บทที่ 225 ซุ่มโจมตี
ภายในพระราชวังที่ทรุดโทรม ฉื่อหยาน หยางมู่ และคนอื่นมองไปออกไปอย่างดุร้ายเงียบๆ
ตอนนี้ เจียงหัวชวน ใช้เวลาอยู่ภายในอุปสรราคฝนอุกกาบาตนานกว่าก่อน และใน เวลาเดียวกันนี้ พานโจว , ฉาวจื่อหลาน , และคนอื่น ๆก็ได้มาถึงแล้ว ทุกคนต่างก็กังวลพอสมควร เพราะเส้นทางหลบหนีของเขายังไม่พร้อม
หยางเค่อ เดินไปเดินมาพร้อมกับทำหน้ามุ่ย และมองไปที่เมฆหนาสีเทา ที่เจียงหัวชวนเข้าไป
หลี่เฟิงเกอยืนอยู่บนเสาที่แตกหัก คิ้วของนางก็บิดเล็กน้อยและตะโกนออกมา : ” นักรบระดับปฐพีเกือบร้อยคน กองกำลังนี้เทียบเราแข็งแกร่งกว่าเราประมาณสองเท่า แถมตอนนี้ยังมีฉาวจื่อหลาน เซี่ยกุ่ยและเหอซิงเหมินมาร่วมด้วย พวกเขาต่างก็เป็นคนที่รับมือได้ยาก ดูเหมือนเราจะเจอปัญหาแล้วหละ ”
” ฉาวจื่อหลาน ! ” หยางมู่ดูจริงตัง ” ผู้หญิงคนนี้เป็นนักรบที่มีฝีมือจากคนรุ่นใหม่ของตระกูลฉาว ตามข่าวลือว่ากันว่านางนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก นางอยู่ในอันดับที่สามของรายชื่อลำดับผู้แข็งแกร่งซึ่งสูงกว่าข้า ข้านั้นไม่เคยสู้กับนางเลย ก็เลยไม่รู้ว่านางนั้นแข็งแกร่งเพียงใด แต่ด้วยนางนั้นอยู่ในลำดับที่สาม ย่อมแน่นอนอยู่แล้วว่านางต้องไม่อ่อนแอ ”
หยางมู่คิดสักครู่ก็กล่าวว่า : ” เมื่อสถานการณ์แย่ลง ไม่ว่าลุงเจียงออกมาก่อนหรือไม่ เราก็ต้องเข้าไปในอุปสรรคฝนอุกกาบาตนี่”
หยางซู่คอดตาลงเล็กน้อยและร้องอุทานออกมา : ” อุปสรรคฝนอุกกาบาตนั้นยังหยุดทำง่น ถ้าเราเข้าไปแล้ว ข้ากลัวว่าเราจะเจ็บปวดและสูญเสียเป็นอย่างมาก พวกเจ้าก็เห็นแล้ว ขนาดลุงเจียงคนนั้นที่มีความรู้เกี่ยวกับอุปสรรคและกับดักต่างๆ ยัง . . . . . . . ยังไม่สามารถออกมาจากที่นั้นได้ง่ายๆ ถ้าเราเข้าไปหละก็ เราคงจะย่ำแย่กว่าลุงเจียงแน่นอน ”
หลี่เฟิงเกอ หยางเค่อ และคนอื่นก็มองกันและกัน หยางมู่ก็ยิ้มออกมา
” อุปสรรคฝนอุกกาบาตที่อันตรายสำหรับเรา นั้นสามารถใช้เป็นอุปสรรคแก่ พานโจว และฉาวจื่อหลาน ที่ตามพวกเรามาได้ หากเรายังยากลำบาก แล้วพวกเขาจะผ่านไปได้ง่ายๆอย่างไร ดังนั้นถ้าพวกมันไล่ตามเรามา , พวกมันจะต้องสูญเสียมากกว่าเราแน่นอน ” หยางมู่กล่าวอย่างใจเย็น ” ดังนั้น ไม่ว่าลุงเจียงออกมาได้หรือไม่ เราก็ต้องเข้าไป ”
” ฉื่อหยาน . . . . . . . ” หยางซู่ ดูซับซ้อน ” เจ้าบอกว่าลุงเจียงจะไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่ ? ”
” แน่นอน ” ฉื่อหยานส่ายหัว ” ถ้าลุงเจียงเข้าใจอุปสรรคฝนอุกกาบาตได้ เขาก็จะสามารถหยุดมันได้ แล้วข้าก็มั่นใจว่าความหมายของตัวอักษรที่ข้าบอกไปย่อมถูกต้องอย่างแน่นอน ”
หยางซู่ ค่อยๆหยักหน้า แต่นางก็กังวลเล็กน้อยและ กล่าวว่า ” ข้าก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น ”
มันไม่ใช่ว่านางไม่เชื่อ ฉื่อหยาน แต่เวลานี้ เจียงหัวชวน เข้าไปเป็นเวลานานและยังไม่ได้ออกมา ในสายตาของพวกเขา เจียงหัวชวน อาจจะพบเจออันตรายอยู่ก็ได้
ในจิตใต้สำนึกพวกเขาคิดว่าเจียงหัวชวน คงจะตายไปแล้วก็เป็นได้ แม้แต่หยางมู่ เองก็กล่าวว่า เมื่อสถานการณ์เริ่มเลวร้าย ถึงเจียงหัวชวน จะออกมาหรือไม่ พวกเขาก็ต้องเข้าไปในอุปสรรคฝนอุกกาบาต ซึ่งนั้นแสดงให้เห็นว่าเขาก็ไม่มั่นใจเช่นกันว่าเจียงหัวชวนจะออกมาหรือไม่
” พวกเขาจะมาถึงที่นี่ในอีกไม่ช้า ” หลี่เฟิงเกอมองไปสักพักแล้วจึงพูดว่า ” ข้าคิดว่า เราควรจะเตรียมตัวไ้ก่อน โดยใช้ภูมิประเทศของที่นี่ เราสามารถโจมตีพวกเขาได้ และบางทีเราอาจจะสามารถฆ่าพวกเขาบางส่วนได้ ”
หลี่เฟิงเกอขบฟันนาง ตาของนางก็กลายเป็นเย็นชา นางเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้
ฉื่อหยานแอบพยักหน้าโดยไม่พูดอะไร เขาค่อยๆโคจร พลังในร่างกายของเขาเพื่อสร้างหลุมแรงโน้มถ่วง
หยางมู่ หยางเค่อ และหยางซู่ ก็เริ่มสั่งนักรบครอื่นให้แยกกันออกไปซ่อนในพระราชวังชั่วคร่าว และค่อยออกมาเมื่อได้รับสัญญานหลักจากศัตรูมาถึง
” นายน้อยหยาน เราควรจะทำยังไงดี ?” คาม่า ถามด้วยความเคารพ
คาม่านั้นอยู่ในนภาที่สามของระดับปฐพี เขาอยู่ในกลุ่มของฉื่อหยาน , เขามีร่างกายสูงสองเมตร และร่างกายของเขาก็แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ที่ร่างกายของเขาแข็งแกร่งเช่นนี้เป็นเพราะว่าเขาได้รับการฝึกฝนจากราชาชูร่า หลี่มู่พร้อมกับฝึกฝนกับเหล่านักสู้ชูร่า
” พวกเจ้าซ่อนอยู่ภายในพระราชวังไปก่อน ไม่ต้องเตรียมอะไรเลย แค่รอโอกาสที่จะโจมตีศัตรูและฆ่าพวกมันก็พอ ” หน้าฉื่อหยานก็เคร่งขรึม ” แค่ระวังไว้ให้ดี อย่าให้พลาดโอกาสดีๆได้ ข้าจะสร้างโอกาสให้พวกเจ้าฆ่าพวกมันด้วยแรงระเบิด พวกเจ้าอย่าได้พลาดโอกาศเด็ดขาด ”
” ขอรับ นายน้อยหยาน ” คาม่าดูตกตะลึง
ก่อนหน้านี้ การต่อสู้บนเรือเขาเงิน คาม่า ได้เห็นความแข็งแกร่งของฉื่อหยานแล้ว เขารู้ว่า ฉื่อหยานจะแอบปล่อยวิชาลับบางอย่างที่สามารถส่งผลกระทบต่อการต่อสู้ทั้งหมด และสามารถพันธนาการไม่ให้ศัตรูเคลื่อนไหวได้จากนั้นก็จะเปิดให้คนอื่นๆสังหารพวกเขา
ดังนั้น แม้ว่าฉื่อหยานจะมีระดับการบ่มเพาะเพียงระดับหายนะ คาม่า และคนอื่นๆ ก็ไม่คิดจะดูถูกเขาเลยและยังชื่นชมอีกด้วย
” เดี๋ยว ! ”
ฉื่อหยานตะโกนออกมาเล็กน้อย พลันมองไปยังพื้นที่ที่มีเมฆหนาสีเทา จิตสำนึกของเขาสัมพัสได้ถึงบางสิ่งที่ผิดปกติในนั้น
ในพื้นที่ที่เจียงหัวชวน เข้าไปในนั้น ตอนแรกมันเต็มไปด้วยกระแสพลังที่วุ่นวาย แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้จะมีบางอย่างเกิดขึ้นและพลังที่อยู่ภายในดูเหมือนว่าคล้ายกับแม่น้ำสายยาว มันไหลอย่างแปลกประหลาด ปัจจุบัน ดูเหมือนจะมีใครบางคน ได้เปลี่ยนกลไกภายในของมัน และทำให้พลังของมันไกลอย่างราบรื่น
เจียงหัวชวน !
ฉื่อหยานทันทีก็ตระหนักได้ว่าเจียงหัวชวน อาจจะทำสำเร็จ เขาก็เลยหยุดอุปสรรฝนอุกกาบาตและเปลี่ยนการไหลของพลังในอุปสรรคอุกกาบาตฝน
” ลุงเจียงกำลังจะกลับมา ” ฉื่อหยานยิ้มอย่างไม่แยแส จู่ๆเขาก็ตะโกนขึ้นมา
” อะไรนะ ? ” หลี่เฟิงเกอยังคงยืนอยู่บนที่สูงมองไปที่ฉื่อหยานที่ด้านล่าง ” เจ้า เป็นหมอดูรึไง ? ”
ฉื่อหยานยิ้มและส่ายหัว มองหลี่เฟิงเกอ กล่าวว่า ” ข้าไม่ได้เป็นหมอดู แต่ข้ารู้สึกได้ถึงตัวตรของเขา ก็ข้านั้นมี สมบัติวิเศษ ที่สามารถช่วยให้สัมพัสได้ถึงสิ่งต่างๆได้เฉียบคมขึ้น ”
” เสี่ยวหยาน ลุงเจียงทำสำเร็จแล้วงั้นรึ ? ” หยางมู่ปลื้ม ” พวกเขาจะมาที่นี่ในไม่ช้า ถ้าลุงเจียงประสบความสำเร็จได้จริงๆ นั้นก็จะเป็นประโยชน์ต่อเรามาก ”
” ใช่ เขาจะออกมาในเร็วๆ นี้ ” ฉื่อหยานพยักหน้า
เมื่อเขาพูดจบ ร่างที่ปกคลุมด้วยฝุ่นก็พุ่งออกมา
หน้าของเจียงหัวชวน เต็มไปด้วยฝุ่น แต่เขายังแข็งแรงดีอยู่ เขามองฉื่อหยาน , และพูดด้วยความสุขว่า ” ข้อความที่นายน้อยหยานแปลนั้นถูกต้อง ! ขอบคุณนายน้อยยิ่งนักที่รู้เกี่ยวกับอักษรโบราณเหล่านี้ , ข้าสามารถหยุดอุปสรรคฝนอุกกาบาตได้แล้ว ”
หยางซู่ หลี่เฟิงเกอ หยางเค่อ และคนอื่น ๆต่างก็ตกใจเป็นอย่างมากเมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของเจียงหัวชวน พวกเขามองไปที่ฉื่อหยานอีกครั้งแววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความสนใจ
คาม่า และนักรบอื่นๆ ที่ได้รับมอบหมายให้อยู่กลุ่มเดียวกับฉื่อหยาน ก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก และมีความมั่นใจในตัวฉื่อหยานมากขึ้นในตอนนี้
” หลังจากที่เราเข้าไปในอุปสรรคนั่น อย่าลืมว่าต้องเดินไปยังเส้นทางด้านซ้ายก่อนเจ็ดก้าว จากนั้นก็ให้เดินไปยังเส้นทางด้านขวาห้าก้าว จากนั้นก็ไปยังเส้นทางด้านซ้ายอีกครั้งและเดินแบบเดียวกันซ้ำอีกครั้งหนึ่ง จำไว้ว่า ให้ไปเส้นทางด้านซ้ายเจ็ดก้าว และไปเส้นทางด้านขวาห้าก้าว อย่าได้ลืมเด็ดขาด ถ้าเดินตามขั้นตอนนี้ อุกกาบาตเหล่านั้นก็จะไม่สามารถทำอะไรพวกท่านได้หยางเข่อ เจียงหัวชวน สแยะยิ้ม ” ถ้าพวกเขากล้าที่จะตามมาหละก็ ข้าเชื่อว่าพวกเขาที่ไม่รู้ว่าต้องเดินเช่นไร ต้องได้รับการสูญเสียแน่นอน ”
” เยี่ยมไปเลย ” หยางหัวมู่ ” ไปเตรียมตัวได้แล้ว เราจะซุ่มโจมตีพวกเขาและฆ่าพวกเขาก่อน เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป ทันทีเราก็จะถอยเข้าไปยังอุกสรรคฝนอุกกาบาต ครั้งนี้เราโชคดีจริงๆที่มีลุงเจียงและเสี่ยวหยานมาด้วย ไม่งั้นเราคงต้องเจอกับปัญหาแน่ๆ ฮ่าๆ แต่ตอนนี้ เรานั้นได้เปรียบแล้ว และเราควรจะให้เหล่าคนที่ต้องการจะฆ่าเราได้ลิ้มรสความตาย ”
. . . . . . . . . . . . . . .
“นี่คือซากพระราชวังทั้งเก้า ”
พานโจวหยุดยืนอยู่บนพื้นและมองไกลออกไป ” ข้าเคยมายังพระราชวังตรงนั้นมาก่อน รูปแบบโบราณที่อยู่ ภายในต่างก็เสียหายหมดแล้ว จึงไม่มีอันตรายใดๆ แต่เลยไปจากพระราชวังทั้งเก้า มีหลายพื้นที่ที่ยังอันตรายอยู่และเต็มไปด้วยอปสรรค ทั้งหมดขึ้นอยู่กับโชคของเรา หากเราต้องการจะผ่านมันไป”
” เป็นไปได้ไหมว่าคนจากตระกูลหยางจะออกจากที่นั่นไปแล้ว ? ” กู่หลินหลงถามด้วยสีหน้าบึ้งตึง
” ข้าเองก็ไม่รู้ ” พานโจวส่ายหัว ” ระวังตัวด้วยนะ มีสถานที่หลบซ่อนในพระราชวังทั้งเก้า ถ้าคนจากตระกูลหยางซ่อนอยู่ในนั้น จะเป็นเรื่องยากสำหรับเราที่จะรับมือ แม้เราจะมีคนมากกว่า แต่เราก็ห้ามประมาท จำไว้ว่า อย่าได้ทำอะไรโดยไม่ระวัง พื้นที่ที่มีเมฆสีเทาหนาแน่นถัดไปจากพระราชวังทั้งเก่านั้น จะทำให้การมองเห็นของเราลดลงและพลังวิญญาณก็ถูกปิดกั้นด้วยเช่นกัน ที่นั่นนับได้ว่าเป็นสนามรบอย่างแท้จริง ”
” คนจากตระกูลหยางอยู่ในพระราชวังนั่น ” ฉาวจื่อหลาน พุ่งไปข้างหน้าและผ่านพานโจวไป เหมือนกับขนนกที่ล่องลอยไปด้านหน้า ร่างของนางพริ้วไหว เหมือนกับร่างของนางนั้นไร้ซึ่งน้ำหนัก ซึ่งทำให้รู้สึกแปลกประหลาด
” ตามมา เราต้องระวังให้ดี คนที่ชื่อฉื่อหยานที่พวกเจ้าพูดถึงนั้นได้สร้างวงหมุนแปลกประหลาดขึ้นมา วงหมุนเหล่านั้นจะทำให้ร่างหมุนไปมา ดี ! หลังจากที่พวกเจ้าบอกข้าว่าใครคือฉื่อหยาน ข้าจะจัดการกับเขาก่อนเพื่อป้องกันไม่ให้เขาแอบเล่นมีลูกเล่นอะไรอีกระหว่างนั้นพวกเจ้าก็ฆ่าคนจากตระกูลหยางสะ”
ฉาวจื่อหลาน พุ่งออกไปเหมือนกับขนนก ร่างของนางลอยอยู่ในอากาศและกระโดดจากพื้นได้ตลอดเวลา ซึ่งทำให้การเคลื่อนไหวของนางกลายเป็นภาพเงาเบลอๆที่ดูเหมือนเชื่องช้า แต่ในความเป็นจริง มันกลับรวดเร็วเป็นอย่างมาก
” แม่นางฉาวนั้นมีจิตวิญญานต่อสู้ ‘ จิตสำนึกพระเจ้า ‘ นางสามารถตรวจสอบการไหลของพลังงาน และรู้กลไกของพลังนั้นได้ ทำให้นางสามารถหาวิธีที่จะจัดการกับมันได้ ‘ จิตสำนึกพระเจ้า ‘ นั้นเป็นจิตวิญญานต่อสู้ระดับศักดิ์สิทธิ แม้แต่ในสงคราม มันก็ยังสัมผัสได้ถึงความวิชาลึกลับที่บางเบาของศัตรูได้ ทำตามที่นางบอกซะ ” แววตาหยางซูหยางซิงก็แสดงออกมาด้วยความซับซ้อนเมื่อนางอธิบายเรื่องจิตวิญญานต่อสู้ของฉาวจื่อหลานออกมา
จิตวิญญานต่อสู้ของฉาวจื่อหลานนั้นลึกลับเป็นอย่างมาก นักรบมากมายในทะเลสิ้นสุดนั้นไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย อย่างไรก็ตาม มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ความสามารถของจิตวิญญานตาสู่้ของนางและซูหยางซิงก็เป็นหนึ่งในไม่กี่คน
พานโจว เซี่ยกุย กู่หลินหลง หลังจากได้ยินคำพูดของซูหยางซิงแววตาก็ส่องประกายออกมา
ฉาวจื่อหลาน จิตวิญญานจิตสำนึกพระเจ้าของนางนั้นสามารถตรวจจับการไหลเวียนของพลังได้และสามารถ รู้ถึงกลไกของพลังนั้น ซึ่งนั่นหมายความ ว่า ไม่ว่าจะเป็นอุปสรรคหรือกับดักใดๆในหุบเหวสนามรบก็ไม่สามารถรอดพ้นจากการตรวจสอบของนางได้ และนางยังสามารถหาทางหยุดพวกมันได้ ด้วยจิตวิญญานต่อสู้ของนางอีกด้วย
ในหุบเหวสนามรบ จิตวิญญานต่อสู้ของฉาวจื่อหลานนั้นได้ว่าเป็นประโยชร์จริงๆ และยังสามารถลดการสูญเสียของพวกเขาได้เป็นอย่างมากอีกด้วย
. . . . . . . . . . . . . . .
” ไม่ต้องหลยซ่อนหลอก พวกเจ้ามิกล้าออกมาและสู้กับเรางั้นรึ ? ” ข้างนอกวัง ฉาวจื่อหลาน ยิ้มขณะที่นางพูดออกมาอย่างเรียบเฉยและหลีกเลี่ยงหลุมแรงโน้มถ่วงทั้งสามได้อย่างง่ายดาย , จากนั้นนางก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า ” อ่อใช่ กับดักเหล่านี้ช่างวิเศษจริงๆ ไม่สงสัยเลยว่า ทำไม พานโจว และคนอื่นถึงได้สูญเสียมากมายเช่นนั้น ,จริงหรือไม่ ฉื่อหยาน ? นายทำให้ข้าประหลาดใจจริงๆด้วยการกับดักเหล่านี้ เจ้าสามารถแสดงตัวออกมาได้หรือไม่ ? ”
ฉื่อหยานที่หลบอยู่หลังเสาหิน สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาแสยะยิ้มและหัวเราะออกมาอย่างเย็นชาขณะที่เขาเดินออกมาจากพระราชวังที่เขาซ่อยอยู่ เมื่อเขาออกมาจากพระราชวังที่เขาซ่อนตัวอยู่ เขาก็จ้องมองไปยังหญิงสาวผู้งดงามที่ทำลายหลุมแรงโน้มถ่วง และเมื่อได้ยินคำชมจากปากของนาง เขาก็ระวังตัวมากขึ้น เขาตั้งสมาธิของเขาและไม่กล้าที่จะผ่อนคลายแม้แต่นิดเดียว
เขารู้สึกได้ว่าเป้าหมายของหญิงสาวคนนี้คือเขา
––––––––––––––––––––––––
ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 14 แล้ว มีถึงตอนที่ 616 แล้วจ้า ท่านใดสนใจเข้าร่วมกลุ่มอ่านเงือนไขได้ที่โพสปักหมุดของเพจเลยครับ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา กดตรงนี้ >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ