ตอนที่ 442 จักรพรรดินีฮวา
“ฝีมือที่ไม่เลว น่าเสียดายที่ข้าไม่อาจที่จะให้โอกาสแก่เจ้าอีกในครั้งต่อไปแล้วกลอกตา” เยี่ยจงขยับร่างกายคราหนึ่ง ตราแห่งราชาแดนมนุษย์ก็ได้ฟาดออกมาอีกครา พลังมังกรทองก้าวเท้าห้ากรงเล็บขนาดใหญ่ก็ได้ประทับออกมาด้วยพลังประกายแสงสีทองออกมาอย่างมหาศาล “ศรัทธาสวรรค์สดุดีโชคลาภ” อักษรสีทองทั้งสี่ตัวก็ได้ปรากฏขึ้นมายังใจกลาง กระแทกลงมาจากท่ามกลางอากาศ หมายมั่นที่จะฆ่าสังหารหญิงสาวชุดดำทันที
“ฝุบ——”
หญิงสาวชุดดำไม่ทันที่จะหลบเลี่ยง ก็ได้ถูกกระแทกเข้าไปเต็มๆ ต่อมาก็ได้กระอักโลหิตออกมาคำโต ตลอดทั่วทั้งร่างกายไม่ทราบว่ามีกระดูกน้อยลงไม่รู้กี่ซีก แต่ว่านางก็ยังคงถือได้ว่าเป็นชนชั้นอัจฉริยะแห่งเผ่าพันธุ์ ต่อให้ได้รับบาดเจ็บหนักเช่นนี้ ก็ยังคงกัดฟันฝืนเดินออกไป
“ไม่ต้องไปแล้ว ! ”
เยี่ยจงไล่สังหารเข้ามา ยื่นนิ้วมือออกไปบริเวณทางด้านหน้า ใช้สำนึกกระบี่ตัดความว่างเปล่ากวาดออกไป
ทันใดนั้น พลังสำนึกแห่งคมกระบี่อันเย็นเยียบก็ได้พวยพุ่งออกมา อย่างไร้สุ่มเสียงวี่แวว พริบตานั้นก็ได้เข้าไปใกล้บริเวณร่างกายของเยี่ยจง จนก่อเกิดรังสีสังหารขึ้นมาชนิดหนึ่ง
“เคร้ง ! ”
เยี่ยจงร่างกายสั่นเทาขึ้นมาคราหนึ่ง ก็ได้ใช้ออกมาด้วยวิชาดำดินรุกคืบ สำนึกกระบี่ตัดความว่างเปล่าภายในมือก็ไม่อาจที่จะไม่ใช้ออกมาได้ในขณะนี้ฟาดฟันออกไปบริเวณทางด้านล่าง แต่ว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ก็ตาม แขนของเขาก็ได้ปรากฏรอยดาบขึ้นมาแห่งหนึ่ง จนมีโลหิตไหลรินออกมา
นี้ก็คือความแข็งแกร่งของร่างกายเยี่ยจง ราวกับว่ามีแต่เพียงระดับตำนานร่างเทวะกายาทองคำไม่สูญสลาย จึงจะสามารถเกิดผลลัพธ์เช่นนี้ได้ หากว่าเปลี่ยนเป็นผู้คนปกติธรรมดาแล้วละก็ เกรงว่าร่างกายคงจะต้องถูกพลังกระบี่นี้หั่นออกไปครึ่งร่างอย่างแน่นอน
“ไม่ใช่กล่าวว่าดินแดนทางด้านนี้มีตำนานไม่ดับสูญอยู่อย่างงั้นหรือ ? เหตุใดยังมีพระยาปีศาจที่มีความแข็งแกร่งกว่าได้กัน หรืออาจจะเป็นเพราะว่าพวกมันนั้นหมกตัวอยู่ในดินแดนแห่งนี้จนนานเกินไปแล้วกระมั่ง ? ”
เยี่ยจงขมวดคิ้ว กำลังครุ่นคิด พระยาปีศาจที่ลงมือออกมาในภายหลัง มิได้มีผู้ใดที่มีถือได้ว่าธรรมดาแม้แต่คนเดียว หากปล่อยให้อยู่ภายในดินแดนทั้งสี่ อย่างน้อยก็คงจะมิได้มีความแข็งแกร่งเพียงแค่นี้อย่างแน่นอน
“ตูม——”
ไม่คาดฝันอย่างยิ่ง ก็ได้เกิดการแตกร้าวขึ้นท่ามกลางอากาศ มีแต่เพียงกรงเล็บสีดำขนาดใหญ่กวาดออกมา ประดุจกรงเล็บที่มาจากกระดูกที่เล็กเรียว แต่ว่ากลับมีสีที่ดำมืดมิดเย็นเยียบ มุ่งหน้าประทับเข้าไปยังบริเวณที่เยี่ยจงอยู่
เยี่ยจงก็ได้มีสภาวะตรวจพบ หันกายไปอย่างรุนแรง เขาใช้ออกมาด้วยพลังการเปลี่ยนแปลงที่สามแห่งไท่กู่จูเชวียน จนก่อเกิดวงล้อมสังหารสีแดงปรากฏขึ้นมา ต้านทานกระบวนท่านี้เอาไว้
“บรึม——”
ถึงแม้ว่าจะต้านทานกระบวนท่านี้ได้ แต่ว่าร่างกายเยี่ยจงก็ยังคงโอนเอนไปมา กระอักโลหิตออกมาอย่างรุนแรง ทอสีหน้าขาวซีดปรากฏขึ้นมาบนใบหน้า
“นี้มัน ยอดฝีมือในระดับราชันที่แท้จริงได้ลงมือแล้วงั้นหรือ ? หรือว่า ภายในดินแดนขนาดเล็กแห่งนี้ ยังมีราชาที่แท้จริงอยู่อย่างงั้นหรือ ? ” เยี่ยจงยื่นมือออกไปปาดโลหิตที่ไหลออกมาจากมุมปาก เกิดความหวาดหวั่นขึ้นมาภายในจิตใจ เมื่อครู่พึ่งจะสลายพลังไปกระบวนท่าหนึ่ง อีกทั้งยังมีพลังทำลายที่ยากต้านทาน แน่นอนว่าย่อมไม่อาจที่จะสลายการโจมตีที่เต็มไปด้วยสภาวะแห่งการทำลายของราชาได้อีก
หากว่าเยี่ยจงคาดเดาได้ไม่ผิดแล้วละก็ ดินแดนขนาดเล็กแห่งนี้ อย่างน้อยคงจะต้องมีการคงอยู่ของระดับราชันที่แท้จริง เพียงแค่มองเห็นแค่กรงเล็บเท่านั้น แต่การลงมือนั้นถือได้ว่าเป็นที่เป็นการใช้ออกที่เคยชินอย่างมาก、เลือดลมก็เริ่มที่จะแข็งตัว ราวกับสามารที่จะตายตกลงไปได้ทุกเมื่อ ไม่เช่นนั้นแล้วละก็ มันก็คงจะต้องปรากฏขึ้นมาตั้งแต่แรกแล้ว คงจะไม่แอบลอบใช้กระบวนท่าสังหารเช่นนี้อย่างแน่นอน
“ไม่ได้ ต้องถอยแล้ว ! ”
เยี่ยจงขมวดคิ้ว ในครั้งนี้ก็ได้ใช้ออกมาด้วยวิชาดำดินรุกคืบอย่างรวดเร็ว หากว่ามีแต่เพียงพระยาปีศาจและราชาปีศาจหลายคนแล้วละก็ เช่นนั้นอย่างนั้นความเป็นไปได้ในการต่อสู้ในครั้งนี้ หากว่าเพิ่มออกมาด้วยระดับราชาที่แท้จริงอีกตนลงมืออย่างซ่อนเร้นแล้วละก็ เช่นนั้นต่อให้เป็นเยี่ยจง ก็คงยากที่จะรอดพ้นจากวิกฤตความตายได้ ไม่อาจที่จะสู้ต่อไปได้อีก
ในขณะนี้เอง เยี่ยจงก็ได้ปล่อยวางโอกาสในการเข่นฆ่าสังหารเด็กสาวเผ่าแมงป่องไปในทันที เพียงแต่ใช้ออกมาด้วยวิชาดำดินรุกคืบ หมายมั่นที่จะออกไปเป็นอันดับแรก
“เจ้าหนู เมื่อครู่เจ้ามิใช่ห้าวหาญนักหรือไง、หมดแรงแล้วอย่างงั้นหรือ ? คิดที่จะหลบหนีไปในตอนนี้หรือยังไง ? ” มีพระยาปีศาจหัวเราะขึ้นมาอย่างเย็นชา น้ำเสียงเย็นชาอย่างยิ่ง
“วันนี้ หากว่าเจ้าไม่นำสิ่งของที่อยู่บนตัวของตนเองทิ้งเอาไว้แล้วละก็ คิดจะจากไปงั้นหรือ ? คงจะเป็นได้แค่ฝันแล้ว ! ”
“คิดที่จะลิ้มลองรสชาติของเผ่ามนุษย์มาเนิ่นนานแล้ว วันนี้เหมาะที่จะของลิ้มรสชาติยิ่งนัก ! ”
กลุ่มพระยาปีศาจก็ได้ฆ่าสังหารออกมาในเวลาเดียวกัน ขวางรั้งปิดล้อมเยี่ยจงเอาไว้ เห็นได้ชัด กระบวนท่าเมื่อครู่นั้นเมื่อถูกพวกมันพบเห็น พวกมันก็ย่อมเข้าใจอย่างชัดเจน ตอนนี้เยี่ยจงได้เกิดความหวาดกลัวขึ้นมาแล้ว
และพระยาปีศาจกลุ่มนี้ก็ได้ขึ้นมาปิดล้อมด้วยกัน ต่อให้เป็นเยี่ยจงเองก็ยังต้องขมวดคิ้วน้อยๆ ขึ้นมา นั้นก็เพราะว่าเป้าหมายของพระยาปีศาจกลุ่มนี้นั้นเป็นที่ชัดเจนอย่างยิ่ง ตนเองถ้าหากไม่ส่งมอบสิ่งของที่ได้มาจากสุสานแห่งจักรพรรดิฟ้าตะวันตกแล้วละก็ พวกเขาย่อมไม่ปล่อยให้จากไปอย่างแน่นอน ถือได้ว่าเป็นเป้าหมายที่ชัดเจนเป็นอย่างยิ่ง
น่าเสียดาย ที่เยี่ยจงได้รับนั้นกลับเป็นอักษรโบราณ แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่อาจที่จะทำความเข้าใจได้ ย่อมไม่อาจที่จะนำออกได้อยู่แล้ว
“พวกเจ้าหากว่าคิดที่ขวางรั้งเช่นนี้ไปแล้วละก็ เช่นนั้นก็อย่าได้โทษว่าข้าลงมือเปิดการสังหารครั้งใหญ่ก็แล้วกัน ! ” เยี่ยจงทอสีหน้าเย็นเยียบอย่างมาก พริบตานั้นเอง เขาก็ได้พลิกมือคราหนึ่ง นำเอาร่างมหัศจรรย์หมื่นโบราณออกมา วางเอาไว้บริเวณใจกลางฝ่ามือ เตรียมพร้อมที่จะใช้ออกมา นี้ถือได้ว่าเป็นอาวุธในการฆ่าล้างสังหารชิ้นใหญ่ของเขา ตอนนี้หากใช้ออกมาแล้วละก็ อย่างน้อยก็คงพอที่จะสามารถทำให้เขาเข้าไปถึงพลังในการต่อสู้ในระดับราชันได้ ตอนนี้เขาสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตอันเปี่ยมล้น ย่อมไม่อาจที่จะเก็บซ่อนเอาไว้ได้อีก
“ร่างมหัศจรรย์หมื่นโบราณ ! ? ” ราชาเก้าหงสาเป็นคนแรกที่มีปฏิกิริยากลับมา มันเหม่อมองไปยังสายตาของเยี่ยจง พริบตานั้นเองก็ได้ทอประกายเพลิงไฟขึ้นมา
“เป็นร่างมหัศจรรย์หมื่นโบราณในตำนานจริงงั้นหรือ ? เจ้าหนูผู้นี้บนตัวของมันมีสมบัติมากมายถึงเพียงนี้เชียว กล่าวกันว่าวัตถุชิ้นนี้ทำให้พวกเราสามารถใช้ออกมาด้วยพลังในระดับราชันที่แท้จริงได้เชียวนะ ใช้มาเพื่อเสริมพลังสภาวะ ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้ว เจ้าหนูถึงกับเป็นดาวนำโชคของพวกเราอย่างแท้จริงเลยนะ ! ” ภายในดวงตาของมนุษย์ผิวสีเขียวก็ได้เกิดความหวาดกลัวขึ้นมา แต่ว่าในเวลาเดียวกันก็ได้เกิดความลิงโลดขึ้นมาอย่างหาที่สุดไม่ได้ เห็นได้ชัด มันย่อมทราบได้อย่างชัดเจน ว่าสิ่งของเช่นนี้เป็นสมบัติที่ดีแค่ไหน
“ฆ่า——”
พระยาปีศาจกลุ่มยิ่งทอประกายดวงตาร้อนแรงยิ่งกว่า ฆ่าสังหารออกไปในเวลาเดียวกัน
“โครม——”
ศิลาโบราณชิ้นหนึ่งก็ได้ลอยลงมาจากฟากฟ้า มุ่งหน้าเข้าสังหารบริเวณทางด้านที่เยี่ยจงอยู่ และในเวลาเดียวกันนี้เอง ก็ได้มีทั้งทักษะยุทธ์และสมบัติปราณหลากหลายชนิดพวยพุ่งเข้ามาในเวลาเดียวกัน เห็นได้ชัด พระยาปีศาจเหล่านี้ต่างก็เกิดความบ้าคลั่งขึ้นมาแล้วหลายส่วน
“เป็นพวกเจ้าหาที่ตายเองนะ ! ” เยี่ยจงหัวเราะขึ้นมาอย่างเย็นชา ในตอนนี้ในที่สุดเขาก็ไม่สนใจทุกสิ่งทุกอย่าง ใช้ออกมาด้วยพลังฝีมืออันประหลาดพิสดารพร้อมกับร่างมหัศจรรย์หมื่นโบราณ
“ชิ——”
พริบตานั้นเองร่างมหัศจรรย์หมื่นโบราณก็ได้กลายเป็นเกราะที่เป็นประกายแสงสีดำมืดปกคลุมอยู่ทั่วทั้งร่างกายของเขา จนทำให้พลังในการต่อสู้ของเยี่ยจงเพิ่มสูงขึ้นไปจนถึงในระดับราชันในทันที
“ข้าจะฆ่าพวกเจ้าตายให้หมด ! ”
เยี่ยจงตะโกนออกมา ผสานมือทั้งสองข้างเข้าด้วยกัน จนเกิดการโจมตีอันน่าหวาดกลัวขึ้นมา พริบตานั้นเองก็ได้ฟาดพระยาปีศาจลอยออกไปไม่น้อย
“ดับสูญไปซะ ! ”
ในตอนนี้ตราผนึกนภาก็ได้ถูกเยี่ยจงฟาดออกไป มุ่งหน้าขึ้นไปทางด้านท้องนภาที่สูงล้ำปะทะออกไป และในเวลาเดียวกันนี้กลอกตาพลังอันน่าหวาดกลัวของตราผนึกฟ้าดินก็ได้แผ่ขยายออกไปทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้านกระจายออกไปในเวลาเดียวกัน วินาทีนั้น ก็ได้มีพระยาปีศาจเจ็ดแปดตนพุ่งออกไปไม่ทัน ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจนสูญสลายบดบี้เข้าไปยังผืนดิน
ยอดฝีมือทั้งหมดในตอนนี้ต่างก็เกิดอาการตกใจขึ้นมา ที่ตายไปนั้นต่างก็ถือได้ว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่เกรียงไกร ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงพระยาปีศาจ แต่ว่าพลังในการต่อสู้ไม่ธรรมดา คิดไม่ถึงภายใต้กระบวนท่านี้ของเยี่ยจง ถึงกับสามารถบดบี้พระยาปีศาจมากมายจนกลายเป็นปุ๋ยผงได้
แม้แต่ในระดับพลังก็ถือได้ว่าอยู่เหนือกว่าคำว่าธรรมดา หยินป้าเยว่ที่ใช้ออกมาด้วยศิลาโบราณ ในตอนนี้ก็ได้กระอักโลหิตออกมาคำโต มุ่งหน้าโบยบินถอยออกไปทางด้านหลัง
“ตูม——”
เยี่ยจงก้าวออกไปก้าวหนึ่ง ก็ได้ปรากฏขึ้นอยู่ท่ามกลางอากาศ จากนั้นก็ได้หยุดเท้าลง ตามความเคลื่อนไหวของเขา ก็ได้มีอักขระกิเลนปรากฏขึ้นบริเวณใต้ฝ่าเท้าของเขา พร้อมกับการย่างกรายลงของเขา
“ท่าร่างกิเลน ! ”
เยี่ยจงย่างก้าวลงมา ประดุจดั่งกิเลนสีม่วงลอยล่องเดินเหินอยู่ท่ามกลางอากาศก็มิปาน จากนั้นก็ได้มุ่งหน้าเข้าไปยังหยินป้าเยว่ที่ส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวดขึ้นมาอย่างกะทันหัน ศิลาโบราณใจกลางฝ่ามือของเขาก็ได้แหลกลาญไปในทันที ทั่วทั้งร่างกายก็ได้ปรากฏคราบโลหิต เริ่มที่จะกระอักโลหิตออกมาคำโต
“ฝุบ——”
เยี่ยจงเหยียบลงไปอีกครา ก็ได้ยินเสียงโหยหวนดังออกมา อัจฉริยะแห่งเผ่าปีกเงินผู้นี้ ก็ได้ถูกเหยียบย้ำจบชีวิตตายลงไปเช่นนี้ กลายเป็นเพียงก้อนเนื้อแหลกเหลว ไม่มีอะไรหลงเหลือ
“ตูม——”
ท่ามกลางอากาศ ก็ได้มีแขนอันขาวผ่องข้างหนึ่งปรากฏขึ้นมากะทันหัน มุ่งหน้าใช้พลังลมปราณปกคลุมไปยังทางด้านของเยี่ยจง เห็นได้ชัดคิดหมายที่ผนึกพลังปราณฟ้าของเยี่ยจงออกไป
เยี่ยจงหัวเราะขึ้นมาอย่างเย็นชา คิดไม่ถึงว่าจะมีคนที่หาญกล้าลงมือออกมาในเวลาเช่นนี้ เขาพลิกฝ่ามือฟาดกลับไป มุ่งหน้าปะทะออกไปท่ามกลางอากาศ
“ซูม——”
เสียงนั้นดังกระหึ่มออกมา พลังการโจมตีทั้งสองสายก็ได้สลายหายไปในเวลาเดียวกัน และเยี่ยจงก็ได้ขมวดคิ้วขึ้นมาน้อยๆ นั้นก็เพราะว่าเขานั้นสูดดมได้ถึงกลิ่นหอมบางอย่างได้กลุ่มหนึ่ง เห็นได้ชัดผู้ที่ลงมือนั้น แท้จริงแล้วเป็นหญิงสาวนางหนึ่ง
“ไสหัวออกมา ! ”
หลังจากที่มองไปยังใจกลางฝ่ามือของตนเอง เยี่ยจงก็ได้กอดอก เอ่ยขึ้นมาอย่างเย็นเยียบ
“อัจฉริยะรุ่นเยาว์แห่งเผ่ามนุษย์ ที่แท้ก็อยู่ในระดับที่ไม่ดับสูญอีกทั้งยังเหนือธรรมดา ”
แล้วก็ได้มีเสียงสดใสเย็นเยียบดังออกมา จากนั้นก็ได้พบเห็นหญิงสาวงดงามผมเผ้าสีม่วงค่อยๆ ที่จะปรากฏขึ้นมาท่ามกลางอากาศ นางมีดวงตาที่เย็นเยียบ、ร่างกายสูงยาว、มีผิวพรรณงดงามประดุจหยกก็มิปาน เห็นได้ชัดว่าได้ให้บรรยากาศสายลมที่โชยพัดอกมานับหมื่นชนิด
เส้นผมสีม่วงของนางก็ได้ลอยไปมาตามจังหวะการพัดมาของสายลมจนกระทั่งเกิดแรงโน้มถ่วงลงจนเส้นผมทอดลงมาถึงช่วงเอว เส้นผมนั้นให้ความแวววาวประดุจถูกถักทอมาจากหยกชิ้นเดียวกัน ให้ความงดงามจนแม้แต่เยี่ยจงเองก็ไม่อาจกะพริบตา ภายใต้สายลมนับหมื่นชนิด ก็แทบจะทำให้จิตวิญญาณหลุดลอยไปได้แล้ว
และเมื่อพบว่าหญิงสาวผู้นี้ปรากฏตัวขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นเหล่าปีศาจราชาหรือเป็นพระยาปีศาจ กระนั้นในเวลาเดียวกันต่างก็คุกเข่าลงกับพื้น ทอสีหน้านับถือขึ้นมา
“เอ๊ะ แลดูยิ่งใหญ่ไม่เลวเลยนะ ! ” เยี่ยจงกล่าวออกมาอย่างเย็นชากลอกตาทอสีหน้าเรียบเฉยอย่างยิ่ง แต่ว่าภายในดวงตากลับเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด พลังฝีมือของหญิงสาวผู้นี้ถึงแม้ว่าจะยังไม่ถึงในระดับราชัน แต่ว่าเพียงแค่กายเนื้อนั้นก็เรียกได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าหวาดกลัวอย่างขีดสุดแล้ว ต่อให้เยี่ยจงก็ยังเกิดสัญญาณแห่งอันตรายขึ้นมาภายในจิตใจเมื่อพบกับนาง
“เจ้าหนู เจ้าบังอาจนัก ! นี้คือจักรพรรดินีแห่งสายโลหิตจักรพรรดิฟ้าตะวันตก เจ้ายังกล้าที่จะลบหลู่อีก นี้เจ้าหาที่ตายหรืออย่างไรกัน ! ” ราชาเก้าหงสาเงยหน้าขึ้นมาในทันที จ้องเขม็งไปที่เยี่ยจง ใบหน้าเต็มไปด้วยแววตาอาฆาต
“จักรพรรดินีแห่งสายโลหิตจักรพรรดิฟ้าตะวันตกงั้นหรือ ? ” หลังจากที่เงียบงัน ไม่เพียงแต่เยี่ยจงเท่านั้นที่กลอกตาไปมา แม้แต่อัจฉริยะเหล่านั้นที่มาจากภายนอกทางด้านล่างก็ได้กลอกตาไปมาด้วยอาการตื่นตกใจ เพราะว่าสถานะเช่นนี้ ถือได้ว่าเป็นที่น่าตกใจต่อผู้คนได้อย่างมากมาย จักรพรรดินีแห่งสายโลหิตจักรพรรดิฟ้าตะวันตก หรือจะกล่าวได้ว่า นางก็คือสายโลหิตตรงจากจักรพรรดิฟ้าตะวันตกนั้นเอง
“จักรพรรดิฟ้าตะวันตกจักรพรรดินี ” เยี่ยจงขมวดคิ้ว ตำนานโบราณของจักรพรรดิฟ้าตะวันตก ไม่ทราบว่าได้ผ่านพ้นมาเนิ่นนานถึงเพียงใด ต่อให้เป็นจักรพรรดินีแห่งสายโลหิตจักรพรรดิฟ้าตะวันตก เช่นนั้นแล้วจะเป็นอย่างไร ?
ราวกับว่ามองอะไรบางอย่างออกมาได้ในข้อนี้ จักรพรรดินีผมม่วงผู้นี้ก็ได้ยิ้มน้อยๆ ขึ้นมา กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ : “สุดยอดรุ่นเยาว์แห่งเผ่ามนุษย์ ผู้น้อยถึงแม้ว่าจะสืบเชื้อสายมาจากจักรพรรดิฟ้าตะวันตก แต่ว่ากลับมิใช่ดำเนินเป็นสายตรง เพียงแต่ว่ากลุ่มเผ่าพันธุ์ภายในดินแดนแห่งนี้ยังคงยึดองค์จักรพรรดิฟ้าตะวันตกเปรียบเสมือนดั่งบรรพบุรุษ เห็นแก่หน้าผู้น้อยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ผู้นั้นมีนามว่าฮวาเพ่ยหยี่ ”
“ฮวาเพ่ยหยี่ ” เยี่ยจงกล่าวออกมาเสียงเบา ทอสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมายิ่งกว่าเดิม ถึงแม้ว่าฮวาเพ่ยหยี่ผู้นี้ภายร่างกายมิได้มีแต่เพียงสายโลหิตแห่งจักรพรรดิฟ้าเท่านั้น แต่ว่า จักรพรรดิฟ้าทั้งสองคำนี้ เดิมทีก็ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของพลังแห่งการทำลายระดับสูง บวกกับกระบวนท่าที่ปะทะกันเมื่อครู่ ก็เพียงพอที่จะบ่งบอกได้ว่าหญิงสาวผู้นี้ไม่ธรรมดา เยี่ยจงกลับไม่คิดจริงๆ หรอกว่า ราชาปีศาจและพระยาปีศาจเหล่านี้จะเป็นเพราะเห็นแก่สถานะของนาง จึงได้ยกย่องนางเฉกเช่นนี้
เกรงว่า หญิงสาวผู้นี้จึงถือได้ว่าเป็นสุดยอดฝีมืออันดับหนึ่งแห่งดินแดนทางด้านนี้แล้ว อีกทั้งยังเป็นผู้ที่อยู่เหนือทุกสิ่งภายในดินแดนทางด้านนี้ได้อย่างแท้จริง การคาดเดานี้ ทำให้ผู้คนแตกตื่นตะลึงลานขึ้นมา แต่ว่าก็ถือได้ว่าเป็นความจริงที่ไม่อาจที่จะไม่ยอมรับได้
“นี้เป็นดินแดนขนาดเล็กจริงอย่างงั้นหรือ ? ถึงกับมีตำนานของสายโลหิตแห่งจักรพรรดิฟ้าตะวันตกปรากฏขึ้นมา ” เยี่ยจงพูดอันใดไม่ออก อยู่ในอาการทึ่งอย่างถึงที่สุด
.
.
.
.