เทพอสูรสยบโลกา – ตอนที่ 61-62

ตอนที่ 61 ออร์ค(ตอนปลาย)

 

หลินหยางและหลิวเจี่ยวิ่งเข้ามาใกล้ออร์คจากด้านหลังของมัน โดยให้คนอื่นๆเกาะกลุ่มกันอยู่นอกระยะเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ มันจึงมิได้สังเกตุว่าตอนนี้มีมนุษย์สองคนกำลังย่องเบาเข้าใกล้ตนขึ้นเรื่อยๆ

 

หลินหยางเปลี่ยนอาวุธจากดาบที่เคยใช้เป็นหอกยาวเพื่อเพิ่มระยะการโจมตีเพราะแม้ตอนนี้มันจะนั่งอยู่แต่มันก็ยังสูงเกินที่ระยะดาบจะโจมตีจุดตายมันได้อยู่ดี เขาจึงเลือกใช้หอกที่มีความยาวและพลังในการเจาะทะลุมากกว่านั่นเอง

 

หลินหยางและหลิวเจี่ยค่อยๆย่องอย่างแช่มช้า ร้อย ห้าสิบและยี่สิบเมตรพวกมันทั้งคู่ต่างมีเหงื่อเม็ดโตผุดตามใบหน้าและร่างกายเต็มไปด้วยความกดดันหัวใจเต้นรุนแรง โดยเฉพาะหลิวเจี่ยที่ผิวกายซีดเผือกราวกับน้ำในร่างของมันเฮือดแห้งไปจนหมดหายใจรุนแรงคล้ายจะเป็นลมมันเฝ้าภาวนาขอให้เจ้ายักษ์เบื้องหน้าอย่าได้สังเกตุเห็นตนเลย

 

ควับ!!

 

แต่ดูเหมือนคำภาวนาของมันจะส่งไปมิถึงพระผู้เป็นเจ้า จู่ๆเจ้าออร์คที่กำลังเฝ้าระวังมองเหล่าเอลฟ์และทีมก่อสร้าง ปรายสายตาของมันก็ตรวจพบความเคลื่อนไหวของสองบุรุษทำให้มันหันควับประจัญหน้ากับสองหนุ่มเข้าอย่างจัง

 

“เอาเลย!” หลังจากที่ออร์คมันรู้ตัวแล้วหลินหยางก็ตกใจเช่นกัน เร่งรีบวิ่งเข้าประชิดตัวเป้าหมายจากระห่างร่วมยี่สิบเมตรและตะโกนออกคำสั่งแก่หลิวเจี่ยที่ตอนนี้ยืนตัวค้าง

 

ว้ากก~

 

เมื่อได้ยินเสียงตะโกน หลิวเจี่ยคืนสติและเร่งใช้ทักษะราชสีห์คำรามทันที

 

เหตุผลที่หลินหยางพาหลิวเจี่ยมากับเขาเพราะหลิวเจี่ยเป็นผู้ถือครองทักษะราชสีห์คำรามเช่นเดียวกัน ถึงแม้พลังวิญญาณของมันจะมีเพียง 1.3 แต่ยังก็ยังมากกว่าออร์คตรงหน้าที่ไร้พลังวิญญาณ ย่อมต้องมีผลบ้างไม่มากก็น้อย

 

ดังคาดออร์คตนนั้นเมื่อเห็นหลินหยางมันก็ตกใจด้วยความที่มันไม่คาดคิดว่าชายหนุ่มทั้งสองจะแอบย่องมาหาตนในระยะกระชั้นชิดและเงื้อดาบหินใหญ่ยักษ์ในมือหวังจากทุบมนุษย์ตัวจ้อยที่อาจหาญท้าทายอำนาจ แต่ก่อนที่จะได้ทุบออกไปมันถูกทักษะราชสีห์คำรามของหลิวเจี่ยทำให้มันชะงักไปชั่วครู่

 

หลินหยางไม่ปล่อยให้โอกาศหลุดลอยไปวิ่งเข้าไปหาเป้าหมายเมื่อเข้าถึงระยะสามเมตรมันกระโดดขึ้นจากพื้นดินพร้อมแรงส่งจากการวิ่งด้วยความเร็วเหนือมนุษย์ดันร่างของตนลอยละลิ่วพุ่งเข้าใส่ออร์ค มือขวาถือหอกชูขึ้นเหนือศรีษะผสานมือซ้ายรวมกำลังจากสองแขนเล็งปลายแหลมไปเบื้องหน้าเสียบเข้าใส่คอของเป้าหมายอย่างรุนแรง!!

 

ค๊ากก~

 

ออร์คที่ถูกจู่โจมผสานกันของหลินหยางและหลิวเจี่ยโดยไม่ทันตั้งตัว มันร้องออกมาอย่างเจ็บปวด

 

“ไม่ลึกพอ!” หลินหยางขมวดคิ้วการโจมตีที่ทุ่มแรงทั้งหมดของเขายังไม่สามารถปลิดชีวิตมันได้ เนื่องจากพลังป้องกันที่มหาศาลของมันทำให้หอกแทงเข้าไปมิสุดลำ แต่ก็เพียงพอที่จะให้มันบาดเจ็บสาหัส

 

แต่ตอนนี้เจ้าออร์คมันหลุดออกจากผลของทักษะราชสีห์คำรามของหลิวเจี่ยแล้วทำให้มนัสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระและสิ่งแรกที่มันจะทำในตอนนี้ก็คือการเงื้อง้างดาบหมายจะทุบร่างของหลินหยางให้แบนติดพื้น!!

 

หลินหยางบัดนี้ห้อยอยู่บนร่างของเจ้าออร์คโดยมีหอกเหล็กที่ปักอยู่บนคอของมันยึดเหนี่ยวร่าง ชายหนุ่มเล็งเห็นการโจมตีของศัตรูใช้สองเท้าเหยียบลงบนแขนข้างซ้ายของเป้าหมายที่อยู่ใกล้ตนพร้อมออกแรงถีบเหวี่ยงร่างของตนหลบวิถีการโจมตีไปอย่างเฉียดฉิวก่อนที่ร่างของตนจะห้อยกลับลงมาที่เดิม

 

ตู้มม

 

การโจมตีของเจ้าออร์คพลาดพลั้งฟาดลงบนพื้นดินอันว่างเปล่าและมันจำต้องใช้เวลาอีกครู่นึงจึงจะเริ่มการโจมตีครั้งที่สองและด้วยความล่าช้าของมันหลินหยางที่มีความเร็วเหนือกว่าย่อมไม่ปล่อยให้มันกระทำได้สำเร็จ ชายหนุ่มปีนป่ายขึ้นไปบนหัวไหล่ใช้สองขาตวัดรอบใช้เป็นที่ยึดเหนี่ยวสร้างสมดุลก่อนที่มันจะปล่อยมือข้างหนึ่งออกจากด้ามหอกรวบรวมกำลังทั้งหมดของร่างกายไว้ในมือข้างนั้นและ….ทุบเข้าใส่ด้ามจับของหอกส่งแรงกระแทกของตนดันปลายแหลมให้ทะลวงเข้าไปในคอของเจ้าออร์ค!!

 

ปึ่กก~

ปั่กกกก~

 

ในเวลาเพียงหนึ่งวินาทีหลินหยางกระแทกหอกเล่มนั้นไปถึงสองครั้งด้วยพละกำลังทั้งหมดของตนจนตอนนี้ฝ่ามือของมันมีรอยสีแดงจ้ำเลือดเป็นวงกลมของด้ามหอกประทับอยู่ ทว่าแม้มั่นจะทุ่มแรงทั้งหมดไปเพื่อหมายปลิดชีพฝ่ายตรงข้ามแต่เจ้าออร์ตตัวยักษ์หาได้สิ้นฤทธิ์ไปตามที่คาดหวังไม่ เจ้าออร์คส่งเสียงร้องแห่งความเจ็บปวดก่อนที่มันจะแปรเปลี่ยนการโจมตีชูดาบหินเหนือศรีษะโชว์เอกลักษณ์ในการใช้ทักษะ!!

 

หลินหยางเห็นดังนั้นเขาจึงรู้ได้ทันที มันกำลังจะใช้ทักษะโจมตีอีกครั้ง!

 

ว้ากกก~~

 

หลินหยางตะเบ็งเสียงตะโกนลั่นใส่ข้างหูของเป้าหมายพร้อมด้วยทักษะราชสีห์คำรามที่ทรงอานุภาพกว่าหลิวเจี่ยส่งผลให้เจ้าออร์คถูกขัดจังหวะชะงักค้างในบัดดล ร่างกายที่หยุดเคลื่อนไหวของมันเปิดโอกาศให้หลินหยางได้กระหน่ำโจมตีซ้ำจุดเดิมทุบหอกเหล็กอย่างต่อเนื่อง

 

ฉึกก!!

 

ห้าครั้ง? สิบครั้ง? ชายหนุ่มโถมโจมตีอย่างบ้าคลั่งไม่ทราบตนทุบหอกนี้ไปกี่คราจนกระทั่ง….ด้ามหอกจมหายเข้าไปในคอของเจ้ายักษ์ปลายแหลมทะลุไปอีกฟากฝั่งตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบ!!

 

‘คุณฆ่าออร์คระดับ 20 หนึ่งตัว’

‘ยินดีด้วยคุณเลื่อนถึงระดับ 13 สำเร็จแล้ว ได้รับแต้มค่าสถานะเพิ่มขึ้นหนึ่งจุด’

‘ยินดีด้วยคุณเลื่อนถึงระดับ 14 สำเร็จแล้ว ได้รับแต้มค่าสถานะเพิ่มขึ้นหนึ่งจุด’

‘ยินดีด้วยคุณเลื่อนถึงระดับ 15 สำเร็จแล้ว ได้รับแต้มค่าสถานะเพิ่มขึ้นหนึ่งจุด’

 

ตอนที่ 62 ไว้อาลัย

 

หลินหยางนั่งหอบหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อย เขาพึ่งต่อสู้กับความกดดันที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน หากออร์คมันสามารถใช้ทักษะออกมาได้เขาคงจบสิ้นเป็นแน่

 

“พี่หยางเป็นไงบ้าง” ตอนนั้นเองทีมระยะใกล้ ทีมก่อสร้าง ทีมจู่โจมและเหล่าเอลฟ์รวมถึงหลิวเจี่ยก็เข้ามาหาหลินหยาง

 

“ไม่เป็นไร” หลินหยางยิ้มตอบ

 

เมื่อพวกเขาได้ยินเช่นนั้นก็สบายใจ

 

“พี่หยางนี่ครับ” ชายคนนึงหยิบยื่นเหรียญเงินสีดำและหนังสือทักษะหนึ่งเล่มให้แก่หลินหยาง ของพวกนี้มันตกอยู่ข้างๆร่างออร์คตัวอ้วนตัวนี้นั่นเอง เงินที่ได้จากมันมีถึงสองร้อยเหรียญ หลินหยางแจกจ่ายคนละสองเหรียญส่วนที่เหลือเขาเก็บไว้ เพื่อนำไปใส่ในคลังกองกลางของเมือง

 

มิทราบภายในร้านค้าจะมีอะไรขายบ้างจึงต้องเก็บเงินทุกเหรียญเอาไว้ก่อนเพราะยังไงมันก็ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้นอกจากซื้อสิ่งของในร้านค้าที่หนึ่งปีจะมีเพียงหนเดียวเท่านั้น

 

เมื่อแจกจ่ายเงินเสร็จสิ้นเขามองหนังสือทักษะภายในมือ

 

ทักษะระดับ 4 สะบั้นพสุธา

คำอธิบาย : ทุบพื้นดินด้วยพละกำลังมหาศาล สร้างเข็มดินขนาดใหญ่โจมตีศัตรูเป็นวงกว้าง

 

‘ทักษะระดับสี่!!’ หลินหยางฉีกยิ้มกว้างมือของมันสั่นเทาค่อยๆเปิดตำราอย่างช้าๆโดยมิอาจควบคุมได้

 

‘คุณได้เรียนรู้ทักษะสะบั้นพสุธาระดับ 4 เรียบร้อยแล้ว’

 

‘ฮะ ฮ่าๆ…’ ชายหนุ่มส่งเสียงหัวร่อในลำคอทว่า…เพียงไม่นานนักเสียงหัวเราะค่อยเบาลงใบหน้าแห่งความยินดีแปรเปลี่ยนเป็นสำนึกผิด มันลืมไปเลยตนมิได้ต่อสู้กับออร์คตัวยักษ์เพียงลำพังและทักษะที่ได้รับมาก็มีเพียงหนึ่งเล่มเท่านั้น มันลืมนึกถึงผู้ร่วมทุกข์ร่วมสุขมิได้ถามความเห็นของนักรบรายอื่นไปเสียนี่

 

“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นเล่า ท่านสมควรได้รับมันแล้ว”

“ข้าเชื่อว่าไม่มีใครจะใช้ทักษะนี้ให้เป็นประโยชน์ได้มากไปกว่าพี่หยาง”

“ฮ่าๆ สำหรับข้าในหมู่พวกเราไม่ว่าใครใช้มันก็ได้ทั้งนั้น แต่ถ้าเป็นพี่หยางมันยิ่งต้องดีกว่าอยู่แล้ว”

 

เหล่าผู้ร่วมรบต่างส่งเสียงปลอบใจ บ้างก็เชียร์ชายหนุ่ม

 

แม้พวกมันจะพูดมาเช่นนั้นแต่หลินหยางก็ยังอดรู้สึกผิดไมไ่ด้ทำได้เพียงแค่ยิ้มแห้งผงกหัวทำการขอโทษพวกมันที่ล้อมกายทั้งสี่ทิศ

 

“นั่น!! กระรอกออกมาแล้ว”

“พวกเราจับมันเร็ว!”

“โอ้ววว!” และตอนนั้นเองกระรอกฝูงใหม่ก็ปรากฏกายออกมาจากโพรงไม้ เหล่าชายฉกรรจ์ที่พึ่งเสร็จสิ้นการต่อสู้อันเหน็ดเหนื่อยมิได้สูญเปล่าพวกมันได้รับผลตอบแทนเร็วเกินคาดต่างก็โห่ร้องวิ่งไล่ล่าจับสัตว์ตัวน้อยกันอย่างเอิกเกริกเฮฮา

 

หลินหยางพวกสหายและพวกพ้วงด้วยใบหน้าที่อิ่มเอมไปด้วยความสุขก่อนที่มันจะมีเวลาหันมาสนใจค่าสถานะของตน

 

‘เพิ่มค่าสถานะความเร็ว 0.3 เสร็จสิ้น’

 

ค่าสถานะสามจุดถูกเพิ่มไปยังความเร็วตามปกติก่อนที่มันจะลังเลครู่นึงเมื่อต้องตัดสินใจกับค่าทักษะทั้งสามแต้มกับสองตัวเลือกที่คู่ควร ทักษะราชสีห์คำรามและทักษะใหม่ล่าสุดสะบั้นพสุธา

 

         ‘ทักษะราชสีห์คำรามระดับ 3 ได้รับการเลื่อนขั้น 7/10 เรียบร้อยแล้ว

 

และนั่นคือคำตอบที่มันได้ไตร่ตรองมาเป็นอย่างดี

 

ชื่อ หลินหยาง เผ่า มนุษย์

ระดับ 15

สถานะ

พลัง 1

ป้องกัน 1

ความเร็ว 2.1

วิญญาณ 1.9 (0.7เพิ่มขึ้น)

ค่าสถานะที่เพิ่มได้ —

ทักษะ หลอมไฟ ระดับ 1 5/10

         ราชสีห์คำราม ระดับ 3 7/10

         ดวงตาเหยี่ยว ระดับ 3 3/10

         สะบั้นพสุธา ระดับ 4 1/10

ทักษะติดตัว กระดูกศิลา ระดับ 2 3/10

         เกล็ดมังกร ระดับ 0 0/10

ค่าทักษะที่เพิ่มได้ —

 

หลินหยางยิ้มแก้มปริตอนนี้ความเร็วและค่าพลังวิญญาณมีมากกว่าคนธรรมดาถึงสองเท่า

 

หลังเล่นวิ่งไล่จับกับกระรอกทั้งกลุ่มเสร็จสรรพก็ถึงเวลากลับเมืองไปลิ้มลองรสชาติใหม่ หลินหยางจัดเตรียมกำลังวางคนเฝ้าโพรงไม้โดยสับเปลี่ยนเวรยามทุกแปดชั่วโมงเพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดฝันมิให้เมืองที่มักง่ายในระแวกมาชุบมือเปิบ พร้อมทั้งสั่งการหลิวเจี่ยและพวกสร้างรั้วไม้เป็นกรงล้อมรอบโพรงไม้เพื่อกักขังมิให้กระรอกฝูงใหม่ได้มีโอกาศวิ่งหนีเอาชีวิตรอด

 

ณ เมืองหลินหยาง

 

เมื่อกลับมาถึงเมืองของตนหลินหยางสังเกตุเห็นว่าพลเมืองต่างก็มีสีหน้ากังวลเนื่องจากก่อนหน้านี้พวกมันพึ่งจะเห็นศพผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่งที่ถูกหามกลับมาส่งเมือง

 

ภายในเมืองเต็มไปด้วยความหดหู่ของผู้คนบัดนี้ประชากรทั้งหมดรวมตัวกันอยู่บริเวณหลังเมือง ตรงจุดนี้เป็นพื้นที่ใช้สอยสำหรับส่วนรวมซึ่งตามปกติแล้วจะเป็นที่ที่ผู้เฒ่าผู้แก่มักจะจับกลุ่มนั่งพูดคุยเล่นหมากล้อมคลายเบื่อและเป็นบริเวณวิ่งเล่นของเด็กตัวน้อยตามประสา ทว่าต่อแต่นี้ไปบริเวณนี้จะมิใช่สถานที่ครื้นเครงอีกแล้วเพราะหลินหยางได้ใช้พื้นที่ตรงนี้เป็น….สุสาน

 

 

ป้ายขนาดใหญ่ทำจากไม้แกะสลักนามของผู้กล้าหาญที่เสียสละตนเองถูกปักลงบนหน้าหลุมศพ มนุษย์หมาป่าสามและมนุษย์หนึ่ง

 

บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเหล่าพลเมืองยืนสงบนิ่งไว้อาลัยหวนนึกถึงคุณงามความดีและความสัมพันธุ์ที่เคยมีร่วมกัน

 

หลังจากจัดแจงเรื่องสำคัญเสร็จสรรพแล้วก็มาถึงอีกเรื่องที่มันจำต้องป่าวประกาศให้ทุกผู้คนได้ทราบโดยทั่วกัน

 

“พวกเรา…ยึดโพรงกระรอกสำเร็จแล้ว!!!” หลินหยางตะโกน

 

“ถ้าอย่างงั้นพวกเราก็ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารอีกแล้วใช่ไหม!”

“เย้!!”

“อาเฉิน ดูสิการเสียสละของเจ้ามิได้สูญเปล่า” เหล่าพลเมืองต่างโห่ร้อง บางคนร่ำไห่กล่าวกับหลุมศพปลอบประโลมจิตใจตนเอง

เทพอสูรสยบโลกา

เทพอสูรสยบโลกา

Score 7.1
Status: Ongoing Released: N/A Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง เทพอสูรสยบโลกาประเทศจีน ปี ค.ศ. 2025 จู่ๆ เกิดแผ่นดินไหวขึ้นทั่วโลก และ มี”ประตู” ประหลาดเกิดขึ้นทั่วทุกเมืองใหญ่ทั่วโลก พร้อมกับเสียงปริศนา “มนุษย์เอ๋ย พวกเจ้าอยากเปลี่ยนแปลงโชคชะตาหรือไม่ อำนาจ เงินทอง วาสนา ความมั่งคั่ง หากอยากเปลี่ยนแปลง เชิญเข้ามาที่ประตูนี้ จักต้อนรับพวกเจ้า” เรื่องราวแห่งตำนานกำลังจะเริ่มขึ้น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset