังบริเวณทางด้านล่างของดอกศิลาไปในทันที จากนั้นพลิกมือผสานเข้าด้วยกัน สูดลมหายใจลึกๆ เข้าไปจะปะทุพลังออกมา จากนั้นก็ได้ใช้สภาวะดูดน้ำตาเทวะแห่งดวงอาทิตย์ทั้งห้าหยดเข้ามายังบริเวณใจกลางฝ่ามือ

 

ผู้คนทั้งหมดต่างก็คิดไม่ถึงว่าจะพบเห็นกับฉากเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นราชาปีศาจกลุ่มนี้หรือว่าจะเป็นอัจฉริยะมากมายเหล่านี้ต่างก็คิดไม่ถึงว่า คนผู้หนึ่งที่ได้ถูกซัดจนลอยกระเด็นออกไปจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เพราะเหตุใดถึงได้มาปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน ถึงกับช่วงชิงน้ำตาเทวะแห่งดวงอาทิตย์ทั้งห้าหยดไป ควรทราบว่า ในขณะนี้เอง ยอดฝีมือทั้งหมดต่างก็ร่วมมือกันหยุดยั้ง ผู้ใดก็ไม่อาจที่จะเข้าไปใกล้ได้อย่างง่ายดาย แต่เยี่ยจงกลับสามารถหลุดรอดเข้าไปได้เช่นนี้ อีกทั้งไม่อาจที่จะยับยั้งได้แม้แต่น้อย เปรียบเสมือนดั่งการถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างใหญ่หลวง จนกระทั่งได้ช่วงชิงวัตถุสิ่งนี้ไปจากผู้คนมากมายไป

 

เพียงแค่การคว้าจับไปที่น้ำตาเทวะแห่งดวงอาทิตย์ทั้งห้าหยดเพียงคราเดียว บริเวณใจกลางฝ่ามือของเยี่ยจงก็ได้เริ่มที่จะแผ่ขยายพลังสีทองเดือดพล่านขึ้นมา จนส่งกลิ่นหอมโชยแตะไปที่จมูกไปทั่วทั้งบริเวณออกไป จนทำให้ผู้คนเกิดความกระปรี้กระเปร่าขึ้นมา ในขณะนี้เอง ความรู้สึกของเยี่ยจงก็ได้กระจ่างชัดยิ่งขึ้น ว่ากายเนื้อของตนเองได้เกิดความกระหายออกมาอยู่ชนิดหนึ่ง ราวกับอดไม่ได้ที่จะหยุดความต้องการที่จะกลืนกินน้ำตาเทวะแห่งดวงอาทิตย์เหล่านี้เป็นอาหารก็มิปาน

 

เพียงแต่น่าเสียดาย ตอนนี้กลับมิใช่ช่วงเวลาโอกาสที่ดีที่จะหล่อหลอมน้ำตาเทวะแห่งดวงอาทิตย์นี้ ในขณะนี้เอง เยี่ยจงพลิกฝ่ามือคราหนึ่ง นำขวดหยกออกมาใบหนึ่ง จัดการกักเก็บน้ำตาเทวะแห่งดวงอาทิตย์เอาไว้เป็นอย่างดี หันร่างจากออกไปอย่างรวดเร็ว

 

“เจ้ากล้า!”

 

แล้วก็ได้มีเสียงตะโกนดังลั่นออกมาเสียงหนึ่ง ในเวลาเดียวกันก็ได้มีประกายแสงประดุจดังหยกพวยพุ่งออกมาก็มิปาน มุ่งหน้าสังหารเข้ามายังทางด้านบริเวณที่เยี่ยจงอยู่

 

“รับ——”

 

เยี่ยจงพลิกมือฟาดออกไปคราหนึ่ง บริเวณใจกลางฝ่ามือ ก็ได้ปรากฏพลังอักขระสายฟ้าขึ้นมาสายหนึ่ง จนรวมเอาไว้ด้วยประกายแสงอันคมกล้าพร้อมกับเสียงหัวเราะทุ่มต่ำ ในเวลาเดียวกันตัวเขาเองก็ได้หยิบยืมพลังจากสภาวะนี้เพื่อที่จะได้ถอยออกไปบริเวณทางด้านหลัง คิดที่จะฉวยโอกาสนี้เพื่อที่จะได้เข้าไปใกล้ยังตำหนักโบราณเป็นอันดับแรก

 

“เจ้าหนู เจ้าหนีไม่รอดหรอกนะ!”

 

ราชาวิหคตะวันทองคำทอสีหน้าโกรธเกรี้ยวขึ้นมา พวกมันได้ตระเตรียมเอาไว้เป็นเวลานาน ใช้พลังออกมาทั้งหมด ถึงกับถูกผู้คนยับยั้งเอาไว้ในระหว่างทาง ความรู้สึกเช่นนี้ได้ทำให้มันโกรธกริ้วขึ้นมาในทันที พลังในการโจมตีอันน่าหวาดกลัวก็ได้หมุนวนประดั่งอาวุธมีคมลอยออกไป

 

“โครม——”

 

ราชาเผ่าพันธุ์ควาฟู่ตอนนี้ก็ได้ก้าวเข้ามาทางด้านของเยี่ยจง ร่างกายก็ได้ทอเป็นประกายแวววับสาดเป็นประกายเจิดจ้าก็มิปาน ในมือของเขาก็ได้ปรากฏขุนเขาสูงใหญ่ขึ้นลูกหนึ่ง ถูกเขาช้อนขึ้นมา มุ่งหน้ากวาดเข้าไปยังบริเวณทางด้านของเยี่ยจงเข้าไป หมายจะสังหารเยี่ยจงลงไปในทันที

 

เยี่ยจงค่อยๆ สาดประกายดวงตาขึ้นมา สภาวะดั่งดวงจันทร์ทอแสงที่จุดตันเถียนในตอนนี้ก็ได้พลิกไปมา ถึงแม้ว่ายังไม่มีความเปลี่ยนแปลงแต่อย่างไร แต่ว่าราวกับว่าทางด้านของสภาวะดั่งดวงจันทร์ทอแสงได้เกิดการสาดส่องของพลังกาลแสงจันทราอยู่รอบหนึ่ง บรรยากาศของเยี่ยจงในตอนนี้ก็ได้เพิ่มสูงขึ้นเป็นระยะ จนขึ้นมาจนถึงในระดับหนึ่ง ทางด้านมือซ้ายของเขาก็ได้ปรากฏพลังอักขระไท่กู่จูเชวียนก็ได้ปรากฏขึ้นมาทางด้านมือซ้าย จนกลายสภาพเปรียบเสมือนนกเพลิงกาฬจูเชวียนเล็กๆ ตนหนึ่งพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าขึ้นไป

 

ในเวลาเดียวกัน พลังประกายแสงสีทองที่มือขวาก็ได้แผ่กระจายออกมา จากนั้นก็ได้พุ่งหมัดออกไปบริเวณทางด้านหน้า จนกระแทกเข้าไปยังยอดเขาขนาดใหญ่ที่สูงเสียดฟ้าลูกนั้นเข้าไปอย่างรุนแรง

 

“เปรี้ยง——”

 

“โครม——”

 

พลังการโจมตีอันน่าหวาดกลัวทั้งสองสายก็ได้ปะทุออกมาในเวลาเดียวกัน ในขณะนี้เอง ประดุจสายฟ้าที่แตกระเบิดท่ามกลางอากาศ เต็มเปี่ยมไปด้วยสภาวะแห่งความโกรธเกรี้ยว จนก่อเกิดบรรยากาศอันน่าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด

 

ท่ามกลางอากาศ ราชาวิหคตะวันทองคำก็ได้ทอสีหน้ายากที่จะเชื่อขึ้นมา มันได้จ้องมองไปยังทางด้านเยี่ยจงอย่างเอาเป็นเอาตายที่เมื่อครู่ได้ใช้พลังอักขระปะทะออกมา ภายในดวงตาก็ได้ทอความสงสัยขึ้นมาอย่างถึงที่สุด เห็นได้ชัด มันเองก็คิดไม่ถึงว่าเยี่ยจงยังถึงกับมีวิชาพลังฝ่ามือในระดับนี้

 

และทางด้านราชาเผ่าพันธุ์ควาฟู่ก็ได้ซวนเซถอยไปทางด้านหลังอยู่หลายก้าว ใจกลางฝ่ามือของมันก็ได้ปรากฏรอยแตกร้าวขึ้นมาเป็นสาย จากนั้นก็ได้แหลกลาญไปอย่างรวดเร็ว มันถึงแม้จะมิได้รับบาดเจ็บ แต่ว่าสีหน้าในตอนนี้กลับแสดงออกถึงอาการแตกตื่นอย่างไร้ที่เปรียบ

 

ในขณะนี้เอง ไม่ว่าจะเป็นอัจฉริยะมากมายหรือว่าจะเป็นราชาปีศาจเหล่านั้นต่างก็เกิดอาการตกใจขึ้นมาภายในจิตใจ เด็กหนุ่มเผ่ามนุษย์เบื้องหน้าสายตาผู้นี้ ที่แท้แล้วมีพลังความน่าหวาดกลัวถึงระดับใดกันแน่? เขาที่มีพลังฝีมือเพียงแค่ยังไม่ทันจะเข้าสู่ระดับราชัน ยังถึงกับสามารถที่จะต้านทานการโจมตีจากราชาปีศาจทั้งสองตนได้ในเวลาเดียวกันเชียวงั้นหรือ?

 

ควรทราบว่า ราชาปีศาจทั้งสองตนนี้ถึงแม้ว่าจะพึ่งเข้าสู่พลังยุทธ์ขั้นก่อฟ้าขอบเขตพลังปราณเทวราช เพียงแต่ว่าพึ่งจะเริ่มเข้าสู่ขอบเขตพลังปราณเทวราชในระดับเทวราชขั้นแรกเท่านั้น แต่ว่าต่อให้เป็นเช่นนั้น พวกเขาก็ยังคงถือได้ว่าน่าหวาดกลัวสุดเปรียบปาน แข็งแกร่งกว่าเหล่าผู้เยาว์ในระดับราชันไม่รู้กี่เท่าตัว

 

แต่ว่า ตอนนี้พวกมันก็ได้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องลงมือออกไปในเวลาเดียวกัน ยังถึงกับถูกสวนกลับจนต้องถอยออกมาอย่างงั้นหรือ? นี้ช่างถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างมาก

 

“ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย ถึงกลับสามารถที่จะฝึกปรือได้ในระดับที่สูงถึงเพียงนี้เชียวงั้นหรือ อีกทั้งยังแฝงเอาไว้ด้วยสภาวะกายาทองไม่สูญสลายอยู่อีก หากว่าปล่อยให้เขาฝึกปรือน้ำตาเทวะแห่งดวงอาทิตย์ที่พึ่งจะตกอยู่ในมือได้ เกรงว่าเขาคงจะสามารถที่จะเข้าสู่กายาทองไม่สูญสลายในตำนานก็เป็นได้ ” ราชาเผ่าพันธุ์ควาฟู่ทอสีหน้าเคร่งเครียดกล่าวออกมา พวกมันนั้นต่างก็ถือได้ว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีร่างกายอันแข็งแกร่ง เกี่ยวกับสภาวะร่างกายอันแข็งแกร่งเหล่านี้ย่อมต้องมีความเข้าใจอย่างไร้ที่เปรียบ ตอนนี้เพียงคำพูดเดียวก็ได้กล่าวออกมาถึงกระบวนที่เยี่ยจงใช้ออกมาเพื่อต้านรับตนเองในยามคับขันขึ้นมาได้

 

“วิชาจูเชวียน ถึงแม้ว่าจะมิได้จัดอยู่ระดับเทวะก็ตามที แต่ว่าอย่างน้อยการที่จะสามารถแสดงพลังวิชาฝ่ามือของจูเชวียนในระดับมนต์ตราเทพให้อยู่ในระดับเทวะได้นั้น เด็กน้อยผู้นี้ก็ช่างมีวาสนาอย่างใหญ่หลวงนัก เพียงแค่วิชามนต์ตราเทพจูเชวียนเพียงอย่างเดียว ก็สามารถที่จะกลายเป็นผู้ที่มีพลังไร้ผู้ต้านที่มีพลังในการสังหารอยู่ในระดับขีดสุดได้แล้ว……หากว่าให้ข้าได้รับวิชาจูเชวียนนี้ พลังแห่งมหาราชันก็มีความหวังแล้ว!” ราชาวิหคตะวันทองคำแผ่รังสีสังหารออกไปมาเข้มข้น ภายในท่ามกลางดวงตาก็ได้ทอประกายแสงสีทองแวววับขึ้นมา ตอนนี้เมื่อเขามองไปที่เยี่ยจง ประดุจตลอดทั่วทั้งคนเปรียบเสมือนดั่งกล่องสมบัติมีค่าชิ้นหนึ่งก็มิปาน ขอเพียงสามารถครอบครองมาได้ ก็จะได้รับประโยชน์ขึ้นมาอย่างมากมายมหาศาล

 

“อะไรกัน? หากกล่าวเช่นนี้แล้วละก็ เด็กน้อยเยี่ยจงผู้นี้ก็ถือได้ว่าน่าหวาดกลัวกว่าเจ้าปีศาจที่น่ารังเกียจนั้นอยู่อย่างงั้นหรือ อีกทั้งยังมีความแข็งแกร่งอย่างน่ากลัว ” ท่ามกลางหมู่อัจฉริยะ ก็ได้มีคนกล่าวออกมาเสียงแผ่วเบา ทอสีหน้าเคร่งเครียดอย่างถึงที่สุด พลังต่อสู้ของ” ซิง” ที่อยู่เบื้องหน้าสายผู้นี้ เกรงว่าเพียงพอที่จะสามารถกดดันอัจฉริยะท่ามกลางสถานที่แห่งนี้ทั้งหมดได้แล้ว นี้ถือได้ว่าเป็นพลังกดดันอันมหาศาลที่มีต่อผู้คนอย่างมาก

 

“ไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ตาม จับตัวเขามา หากว่าปล่อยให้เขาหล่อหลอมน้ำตาเทวะแห่งดวงอาทิตย์ได้ จนหล่อหลอมเข้าสู่กายาทองไม่สูญสลาย พวกข้าต่างก็มิใช่คู่ต่อสู้ของเขา!” ราชาเผ่าพันธุ์ควาฟู่เป็นผู้แรกที่มีปฏิกิริยากลับคืนมา มันย่อมเข้าใจอย่างกระจ่าง คำเล่าขานของกายาทองไม่สูญสลายนั้นมีพลังความน่ากลัวในระดับใด หากว่าปล่อยให้ฝึกปรือได้จริงแล้วละก็ เพียงแค่พลังของร่างกายอย่างเดียวเท่านั้น แม้แต่ยอดฝีมือระดับมหาราชันก็ยังไม่อาจที่จะเทียบเปรียบได้ หากว่าปล่อยให้มารร้ายเช่นนี้เติบใหญ่ขึ้นมาได้จริง หากมองในมุมมองของราชาปีศาจพวกเขาเหล่านี้ แน่นอนว่าย่อมมิใช่เรื่องที่ดีอันใด

 

พริบตานั้นเอง ร่างกายของราชาเผ่าพันธุ์ควาฟู่ก็ได้ปะทุประกายแสงคมกล้าสีขาวขึ้นมา เขามุ่งหน้าเข้าปะทะสังหารออกไป หมายมั่นจะฆ่าสังหารเยี่ยจงลงไปในทันที

 

“ตาย!” ราชาวิหคตะวันทองคำ ราชามดทองคำ ราชาม้าเขาเดียวเป็นต้น ตอนนี้ต่างก็ได้แบ่งกันลงมือ วินาทีนั้น ทักษะยุทธ์สังหารแต่ละสีสัน ก็ได้พุ่งเข้ามากดทับไปยังทางด้านของเยี่ยจง

.

.

.

.

กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น กลุ่ม 5-12 ราคา 600
ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
#####Fanpage#####
Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset