เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 544 การปะทะครั้งแรกของระดับราชัน

ตอนที่ 544 การปะทะครั้งแรกของระดับราชัน

 

 

 

ต่อจากนี้ จงหลี่หลังจากที่ได้ปรึกษาหารือและนัดสถานที่กับเยี่ยจงอย่างรวดเร็วแล้ว ก็ได้ชักนำหลิงเฟ่ยจากไปอย่างรวดเร็ว หากเป็นไปตามคำกล่าวของเขา คิดที่จะเดินทางตามแผนที่ทซึ่งเป็นแผนที่โบราณเพื่อใช้ตามหาวาสนาแล้วละก็ คงจะจำเป็นที่จะต้องมีการเตรียมพร้อมส่วนหนึ่ง

 

เยี่ยจงกล่าวอันใดไม่ออกอย่างยิ่ง ดวงของจงหลี่ผู้นี้ก็ช่างเกินไปแล้ว คนมากมายแย่งชิงกันจนถึงขั้นจะเป็นจะตาย ก็ยังไม่อาจที่จะได้รับสิ่งของนี้ นึกไม่ถึงจะถึงกับตกอยู่ในมือของเขาอย่างไม่ทราบสาเหตุได้ อีกทั้งเมื่อดูจากท่าทีของแล้ว หากว่าไปทำการเตรียมความพร้อมแล้วละก็ ไม่แน่ว่าในครั้งนี้อาจจะได้รับผลลัพธ์ได้จริงก็เป็นได้

 

จงหลี่ทั้งสองคนหลังจากที่จากไปแล้ว เยี่ยจงส่ายหน้าไปมา เรื่องยุ่งยากเขาในที่สุดก็ได้จัดการจนหมดสิ้นแล้ว ก็ได้ใช้กระบี่เทวะไร้สภาวะเข้าไปสู่ภายในใจกลางของพลังเทวะขั้นที่หนึ่ง พลังฝีมือของเยี่ยจงใช้ได้ในทางยาวและทางสั้น ขณะนี้ต่อให้ต้องมาเผชิญหน้ากับชนชั้นระดับบุตรศักดิ์สิทธิ์สตรีศักดิ์สิทธิ์เป็นคู่ต่อสู้ เยี่ยจงก็ยังพอที่จะถอยออกไปได้โดยที่ร่างกายครบถ้วนได้

 

แน่นอนว่า หากว่าเขาใช้ไพ่ตายเหล่านั้นของตนเองออกมาแล้วละก็ แต่หากว่าต้องการที่จะเอาชนะ คงจะยังเป็นเรื่องที่ยากเย็นอยู่เป็นอย่างมาก เพียงแต่ว่า หากมิใช่สถานการณ์ที่คับขัน เยี่ยจงแน่นอนว่าก็คงจะไม่ใช้ออกมาด้วยไพ่ตายเหล่านั้นแน่นอน กระนั้น ไพ่ตายเหล่านั้นต่างก็มีไว้เพื่อรักษาชีวิตเอาไว้

 

ต่อจากนี้อีกสามวัน เยี่ยจงก็ได้สำรวจบริเวณโดยรอบคราหนึ่ง แต่น่าเสียดายที่ผ่านไปตั้งนานแล้ว บริเวณรอบนอกของสุสานชั้นที่สองนี้ที่มีสิ่งค่ามีค่าอยู่ โดยส่วนมากต่างก็ได้ถูกผู้คนกวาดไปจนเรียบหมดแล้ว เขาสำรวจมาอย่างเนิ่นนานก็ยังไม่อาจที่จะเสาะหาสิ่งหาที่มีค่าพบแต่อย่างใด กลับพบว่ามีผู้คนไม่น้อยรวมตัวกันเพื่อที่จะมุ่งหน้าเข้าไปยังบริเวณส่วนลึกของสุสานชั้นที่สอง

 

วันที่สามไม่นานนักก็มาถึง เยี่ยจงมุ่งหน้าไปยังจุดที่ได้นัดหมายเอาไว้กับจงหลี่ ตระเตรียมที่จะพบเจอกัน

 

“ตูม——”

 

ทันใดนั้น ประกายแสงสังหารนับไม่ถ้วนก็ได้พวยพุ่งขึ้นมา เขาก็ได้ทอดตัวลงไปยังบริเวณใจกลางที่เป็นเทือกเขาแห่งหนึ่ง ตลอดทั่วทั้งเทือกเขาต่างก็ปะทุไปด้วยประกายแสงอันน่าหวาดกลัวออกมา ในขณะนั้นเอง ก็ได้มีสิ่งของมากมายที่ได้ถูกกระตุ้นขึ้นมา ในเวลาเดียวกันก็ได้มุ่งหน้าเขามายังบริเวณทางด้านของเขา

 

เยี่ยจงทอประกายดวงตาขึ้นมา นึกไม่ถึงจะมีคนจัดวางบางอย่างเอาไว้อยู่ในบริเวณที่แห่งนี้ เตรียมพร้อมที่จะสังหารเขาไป และคนที่ได้ลงมืออย่างน้อยก็ทราบว่าเขานั้นมีเป้าหมายอยู่ในที่แห่งนี้ นี้ได้ทำให้เขามีประกายดวงตาที่เย็นเยียบขึ้นมา

 

“ซวบ——”

 

ในขณะนั้นเอง เยี่ยจงเข้าใจได้เป็นอย่างดี สถานะของตนเองอย่างน้อยก็คงต้องถูกเปิดเผยออกมาแล้ว ต่อมาเขาก็มิได้กล่าววาจาไร้สาระออกมามากมาย เพียงแต่ใช้ออกด้วยวิชาดำดินรุกคืบ ร่างกายก็ได้มุ่งหน้าถอยออกไปยังบริเวณทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว ทว่าพริบตานั้นก็ได้หลบเลี่ยงประกายแสงนี้ไป เห็นได้ชัด หลังจากที่สำเร็จระดับราชันพลังเทวะขั้นที่หนึ่งแล้ว พลังฝีมือของเยี่ยจงก็ได้ปะทุขึ้นมาได้อย่างน่าหวาดกลัวขึ้นมาแล้ว และวิชาดำดินรุกคืบนี้ก็ยิ่งทวีพลังเพิ่มขึ้นจนเขายากที่จะคาดเดาได้

 

“ผู้ใดกัน!”

 

เมื่อได้หลบเลี่ยงกระบวนท่าสังหารนี้ไปแล้ว ร่างกายของเยี่ยจงก็ได้หยุดบนอยู่ท่ามกลางอากาศ ทอดสายตามองไปยังตลอดทั่วทั้งสถานที่แห่งนี้ ทอสีหน้าสงบขึ้นอย่างยิ่งภายในดวงตา

 

“เด็กน้อยผู้นี้นึกไม่ถึงจะสำเร็จสู่ระดับราชันพลังเทวะขั้นที่หนึ่งได้แล้ว วิชาที่ฝึกปรือก็จัดได้ว่าอยู่ในระดับที่รวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง สมกับที่ถูกเรียกขานว่าเป็นสุดยอดรุ่นเยาว์แห่งเผ่ามนุษย์ ” ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งที่สวมเอาไว้ด้วยชุดสีดำที่อยู่ในสีหน้าเมินเฉยก็ได้ปรากฏขึ้นมาในที่ห่างไกลออกไป ใบหน้าก็ได้ทอสีหน้าเย้ยหยันออกมา

 

“คนผู้นี้ก็คือคนที่ได้ทำลายสายโลหิตหกปีศาจราชันของพวกเรานั้นเอง อีกทั้งยังสามารถที่จะถอยรนออกมาได้โดยที่มิได้เป็นอะไรอีกด้วย?” คนที่อยู่อีกทางด้านก็ได้ฟาดฟันออกมา เขานั้นถึงแม้ว่าจะอยู่รูปลักษณ์ของมนุษย์ แต่ว่าตรงปากกลับยื่นออกมาดั่งวานร ขณะนี้ในมือของเขาก็ได้ถือเอาไว้ด้วยกระบองเหล็กกล้าด้ามหนึ่ง มุมปากแฝงเอาไว้ด้วยเสียงหัวเราะเบาๆ

 

เยี่ยจงทอสีหน้าเรียบเฉย พริบตานั้นก็จดจำขึ้นมาได้ ทั้งสองคนนี้สมควรที่จะต่างก็เป็นราชาปีศาจแห่งหุบเขาหมื่นปีศาจ ขณะนี้เมื่อได้ปรากฏตัวขึ้นในสถานที่แห่งนี้ ย่อมคิดที่จะกระทำเรื่องบางอย่างโดยที่ไม่จำเป็นที่จะต้องถามก็ย่อมเข้าใจได้

 

“ขยะของหุบเขาหมื่นปีศาจ ข้ารู้สึกแปลกใจอย่างยิ่ง พวกเจ้าค้นหาสถานที่แห่งนี้ได้อย่างไรกัน ” เยี่ยจงหัวเราะเสียงเย็นชา แฝงเอาไว้ด้วยความเย้ยหยันเอ่ยปากกล่าวออกมา

 

“เหอะเหอะเหอะ เจ้าหนู เจ้าก็ช่างเชื่อมั่นในความสามารถของตนเองเสียจริง ถึงกับหาญกล้าที่จะเข้ามายังสถานที่แห่งนี้ แต่ว่าเจ้าอย่าได้ลืมเลือนไป ความน่ากลัวของหุบเขาหมื่นปีศาจข้ามิใช่อย่างที่เจ้าคาดคิดเอาไว้หรอกนะ ยังไงเสียก็ย่อมต้องมีคนคิดที่จะขายข้อมูลของเจ้าให้กับพวกข้าอยู่ดี ” ราชันปีศาจที่ได้ถือกระบองเหล็กในมือก็ได้กล่าวขึ้นมาด้วยเสียงหัวเราะอย่างเย็นเยียบ

 

“อ๋อ? น่าเสียดายที่ขายข้อมูลให้แก่พวกเจ้านั้นกลับไม่ถือได้ว่าแม่นยำมากนัก คาดว่าคงจะต้องเป็นมนุษย์มารกงยี่จวินบอกกล่าวว่าข้าได้ปรากฏตัวขึ้นมาแล้วกระมั่ง?” เยี่ยจงจ้องไปที่ทั้งสองคนนี้ เอ่ยปากขึ้นมาตามที่คิดเอาไว้

 

“เหอะ ไม่แปลกใจเลยกงยี่จวินยังต้องพ่ายแพ้ด้วยน้ำมือของเจ้า มาจนถึงเวลาเช่นนี้แล้วยังถึงกับใจเย็นอยู่ได้ ราชันเช่นข้าไม่อาจที่จะไม่เอ่ยนับถือขึ้นมาซักคำ ” ชายวัยกลางคนชุดดำก็ได้จ้องเขม็งไปที่เยี่ยจง ทอสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาหลายส่วนแล้วกล่าวขึ้นมา

 

“กล่าววาจาไร้สาระเช่นนั้นมากมายกับเขาทำอะไร สังหารเขาเสีย ยังไม่รีบล้างอายให้กับสายโลหิตของพวกเราอีก ยังสามารถที่จะใช้ออกมาด้วยเครื่องมือต้องห้ามอีกถึงสองครั้ง แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว!” กระบองเหล็กในมือของราชันปีศาจก็ได้กวาดเข้าไปยังทางด้านหน้าสายตาของเยี่ยจง หัวเราะและกล่าวขึ้นมาอย่างเย็นชา

 

“พวกเจ้าคิดจริงหรือว่าจะสามารถที่จะจัดการข้าได้อยู่หมัดแล้ว?” เยี่ยจงจ้องไปที่ทั้งสองคนนี้ ทั้งสองคนนี้สมควรที่จะมีพลังฝีมือในระดับพลังเทวะขั้นที่สาม นอกจากพวกเขาแล้ว ยังมีราชันปีศาจอีกสามตนที่ปรากฏตัวขึ้นมาบริเวณทางด้านหลังของเยี่ยจง ด้านราชันปีศาจทั้งสามตนนี้ต่างก็ถือได้ว่ามีพลังฝีมือในระดับพลังเทวะขั้นที่สอง

 

“เจ้าถือได้ว่ามีอันใดกัน? ขอเพียงมิให้เวลาแก่เจ้าในการเตรียมความพร้อม จัดการฆ่าสังหารเจ้าลงในที่แห่งนี้ก็พอแล้วมิใช่หรือ? เจ้าคิดจริงหรือว่าพวกเราจะให้เจ้าได้มีเวลาในการจัดสร้างค่ายกลยันต์อย่างงั้นหรือไง?” ราชันปีศาจที่ถือกระบอกเหล็กเอาไว้ในมือก็ได้ส่งเสียงหัวเราะเย็นชาติดต่อกัน “ทำร้ายราชาปีศาจแห่งหุบเขาหมื่นปีศาจข้า หยามเกียรติหุบเขาหมื่นปีศาจสตรีศักดิ์สิทธิ์ข้า ยังหาญกล้าที่จะมาปรากฏตัวขึ้นมาในสถานที่แห่งนี้อีก ช่างเป็นตัวเลวร้ายที่ไม่รู้ที่ตายเลยเสียจริง! เจ้าอย่าได้ลืมเลือนไป สถานที่แห่งนี้ได้มีชนชั้นมหาราชันทั้งสิบเก้าตนคอยคุมเชิงอยู่ อีกทั้งยังมีถึงสองตนที่เป็นมหาราชันปีศาจของหุบเขาหมื่นปีศาจเรา เจ้าในเมื่อปรากฏตัวขึ้น ก็อย่าได้คิดที่จะจากไปอีกเลย! พวกเราวันนี้จะไม่ทำให้เจ้าลำบากใจไป ส่งมอบคัมภีร์สายทางแห่งดวงตะวัน、คัมภีร์กฎแห่งสวรรค์และอาวุธศักดิ์สิทธิ์ขั้นบรรลุออกมา จะให้ความรวบรัดให้แก่เจ้าเอง!”

 

หลังจากที่สิ้นเสียง ห้าราชันปีศาจในเวลาเดียวกันก็ได้ก้าวเดินกดดันออกไปเรื่อยๆ ในเวลาเดียวกันบริเวณใต้เท้าของพวกเขา ก็ได้มีประกายแสงทองสว่างแวววับขึ้นมา เห็นได้ชัด เพื่อที่จะสังหารเยี่ยจง พวกเขาก็ได้เตรียมพร้อมการลงมือเอาไว้ส่วนหนึ่งแล้ว

 

เยี่ยจงหัวเราะเสียงเย็นชา ไม่กล่าววาจาไร้สาระออกมาอีก เพียงแต่พลิกมือข้างหนึ่งนำเอาธนูเทวะโห้วอี่ออกมา ประกายแสงสีทองอันคมกล้าก็ได้ปะทุขึ้นมาตลอดทั่วทั้งร่าง แล้วก็ได้ง้างสายธนูทันที คมศรสายหนึ่งก็ได้ถูกแผลงมุ่งออกไปบริเวณทางด้านหน้า

 

“ตูม——”

 

คมศรก็ได้กลายเป็นประกายมังกร รวมรั้งเอาไว้ด้วยพลังบรรยากาศอันน่าหวาดกลัวชนิดหนึ่งขึ้นมา มุ่งหน้าพวยพุ่งออกไปบริเวณทางด้านของราชันปีศาจพลังเทวะขั้นที่สองผู้หนึ่งที่ได้เข้ามาก่อนผู้นั้น

 

“ตึง——”

 

ราชันปีศาจตนนี้หัวเราะเสียงเย็นชา แล้วก็ได้ใช้ฝ่ามือข้างหนึ่งฟาดลงไปยังคมศรนั้น แต่ว่าในช่วงเสี้ยววินาทีนั้น ก็ได้พบว่าเยี่ยจงได้ลงมือติดต่อกันออกไป ก็ได้มีประกายศรสามสายพวยพุ่งออกมาในเวลาเดียวกัน มุ่งหน้าหมุนวนกวาดเข้าไปยังบริเวณทางด้านนั้น

 

“อา——”

 

เสียงกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด คมศรสามสายก็ได้หายเข้าไปยังภายในร่างของราชันปีศาจตนนี้ในเวลาเดียวกัน เขาแม้แต่การที่จะเรี่ยวแรงที่จะใช้พลังออกมาก็ยังสูญหายไป เพียงแต่กระอักโลหิตออกมาคำโต ร่างกายก็ได้ถอยออกไปบริเวณทางด้านหลังไม่หยุด

 

“ตูม——ตูม——ตูม——”

 

เสียงระเบิดก็ได้ดังขึ้นมาถึงสามครั้งสามครา ตลอดทั่วทั้งร่างกายของคนผู้นี้ก็ได้มีเสียงเปรี้ยงปังดังขึ้นมา พริบตานั้นก็ได้กลายเป็นเพียงก้อนโลหิต ดับสูญไปไม่เหลือแม้แต่ร่างกาย

 

“อะไรกัน!?”

 

ทางด้านราชันปีศาจทั้งสี่ในขณะนี้ตกตะลึงขึ้นมา แทบจะคิดไม่ถึงเลยว่า เยี่ยจงภายใต้สถานการณ์ที่ยังไม่มีการเตรียมความพร้อม นึกไม่ถึงจะยังสามารถที่จะฆ่าสังหารราชันปีศาจตนหนึ่งลงได้อย่างง่ายดายได้ ควรทราบว่า นี้ถือได้ว่าเป็นพลังฝีมือที่ไร้ผู้ต้านได้อย่างแท้จริง ย่อมไม่อาจกล่าวในแบบอื่นขึ้นมาได้!

 

เยี่ยจงหัวเราะอย่างเย็นชาติดต่อกัน ขณะนี้เขาก็ได้ถือธนูเทวะโห้วอี่ เมื่อวันก่อนในช่วงเวลาที่ยังมิได้เข้าสู่ระดับราชัน ก็ยังสามารถที่จะพึ่งพาเพียงธนูด้ามนี้ไล่ล่าสังหารมนุษย์มารกงยี่จวินจนถูกต้อนจนจนมุมได้ ขณะนี้เขาเมื่อมีพลังในการสู้รบของชนชั้นราชันได้อย่างแท้จริงแล้ว คมศรที่ได้ถูกแผลงออกมาย่อมต้องมีพลังในการทำลายสูงกว่าเดิมอย่างแน่นอน

 

“พวกเจ้าไม่ใช่คิดที่จะฆ่าข้าอย่างงั้นหรือ? ทว่า พวกเจ้าไม่ไหวหรอก ต่อให้บุตรศักดิ์สิทธิ์ของพวกเจ้ามาด้วยตัวเอง อาจจะมีส่วยที่ยังพอที่จะดูได้อยู่บ้าง ” เยี่ยจงมือถือธนูเทวะโห้วอี่ ทอสีหน้าเมินเฉยอย่างยิ่ง ในมือของเขาก็ได้แผลงศรออกไปอย่างรวดเร็ว เพื่อฆ่าสังหารคู่ต่อสู้เหล่านี้ อีกทั้งยังมิได้มีการตัดสินใจที่จะลงมือยั่งไมตรีเลยแม้แต่น้อย

 

“ฉึกฉึกฉึก——”

 

เสียงของการระเบิดในรอบที่สองรอบที่สามก็ได้ดังขึ้นมา เขานั้นได้แผลงศรออกไปทั้งหมดเก้าศรติดต่อกัน ในเวลาเดียวกันมุ่งหน้าเข้าไปยังทางด้านของระดับราชันพลังเทวะขั้นที่สองอีกสองคนอยู่จนปลิ้วกระเด็นออกไป แล้วก็ได้ยินเสียงที่ดังขึ้นมาอย่างรุนแรง ระดับราชันพลังเทวะขั้นที่สองทั้งสองตนนี้แทบจะเรียกได้ว่าไม่อาจที่จะต้านทานพลังในการทำลายเหล่านี้เอาไว้ได้ เพียงแต่คิดที่จะจัดการทำลายที่แห่งนี้ให้เป็นชิ้นๆ

 

ราชันปีศาจชุดดำและปีศาจราชันที่ถือเอาไว้ด้วยกระบองเหล็ที่หลงเหลืออยู่ก็ได้ทอสีหน้าเปลี่ยนไปในเวลาเดียวกัน พวกเขาแม้ว่าจะเคยได้ยินคำเล่าขานของเยี่ยจงมาไม่น้อย แต่ว่าก็ยังคิดว่า เยี่ยจงเพียงแค่พึ่งพาพลังจากภายนอก จึงค่อยสามารถที่จะมีชื่อเสียงมาจนถึงขั้นนี้ได้ แต่ว่าเมื่อได้มาถึงในขณะนั้นพวกเขาก็ได้เข้าใจขึ้นมาอย่างชัดเจนแล้วว่า เยี่ยจงผู้นี้ที่แท้มีพลังฝีมือที่น่าหวาดกลัวในระดับใด

 

ขณะนี้ ราชันปีศาจพลังเทวะขั้นที่สามที่หลงเหลืออีกสองตนไม่ต้องแม้แต่ที่จะคิด จากนั้นก็ได้หันกายไปในเวลาเดียวกัน มุ่งหน้าถอยออกไปยังบริเวณทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว

 

เยี่ยจงทอสีหน้าเมินเฉย ใช้ออกด้วยวิชาดำดินรุกคืบ ในเวลาเดียวกันก็ได้ง้างธนูเทวะโห้วอี่อย่างรวดเร็ว พริบตานั้นก็ได้แผลงศรออกไปอีกทั้งหมดสามสิบหกศร มุ่งหน้าเข้าสังหารเข้าไปยังทางด้านของราชันปีศาจที่ได้ถือกระบองเหล็กอยู่ในมือ

 

“ฉึกฉึกฉึก——”

 

ราชันปีศาจตนนี้แท้จริงแล้วมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง กระบองเหล็กในมือของเขาก็ได้กวาดซ้ายทีขวาที ต้านทานคมศรทั้งสามสิบหกสายเอาไว้ แต่ว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ ยังคงมีคมศรอีกสองสายกระทบเข้าไปอยู่บนร่างของมัน จนทำให้มันต้องกระอักโลหิตออกมาคำโต อยู่ในสภาพจนตรอกอย่างถึงที่สุด

 

เยี่ยจงส่งเสียงหัวเราะเย็นชาขึ้นมา ในเมื่อขณะนี้เขาก็ได้ถูกเปิดเผยตัวตนออกมาแล้ว ก็ย่อมไม่อาจที่จะซ่อนเร้นได้อีกต่อไป ต่อมาเขาก็ได้พลิกมือขึ้นมาคราหนึ่ง กระบี่แสงจันทร์ในมือ ก็ได้ถูกเขากวาดกระบี่สังหารออกไปคราหนึ่ง คมกระบี่ก็ได้สาดเป็นประกายขึ้นมาเป็นชุดนั้นมุ่งหน้าเข้าไปยังบริเวณทางด้านหน้าภายในพริบตา

 

คมกระบี่สายนี้แม้ว่าเยี่ยจงจะมิได้ใช้ออกมาด้วยพลังเทวะก็ตามที แต่เป็นเพียงแค่การกวาดกระบี่ออกไปอย่างธรรมดาสามัญ แต่ว่าภายใต้การที่เขาได้ใช้ออกมาด้วยมรรคกระบี่เทวะของตนเอง ต่อให้ขณะนี้มิใช่ใช้ออกมาด้วยพลังเทวะ แต่ว่าในทุกๆ กระบี่ก็ได้รวมเอาไว้ด้วยพลังทำลายเอาไว้ ยังคงทอพลังความน่าหวาดกลัวขึ้นมาอย่างถึงที่สุด

 

“ฉึกฉึกฉึก——”

 

ราชันปีศาจที่ได้ถือกระบองเหล็กในมือก็ได้กวาดกระบองไปมาอย่างบ้าคลั่ง ต้านทานคมกระบี่นี้ของเยี่ยจงอย่างยากลำบาก แต่ว่าในทุกครั้งที่ได้ต้านทานคมกระบี่ของเยี่ยจงเอาไว้ เขาต่างก็ได้กระอักโลหิตออกมาคำโตและถอยออกไป ทอสีหน้าจนตรอกอย่างถึงที่สุด

 

“กร๊อบ——”

 

ในการกวาดกระบองในครั้งสุดท้าย กระบองเหล็กในมือของเขาก็ได้ถูกทำลายลงไปในทันที และคมกระบี่ก็ได้เฉือนเข้าไปที่เนื้อของเขา จนทำให้เกิดบาดแผลขึ้นมาทั้งหมดสองสายในทันที ตายตกลงไปในที่แห่งนี้

 

ท้ายที่สุดราชันปีศาจชุดดำในขณะนั้นเองต่างก็อยู่ในอาการตกตะลึง นี้ถือได้ว่าเป็นชนชั้นราชันพลังเทวะขั้นที่สามได้อย่างแท้จริงก็ว่าได้ แม้ว่าพลังในการต่อสู้นั้นจะไม่อาจที่จะเทียบเคียงได้กับพลังของบุตรศักดิ์สิทธิ์สตรีศักดิ์สิทธิ์ได้ แต่ว่ายังคงถือได้ว่าน่าหวาดกลัว แต่ว่า นึกไม่ถึงเลยว่าจะถึงกับพบกับจุดจบได้รวดเร็วได้ถึงเพียงนี้

 

ความน่ากลัวของเยี่ยจงผู้นี้แท้จริงแล้วก็ช่างเหนือความคาดหมายเสียจริง เขาแน่นอนว่าย่อมต้องมีพลังในการต่อสู้ในระดับของบุตรศักดิ์สิทธิ์สตรีศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน!

 

ในขณะนั้นเอง ราชันปีศาจชุดดำก็ได้มีเหงื่อที่หลั่งไหลออกมาอย่างเย็นเฉียบ เขาแทบจะไม่อาจที่จะไม่ใช้สมบัติเซียนเพื่อที่จะคุ้มครองตนเองเพื่อมุ่งหน้าบริเวณทางด้านหลังออกไป ในเวลาเดียวกันก็ได้หลบหนีออกไปด้วยความเร็วสูงสุด คิดแต่เพียงว่าจะหลบหนีไปจากระยะของเยี่ยจงไป

 

“สหายทั้งสี่ตนของเจ้าก็ได้ไปสู่ประตูนรกแล้ว หากเจ้าไม่ไปด้วยแล้วละก็ ไม่คิดว่าจะกลายเป็นเรื่องที่ไม่สมควรหรอกหรือไง? มิสู้ข้าในเมื่อเป็นคนก็ต้องช่วยเหลือให้ถึงที่สุด ส่งพวกเจ้าไปสู่ประตูนรกพร้อมกันก็แล้วกัน!”

 

เยี่ยจงกล่าววาจาราบเรียบ ใช้ออกด้วยวิชาดำดินรุกคืบ ราชันปีศาจชุดดำที่ได้อยู่ในอาการตกตะลึงอยู่ในที่ห่างไกลออกไป ในเวลาเดียวกันกระบี่แสงจันทร์ในมือก็ได้ฟันออกไปเป็นครั้งคราว คมกระบี่แต่ละสายก็ได้สลับซ้ายทีขวาที ก็ได้พวยพุ่งออกมาไม่ขาดสาย น่าหวาดกลัวจนถึงขั้นนี้ได้

.

.

.

.

กลุ่ม / 100บาทครับ

กลุ่มละ 80ตอน
โปรโมชั่น กลุ่ม 6-13 ราคา 600
VIP5 https://goo.gl/ekcF7V
VIP6 https://goo.gl/4rqw89
VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA
VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x
VIP9 https://goo.gl/1jPZtn
VIP10 https://goo.gl/L8awva
VIP11 https://goo.gl/rojEiG
VIP12 https://bit.ly/2lRgnUn
VIP13 https://bit.ly/2mkmj8y
ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
INBOX m.me/ZuiQiangWuShen
#####Fanpage#####
https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset