เทพเจ้าล่าสังหาร – บทที่ 11 ตอบโต้กลับ

บทที่ 11 ตอบโต้กลับ

 

กลุ่มคนเริ่มรวมตัวกันในป่าทมิฬที่เต็มไปด้วยต้นไม้และพืชทุกชนิด นักรบจากตระกูลโม่ได้แบ่งออกเป็นกลุ่มและออกค้นหาฉี่หยานไปตามแต่ละพื้นที่ พวกมันทั้งหมดล้วนมีสีหน้าที่หดหู่

ใบหน้าของโม่หยานหยูดูเย็นชาเช่นเคย เธอออกคำสั่งด้วยเสียงแหลม ” ออกไปหามัน ! เด๋วนี้ ! เมื่อพวกเจ้าพบร่องรอยของมัน จงจุดระเบิดควันสีฟ้าส๊ะ อย่าได้ไปสู้กับมันเด็ดขาด ! “

” นี่ก็ผ่านมา 3 วันแล้ว แต่เราก็ยังคงหามันไม่พบ แต่ถึงอย่างไรเรายังพอพบร่องรอยของมันบ้าง แต่ร่องรอยนั้นมันดูคลุมเครือเกินไป หรือมันตั้งใจจะล้อเล่นกับเรา ? ” อาจารย์การูพูดด้วยใบหน้าบูดเบี้ยว เห็นได้ชัดว่ามันกำลังหงุดหงิดเพราะแผนของฉี่หยาน

หลายวันที่ผ่านมา กลุ่มคนทั้งหมดได้ออกตามหาฉี่หยานในป่าทมิฬ บางครั้งพวกมันก็พบรอยเท้าและกิ่งไม้ที่หักบนเส้นทางที่พวกมันผ่าน ดูเหมือนเขาจะพึ่งผ่านตรงนี้ไปไม่นาน แต่ไม่ว่าพวกมันจะหาอย่างยากลำบากเพียงใดพวกมันกลับไม่พบอะไรเลย ไม่มีแม้แต่เบาะแสเล็กๆน้อยๆของฉี่หยาน

” ค้นหาให้กว้างขึ้น ! ” โม่หยานหยูโกรธ และเธอก็ตะโกนสั่งอีกครั้ง ” เริ่มต้นจากตรงนี้และแยกกันออกไปค้นหา ! ทำให้ดีที่สุด เมื่อพวกเจ้าพบมัน ก็จุดระเบิดควันสีฟ้าสะ ข้าจะไปที่นั่นทันที ! “

นักรบของตระกูลโม่ทุกคนปฏิบัติตามอย่างเชื่อฟัง

” มันดีแล้วงั้นรึที่จะทิ้งมังกรดินให้อยู่ตัวเดียว ? ” อาจารย์การู ขมวดคิ้ว และกล่าวอย่างเป็นห่วง ” ขวดยาทั้งหมดของข้าอยู่กับมังกรดิน หากเจ้าเด็กนั้นไปพบกับมันเข้าและยุ่งกับยาของข้า มันอาจจะเกิดปัญหามากกว่าที่ข้าจะจัดการได้ “

” อาจารย์การู อย่าได้กังวลไป มังกรดินถูกปกป้องโดยจอห์นสันและนักรบคนอื่นๆอีก7คน จอห์นสันนั้นอยู่ในนภาที่ 3 ของระดับเริ่มต้น เจ้านั่นไม่ใช่คู่มือของเขาหลอก ” โม่หยานหยูพูดด้วยสีหน้าภูมิใจ

อาจารย์ การู พยักหน้าอย่างยอมรับ

นักรบของตระกูลโม่ได้แยกย้ายกันออกไป และ สมาชิกคนอื่นๆแต่ละคนนั้นก็กระจ่ายห่างกันไปรอบๆ พร้อมกับถือระเบิดควันสีฟ้าในมือ พวกนักรบนั้นไม่ได้รู้สึกกดดันเลย เพียงแค่ทันทีที่เห็นร่องรอยของฉี่หยาน ทั้งหมดที่พวกมันต้องทำก็คือจุดระเบิดควันสีฟ้าเท่านั้น นั่นมันง่ายยิ่งนัก !

หนึ่งในนักรบกำลังเดินอยู่ในที่ร่ม , พลางตะโดนด่าฉี่หยานในเวลาเดียวกันด้วยความโกรธ มันเงยหน้าขึ้นมองที่กิ่งไม้เหนือหัวของมัน และจากนั้น มันก็ตรวจสอบพุ่มไม้ที่อยู่รอบๆข้อเท้าของมัน

พวกมันนั้นได้ค้นหาบริเวณนี้มา 3 วันแล้ว สำหรับสมาชิกนักรบรุ่นใหม่ พวกมันนั้นแทบจะไม่มีใครบรรลุพลังในระดับเริ่มต้นเลย ! พวกมันทุกคนนั้นล้วนไม่พบร่องรอยของเขา พวกมันไม่แม้แต่จะเชื่อว่าเขาอยู่ในบริเวณนี้ พวกมันเพียงแต่คิดว่าฉี่หยานได้หนีออกไปแล้ว ดังนั้น นักรบเหล่านี้จึงค่อนข้างที่จะหงุดหงิดเมื่อพวกเขาถูกสั่งให้มาค้นหาบริเวณนี้อีกครั้ง มันได้แต่บ่นกันอย่างลับๆ และพวกมันก็คิดว่านี่เป็นการเสียเวลาอย่างมากเช่นนั้น พวกมันจึงทำอย่างไม่ตั้งใจ !

นักรบคนหนึ่งได้เดินมาถึงใต้ต้นไม้ที่ดูเก่าแก่ มีกิ่งและใบไม้ทั้งหมดเป็นร่มเงา ในตอนนั้น เมื่อมันเงยหน้าขึ้นมอง ความรู้สึกทั้งหมดของเขากลายเป็นเย็นยะเยี่ยบ มันรู้สึกได้ถึงความเย็นชาและชั่วร้าย ที่ทาโทมเข้ามาที่มัน ในทันที ฉี่หยานกระโดดลงจากต้นไม้เหมือนหมาป่าที่ดุร้าย กระแทกลงมาที่ใบหน้าของนักรบด้วยเข่าของเขา

” บูม ! “

ด้วยแรงกระแทกที่รุนแรง ใบหน้าของนักรบถูกโฉลมไปด้วยเลือดสดๆทันที มันล้มลงบนพื้น ดวงตาของมันเต็มไปด้วยเลือดและน้ำตา จากนั้นไม่นาน มันก็มองไม่เห็นอะไรอีกเลย

ทั้งหมดที่มันทำได้ก็คือแทงกริชของมันไปมาอย่างบ้าคลั่ง พลันตะโกน ” อยู่นี่ ! มันอยู่ที่นี่ ! “

ก่อนที่มันจะได้ปล่อยระเบิดควันสีฟ้าที่อยู่ในมือซ้าย อาการปวดที่รุงแรงก็ได้แพร่กระจายไปทั่วมือซ้ายของมัน มันไม่แม้แต่จะสามารถยืนขึ้นได้และระเบิดควันสีฟ้าก็ถูกแย่งไปโดยฉี่หยาน

” บูม ! บูม ! บูม ! “

ฉี่หยานวางระเบิดในมือไปไว้บนหน้าของมัน ด้วยใบหน้าที่ชั่วร้ายของเขา ก่อนที่เขาจะรู้ตัว ดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม และดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วไปรอบๆนักรบ เขาหลบอยู่ห่างออกไปและจากนั้นก็พุ่งมากระแทกที่ใบหน้าของมัน อย่างไร้ความเมตตา

ด้วยพลังปราณลึกลับไหลที่ผ่านขาทั้งสองข้างของเขา ทุกการโจมตีของฉี่หยานทรงพลังและแข็งเหมือนฆ้อนเหล็ก ภายใต้การโจมตีที่รุนแรงเขา เขาโจมตีไปที่นักรบเพียงห้าครั้ง นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะดับลมหายใจของมัน

จากนั้น ฉี่หยานเดินไปทางนักรบที่ตกตายไป แล้วคว้ามีดจากมือของนักรบและแทงไปที่คอของมัน เขาแทงมันออกไปด้วยความแม่นยำและโหดเหี้ยม หน้าของฉี่หยานยังคงสงบและเยือกเย็นตลอดเวลา

ทันใดนั้น คลื่นพลังรุนแรงที่มองไม่เห็นทะลักออกจากร่างกายของนักรบ มันได้ผสมเข้ากับความรู้สึกทุกข์ทรมานของนักรบ ทั้งความโกรธและความหวาดกลัวมันไหลออกมาในทันที พลังงานเหล่านั้นถูกดูดซับโดยฉี่หยานอย่างรวดเร็วและ มันได้ไหลที่เส้นชีพจรภายในของเขาในไม่กี่วินาที นักรบได้สูญเสียพลังปราณลึกลับของมันทั้งหมดทันทีและร่างของมันก็กลายเป็นเหมือนซากของมัมมี่

 

ฉี่หยานเดินเข้าไปที่ศพของมัน และค้นกระเป๋าของมันพลางขมวดคิ้ว เขาพบเพียงกล่องอาหารและเหรียญคริสตัลสีม่วงไม่กี่โหล ฉี่หยานหยิบเอาสิ่งของพวกนั้นมา และรีบออกจากที่เกิดเหตุทันที เขาไม่ต้องการที่จะหยุดอยู่ที่ใดที่หนึ่งเป็นเวลานาน เขาวิ่งผ่านป่าทมิฬอย่างรวดเร็วเหมือนสุนัขจิ้งจอก และไม่นาน เขาก็ได้หายเข้าไปในหมู่แมกไม้ทันที

นี้เป็นครั้งแรกที่เขาได้ฆ่าคน อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้รู้สึกกังวลหรือกลัวเลย . เขายังคงสงบ และมุ่งไปข้างหน้าอย่างเยือกเย็นตลอดเวลา เมื่อตอนที่เขาพุ่งกระแทกเข่าลงไปที่ใบหน้าของนักรบ เขาไม่ได้รู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำ กลับกันเขากลับรู้สึกตื่นเต้นและพึงพอใจเป็นอย่างมาก ซึ่งเขาเองก็ไม่สามารถอธิบายมันออกได้ เขารู้สึกเป็นอิสระ เขารู้สึกเหมือนกับว่า เขาเกิดมาเพื่อเป็นนักรบโดยสัญชาตญาณ และเขาเกิดมาเพื่อฆ่าฟัน

การฆ่าสังหารทำให้เขารู้สึกเพลิดเพลินเป็นอย่างยิ่ง มันเป็นช่วงเวลาที่วิเศษที่สุด เท่าที่เขาเคยเจอมา ทุกความรู้สึกผิดที่คอยหลอกหลอนเขาอยู่ ทั้งหมดมันพลันหายไป ในขณะที่เขาแทงไปที่คอของนักรบ

ลึกๆแล้ว ฉี่หยานรู้่ดีว่ามันไม่ถูกต้อง และมันต้องมีอะไรผิดปกติกับร่างกายของเขาเป็แน่ เพราะไม่มีทางที่คนปกติจะใจเย็นและตั้งสติได้เพียงนี้ เมื่อตอนที่พวกเขาได้ฆ่าคนครั้งแรก เขานั้นต่างออกจากคนปกติพวกนั้น คนปกติพวกนนั้นจะไม่รู้สึกตื่นเต้นหรือมีความสุขเมื่อได้ฆ่าคนครั้งแรก อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังเสพติดการฆ่าฟัน เขาหวังเพียงได้ฆ่าเท่านั้น

ในขณะที่พลังปราณลึกลับจากร่างกายของนักรบไหลเข้าไปในเส้นชีพจรของฉี่หยาน อีกครั้งที่เขารู้สึกแข็งแกร่งขึ้น ความปรารถนาในการฆ่าฟันถูกระตุ้นขึ้นมาในร่างของเขา ไม่นานนัก , พลังงานแปลกๆก็ไหลเข้ามาในพลังปราณลึกลับของเขา มันทำให้แข็งแกร่งขึ้น และ เข้มข้นขึ้นมากกว่าเดิม

นี่มัน…ช่างรู้สึกดียิ่งนัก !

เป็นเวลา 5 วัน ฉี่หยานเหมือนวิญญานที่อยู่ในป่าทมิฬ เขาฆ่าทุกคนที่พบเจอ เขานั้นได้ลงมืออย่างแม่นยำและเด็ดขาด เขาจะลอบฆ่าพวกมันโดยทันที ก่อนที่นักรบเหล่านั้นจะได้มีโอกาสปล่อยระเบิดควันสีฟ้าในมือของพวกมัน

ผ่านมาอีกไม่กี่วัน ก็มีนักรบอีก 3 คนกลายเป็นเหยื่อของฉี่หยาน ทุกครั้ง เมื่อร่างของพวกมันถูกเจอ พวกมันก็จะกลายเป็นซากมัมมี่ทันที

โม่หยานหยูรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก นางพยายามหาไปรอบๆป่าทมิฬครั้งแล้วครั้งเล่ากับอาจารย์การู นางก็ไม่สามารถหาฉี่หยานเจอได้ นางหมดหวังที่จะขุดให้ฉี่หยานโผล่ออกมา พวกเขาทั้งสองเริ่มที่จะรู้สึกได้ถึงวิกฤติจากบนขอบฟ้าที่อยู่ไกลออกไป

สำหรับเหยื่อรายแรก หน้าของมันถูกทำลาย ศีรษะของมันถูกระเบิดอย่างโหดเหี้ยม และยังคงมีร่องรอยของการต่อสู้

สำหรับเหยื่อรายที่สองและสาม ทั้งสองนั้นถูกลอบโจมตีจากด้านหลัง ถูกแทงไปที่หัวใจและหน้าท้องของพวกมันหลายต่อหลายครั้ง เป็นร่องรอยของการต่อสู้ ในช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับนักรบคนสุดท้ายที่ตกเป็นเหยื่อ มันถูกแทงไปที่ลำคอและตกตายในทันที และไม่มีร่องรอยของการต่อสู้เลย

ดูจากศพของนักรบทั้ง 4 ที่ตกเป็นเหยื่อของฉี่หยาน ทักษะในการลอบฆ่าของเขาค่อยๆพัฒนาเพิ่มมากขึ้น ป่าทมิฬนี้ได้กลายเป็นเวทีที่สมบูรณ์แบบเพื่อให้เขาได้แสดงความสามารถในการฆ่าของเขา เขาใช้ความเชี่ยวชาญในด้านภูมิทัศน์เพื่อปกปิดร่องรอยของเขา เหมือนนักฆ่ามืออาชีพ เขาแอบซ่อนตัวอยู่ในป่า เฝ้ามอง และรอเหยื่อคนต่อไป

การตายของนักรบทั้ง 4 คน ทำให้นักรบคนอื่น ๆตื่นกลัวเป็นอย่างมาก โม่หยานหยูและอาจารย์การู ก็เริ่มจริงจังขึ้นมา และได้ออกคำสั่งใหม่กับพวกมัน นักรบจะไม่ได้รับอนุญาติให้ไปเพียงลำพัง พวกมันได้รับคำสั่งให้ไปด้วยกันเป็นกลุ่ม กลุ่มละ2 คน ด้วยวิธีนี้ ถ้าหนึ่งในพวกมันถูกจู่โจม , อีกคนที่เหลือก็สามารถช่วยเหลือได้

คำสั่งนี้มีไว้เพื่อหลีกเลี่ยงโศกนาฏกรรมที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้

ในป่าทมิฬ , ด้านบนของต้นไม้เก่าแก่ ที่ถูกปกคลุมไปด้วยใบไม้ ฉี่หยานนั่งขัดสมาธิอยู่ในความเงียบสงบ มองไปที่กลุ่มมนุษย์รูปร่างเล็กๆ ที่อยู่ไกลออกไปผ่านใบไม้

” หือ, ก็ไม่โง่ได้นินา . . . . . . . ” ฉี่หยานสูดลมหายใจเข้า เขารู้ว่ามันคงไม่ง่ายสำหรับเขาที่จะจู่โจมและสังหารพวกมันในตอนนี้

ฉี่หยาน ไม่ได้ พุ่งเข้าไปโจมตีทันที เขามองดูเหล่านักรบอยู่สักพัก และสังเกตเห็นว่าหลังจากการตายของนักรบทั้ง 4 คนก่อนหน้านี้ , นับรบตระกูลโม่เริ่มที่จะอยู่กันเป็นกลุ่มละ 2 คน ดังนั้นพวกมันจึงไม่สามารถออกค้นหาไปในบริเวณกว้างได้เช่นเดิม ตอนนี้ พวกมันไม่ได้มาในทิศทางของเขา แต่อยู่ห่างออกไปจากฉี่หยาน

หลังจากที่แน่ใจแล้วว่านักรบไม่ได้ออกค้นหามาทางเขา ในตอนนั้น , ฉี่หยานก็หลับตาลงอย่างเงียบๆ และเริ่มโคจร พลังปราณลึกลับภายในร่างกายของเขา พลังปราณลึกลับของคนที่ถูกฆ่าตายด้วยฝีมือฉี่หยานในไม่กี่วันมานี้ ทั้งหมดถูกดูดซับโดยเส้นชีพจรของฉี่หยานไม่นานหลังจากที่พวกมันตาย มันได้กลั่นพลังในเส้นชีพจรของเขา และได้เสริมสร้างความแข็งแกร่งของพลังปราณลึกลับของเขาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

ฉี่หยานโคจรพลังปราณลึกลับภายในร่างกายได้เร็วขึ้นและเร็วขึ้นด้วยความคิดของเขา เขารู้สึกถึงมันได้อย่างชัดเจนว่าพลังปราณลึกลับของเขาแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม มันไหลผ่านเส้นชีพจรของเขาเหมือนคลื่นกระแสไฟฟ้าที่รุนแรงไปทั่วร่างกายของเขา จากท้องของเขาและไปถึงแขนขวา ฉี่หยานกลั้นหายใจและทำจิตใจให้สงบและมุ่งทุกความสนใจของเขาไปในการโคจรพลังปราณลึกลับเข้าไปในแขนข้างขวาของเขา ในตอนนั้น ! เขาปลดปล่อยพลังงานทั้งหมดออกมาในครั้งเดียว !

พลังปราณลึกลับภายในแขนขวาของเขาไหลอย่างรวดเร็วไปยังนิ้วชี้มือขวาเหมือนม้าพยศ

” ออกไป ! ! ! “

แสงควันสีเงินก็พุ่งออกมาจากนิ้วชี้ข้างขวาของเขาทันที มันส่งเสียงแปลกๆขึ้นในอากาศ แสงควันสีเงินนั้นไม่ได้รวมตัวกันอยู่ในอากาศ และไม่กี่นาทีต่อมามันก็จางหายไป

ฉี่หยานลืมตาขึ้น ด้วยประกายแสงดุจดวงดาวที่ส่องแสงสดใสในแววตาสีดำของเขา รอยยิ้มประหลาดปรากฏขึ้นที่ใบหน้าของเขา

เขาประสบความสำเร็จในการควบคุมพลังปราณลึกลับให้พุ่งออกจากร่างกายของเขา

นี้ย่อมหมายความว่า เขาได้ทะลวงเข้าสู่นภาที่สามของระดับเริ่มต้นแล้ว หลังจากฝึกซ้อมอย่างอย่างหนักในสองสามวันที่ผ่านมา เขาก็สามารถทะลวงถึงระดับใหม่ด้วยความช่วยเหลือของเส้นชีพจรที่แปลกประหลาดของของเขา

แม้ว่าพลังปราณลึกลับที่ถูกบังคับให้พุ่งออกไปจากร่างกายของเขาไม่ได้ความเข้มข้นมากนัก และไม่สามารถสร้างเป็นลำแสงที่แหลมคมพุ่งออกไปได้ แต่เขาก็สามารถถ่ายเทพลังปราณลึกลับของเขาลงไปในอาวุธทุกชนิดได้ นั่นสามารถช่วยเหลือการลอบสังหารของเขาได้และเขาก็ยังสามารถทำให้อวัยวะภายในของศัตรูแตกสลายได้ด้วยการยิงพลังปราณลึกลับออกไปในระยะประชิด ซึ่งนั่นหมายความว่า เขานั้นได้ถึงขั้นที่สามารถควบคุมและใช้งานพลังปราณลึกลับได้ดั่งใจแล้ว

––––––––––––––––––––––––

ปล. ตอนนี้แปลดีมาก 5555 ชมตัวเอง ลงอีกทีวันพรุ้งนี้ครับเป็นโบนัสวันอาทิตย์

ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่ กดตรงนี้ >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร
Status: Ongoing
อ่านนิยาย เทพเจ้าล่าสังหาร ฉื่อหยาน เป็นเด็กหนุ่มชื่นชอบกีฬาผาดโผน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการผจญภัยในหลุมฟ้าบาฮามาส ฉื่อหยานบังเอิญเดินทางผ่านเวลาและพื้นที่ จนไปกลายเป็นนายน้อยของตระกูลที่มีชื่อเสียง มีชื่อว่า ฉื่อหยาน ตอนนั้นเองคุณชายน้อยฉื่อหยานได้เสียชีวิตลลงที่ข้างบ่อเลือดพอดี และในระหว่างการผจญภัยสุดยอดกีฬาผาดโผน วิญญาณของเขาได้ถูกโอนเข้ามาของร่ายกายนายน้อย ฉื่อหยาน และได้รับแหวนวิเศษที่ถูกเรียกว่า ' แหวนสายโลหิต ' แหวนที่มีพลังลึกลับซึ่งทำให้ฉื่อหยาน เป็นนักฆ่า ความต้องการฆ่าของเขานั้นไร้สิ้นสุด ทุกอย่างทำเพื่อเพิ่มพลังอำนาจของเขาอย่างรวดเร็ว แต่ทุกครั้งหลังการฆ่า ความต้องการทางเพศก็จะตามมา . . . . . . .

Comment

Options

not work with dark mode
Reset