ตอนที่ 529 รีบเร่ง
ตอนนี้หลินหยางผู้นำทัพเริ่มก้าวเท้ายาวขึ้นเพิ่มความเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากชายผู้มีระดับสี่กล่าวขึ้นมาตอนนี้เขาก็เริ่มระแวงบ้างแล้ว ฉะนั้นรีบไปให้ถึงจุดหมายจัดการกับศัตรูและหลบหนีออกไปให้ไวที่สุดเป็นดี
ผู้คนด้านหลังของเขาแปลกใจเล็กน้อยที่จู่ๆหลินหยางก็เพิ่มความเร็วโดยฉับพลัน แต่กระนั้นก็มิได้เปิดปากถามหาถึงเหตุผลแต่อย่างใด ได้แต่จ้ำอ้าวก้าวเท้าตามไปอย่างโดยดี
เส้นทางเดิมในครั้งก่อนนั้นเป็นการเดินทางที่เรียกได้ว่าลำบากเอาการเลยทีเดียวเพราะมักมีผู้คนอาศัยอยู่แนบกำแพงถ้ำเป็นระยะกีดขวางการเดินทาง
บัดนี้ถูกปล่อยโล่งไม่พบร่างของสิ่งมีชีวิตใดๆอีกต่อไปอันเนื่องมาจากพวกมันเหล่านั้นล้วนเข้าร่วมกับขบวนการหลบหนีครั้งนี้กันแล้วทั้งสิ้น
ทำให้การเดินทางในครั้งนี้รวดเร็วขึ้นยิ่งนัก การเร่งความเร็วของหลินหยางส่งผลให้กองกำลังของเขาถึงจุดหมายในที่สุด
หน้าของหลินหยางห่างไปราวสี่ถึงห้าเมตรก็คือทางออกจากถ้ำซึ่งมีความกว้างราวสองเมตรและสูงสองเมตรเช่นกัน
เมื่อข้ามผ่านทางตรงหน้าออกไปก็คือเส้นทางภายในถ้ำที่คล้ายคลึงกับถ้ำมดอย่างกับแกะเนื่องจากมันเป็นทางหักโค้งไปทางด้านขวาต่อจากนั้นจึงเป็นเส้นทางเดียวไม่มีทางแยกอีกต่อไป
หากเดินไปตามทางเรื่อยๆก็จะพบกับปากถ้ำอันคล้ายหลุมดำดึงดูดตัวพวกเขาออกไปพานพบกับแสงสว่างที่ถวิลย์หา
ตรงจุดนี้หากพวกเขาสามารถจัดการกับค้างคาวตัวจิ๋วได้ก็ไร้สิ่งกีดขวางอีกต่อไป สำหรับค้างคาวระดับสี่และหกที่อาศัยอยู่ภายในถ้ำแห่งนี้หลินหยางมิได้หวาดกลัวพวกมัน
ตอนนี้คนทั้งห้าสิบที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันเป็นดั่งกับคลื่นทะเลที่จะถาโถมพังทลายถ้ำแห่งนี้ฝ่าออกไปไม่มีสิ่งใดขวางกั้น
หลินหยางก้มต่ำลงทันทีพร้อมกับส่งสัญญาณมือให้คนข้างหลังทำตามตนเอง เขาต้องมิให้ค้างคาวตัวจิ๋วเปิดฉากโจมตีมาก่อนมิฉะนั้นความได้เปรียบจะอยู่กำมือของมัน
ฝั่งของเขาต้องเป็นผู้เริ่มโจมตีค้างคาวตัวจ้อยเพื่อชิงจังหวะแห่งชัยชนะมาไว้ในกำมือและใช้เวลาให้น้อยที่สุดในการหลบหนี
การต่อสู้ที่ต้องปะทะกับผู้เฝ้าประตูทางออกนี้ไม่ว่าจะกวัดแกว่งอาวุธหรือหลบหลีกการโจมตีก็ย่อมต้องเกิดเสียงของการปะทะขึ้นอย่างแน่นอน
อย่างตอนนี้แม้พวกเขาทั้งห้าสิบจะก้มต่ำใช้เท้าย่องเดินอย่างบางเบา หลินหยางที่อยู่หัวแถวยังสามารถได้ยินเสียงของพวกมันมากระทบประสาทการได้ยิน
มิต้องถามถึงยามปะทะ หากคนทั้งหมดมิย่องเบาเปลี่ยนเป็นวิ่งเต็มกำลังแทนเสียงคงจะดังจนทะลุออกไปยังนอกถ้ำเลยกระมัง
สำหรับเสียงที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้แม้จะอยู่ห่างไกลจนสุดปลายถ้ำหากหูมันผู้นั้นมิบอดหนวกก็ต้องได้ยินเช่นกัน
ฉะนั้นเมื่อเริ่มการต่อสู้ขึ้นเมื่อใดต้องรีบจัดการค้างคาวตัวนี้โดยใช้เวลากระชั้นมากเท่าที่จะทำได้ และใช้เวลาที่ชิงมานั้นในการวิ่งสุดฝีเท้าออกไปยังถ้ำค้างคาวปีศาจนี้เสีย
พวกเขาต้องแข่งกับศัตรูและเวลาในคราวเดียวกัน
ตอนที่ 530 ชี้แนะ
‘ข้างหน้าพวกเราก็คือทางออกไปจากสถานที่แห่งนี้ แต่อย่างที่พวกคุณทราบมันมีสิ่งมีชีวิตตัวหนึ่งปกป้องกีดขวางเส้นทางตรงนี้อยู่ หากต้องการจะออกไปพวกเราต้องกำจัดเจ้าสิ่งนี้ไปเสีย แต่ก่อนอื่นผมต้องบอกพวกคุณเอาไว้ก่อน…ตัวผมเคยปะทะกับเจ้าตัวนี้มาแล้วครั้งนึงซึ่งฝ่ายไหนปราชัยก็คงมิต้องบอก มันตนนี้เองที่เป็นต้นเหตุทำให้ผมมายังสถานที่แห่งนี้ ผมไม่รู้เกี่ยวกับความสามารถของมันมากนัก แต่ที่รู้ก็คือมันมีความรวดเร็วมหาศาลดั่งลูกศรที่ถูกปล่อยออกมาจากธนู ทั้งพลังโจมตีของมันก็มิได้ด้อยไปกว่ากันเลยแม้แต่น้อย แม้จะมีโล่เหล็กป้องกันตัวก็มิสามารถลบความเสียหายจากการโจมตีของมันได้หมด’ หลินหยางกล่าว
‘ฉะนั้นผมไม่รับประกันความปลอดภัยของพวกคุณ พวกคุณควรเตรียมใจรับผลที่ตามมาเอาไว้ให้ดี พยายามอย่าให้ตนเองเป็นเป้าโจมตีของสิ่งมีชีวิตตนนี้ อีกประการหากมีใครโชคร้ายบาดเจ็บสาหัสไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ผมไม่ลังเลที่จะทิ้งมันผู้นั้นเอาไว้ พวกเราต้องร่วมมือกันจะไม่มีใครเป็นตัวถ่วงทั้งสิ้น!’
‘ผมให้เวลาพวกคุณหนึ่งนาทีเตรียมตัวเช็คสภาพอาวุธและความพร้อมของร่างกายตนเองให้เรียบร้อย เมื่อทุกอย่างพร้อมเพรียงแล้วเราจะเริ่มบุกเข้าไปทันที’ เขากล่าวต่อ
ไม่มีใครส่งเสียงหรือขัดการกล่าวขานของหลินหยางเลยแม้แต่เพียงผู้เดียว
ตอนนี้คนกว่าห้าสิบชีวิตทำตามคำกล่าวของเขาไม่อย่างดิบดี พวกมันตรวจสอบอาวุธกระดูกยุทโธปกรณ์อันน่าสยดสยองของตนเองเพื่อเตรียมพร้อมเต็มที่
บางคนหลับตาสูดลมหายใจเข้าออกลึกรวบรวมสมาธิเตรียมใจเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น
หนึ่งนาทีที่หลินหยางกล่าวมานั้นมิได้ยืดยาวเลยหากเทียบกับเวลาปกติเพียงแค่กระพริบตามิกี่คราก็คงถึงกำหนดเรียกได้ว่ากระชั้นเกินไปสำหรับการเตรียมตัวเตรียมใจ
แต่สำหรับสถานการณ์อันตึงเครียดปัจจุบัน ทุกวินาทีมันช่างยาวนานยิ่งนัก
‘สำหรับคนที่มีค่าสถานะพลังให้คอยหาจังหวะเพื่อโจมตีมันให้ได้ ส่วนใครที่มีค่าสถานะความเร็วให้พยายามใช้ตัวเองเป็นตัวหลอกล่อความสนใจของมันมิให้โจมตีไปยังคนอื่นๆและกลุ่มสุดท้าย…’ หลินหยางหยุดไปครู่นึง
คนกลุ่มสุดท้ายที่มีประชากรเยอะที่สุดในกลุ่มนั้นคือเหล่าคนที่ไม่มีค่าสถานะใดๆเพิ่มขึ้นมา เรียกได้ว่าพวกมันแทบจะไม่มีประโยชน์ใดๆเลยสำหรับการต่อสู้
‘คอยสนับสนุนจากกลุ่มพลังและคนจากกลุ่มคนเร็วแล้วกัน ช่วยเหลือพวกเขายามที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ’ หลินหยางกล่าว
‘พวกนายทั้งสองขนาบซ้ายขวาของแถวเอาไว้ คอยป้องกันการโจมตีจากมันด้วยโล่ในมือของตน จำเอาไว้โล่ในมือของพวกนายมิได้แข็งแรงเท่าโล่เหล็ก ฉะนั้นพยายามอย่าปะทะกับมันโดยตรงใช้ร่างกายเบี่ยงวิถีการโจมตีของมันออกไปด้านข้างซ้ายขวาตามสถานการณ์ อย่าบุ่มบ่ามโจมตีสุ่มสี่สุ่มห้า ให้ความสำคัญกับชีวิตของตนเองและคนข้างหลังเป็นอันดับแรก หากมีโอกาศเหมาะจึงจะใช้อาวุธของตนในการโจมตีมันเข้าใจไหม?’ หลินหยางกล่าวกับชายผู้มีระดับสี่และชายร่างท้วมเพื่อชี้แนะการต่อสู้ในระยะประชิดกับเจ้าค้างคาวตัวจิ๋ว
พวกมันทั้งสองพยักหน้ารับคำ