เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 476 พลังทำลายด้วยการผสานพลัง

ตอนที่ 476 พลังทำลายด้วยการผสานพลัง

“ซวบ——”

ท่ามกลางอากาศ ก็ได้มีเงาร่างสีดำของคนสาดเป็นประกายขึ้นมา สือซิ่งที่ได้ถูกเยี่ยจงปะทะจนลอยออกไปในพริบตา ราวกับว่าในเวลาเดียวกันก็ได้หายไปจากท่ามกลางอากาศ ไม่อาจที่จะพบเห็นร่างกายได้อีก <

“ท่าร่างหลบเลี่ยงห้าธาตุ ! ”

เยี่ยจงใช้สภาวะของจิตใจเข้าตรวจสอบ จดจำออกว่านี้ก็คือวิชาแห่งเผ่ามนุษย์ชนิดหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าจะสามารถที่จะใช้ออกมาด้วยท่าร่างหลบเลี่ยงห้าธาตุได้จนถึงขั้นนี้ สามารถหลบเลี่ยงท่ามกลางสภาวะท่ามกลางอากาศได้ติดต่อกัน พริบตานั้นเขาก็ได้ใช้ออกมาด้วยวิชาดำดินรุกคืบ คิดที่จะหลบออกไปจากสถานที่แห่งนี้ แต่ว่าก็ยังถือได้ว่าช้าไปก้าวหนึ่ง พริบตานั้นร่างกายของสือซิ่งก็ได้มาปรากฏขึ้นอยู่บริเวณทางด้านหน้าของเขา ฟาดฝ่ามือปะทะสังหารออกมา

ด้านบนแขนของสือซิ่งก็ได้เพิ่มเติมขึ้นมาด้วยค้อนศิลาขนาดใหญ่ขึ้นมาด้ามหนึ่งหุ้มอยู่บนแขน ทอเป็นประกายแสงคมกล้าออกมา พริบตานั้นก็ได้มุ่งหน้าประทับเข้าไปยังบริเวณลมปราณที่ปกคลุมเข้ามาของเยี่ยจงทั้งบนล่าง เห็นได้ชัดว่าคิดที่จะใช้กระบวนท่านี้ฆ่าสังหารเยี่ยจงให้ตายในทันที

“ตึง——”

เยี่ยจงไม่อาจที่จะไม่ออกกระบวนท่าได้ ใช้สภาวะของกระบวนท่านี้เพื่อต้านทานพลังการจู่โจมที่เข้ามา แต่ว่าไม่นานนักก็ได้ถูกกระบวนท่านี้กระแทกเข้าใส่ กลับทำให้ร่างกายลอยกระเด็นถอยหลังออกไปไกลนับหลายร้อยลี้

ท่าร่างหลบเลี่ยงห้าธาตุเมื่อเพิ่มมาด้วยเกราะศิลาอยู่บนร่างแล้ว ความเร็วของสือซิ่งก็ได้เพิ่มขึ้นมาถึงในระดับสูงสุด เขาลงมือออกมาไม่หยุด หมายมั่นที่จะจัดการฆ่าสังหารเยี่ยจงที่ท่ามกลางอากาศ ร่างกายของเขาก็ได้ประดุจดั่งกลายเป็นพลังนับร้อยพันสายก็มิปาน ประดุจดั่งเข็มที่ทิ่มแทงเข้ามานับหมื่นเล่ม ปะทะเข้าสังหารบนร่างกายเยี่ยจง

“ข้าจะฆ่าเจ้า ให้เหมือนสุกรสุนัขเลย ! ”

สือซิ่งหัวเราะอย่างเย็นชาติดต่อกันออกมา เงาร่างนับหมื่นพันสายในพริบตานั้นก็ได้รวมกันเข้าด้วยกัน ทั้งหมดนั้นกลายเป็นภาพมายาเพียงหนึ่งเดียว กลายเป็นประดุจการโจมตีสังหารที่มีพลังเทียบเท่ากับร่างจริง ประดุจดั่งแฝงเอาไว้ด้วยแรงกดดันที่น่าแตกตื่นนับหมื่นสายก็มิปาน มุ่งหน้าเข้ากดดันเข้าไปยังบริเวณที่เยี่ยจงอยู่เข้าไป

กระบวนท่าทุกกระบวนท่านี้ได้รวมเอาไว้ด้วยพลังแห่งการทุบนับหมื่นครั้งเอาไว้ หนึ่งหมัดหนึ่งฝ่ามือก็ได้ดูสลายลงไปท่ามกลางฟ้าดิน การโจมตีนับครั้งไม่ถ้วนก็ได้ถูกรวมเอาไว้เข้าด้วยกัน กระบวนท่านี้เมื่อกระทบไปยังบนร่างของเยี่ยจง ก็ได้ทำให้ร่างกายของเยี่ยจงสั่นไหวขึ้นมาในทันที ลอยกระเด็นออกไปไกลในทันที

“พลังฝีมือที่น่าหวาดกลัวยิ่ง ! เด็กน้อยผู้นี้ ถึงกับมีพลังฝีมือน่าหวาดกลัวได้ถึงเพียงนี้เชียวงั้นหรือ ? แม้แต่พลังกายาทองไม่สูญสลายของพี่เยี่ยจงก็ยังไม่อาจที่จะต้านทานการโจมตีของเขาเอาไว้ได้อย่างงั้นหรือ ? ” จงหลี่รู้สึกแตกตื่นขึ้นมา ทอสีหน้าประหลาด ที่แฝงเอาไว้ด้วยความสงสัยอยู่ชนิดหนึ่ง เพราะว่าทั้งหมดทั้งมวลนี้ถือได้ว่าอยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขาไปมากแล้ว

ซือคงชิงฉีราวกับกำลังอยู่ในห้วงความคิด มิได้กล่าวอันใดออกมามากมาย เพียงแต่ในช่วงเวลาที่เหม่อมองไปที่สือซิ่ง ภายในดวงตาก็ได้ทอแววความเคร่งเครียดที่ยากจะพบได้ขึ้นมาเป็นสาย

“อ็อก——”

บริเวณที่ห่างไกล เยี่ยจงก็ได้พ่นโลหิตที่ติดอยู่ภายในปากออกมา ปาดเช็ดไปที่ปาก ทอสีหน้าเย็นเยียบอย่างยิ่ง เขาที่หลังจากได้ผ่านการฝึกฝนพลังกายาทองไม่สูญสลายมา นับได้ว่าเป็นครั้งแรกที่มีคนทำให้เร่างกายของเขาได้รับบาดเจ็บจนถึงเลือดเนื้อ ไม่อาจที่จะไม่ยอมรับได้ สือซิ่งผู้นี้ย่อมต้องมีคุณสมบัติเพียงที่ในความบ้าคลั่งเช่นนี้ได้อย่างแน่นอน อย่างอื่นนั้นมิต้องกล่าวถึง เพียงแค่กระบวนท่าเมื่อครู่ท่าเดียวเท่านั้น ก็เพียงพอที่จะเทียบเท่าระดับพลังของระดับราชันได้อย่างมากแล้ว ไม่แปลกใจเลยที่เขาในตอนนี้ถึงได้อยู่ในตำแหน่งของผู้สืบทอดขององค์ฮ่องเต้รัฐสือได้ อีกทั้งยังถูกเรียกขานว่าเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดแห่งรุ่น

“พลังกายาทองไม่สูญสลายของเจ้า ก็มีได้เพียงแค่นี้เท่านั้น หากว่าขอเพียงมีความสามารถสักหน่อยแล้วละก็ เช่นนั้นวันนี้ก็คงจะต้องเป็นวันตายของเจ้าแล้ว ! ” สือซิ่งทอแววตาเย็นเยียบจ้องมองไปยังทางด้านของเยี่ยจง ทอสีหน้าบ้าคลั่งขึ้นมายิ่งกว่าเดิม

“ก็เป็นเพียงแค่ความสามารถเล็กน้อยเท่านั้น ” เยี่ยจงทอสีหน้าเย็นเยียบขึ้นมาอย่างยิ่ง ภายในดวงตาของเขาก็ได้ทอเป็นกายไม่หยุดนิ่ง ไม่ทราบว่ากำลังคิดถึงสิ่งใดอยู่กันแน่

“หากว่าเขาได้รับคัมภีร์กฎแห่งสวรรค์และสายทางแห่งดวงตะวันแล้วละก็ ไม่แน่ว่าวันข้างหน้าเขาอาจจะกลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดก็เป็นได้ กลายเป็นร่างศักดิ์สิทธิ์ไท่กู่แห่งเผ่ามนุษย์ที่ในหมื่นปีจะเกิดขึ้นมาก็เป็นได้ นั้นก็เพราะว่าเขานั้นมีคุณสมบัติที่เพียงพออย่างแน่นอน ” ทันใดนั้นซือคงชิงฉีก็ได้เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่ก็ยังเป็นน้ำเสียงที่เพียงพอที่จะทำให้จงหลี่ได้ยิน

“คุณหนู เจ้าว่าคนผู้นี้จะสามารถมีวิธีที่จะจัดการกับพี่เยี่ยจงได้อย่างงั้นหรือ ? ควรทราบว่าพี่เยี่ยจงถือได้ว่าเป็นร่างศักดิ์สิทธิ์ไท่กู่แห่งเผ่ามนุษย์ในตำนานก็ว่าได้ อีกทั้งเขายังถือได้ว่าเป็นการคงอยู่ของร่างเทวะแห่งแดนเทพอีกด้วย จะแพ้ได้อย่างงั้นหรือ ? ” จงหลี่กลอกตาไปมาอย่างแตกตื่น บนใบหน้าก็ได้ปรากฏอาการยากที่จะเชื่อขึ้นมาได้

“ร่างศักดิ์สิทธิ์ไท่กู่แห่งเผ่ามนุษย์ นั้นกลับมิใช่ร่างเทวะ แล้วก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกลายเป็นร่างศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย สุดยอดฝีมือแห่งเผ่ามนุษย์ในโบราณกาล มีอยู่หลายคนที่อยู่ในสภาวะร่างกายที่ไม่ธรรมดาเช่นนี้ เมื่อเติบใหญ่ขึ้นมาก็เรียกได้ว่าอยู่ในระดับที่ยากจะคาดคิดได้ จนถึงขั้นสามารถที่จะกลายเป็นวีรบุรุษผู้กอบกู้แห่งมวลมนุษย์ได้ ” ซือคงชิงฉีเอ่ยปากกล่าวขึ้นมา

หลังจากที่เงียบงัน จงหลี่ก็ได้แปรเปลี่ยนสีหน้าไปอีกครา เขาเองก็ทราบดีอยู่แก่ใจของสายตาที่คมกล้าเป็นประกายของคุณหนูบ้านตนเอง แม้แต่นางเองยังให้ความเห็นเช่นนี้ออกมา ยากที่จะคาดคิดได้ว่า สือซิ่งนี้ที่แท้มีความแข็งแกร่งในระดับใดกันแน่

“ช่างมันเถอะ ปล่อยให้มันจบสิ้นก่อน การต่อสู้ในครั้งนี้ ยังไงเสียก็ยากที่จะคาดคิดมาได้นับตั้งแต่เริ่มอยู่แล้ว ! ” สือซิ่งยิ้มขึ้นมาอย่างเย็นชาอย่างกะทันหัน เขาใช้ออกมาด้วยท่าร่างหลบเลี่ยงห้าธาตุ พริบตานั้นร่างกายก็ได้อยู่ในสภาวะความเร็วสูงสุด ปรากฏตัวขึ้นมาอยู่ในบริเวณทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้าน ไม่อาจที่จะทราบได้ว่าพริบตานั้นได้โจมตีเข้าสังหารไปทางด้านของเยี่ยจงไม่รู้กี่ครั้งกี่ครา

“เคร้งเคร้งเคร้ง——”

เยี่ยจงทอสีหน้าเย็นเยียบ ร่างกายเยี่ยจงในพริบตานั้นก็ได้หายไปจากท่ามกลางอากาศ เขาในขณะนี้ก็ได้ใช้ออกมาด้วยวิชาดำดินรุกคืบในพลังสูงสุด เข้าปะทะกับสือซิ่งนับครั้งไม่ถ้วน

“เคร้ง——”

“เจ้ามีความสามารถเพียงแค่นี้อย่างงั้นหรือ ? ”

ในระหว่างที่ปะทะกันไปหลายร้อยกระบวนท่าแล้ว ร่างกายของทั้งสองฝ่ายก็ได้ถอยออกไปในเวลาเดียวกัน เยี่ยจงส่งเสียงอีนเย็นเยียบดังขึ้นมาอย่างช้าๆ

“อะไรกัน ? เขามิได้รับบาดเจ็บเลย อีกทั้งในด้านระดับความเร็วยังถือได้ว่ามิได้ด้อยไปกว่าท่าร่างหลบเลี่ยงห้าธาตุขององค์ชายหกด้วยซ้ำไป ? ”

“ก็บอกไปแล้วว่าวิชาดำดินรุกคืบและท่าร่างหลบเลี่ยงห้าธาตุถูกเรียกว่าเป็นวิชาเผ่ามนุษย์ที่มีความเร็วอย่างถึงที่สุด วันนี้เมื่อดูจากผลลัพธ์เช่นนี้แล้ว ท่าร่างหลบเลี่ยงห้าธาตุและวิชาดำดินรุกคืบ ถือได้ว่ามิได้แตกต่างกันมากนัก ! ” ผู้ติดตามมากมายขององค์ชายหกก็ได้แตกตื่นขึ้นมา พวกเขาไม่เคยคาดคิดเลยด้วยซ้ำว่า เยี่ยจงจะถึงกับสามารถที่จะที่จะไล่ตามความเร็วของสือซิ่งได้

“ท่าร่างหลบเลี่ยงห้าธาตุ วิชาดำดินรุกคืบ วิชาแห่งแดนมนุษย์ทั้งสองวิชาที่เป็นระดับตำนาน ในวันนี้ในที่สุดจะสามารถตัดสินผลแพ้ชนะออกมาได้หรือไม่กัน ? ”

“ท่าร่างหลบเลี่ยงห้าธาตุปะทะวิชาดำดินรุกคืบ ถือได้ว่าเป็นการปะทะกันที่ยากจะพบเจอได้ ยากที่จะพบเจอได้ในหมื่นปี ถือได้ว่าตระการตาเป็นอย่างยิ่ง ! ”

“วาจาไร้สาระช่างมากมายเสียจริง ! ”

ท่ามกลางอากาศ สือซิ่งส่งเสียงหัวเราะออกมา ร่างกายก็ได้พุ่งเข้าปะทะออกไปอีกครั้งหนึ่ง ระดับความเร็วเรียกได้ว่าสูงล้ำอย่างยิ่ง

“ตูม——”

เยี่ยจงในขณะนี้ปะทุพลังขึ้นมา เกราะกิเลนบนร่างเขาก็ได้เริ่มที่จะทอประกายคมกล้าทองและสีม่วงขึ้นมา เห็นได้ชัด ในครั้งนี้ เขาได้ใช้ออกมาด้วยพลังกายาทองไม่สูญสลายแล้ว ตลอดบรรยากาศทั่วทั้งร่างกายก็ได้เพิ่มขึ้นมาอย่างถี่ยิบ แล้วก็ได้พุ่งเข้าปะทะโจมตีเข้าไปทางเบื้องหน้าเช่นนี้

“เปรี้ยง——”

แขนกิเลนในขณะนี้ก็ได้ถูกฟาดออกไป พริบตาเดียวก็ได้ตบจนสือซิ่งตลอดทั้งตัวลอยออกไป

“ตูม——”

เยี่ยจงพลิกมือผนึกเข้าด้วยกัน ประดุจดั่งเก้าเปลี่ยนแปลงไท่กู่จูเชวียนโบยบินขึ้นก็มิปาน อักขระจูเชวียนสายหนึ่งก็ได้ปรากฏขึ้นมายังบริเวณใจกลางฝ่ามือของเขา พริบตานั้นก็ได้ปะทะออกไป

ไท่กูจูเชวียนเปลี่ยนแปลงที่หนึ่ง ในขณะนี้ เยี่ยจงก็ได้ใช้ออกมาด้วยพลังอันแข็งแกร่งแล้ว ราวกับว่าคิดจะใช้กระบวนท่านี้จู่โจมไปที่สวรรค์ก็มิปาน

“ซูม——”

สือซิ่งก็ได้ก้าวเท้าไปมาด้วยลักษณ์ที่ประหลาด ร่างกายก็ได้ประเดี๋ยวถอยประเดี๋ยวรุกไปมา มุ่งหน้าเข้าปะทะสังหารออกไปยังบริเวณทางด้านหน้า ในเวลาเดียวกันทางด้านหลังของเขาก็ได้ปรากฏเงาร่างของงูเขียวปรากฏขึ้นมา พุ่งขึ้นสู่ฟ้าขึ้นมา !

“อสรพิษเขียวทะลวงตะวัน ! ” ในที่ห่างไกล ซือคงชิงฉีก็ได้แตกตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ขณะนี้เพื่อที่จะกดดันเยี่ยจง สือซิ่งไม่อาจที่จะไม่ใช้ออกมาด้วยวิชาประจำตัวทีละวิชาได้ จนเป็นที่น่าแตกตื่นของผู้คนยิ่งนัก

“ตูม——”

อักขระจูเชวียนและเงาอสรพิษก็ได้พุ่งเข้าชนกัน วินาทีนั้น ท่ามกลางอากาศก็ได้เกิดประกายเงาของจูเชวียนเข้าปะทะกับอสรพิษเขียว

“กร๊อบ——”

พริบตานั้นเอง อสรพิษเขียวก็ได้แตกสลายลง จูเชวียนหายไป ร่างกายของสือซิ่งก็ได้สั่นไหวอย่างรุนแรง ซวนเซถอยไปยังบริเวณทางด้านหลัง อาภรบนร่างกายพริบตานั้นก็ได้กลายเป็นเพียงฝุ่นผง

“นี้ก็คือ วิชาจูเชวียน ! ? ” จงหลี่แตกตื่นขึ้นมา ขณะนี้เริ่มที่จะเกิดความชาด้านขึ้นมาหลายส่วนแล้ว วิชากิเลน วิชาจูเชวียน ตราแห่งราชาแดนมนุษย์ วิชาแต่ละแขนงก็ได้ถูกเยี่ยจงใช้ออกมาไม่หยุด จนทำให้ผู้คนไม่ทราบจะกล่าวออกมาเช่นไรดี ผู้คนมากมายเรียกได้ว่าคาดคิดออกมามิได้ ถึงที่มาที่ไปของเยี่ยจง เหตุใดถึงได้มีวิชาหลากหลายแขนงมากมายถึงเพียงนี้ ราวกับเป็นสิ่งที่สามารถบ่งบอกได้ว่า เขาจึงเป็นผู้ที่มีวาสนาที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง

“วิชาจูเชวียน ! ”

สือซิ่งสาดทอดวงตาเป็นประกาย ทอสีหน้าแปรเปลี่ยนอย่างเร้นลับ เขานำชุดอาภรขุนนางอีกชุดสวมใส่เอาไว้ จ้องมองไปยังเยี่ยจงที่อยู่ท่ามกลางอากาศ กล่าวออกมาอย่างเย็นชา : “ยอดมาก ตอนนี้ข้าทราบแล้วว่า ในตัวของเจ้านอกเสียจากคัมภีร์กฎแห่งสวรรค์และสายทางแห่งดวงตะวันแล้ว ยังถึงกับมีสิ่งที่เรียกว่าวิชากิเลนและวิชาจูเชวียนอีก ดูเหมือนว่าในวันนี้ข้าจะไม่อาจที่จะสังหารเจ้าได้แล้ว คงจะได้แต่ทำให้เจ้าพิกลพิการ ค่อยๆ รีดเร้นสิ่งของมากมายเหล่านี้จากตัวเจ้าออกมาอย่างช้าๆ ”

หลังจากที่สิ้นเสียง สือซิ่งก็ได้พุ่งสังหารออกไปอีกครั้ง ในครั้งนี้บริเวณทางด้านหลังของเขาก็ได้ปรากฏเงาอสรพิษสองตัวขึ้นมา พัวพันกันไปมา จากนั้นก็ได้พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า

เยี่ยจงทอสีหน้าเย็นเยียบ แปรเปลี่ยนรอยตราคราหนึ่ง เงาร่างจูเชวียนก็ได้ปรากฏขึ้นมา พริบตานั้นก็ได้แผ่ปีกสีครามออกมา จนกลายเป็นเงาจูเชวียนที่มีขนาดใหญ่เต็มไปทั่วทั้งฟ้า

ไท่กูจูเชวียนเปลี่ยนแปลงที่สอง !

“ตูม——”

เงาอสรพิษและเงาจูเชวียนก็ได้เข้าปะทะกันอีกครั้ง วินาทีนั้นพลังเพลิงไฟก็ได้พวยพุ่งขึ้นมา การปทะของทั้งสอง ทำให้ตลอดทั่วทั้งสภาวะอากาศในขณะนี้ต่างก็เกิดการสั่นไหวขึ้นมา และในครั้งนี้ การโจมตีของทั้งสองฝ่ายก็ได้มอดดับลงไปในเวลาเดียวกัน ยากที่ตัดสินผลแพ้ชนะ

“ตูม——”

เยี่ยจงพลิกรอยตราไปมาอีกครั้ง ในครั้งนี้ไท่กูจูเชวียนเปลี่ยนแปลงที่สามก็ได้ถูกเขาใช้ออกมา พลังวงล้อมเทวะจูเชวียนสายหนึ่งก็ได้กดดันสังหารออกไปบริเวณทางด้านล่าง หมายจะบดบี้สังหารสือซิ่งให้ตายลงในสถานที่แห่งนี้

“เปรี้ยง——”

ในครั้งนี้ ทางด้านหลังของสือซิ่งก็ได้ปรากฏเงาอสรพิษขึ้นมาเก้าสาย แต่ว่าก็ยังไม่มีประโยชน์ เงาอสรพิษราวกับกลับกลายเป็นเพียงประกายแสงกลุ่มหนึ่งในเวลาเดียวกัน ร่างกายของเขาก็ได้ลอยกระเด็นออกไป หากมิใช่ว่ากายเนื้อแข็งแกร่งแล้วละก็ ขณะนี้เกรงว่าคงจะต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปแล้ว

“ตูม——”

พลังทำลายของเยี่ยจงถือได้ว่าไม่มีผู้ใดคาดคิดได้ วงล้อมเทวะจูเชวียนที่อยู่ในมือของเขา ท่าร่างวิชาดำดินรุกคืบที่เท้าก็ได้ใช้ออก มุ่งหน้าเข้าปะทะสังหารไปทางด้านของสือซิ่งไม่หยุด หมายจะฆ่าสังหารสือซิ่งไปในทันที

ไท่กูจูเชวียนเปลี่ยนแปลงที่หนึ่ง !

ไท่กูจูเชวียนเปลี่ยนแปลงที่สอง !

ไท่กูจูเชวียนเปลี่ยนแปลงที่สาม !

ไท่กูจูเชวียนเปลี่ยนแปลงที่สี่ !

ไท่กูจูเชวียนเปลี่ยนแปลงที่สี่ที่เยี่ยจงฝึกปรือมา เดิมทีนั้นมีไว้เพื่อสร้างรูปลักษณ์ไว้ที่ตัว ทะลวงไปติดต่อกันจนเป็นชั้นๆ จนเกิดเสียงอันน่าหวาดกลัวที่ยากจะคาดคิดดังขึ้นมาตลอดเวลา อักขระจูเชวียนแต่ละสายก็ได้ถูกกระแทกเข้าไปยังตลอดทั้งร่างของสือซิ่ง จนทำให้ไม่อาจที่จะใช้ออกมาด้วยวิชาต่างๆ ของเขาได้

ทั้งสองคนอยู่ช่วงแห่งความเป็นความตาย แต่ละฝ่ายก็ได้ใช้ออกมาด้วยพลังฝีมืออันน่าหวาดกลัวของตนเอง เพื่อที่จัดการกับอีกฝ่ายให้ตายลงในสถานที่แห่งนี้ไปในทันที

“ตูม——”

เยี่ยจงก็ได้ใช้ออกมาด้วยตราแห่งราชาแดนมนุษย์ขึ้นมาอีกครั้ง ในครั้งนี้ ประกายสีทองของพระราชลัญจกร

ก็ได้คลุมไปทั่วทั้งผืนฟ้า กดเข้าไปยังทางด้านหน้าอกของสือซิ่งอย่างรุนแรง จนทำให้เขาถึงกับคุกเข่าลง จนเกือบที่จะกระแทกล้มลงไปจากท่ามกลางอากาศลงสู่พื้น

กระบวนท่านี้เมื่อใช้ออก ตราแห่งราชาแดนมนุษย์ในมือเยี่ยจงก็ได้ถูกกวาดออกไปติดต่อกัน ประดุจดั่งตบแมลงวันก็มิปาน ตบจนสือซิ่งลอยไปมาไม่หยุด

“นี้……”

ยอดฝีมือเผ่ามนุษย์มากมายมองดูจนกล่าวอันใดออกมาไม่ออก พลังฝีมือที่ใช้ออกมาเช่นนี้ หากเรื่องนี้ถูกเล่าลือแพร่ออกไป ต่อให้ผลสุดท้ายสือซิ่งจะเป็นฝ่ายคว้าชัยไป คาดว่าก็คงจะกลายเป็นที่น่าหัวเราะอยู่ดี ในเมื่อเขาในขณะนี้ได้ถูกเยี่ยจงทำเหมือนเป็นแมลงวันที่ถูกตบไปตบมา ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่เคยจะคาดคิดได้มาก่อนอย่างถึงที่สุด

ในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ สือซิ่งได้ใช้พลังฝีมือออกมานับไม่ถ้วนเพื่อสลายพลังของตราแห่งราชาแดนมนุษย์ของเยี่ยจงไป แต่ว่าในเวลานี้กลับกลายเป็นไม่เกิดผลแต่อย่างไร ภายใต้วิชาเก้าเปลี่ยนแปลงไท่กู่จูเชวียนและตราแห่งราชาแดนมนุษย์ที่ถูกรวมเข้าด้วยกัน สือซิ่งก็เริ่มที่จะคลั่งขึ้นมาหลายส่วน เดิมทีที่เขามีความเหเย่อหยิ่งที่สูงล้ำ กดดันเยี่ยจงถอยออกไปหลายต่อหลายก้าว ขณะนี้ก็ได้แปรเปลี่ยนพลังขึ้นมา เยี่ยจงเริ่มที่จะเป็นฝ่ายได้เปรียบ กดดันทุบตีสือซิ่ง

“ตูม——”

แล้วเยี่ยจงก็ได้ใช้กระบี่กระจ่างจูเชวียนสายหนึ่งอีกครั้ง ไท่กูจูเชวียนเปลี่ยนแปลงที่สี่ก็ได้ถูกใช้ออกมา พวยพุ่งพลังกระบี่กวาดออกไป ฟาดฟันใส่สือซิ่ง

.

.

.

.

กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ

โปรโมชั่น กลุ่ม 6-12 ราคา 550

VIP5 https://goo.gl/ekcF7V

VIP6 https://goo.gl/4rqw89

VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA

VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x

VIP9 https://goo.gl/1jPZtn

VIP10 https://goo.gl/L8awva

VIP11 https://goo.gl/rojEiG

VIP12 https://1th.me/o9CD

ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

INBOX m.me/ZuiQiangWuShen

#####Fanpage#####

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset