บทที่ 206 ข้าขอเดิมพัน !
” ตุง ตุง ตุง ตุง “
ก้อนเหล็กทั้งสี่ก้อนกลิ้งไปมารอบๆสระเหมือนกับรถถัง บนพื้นดินก้อนหินที่แข็งแกร่ง ถูกบดระเอียดตามเส้นทางที่ก้อนหลังทั้งสี่กลิ้งผ่าน
ด้วยน้ำหนัก 2000กิโล ที่บนบนแขนและข้อเท้า ร่างของฉื่อหยานก็หดตัวลงเล็กน้อยพร้อมกับระเบิดพลังที่รุนแรงออกมา
บ้าคลั่งในนภาแรก !
ภายในเส้นชีพจรของเขา พลังงานเชิงลบก็เดือดระอุและแขนขาของเขาก็ถูกอัดแน่นไปด้วยพลังงานเชิงลบทันที
น้ำหนัก 2000 กิโล นั้นหนักอึ้งเป็นอย่างมาก เขาลากมันโดยใช้พลังทั้งหมดของเขา ถึงแม้จะหนักแต่มันก็ไม่สามารถหยุดเขาได้เลย
ด้วยร่างกายที่แข็งแรงของเขา เขากำลังวิ่งไปรอบๆบ่อ , พร้อมกับเกิดเสียงดังไปทั่ว
แม้ว่าเขาเป็นเพียงนักรบในนภาที่สองของระดับหายนะ แต่ร่างกายของเขานั้นแข็งแแกร่งเป็นอย่างมาก . ด้วยร่างกายของเขาที่ถูกปรับแต่งด้วยเปลวไฟทำให้มันปรับตัวอีกครั้ง ดังนั้นร่างกายของเขาจึงสามารถปรับให้เข้ากับพลังทุกชนิดได้ง่ายขึ้นและเขาก็สามารถใช้พลังของเขาได้ดีมากขึ้น
ตอนนี้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งเป็นอย่างมากด้วยบ้าคลั่งในนภาแรก ; ดังนั้น พลังในร่างของฉื่อหยานตอนนี้เทียบเท่าได้กับนักรบในระดับปฐพี
ข้างๆบ่อน้ำ หยางหลาว หยางมู่ และ หยางเหมินทุกคนต่างก็ประหลาดใจ พวกเขาจ้องมองไปที่ฉื่อหยานที่กำลังพยายามวิ่งด้วยพลังทั้งหมด
ด้วยพลังที่แข็งแกร่งขึ้นในร่างของฉื่อหยานเห็นได้ชัดว่ามันอยู่นอกเหนือความคาดหมานของพวกเขา พวกเขาทั้งสามต่างก็เต็มไปด้วยความสงสัยและตกตะลึง
ที่นี่เสียงดังเป็นอย่างมาก นักรบของตระกูลหยางที่อยู่ในพื้นที่อื่นมากมายต่างก็ได้ยินเสียง ขณะเดียวกันพวกเขาก็มองดูพลังของฉื่อหยานด้วยความประทับใจ
ฉื่อหยานมีสีหน้าจริงจัง กล้ามที่เนื้อแข็งแรงของเขาดูเหมือนจะเต็มไปด้วยด้วยพลังไม่มีที่สิ้นสุด ทุกครั้งที่เขาวิ่งเขาจะรู้สึกเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก
หลังจากออกมาจากภูเขาไฟหมื่นปี นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ระเบิดพลังของเขาออกมาอย่างเต็มที่ ในขณะที่เขาวิ่งอยู่ เขารู้สึกได้ว่าทุกๆเซลล์ในร่างของเขาเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา
นี้เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในร่างกายของเขา !
ตอนนี้เขาก็ได้เห็นประโยชน์ของการฝึกฝนอย่างทรมานและแสนยาวนานอย่างชัดเจน
หลังจากที่ร่างของเขาถูกปรับแต่งให้บริสุทธิ์ , ซี่โครงและกระดูกของเขาก็กลายเป็นแข็งแกร่งมากขึ้น แขนขาของเขาคล่องตัวมากขึ้นและพลังปราณลึกลับของเขาก็โคจรอย่างรวดเร็วเหมือนกับสายน้ำ
ตอนนี้่เข้าเชื่อเปลวเหมันเยือกแข็งแล้วอย่างแท้จริง !
นักรบในยุคโบราณนั้นเน้นไปที่การฝึกฝนร่างกายของพวกเขามากกว่าการฝึกบ่มเพาะของนักรบยุคปัจจุบัน เพื่อให้ร่างกายมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งเพื่อรองรับวิชาต่างๆ ดังนั้นพวกเขาจึงใช้เวลาส่วนมากเพื่อฝึกฝนร่างกายมากกว่าฝึกฝนพลังปราณลึกลับ
เมื่อร่างกายของเขาอยู่ในจุดๆหนึ่ง มันส่งปลดปล่อยพลังที่แข็งแกร่งออกมาขณะที่ต่อสู้
ในนักรบที่มีระดับเดียวกัน ผู้ที่มีร่างกายที่แข็งแกร่งนั้นสามารถเอาชนะผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอกว่าได้อย่างง่ายดาย
เมื่อรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของเขา ฉื่อหยาน ก็ดีใจเป็นอย่างมากและเขาก็ได้รู้แล้วว่าร่างกายที่แข็งแกร่งจะเป็นกุญแจสำคัญในการฝึกฝนวิชา
” ปัง ปัง ปัง ! “
เหมือนกับม้าศึก ฉื่อหยานก็โผไปข้างหน้าและทำให้บ่อน้ำเกิดการสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ , ในขณะเดียวกันก้อนกรวดก็กระเด็นกระจายไปทั่วอากาศ
เขาจมอยู่กับความสุขภายในจิตใจและลืมไปแล้วว่าเขากำลังอยู่ในการทดสอบของหยางหลาว เขาเพียงแค่ต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงร่างกายของเขาและทำเพื่อตัวเองเท่านั้น
” หยุด ! ! ! ! ! “
หยางหลาว ก็ตะโกนขึ้นมา
ฉื่อหยานก็ได้สติขึ้นมาทันที และมองไปที่หยางหลาว อย่างเรียบเฉย แต่กล้ามเนื้อของเขานั้นยังคงสั่นสะท้านอยู่
หยางหลาวดวงตาก็ส่องประกายออกมา และเขาก็พยักหน้าช้าๆ ด้วยรอยยิ้มประหลาด ” ห้านาที ! วิ่งได้เจ็ดรอบ ! เจ้ามันบ้าไปแล้ว ! “
” ฮ่า ฮ่า ข้าคิดไว้แล้วว่าเขาต้องพิเศษ ! ” หยางมู่ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาะ ” ไม่อย่างนั้น ท่านปู่ใหญ่จะเสียสละหยดเลือดอมตะทั้งสามเพื่อตามหาเขางั้นรึ”
หยางเหมินดวงตาโตที่น่ารักของนางก็เบิกกว้าง และนางก็พูดออกมา หึ ! สับประหลาด ! ทำไมถึงได้มีสับประหลาดในตระกูลหยางมากมายเช่นนี้นะ ! “
ฉื่อหยาน ก็แปลกใจ
หยางหลาวก็ยิ้มออกมาพร้อมกับมองไปที่นักรบรอบๆและ เขาก็ประกาศว่า ” นี่คือทายาทคนใหม่ของตระกูลหยาง เขาเป็นบุตรของน้องสาม หยางเสี่ยว….. ฉื่อหยาน ! “
” นายน้อยหยาน ! “
” นายน้อยหยาน ! “
” นายน้อยหยาน ! “
เหล่านักรบที่แข็งแกร่งของตระกูลหยางก็เริ่มตะโกนออกมาอย่างแข็งขัน
คนเหล่านี้ต่างก็มีระดับการบ่มเพาะที่สูง และเป็นที่รู้จักกันดีในทะเลไม่มีที่สิ้นสุด พวกเขาไม่เพียงแต่รับใช้ตระกูลหยางมาอย่างยาวนานเท่านั้น แต่ทุกยุคทุกสมัยพวกเขาต่างก็นับเป็นบุคคลที่มีความสามารถ
นักรบที่แข็งแกร่งเหล่านี้รับใช้ตระกูลหยางก็เพราะอำนาจที่ยิ่งใหญ่
พวกเขามองดูสักพัก และยอมรับฉื่อหยาน เพราะว่าด้วยนภาที่สองของระดับหายนะเขากลับสามารถวิ่งรอบบ่อได้เจ็ดรอบในเวลาห้านาที ขณะที่ลากก้อนเหล็กที่มีน้ำหนัก 2000 กิโล
นั่นเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ !
ฉื่อหยานยิ้ม เขานั้นยังไม่ได้เรียกใช้บ้าคลั่งในนภาที่สองเลย เขาคิดว่า ถ้าเขาใช้บ้าคลั่งในนภาที่สอง และพลังของเขาเพิ่มขึ้นมาอีกสองเท่า อย่างน้อยเขาก็คงวิ่งรอบบ่อได้อย่างต่ำสิบรอบ
” เด็กน้อยเจ้าชนะ เอาเม็ดยาบำรุงทั้งสามไป” หยางหลาวส่ายหัวยิ้มๆ ” เด็กน้อย ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะได้รับรางวัลจากข้าเร็วขนาดนี้ หึ ข้านั้นไม่ใช่คนใจดี ระวังตัวให้ดี ข้าจะฝึกเจ้าให้หนักเลยในภายหลัง”
ฉื่อหยานก็ยิ้ม แล้วหยิบเอาเม็ดยาทั้งสามมาจากนั้นเขาก็สแยะยิ้ม ” ข้าไม่กลัวอยู่แล้ว . “
” ด้วยสายเลือดตระกูลหยางแล่นอยู่ทั่วร่างของเจ้า แปลว่าเจ้าเองก็คงมีบางสิ่งแน่นอน ” หยางหลาวกล่าวชมด้วยรอยยิ้มแล้วหันไปมองด้านหลัง ” ตอนนี้พวกเจ้าไปสะ ! ไม่มีอะไรจะทำกันแล้วรึ ? “
บรรดานักรบที่ดูอยู่ก่อนหน้านี้ทันทีก็รีบจากไป
หลังจากที่คนเหล่านั้นจากไป หยางหลาว ก็ขมวดคิ้ว และดูเหมือนกังวลเล็กน้อย ” เซี่ยเสินชวน ยังอยู่ที่ตระกูลของเรา เขาจะหยุดฝึกฝนทั้งทีเมื่อเจ้ากลับไป เขาจะไล่ตามเจ้าทันทีแน่นอนหากรู้ว่าเจ้าอยู่ที่นี่”
หลังจากหยุดสักพักหยางหลาว ก็จ้องหน้าฉื่อหยานอย่างลึกซึ้ง ” เด็กน้อย , ขอถามด้วยความสัตย์จริง , จริงๆแล้วเจ้าสามารถรักษาเซี่ยซินหยานได้หรือไม่ ? ไม่ต้องกลัว และไม่ต้องกังวลไป ถึงแม้เจ้าจะทำไม่ได้ เซี่ยเสินชวนก็ทำอะไรเจ้าไม่ได้อยู่ดี “
” ไม่มีปัญหา . ” ฉื่อหยานคิดและตอบกลับด้วยสีหน้าจริงจัง
” ไม่มีปัญหา ? ” หยางหลาว ไม่เชื่อหูตัวเอง ” เจ้าแน่ใจงั้นรึ ? เจ้าเองก็รู้ว่า ก่อนหน้านี้ก็มีคนที่เป็นเช่นเดียวกับเซี่ยซินหยาน . ขนาดขุมพลังทั้งสามในทะเลเคียร่าร่วมมือกันเพื่อช่วยเขา แต่ก็ยังทำไม่สำเร็จ ท่านปู่ใหญ่ของเจ้าบอกว่า จนกว่าจะมีคนที่มีสมบัติที่เกี่ยวข้องกับวิญญานที่สามารถรักษานางได้ ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย “
ฉื่อหยานตะลึงในขณะเดียวกันเขาก็ตระหนักได้ว่า หยางชิงตี้ นั้นรู้อยู่แล้วว่าเขามีไข่มุกรวมวิญญาน
” ข้ามั่นใจ ” ฉื่อหยานพยักหน้าและกล่าวว่า ” ข้าให้สัญญาได้เลยว่าข้าสามารถรักษานางได้ ที่นางเป็นเช่นนั้นก็เพราะช่วยข้า แน่นอนไม่ว่ายังไง ข้าก็ต้องรักษานางให้ได้ ! “
หยางหลาวมองไปที่ฉื่อหยาน สักพักเมื่อเขาเห็นว่าฉื่อหยานดูมั่นใจเป็นอย่างมากเขาก็พยักหน้า ” ดี ! ข้าจะส่งคนไปเรียกเซี่ยเสินชวนมา ”
ในไม่ช้า หยางหลาวก็ออกคำสั่งเสียงดังออกไป และก็เป็นนักรบคนหนึ่งที่มุ่งออกไปจากภูเขาลูกใหญ่นี้อย่างรวดเร็ว
” เจ้าจะให้ข้าช่วยอะไรหรือไม่ ? ” หยางหลาวถามออกมา ” ตระกูลหยางมีวัสดุหายากและยาวิเศษมากมาย แค่บอกชื่อมันมา ถ้าเราไม่มีมัน เราก็จะไปหามาให้เจ้า ท่านปู่ใหญ่ของเจ้า บอกเราว่า เราจะต้องทำทุกอย่างเพื่อช่วยเจ้า”
ฉื่อหยานส่ายหน้าด้วยรอยยิ้ม ” แค่ห้องลับเงียบๆก็พอ “
หยางหลาว ตะลึง หลังจากคิดสักพัก เค้าก็หันไปบอกหยางมู่ ” ไปที่ภูเขาหมายเลขหนึ่ง และหาห้องผลึกที่ดีที่สุด . “
” ขอรับ ” หยางมู่ พุ่ง ออกไปทันที
” ท่านปู่ใหญ่ของเจ้าตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่ตระกูล และท่านก็ได้นำบัญญัติโลหิตไปด้วย หลังจากที่ท่านกลับมา เจ้าจะต้องหยดเลือดหนึ่งหยดลงบนบัญญิโลหิต และจากนั้น เจ้าถึงจะไปที่ตระกูลได้ ในขณะเดียวกันเจ้าก็จะได้เคล็ดอมตะจากบัญญัติโลหิต ” หยางหลาวหยุดสักพักและพูดต่อ ” อย่างแรก เราควรรักษาเซี่ยซินหยานให้ได้เสียก่อน “
” ขอรับ ข้าเข้าใจแล้ว ” .
” หยางหลาว ! ” ไม่นาน จากภูเขาที่อยู่ใกล้เคียง เส้นแสงก็พุ่งเข้ามา ” ผมได้ยินว่าเจ้าเด็กฉื่อหยานกลับมาแล้ว ใช่หรือไม่ ? ” เซี่ยเสินชวน ตะโกนออกมาด้วยความโกรธพร้อมกับเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
ชายชราสูง ผอม เคราสีขาวพร้อมกับสวมหมวกขนนกก็ยืนอยู่ที่ด้านหน้าของฉื่อหยาน และเขาก็จ้องไปที่ฉื่อหยานด้วยดวงตาที่ลุกโชน ” เจ้าคือฉื่อหยานรึ ? “
ฉื่อหยานพยักหน้าด้วยรอยยิ้มที่อึดอัด
” งั้นข้าจะพูดสั้นๆ , ” เซี่ยเสินชวน ถอนหายใจ ” ถ้าเจ้าไม่สามารถรักษาเซี่ยซินหยานได้ ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่นอน แต่หากรักษานางได้ข้าก็จะปล่อยเจ้าไป แต่นั้นเจ้าก็ขึ้นอยู่กับเจ้าว่าทำได้หรือป่าว”
” ข่าจะปลุกนางขึ้นมาอย่างปลอดภัย ” ฉื่อหยานจัง ” ข้าขอเดิมพันด้วยทุกสิ่ง ! “
” เจ้าทำได้รึ ? “
” ข้าทำได้ ! “
เซี่ยเสินชวน ก็แปลกใจเล็กน้อย เขาไม่เข้าใจว่า ทำไมฉื่อหยานถึงมั่นใจเช่นนั้น แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็คาดหวังกับมัน และเขาก็พยักหน้า ” งั้นก็ลงมือเลย “
” ท่านปู่สอง ทุกอย่างเตรียมการเรียบร้อยแล้ว ” หยางมู่ ตะโกนออกมาขณะที่ยืนอยู่บนหน้าผา ” เสี่ยวหยาน ตอนนี้เจ้ามาได้แล้ว ” .
” ไปกันเถอะ ข้าจะแสดงบางอย่างให้เจ้าดู”
หยางหลาวพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับจับฉื่อหยานและบินออกไป
––––––––––––––––––––––––
ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 13 แล้ว มีถึงตอนที่ 545 แล้วจ้า ท่านใดสนใจเข้าร่วมกลุ่มอ่านเงือนไขได้ที่โพสปักหมุดของเพจเลยครับ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา กดตรงนี้ >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ