เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 481 อาวุธศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุด

ตอนที่ 481 อาวุธศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุด

 

ด้านบนฉากบนท้องฟ้า ปรากฏประกายสังหารไร้สภาพขึ้นมา สั่นไหวขึ้นมาอย่างแผ่วเบา ประกายแสงทั้งหมดก็รวมตัวกันขึ้นมา ราวกับสามารถที่จะทำให้เยี่ยจงมลายหายไปได้จนหมดสิ้น หากมิใช่มีตราผนึกนภาคอยคุ้มกันแล้วละก็ ไม่เช่นนั้นเยี่ยจงขณะนี้อาจจะถูกเข่นฆ่าจนกลายเป็นก้อนเนื้อแหลกเหลวไปตั้งแต่แรกได้ แต่ว่า ต่อให้มีหนึ่งในสิบวิชามนต์ตราเทพโบราณอย่างตราผนึกนภาคอยคุ้มกัน เยี่ยจงในขณะนี้ถือได้ว่าอยู่ในสถานการณ์อันตรายอย่างถึงที่สุด ราวกับพร้อมที่จะเป็นแท่นเหยียบให้สือซิ่งก้าวขึ้นไปก็มิปาน

 

“ตูม——”

 

ระหว่างนั้นสือซิ่งเองก็ได้กรีดนิ้วออกไป ในครั้งนี้ ประกายสังหารที่อยู่ตลอดทั่วทั้งฟ้าก็ได้พุ่งออกมาในเวลาเดียวกัน เครื่องมืออาวุธเทวะที่มีเกือบแสนในขณะนี้ก็ได้รวมตัวกันขึ้นมาประดุจประกายกระบี่ขนาดใหญ่สายหนึ่ง

 

“ชิ——”

 

ประกายกระบี่ก็ได้ลากออกมาเป็นทางยาวนับพันจัง แล้วก็ได้ทะลวงลงมาจากฟากฟ้าเฉกเช่นนี้ด้วยพลังมหาศาล จิตสังหารอันน่าหวาดกลัวเช่นนี้ ทำให้เยี่ยจงอดไม่ได้ที่เกิดความหวั่นไหวขึ้นมา คุกสมบัติราชวงศ์ก็ได้ถูกสือซิ่งควบคุมมาจนถึงขั้นนี้ได้ เรียกได้ว่าน่าหวาดกลัวอย่างยิ่ง

 

“เปรี้ยง——”

 

ต่อให้ปรากฏตราผนึกนภาอยู่บริเวณศีรษะ แต่ว่าในขณะนี้เอง ร่างกายของเยี่ยจงก็ยังคงเกิดอาการสั่นไหวขึ้นมา ร่างกายก็ได้ปะทะออกไปอย่างรุนแรง เผชิญหน้ากับมนต์ตราแห่งการสังหารจนเกิดการปะทุออกมาด้วยพลังทั้งหมด ต่อให้เป็นตราผนึกนภาก็ยังไม่อาจพอที่จะคุ้มครองได้แทบทั้งสิ้น

 

“การปะทะกันเช่นนี้ เป็นการลงมือของยอดฝีมือระดับครึ่งก้าวสู่ระดับราชันจริงอย่างงั้นหรือ?”

 

“เล่าขานกันว่ามนต์ตราอันดับหนึ่งแห่งการฆ่าสังหารของเผ่ามนุษย์เรา ถึงกับเป็นที่น่าตกใจได้ถึงเพียงนี้ ไม่แปลกใจเลยที่เยี่ยจงจะถูกยกย่องว่าเป็นสุดยอดรุ่นเยาว์เผ่ามนุษย์ หากเปลี่ยนกลับเป็นบุคคลอื่นแล้วละก็ เกรงว่าขณะนี้ก็คงจะมลายหายสาบสูญไปจนสิ้นแล้ว!”

 

……

 

สภาพที่ไกลออกไป ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างก็ยากที่จะสงบจิตใจเอาไว้ได้ เพราะว่าฉากเบื้องหน้าเช่นนี้ถือได้ว่าอยู่นอกเหนือความคิดของทุกผู้คนไปแล้ว ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่คิดไม่ถึง ว่าทั้งสองฝ่ายถึงกับสามารถต่อสู้กันมาถึงขั้นนี้ได้

 

“ตูม——”

 

บริเวณรอบกายของเยี่ยจง ก็ได้ทอเป็นประกายแสงคมกล้าอันแวววับ พลังลมปราณเปลี่ยนแปลงเทวะก็ได้ถูกเขาใช้ออกมาทั้งหมด แสงจันทราก็ได้สาดทอลงบนตราผนึกนภามากมายนับไม่ถ้วน ในเวลาเดียวกัน เขาก็ได้ใช้ออกมาด้วยตราผนึกนภา วินาทีนั้น ช่องว่างแห่งความน่าหวาดกลัวก็ได้แผ่ซ่านผนึกไปทั่วทั้งท้องฟ้าทั้งสี่ด้าน ต้านทานคมกระบี่นับพันจังนั้นเอาไว้

 

“เคร้งเคร้งเคร้ง——

 

คมกระบี่ขนาดใหญ่นับพันจังในขณะนี้ก็ได้สลายพลังสภาวะตราผนึกนภาของเยี่ยจง จากนั้นก็ได้ถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว ปรากฏขึ้นมาบริเวณทางด้านหลังของสือซิ่ง หลบรอดจากการเผชิญหน้ากับเยี่ยจงไปอีกครั้ง

 

เห็นได้ชัด ถึงแม้จะกล่าวได้ว่าสือซิ่งนั้นสามารถที่จะใช้ออกมาด้วยพลังคุกสมบัติราชวงศ์ได้นับครั้งไม่ถ้วน แต่ว่าขณะนี้เครื่องมืออาวุธเทวะนับแสนก็ได้ถูกใช้ออกมาพร้อมกัน จนทำให้สูญเสียพลังใจไปอย่างเปล่าประโยชน์ กลับมิใช่สิ่งที่เขาต้องการในขณะนี้ เครื่องมืออาวุธนับแสนก็ได้รวมกันจนก่อพลังคมกระบี่ขึ้นมา ถูกเยี่ยจงสะบัดมือสลายไปในทันที

 

ทั้งสองคนเข้าปะทะกันอยู่ท่ามกลางอากาศอีกครั้ง ในเวลาเดียวกันก็สัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายนั้นลงมืออย่างไม่ยั้งเลยแม้แต่น้อย

 

สือซิ่งคิดไม่ถึงว่า ต่อให้ใช้คุกสมบัติราชวงศ์ขนถึงขั้นนี้ได้ ตราผนึกนภาเยี่ยจงก็ยังคงสามารถต้านทานกระบวนท่าสังหารของเขาได้ นี้เพียงสามารถบอกได้ว่า กระบวนท่านี้ของเยี่ยจง สามารถพอที่จะสร้างแรงกดดันได้อย่างหนัก

 

“ตราผนึกนภาของพี่เยี่ยจง ไม่แต่เพียงเป็นหนึ่งในสิบมนต์ตราเทพโบราณเท่านั้น ต่อให้อยู่ในระดับเช่นนี้ อีกทั้งยังสามารถที่จะทานพลังจากคุกสมบัติราชวงศ์ของสือซิ่งได้!” จงหลี่กล่าวออกมาอย่างชื่นชม นั้นก็เพราะว่าเขายอมรับว่าตนเองไม่อาจที่จะต้านทานกระบวนท่าสังหารเช่นนี้เอาไว้ได้

 

ซือคงชิงฉีส่ายหน้า กล่าว “ตอนนี้กล่าวคำพูดเหล่านี้ยังเร็วเกินไป ทั้งสองฝ่ายเดิมแทบจะไม่อาจแสดงผลแพ้ชนะได้ ทว่าตอนนี้เป็นการประมือระหว่างกระบวนท่าสังหารของทั้งสองฝ่ายเท่านั้นเอง ”

 

“ยังไงเสียก็ยังมีความแตกต่างกันบ้างละ อย่างน้อย ภายใต้สภาวะของกายเนื้อเพียงอย่างเดียว สือซิ่งย่อมมิใช่คู่ต่อสู้ของพี่เยี่ยจง ” จงหลี่เอ่ยขึ้นมา ชี้ความในข้อนี้ออกมา

 

“เอ๊ะ สุดยอดรุ่นเยาว์เผ่ามนุษย์เยี่ยจง ร่างศักดิ์สิทธิ์ไทกู่แห่งเผ่ามนุษย์ ถึงกับมีความแข็งแกร่งจนถึงขั้นนี้เลยอย่างงั้นหรือ? ทำให้องค์ชายหกถูกกดดันมาจนถึงขั้นนี้ได้เลยอย่างงั้นหรือ?” ผู้ติดตามขององค์ชายหกหลายคนก็กำลังถอนหายใจออกมา สีหน้าของทุกคนต่างก็ปั้นยากขึ้นมาอยู่หลายส่วน เห็นได้ชัดว่าคิดไม่ถึง ทั้งสองคนได้เข้าชิงชัยกันมาจนถึงขั้นนี้ ถึงกับยังไม่อาจที่จะปรากฏผลแพ้ชนะได้อีก

 

“ตูม——”

 

ทันใดนั้นเอง ระหว่างฟ้าดินก็ได้มีพลังความบ้าคลั่งอันน่าหวาดกลัวกลุ่มหนึ่งพุ่งสูงขึ้นมา จนทำให้ผู้คนต่างก็เกิดอาการสั่นเทาขึ้นภายในจิตใจ ราวกับแทบจะทรุดเข่าลงไปในระหว่างนั้น

 

ในขณะนี้เอง ประดุจดั่งเกิดการต่อสู้ขึ้นมาสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งฟ้าดินก็มิปาน กลิ่นอายโลหิตอันน่าหวาดกลัวชนิดหนึ่งก็ได้หมุนวนอยู่บริเวณท้องฟ้า

 

“แต่ว่า——” ยอดฝีมือเผ่ามนุษย์ทั้งหมดร่างสั่นเทาในเวลาเดียวกัน ราวกับว่าพร้อมที่จะทรุดเข่าลงกับพื้นได้ทุกเวลาก็มิปาน

 

ขณะนี้ ภายในมือของสือซิ่งก็ได้กระบี่ทองยาวเจ็ดเชียะด้ามหนึ่ง ตัวของกระบี่นั้นปกคลุมเอาไว้ด้วยประกายแสงสีทองออกมา จนไม่อาจมองเห็นตัวเนื้อและลักษณะของกระบี่ได้อย่างชัดเจน แต่ว่าเกิดพลังความชั่วร้ายที่ผ่านการต่อสู้ที่ไร้พ่ายมานับร้อยศึก กำลังปกคลุมอยู่ตลอดทั่วทั้งตัวของมันออกมา

 

“นี้คือ บรรยากาศของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ขั้นบรรลุงั้นหรือ?” จงหลี่เป็นบุคคลแรกที่ร้องเสียงหลงออกมา ทอสีหน้าแตกตื่นตกใจขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าคิดไม่ถึง ในช่วงเวลาคับขันเช่นนี้ สือซิ่งถึงกับสามารถที่จะนำเอาเครื่องมือสังหารอีกเล่มเช่นนี้ออกมาได้

 

“นี้คือ นั้นก็คืออาวุธศักดิ์สิทธิ์ขั้นบรรลุแห่งรัฐสือ? กระบี่มังกรฟ้า?”

 

ผู้คนมากมายต่างก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปภายในพริบตา ยอดฝีมือเผ่ามนุษย์ที่มีระดับปกติธรรมดาอีกทางด้านหนึ่งก็ได้เกือบที่ทรุดเข่าลงกับพื้น

 

อาวุธศักดิ์สิทธิ์ขั้นบรรลุ ถือได้ว่าเป็นศาตราวุธในระดับเทวะขั้นสูงไปแล้ว มีความน่าหวาดกลัวไร้ขีดจำกัด เล่าขานกันว่า มีแต่เพียงยอดฝีมือที่อยู่สูงขึ้นไปที่อย่างระดับมหาราชัน จึงจะสามารถที่จะใช้ออกมาด้วยอาวุธศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ ไม่ว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์ขั้นบรรลุด้ามใด หากว่าถูกใช้ออกมาแล้วละก็ เช่นนั้นก็เพียงพอที่จะสามารถเข่นฆ่าสังหารชนชั้นมหาราชันลงได้อย่างง่ายดาย

 

เล่าขานกันว่า อาวุธศักดิ์สิทธิ์ขั้นบรรลุเป็นสิ่งที่ไม่สมควรที่จะปรากฏขึ้นมาภายในดินแดนทั้งสี่ได้ นั้นก็เพราะว่าท่ามกลางดินแดนทั้งสี่ ที่แข็งแกร่งที่สุดนั้นก็มีแต่เพียงแค่ชนชั้นมหาราชันเท่านั้น และเยี่ยจงก็ยิ่งกระจ่างยิ่งกว่า การที่จะสามารถใช้ออกมาด้วยอาวุธศักดิ์สิทธิ์ขั้นบรรลุ คงมีแต่ระดับที่สูงกว่าชนชั้นมหาราชันอย่างมนุษย์ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นจึงจะใช้ได้!

 

“รัฐสือ ถึงกับปรากฏบุคคลที่อยู่ในระดับมนุษย์ศักดิ์สิทธิ์ผู้หนึ่งแล้วอย่างงั้นหรือ?” เยี่ยจงขมวดคิ้ว อาวุธศักดิ์สิทธิ์ขั้นบรรลุเพียงแค่ด้ามเดียวเช่นนี้ สามารถที่จะทำให้สือซิ่งเกิดอยู่ในสภาวะภายใต้ขอบเขตแห่งการไร้พ่าย หากว่าเขาสามารถที่จะใช้ออกมาได้แล้วละก็ เช่นนั้นตนเองยังต้องสู้ต่อไปเพื่ออะไรกัน!

 

“เป็นกระบี่มังกรฟ้าจริงๆ เล่าขานกันว่ากระบี่มังกรฟ้าเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์สูงสุดประจำรัฐสือก็ว่าได้!”

 

“กล่าวกันว่ากระบี่ด้ามนี้เมื่อถูกชักออกมาแล้ว จะต้องเกิดการฆ่าสังหารขึ้นนับไม่ถ้วน โลหิตหลั่งไหลเป็นธารา กระดูกกองเท่าภูเขา เพื่อการสร้างรากฐานที่ไม่ดับสูญของรัฐสือ คิดไม่ถึงว่าวันนี้ถึงกับปรากฏขึ้นมาท่ามกลางสถานที่แห่งนี้!”

 

คมกระบี่สีทอง ในขณะนี้ทะยานออกมา จนทอเป็นประกายแสงแห่งพลังเทวะศักดิ์สิทธิ์แวววับขึ้นมานับไม่ถ้วน แต่ว่าถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ทุกผู้คนต่างก็ถือได้ว่าสัมผัสได้ ตนเองขณะนี้ราวดับกำลังเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดในยุคโบราณกาลก็มิปาน ราวกับไม่อาจที่จะถอยไปได้

 

“นี้มันไม่ยุติธรรม! ในมือเจ้าถือเอาไว้ด้วยอาวุธศักดิ์สิทธิ์ขั้นบรรลุมีอันแตกต่างจากที่เจ้ามิได้จำกัดพลังกัน? จะสู้ไปอีกทำไม!” จงหลี่หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา เห็นได้ชัดว่าไม่สบอารมณ์ต่อความเคลื่อนของสือซิ่งเช่นนี้แม้แต่น้อย

 

“เจ้าวางใจเถอะ นี้มิใช่กระบี่มังกรฟ้าที่แท้จริง ทว่าก็เป็นแค่ของลอกเลียนเท่านั้น มันกลับมิใช่กระบี่มังกรฟ้าจริง!” สือซิ่งส่งสายตาอันเรียบเฉยมองเข้าไปที่จงหลี่แล้วกล่าวออกมาอย่างเย็นชา เห็นได้ชัด เขานั้นกำลังกล่าวอธิบายอยู่

 

ทว่า ต่อให้กระบี่เล่มนี้เป็นเพียงของลอกเลียนมิใช่อาวุธศักดิ์สิทธิ์ขั้นบรรลุที่แท้จริงก็ตาม เพียงแค่มองเข้าไปยังภายในเงาสายหนึ่งเท่านั้น ก็เพียงพอที่จะบอกถึงระดับความน่าหวาดกลัวนี้ไปได้แล้ว

 

“แน่นอนว่าย่อมต้องเป็นของลอกเลียนอาวุธศักดิ์สิทธิ์ขั้นบรรลุเท่านั้น ดูเหมือนว่า รัฐสือคงจะต้องมีความสัมพันธ์กันหลายส่วนกับชนชั้นมหาราชันสูงสุด และกระบี่มังกรฟ้านี้ เกรงว่าย่อมต้องมิใช่ความเกี่ยวข้องที่ธรรมดากับกลุ่มมหาราชันเหล่านั้นอีกด้วย ” ซือคงชิงฉีกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา พยักหน้าไปมาเล็กน้อย เพื่อที่จะให้จงหลี่วางใจ ในเวลาเดียวกันก็เป็นเหมือนกับการเตือนสติให้แก่เยี่ยจง

 

แต่ว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ กระบี่มังกรฟ้าลอกเลียนเล่มนี้เมื่อได้ปรากฏขึ้นมาในขณะนี้ หากกล่าวถึงพลังฝีมือของสือซิ่ง ย่อมต้องเกิดความน่าหวาดกลัวนับไม่ถ้วนขึ้นมาอย่างแน่นอน

 

แสงสีทองของกระบี่มังกรฟ้าก็ได้สาดเป็นประกายอยู่ใจกลางฝ่ามือจนเกิดแรงกดดันอันน่าหวาดกลัวสีทองขึ้น และบริเวณทางด้านหลังร่างกายเขา เครื่องมืออาวุธนับแสนก็ได้รวมตัวกันจนเกิดเป็นประกายแสงสังหารอันมืดมิด

 

การประชันต่อสู้ของทั้งสองก็เป็นที่ชัดเจนเช่นนี้ ประดุจดั่งหยินหยางก็มิปาน เห็นได้ชัดเป็นอย่างยิ่ง แต่ว่าที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือ ทั้งสองคนราวกับว่าได้มีการเตรียมพร้อมขึ้นมาแล้ว

 

“ตูม——”

 

เยี่ยจงกระทืบเท้าออกไปก้าวหนึ่ง แสงจันทร์ส่องผิวสมุทรบริเวณทางด้านหลังก็ได้เลือนหายไป กลับกลายเป็นหมื่นไฟกาฬผลาญนภา จนเกิดดวงอาทิตย์ที่เดือดพร่านขึ้น พลังลมปราณเปลี่ยนแปลงเทวะมหาสมุทรตะวันผลาญในขณะนี้ก็ได้ถูกเยี่ยจงใช้ออกมา

 

พลังเพลิงแต่ละสายก็ได้ปกคลุมบนร่างกายของเยี่ยจง จนห่อหุ้มไปตลอดทั่วทั้งร่างกายของเขา ปกป้องอย่างมิดชิด และมหาสมุทรตะวันผลาญ ในขณะนี้ก็ได้แผ่รังสีอันน่าหวาดกลัวขึ้นมาด้วยตัวเอง จนทำให้บรรยากาศของเยี่ยจงอยู่ในระดับสูงสุดยิ่งขึ้น

 

“ตูม——”

 

กระบี่ดำเล่มหนึ่งก็ได้ปรากฏขึ้นมาบริเวณใจกลางฝ่ามือของเยี่ยจง พริบตาที่ปรากฏขึ้นมา ก็ได้มีความเกลียดชังพวยพุ่งขึ้นสู่ฟากฟ้า พลังแห่งความเกลียดชังก็ได้ถูกรวมเอาไว้จนกลายเป็นคนกระบี่ และด้านบนกระบี่มังกรฟ้าในมือสือซิ่งก็ได้แผ่พลังความต้านทานเอาไว้ขึ้นมา

 

“พลังลมปราณเปลี่ยนแปลงเทวะ เป็นพลังลมปราณเปลี่ยนแปลงเทวะอีกแล้วงั้นหรือ? อีกทั้งยังถึงกับมีความเปลี่ยนแปลงในระดับนี้?”

 

ยอดฝีมือนับไม่ถ้วนต่างก็อ้าปากตาค้าง เดิมทีสือซิ่งเมื่อได้นำกระบี่มังกรฟ้าออกมา ก็เพราะพอที่จะทำให้ “แปลกใจ” ได้แล้ว แต่ว่า กลับคิดไม่ถึงว่าเยี่ยจงขณะนี้กลับทำให้คนมากมายต้อง “แปลกใจ” เสียยิ่งกว่า พลังลมปราณเปลี่ยนแปลงเทวะยังถึงกับเปลี่ยนแปลงได้ ฉากนี้ ถือได้ว่าอยู่นอกเหนือความเข้าใจของผู้คนทั้งหมดไปแล้ว ขณะนี้ทุกผู้คนต่างก็อยู่ในอาการอ้าปากตาค้าง มาจนถึงขั้นนี้ พวกเขาต่างก็ไร้ซึ่งคำพูดจะกล่าวออกมา เด็กน้อยทั้งสองผู้นี้ ช่างอยู่ในระดับที่ยากนักที่จะทำความเข้าใจได้

 

“เล่าขานกันว่าร่างศักดิ์สิทธิ์ไทกู่ เป็นการคงอยู่ของเหตุผลของพลังที่จะสามารถกดดันแดนเทพได้ นั้นก็เพราะว่ามันนั้นมีพลังลมปราณเปลี่ยนแปลงเทวะไร้จำกัด ดูเหมือนว่าจะต้องเป็นร่างศักดิ์สิทธิ์ไทกู่ในตำนานแล้ว หากว่าเป็นเช่นนี้ อย่างนั้นยิ่งไม่อาจที่จะให้เจ้ามีชีวิตอยู่ต่อไปได้!”

 

เส้นผมของสือซิ่งนั้นพลิ้วไหวอย่างวุ่นวาย บนใบหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยรังสีฆ่าฟัน กระบี่มังกรฟ้าในมือของเขาก็ได้สั่นไหวเบาๆ วินาทีนั้น เครื่องมืออาวุธนับแสนที่ด้านหลังเขาก็ได้ผนึกรวมกันจนกลายเป็นประกายสังหารปกคลุมอยู่บนตัวด้ามของกระบี่มังกรฟ้าภายในพริบตา และภายในพริบตานั้นเอง ก็ได้มีพลังความชั่วร้ายปกคลุมออกมาจนเกิดรังสังหารอย่างไร้ที่เปรียบขึ้น ทำให้สภาวะอากาศสั่นไหวไปมา

 

เขากุมกระบี่มังกรฟ้าไว้ ก้าวออกไปบริเวณทางด้านหน้าทีละก้าว

 

“เปรี้ยง——”

 

กระบี่มังกรฟ้าเกิดเสียงร้องขึ้นมาอย่างไร้วี่แวว ตลอดทั่วทั้งสภาวะอากาศในขณะนี้ราวกับถูกบีบรัดเอาไว้อยู่ก็มิปาน ประดุจดั่งปรากฏศีรษะของมังกรขึ้นมาจริงๆ จากทางด้านข้าง จดจ้องมองเข้ามาภายในดินแดนทั้งหมดก็มิปาน จนทำให้ผู้คนเกิดอาการขนลุกขึ้น จิตใจหวั่นไหวไม่หยุด

 

“กร๊อบ——”

 

ก้าวต่อมาก็ได้ลอยลงมา ในที่สุดสือซิ่งก็ได้ลงมือ ภายในดวงตาก็ได้ปรากฏประกายความเย็นเยี่ยมขึ้นมา กระบี่มังกรฟ้าภายในมือพริบตานั้นเองก็ได้พุ่งเข้าสังหารออกมาทางด้านหน้า เป็นไปตามสภาวะของกระบี่ที่ฟาดฟันลงมา ประดุจดั่งมังกรตนหนึ่งทะยานออกมาจากมหาสมุทรมิปาน พวยพุ่งออกมา

 

เยี่ยจงทอสีหน้าเมยเฉยจ้องมองไปยังฉากเบื้องหน้า สีหน้ามิได้มีการเปลี่ยนแปลงมากมายนัก เพียงแต่ว่าพริบตาที่กระบี่มังกรฟ้าทอดลงมา สำนึกกระบี่ตัดความว่างเปล่าก็ได้ปรากฏขึ้นมาบนตัวของกระบี่ดำภายในมือของเขาภายในพริบตา ภายในพริบตานั้นเอง กระบี่ดำภายในมือของเขาก็ได้มีลักษณะการฟาดฟันออกบริเวณทางเบื้องหน้าที่รุนแรงขึ้น อีกทั้งยังแฝงสภาวะอยู่ชนิดหนึ่งที่ยากจะคาดเดาได้

 

“ตึง——”

 

กระบี่มังกรฟ้า ก็ได้เข้าปะทะกัน วินาทีนั้น สามารถที่จะเสียบทะลุทองคำตัดผ่าก้อนศิลาเลยก็ว่าได้ จนทำให้เกิดเสียงดังเปรี้ยงปังขึ้นมาบนศีรษะ จนเกิดเสียงดังจนหูอื้อไปในพริบตา

 

“ตูม——”

 

ประกายจิตสังหารกระบี่ทั้งสองสายก็ได้พวยพุ่งออกมา พลังความเกลียดชังอันไร้ที่เปรียบก็ได้ประดุจปลดผนึกสัตว์ประหลาดมารขึ้นก็มิปาน พลิกสภาวะอากาศไปทั่วทั้งผืนฟ้าผืนดิน

 

“เคร้ง——”

 

กระบี่ราวทั้งสองเล่มก็ได้แยกออกมาจากกันในเวลาเดียวกัน พริบตานั้นก็ได้เพิ่มระดับพลังมุ่งหน้ากดดันไปทางด้านหน้าอีกครั้ง ในครั้งนี้ ประดุจดั่งมีเสียงร้องของภูตผีหมาป่าหอนดังขึ้นมาก็มิปาน พริบตานั้นสภาวะอากาศก็ได้เกิดการสั่นไหวขึ้นมา จนแผ่กระจายออกไปทั่ว……

.

.

.

.

กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ

โปรโมชั่น กลุ่ม 6-12 ราคา 550

VIP5 https://goo.gl/ekcF7V

VIP6 https://goo.gl/4rqw89

VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA

VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x

VIP9 https://goo.gl/1jPZtn

VIP10 https://goo.gl/L8awva

VIP11 https://goo.gl/rojEiG

VIP12 https://1th.me/o9CD

ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

INBOX m.me/ZuiQiangWuShen

#####Fanpage#####

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset