บทที่ 416 รังไหม
ในหนองน้ำเกือบร้อยภูติผีที่ลอยอยู่รอบๆ ก็พุ่งเข้าไปในห้วงจิตสำนึกของฉื่อหยานและถูกกลืนกินโดยห้าปีศาจ
เมื่อภูติผีทั้งหมดหายไปจากบึง ห้าปีศาจในห้วงจิตสำนึกทันทีก็กลายพันธ์
ในห้วงจิตสำนึก ร่างใหญ่ของห้าปีศาจก็ค่อยๆขดตัว และหลอมรวมเข้าด้วยกัน เส้นสายจิตสำนึกวิญญาน ค่อยๆย่อลงบนเนื้อหนังของห้าปีศาจ ส่งพลังบางอย่างที่จำเป็นให้กับพวกมัน
ห้าปีศาจค่อยๆ ถูกห่ออย่างสมบูรณ์ เหมือนรังไหมขนาดใหญ่ เส้นสายวิญญานก็ออกมาจากด้านในของรังไหมอย่างต่อเนื่อง
กลิ่นอายชั่วร้ายเย็นยะเยือกก็ถูกปล่อยออกมาจากร่างกายห้าปีศาจ ” ทำให้จิตสำนึกวิญญานในห้วงจิตสำนึกของฉื่อหยานหดตัว และดูเหมือนมันจะเตรียมพร้อมสำหรับการกลายพันธ์ของห้าปีศาจ
รู้สึกถึงจิตสำนึกวิญญานที่ไกลออกไป ฉื่อหยานใบหน้าของเขาก็กลายเป็นนิ่งสงบและหยุดอยู่ในหนองน้ำ
ถึงแม้ว่าชิเสี่ยว จ้าวเฟิง และคนอื่น ๆกำลังต่อสู้กับสัปประหลาดต้นหวายอยู่ แต่เมื่อเห็นสีหน้าของฉื่อหยานเปลี่ยนไปพวกเขาทั้งหมดก็เข้ามาล้อมรอบเขาอย่างเงียบๆ
จ้าวเฟิง และคนอื่น ๆไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในร่างกายของเขา อย่างไรก็ตาม ด้วยความแปลกประหลาดที่ปรากฏขึ้น พวกเขาก็รู้ว่า เขาคงไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่ดีในขณะนี้แน่ๆ หากเขาประมาท และปล่อยให้สัปประหลาดต้นหมายล้อม หรือถูกโจมตีจากนักรบคนอื่นๆ ชีวิตของเขาอาจจะตกอยู่ในอันตราย
ไม่ว่าจะเป็นสาวกของนิกายประกายแสงศักดิ์สิทธิ์ จ้าวเฟิง หรืออื่น ๆเช่น ไชอี้ และ ชิเสี่ยว พวกเขาต่างก็ไม่ต้องการให้เรื่องเลวร้ายใดเกิดขึ้นกับฉื่อหยาน ดังนั้นพวกเขาจึงปกป้องฉื่อหยาน พวกเขากลัวว่าอาจจะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นได้
ตั้งแต่จิตสำนึกวิญญานของเขาไหลไปยังห้าปีศาจอย่างช้าๆ และเมื่อห้าปีศาจได้หดตัวลงเป็นวัตถุทรงกลมและรูปแบบที่เป็นเหมือนรังไหมหนา จิตสำนึกวิญญานก็ไหลออกมาจากห้าปีศาจช้าๆ
เวลานี้ ฉื่อหยานก็ตื่นขึ้นด้วยความตกใจ
การเปลี่ยนแปลงของห้าปีศาจในห้วงจิตสำนึกของเขาเป็นไปอย่างต่อเนื่อง มันยังคงดูดซับจิตสำนึกวิญญานของเขา อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้รับผลกระทบใดจากการเปลี่ยนแปลงของห้าปีศาจเลย ตอนนี้เขาสามารถรักษาสติของเขาและสามารถสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นได้
” ในสถานที่อันตรายนี้ ทำไมเจ้าถึงเป็นเช่นนี้บ่อยนัก ?” ไชอี้ บ่นเขา ดวงตาคู่สวย ของนางปรากฏร่องรอยของความกังวล นางอยู่ข้างๆ ฉื่อหยานยิ้ม นางไม่ได้เกลียดเขาสักนิดกับสิ่งที่เขาทำในทะเลสาบ
ฉื่อหยานขมวดคิ้วของเขามองฝูงชนและกล่าวว่าน่าอัปยศอดสู ” ข้าได้ย่อยสลายภูติผีมากเกินไป . ไม่ต้องห่วง ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว ขอบคุณพวกเจ้าที่ปกป้องข้า และขอโทษที่สร้างปัญหาให้ “
หลังจากได้ยินสิ่งที่เขาพูด ทุกคนก็รู้สึกโล่งใจยิ้มอย่างเป็นกันเองและพยักหน้าให้กับเขา
” สัปประหลาดต้นหวายนั้นมีมากมายนัก ดังนั้น มันยากที่จะจัดการกับพวกมัน เราจะพักที่นี่ชั่วคราว เพื่อรอดู การเปลี่ยนแปลง ตราบใดที่สัปประหลาดต้นหวายยังอยู่ที่นี่ บึงนี้จะไม่ได้อยู่ในความสงบ ข้ารู้สึกว่าบึงนี้จะเงียบลงเมื่อการเปลี่ยนแปลงบางอย่างมาถึง ” .
ดวยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วของจ้าวเฟิงและหลี่เยว่ พลังในร่างกายของพวกเขาก็ช้าลงเรื่อยๆ เขายืดแขนของตนออกมาและจัดการกับสัปประหลาดต้นหวายที่กล้าเขามาใกล้ เมื่อเหล่าสัปประหลาดต้นหวายเห็นสถานการณ์ไม่ดีพวกมันก็ไปยังพื้นที่อื่น ๆภายใต้ผลกระทบของจ้าวเฟิง เขาก็ยิ้มจนเห็นฟัน และมองไปที่กลุ่มนักรบคนอื่นๆด้วยเจตนาที่ชั่วร้าย
ฉื่อหยาน ก็ตกใจ และไม่สามารถช่วย ที่จะมองไปยังจ้าวเฟิงและพื้นที่ที่หลืนจือยืนอยู่และตะโกนออกมา “เยว่จางเฟิงมานี่ ! “
จากระยะไกลกลุ่มของเยว่จางเฟิงทั้งสี่คน ไม่ได้มีปัญหาในการจัดการกับสัปประหลาดต้นหวายเลย พวกเขามีเปลวไฟแก่นแท้นรกปกป้องพวกเขาอยู่ สัปประหลาดต้นหวายจึงไม่กล้าเข้าใกล้พวกเขาทั้งสี่คน นี้ทำให้พวกเขาปลอดภัยในหนองน้ำ โดยไม่กลัวสัปประหลาดต้นหวายคุกคาม
เมื่อได้ยินฉื่อหยานเรียก ดวงตาของเยว่จางเฟิงก็ส่องประกายแปลกๆ เขาลังเลอยู่สักพัก ก่อนจะพยักหน้าให้ หลินจือ หลัวเสี่ยว หลัวเมิง มายังจุดที่ฉื่อหยานอยู่อย่างเต็มใจ
ทันทีที่ทั้งสี่คนกลุ่มเยว่จางเฟิงมาถึง จ้าวเฟิงและ หลี่เยว่ก็ กระจัดกระจายกันออกไป สมาชิกคนอื่น ๆของนิกายประกายแสงศักดิ์สิทธิ์ก็เข้าใจเจตนาของตน และกระจายกันออกไป และ ล้อมพวกเขาทั้งสี่คน ป้องกันไม่ให้พวกเขาหนี
หน้าของหลินจือก็เปลี่ยนไปในขณะที่หัวใจนางหวาดกลัว
หลังจากที่หลินจือถูกตบไปสองที ดูเหมือนนางจะกลายเป็นหวาดกลัวในความโหดเหี้ยใของฉื่อหยาน นางรู้สึกกลัวฉื่อหยานมากๆ อย่างไรก็ตาม นางก็ไม่รู้หรอกว่าฉื่อหยานนั้นมีเจตนาร้ายหรือไม่
สองพี่น้องหลัวเสี่ยวและ หลัวเมิง ก็สงบไม่พูดอะไร สายตาของพวกเขาริบหรี่ลงไม่หยุดในขณะที่พวกเขาแอบระวังตัวอย่างลับๆ
” ทำไมพวกเจ้าต้องระแวงขนาดนั้น ?” ไชอี้ยิ้มเบาๆ นางส่ายหน้าเล็กน้อยและพูดด้วยเสียงนุ่มๆ ว่า ” ถ้าเราต้องการทำร้ายเจ้า เจ้าคิดว่าพวกเจ้าจะหนีเราได้รึ เจ้าควรจะเชื่อฟัง สถานที่แห่งนี้ไม่ได้เป็นเหมือนภายบนอก ถ้าเราต้องการจะฆ่าเจ้า เจ้าตายไปนานแล้วต่อให้เจ้าจะมีสักสิบชีวิตก็ตาม .
หน้าของหลินจือก็มืดมนนางก็หยุดระแวง
” ฉื่อหยาน , เราเป็นสหายกันใช่หรือไม่ ?” เยว่จางเฟิง ใบหน้าหล่อเหลาของเขก็เคร่งขรึม และดวงตาคมของเขาก็มองฉื่อหยาน
ฉื่อหยานชะงักครู่หนึ่งแล้วพยักหน้าเล็กน้อย ” ช่างมันเถอะ “
” ถ้าเราเป็นเพื่อนกัน แล้วทำไมพวกเขาเจ้ายังยั่วโมโหเรา เจ้าก็คงเหมือนกับพวกเขา เจ้าคงคิดว่าเราสามารถรังแกได้ง่ายๆสินะ เมื่อเราอยู่ในทะเลเหิงลั่วก่อนหน้านี้ ข้าไม่เคยทำร้ายเจ้า และยัง พาเซี่ยซินหยานหนี ตามเจ้าต้องการ ถึงแม้ว่านางจะถูกคนของดินแดนพิสุทธิ์นำตัวไป มันก็หาใช่ความผิดของเราทั้งหมด ถึงแม้นางจะไม่ได้อยู่กับเรา แต่ไม่นาน ดินแดนพิสุทธิ์ก็ต้องเจอตัวนางอยู่ดี , ” เยว่จางเฟิงกล่าวอย่างใจเย็น
ฉื่อหยานพยักหน้า ” อืม ถ้าเป็นกรณีนี้ ข้าก็ผิดจริงๆ ข้าขอโทษ เพราะมันเกี่ยวข้องกับนาง ข้าจึงใช้อารมณ์ไปบเ่ง”
หลังจากพูดแบบนั้น เค้าก็มองจ้าวเฟิง หลี่เยว่ๆ และคนอื่น ๆ ” อย่าได้รังแกพวกเขา เขาเป็นสหายของข้า ไม่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้จะเป็นเช่นไร ข้าก็หวังว่าพวกท่านจะเข้าใจและเลิกรังแกพวกเขา”
หลังจากได้ยินคำพูดของฉื่อหยาน จ้าวเฟิงและคนอื่นก็สแยะยิ้ม และพยักหน้า ด้วยลักษณะที่ดูถูกกลุ่มของเยว่จางเฟิงเล็กน้อย
เยว่จางเฟิงแอบถอนหายใจโล่งอก
” เหตุใดเจ้าถึงมาที่นี่กัน ? อ่า แต่เจ้ามาที่นี่ก่อนเราหนิ เจ้ารู้ไหมว่ามีสิ่งใดผิดปกติเกิดขึ้นกับบึงนี้ “ฉื่อหยานมองไปรอบ ๆเต็มไปด้วยความสงสัย เขาสงสัยว่าทำไมนักรบถึงมารวมกันรอบๆบึง พวกเขารู้ว่ามันไม่ง่ายที่จะจัดการกับภูติผีและสัปประหลาดต้นหวาย แต่ทำไมคนพวกนี้ถึงยังมารวมกัน ? จากสิ่งที่เกิดขึ้นราวกัย พวกเค้ากำลังรอบางอย่าง
น่าจะมีสิ่งแปลกประหลาดบางอย่างในหนองน้ำนี่แน่ที่ดึงดูดฝูงชนให้มาที่นี่ ไม่งั้นทำไมนักรบเหล่านี้ยังคงอยู่ที่นี่ แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าที่นี่อันตรายเป็นอย่างมาก
จ้าวเฟิง และคนอื่นๆดวงตาก็สดใส ; พวกเขาทั้งหมดก็มองไปที่เยว่จางเฟิง
ฉื่อหยาน สงสัยว่าพวกเขานั้นได้รู้อะไร แล้วทำไมกลุ่มของเยว่จางเฟิงถึงอยู่ที่นี่
” ว่ากันว่าจิตวิญญานพระเจ้าบริสุทธิ์อยู่ในดินแดนแปลกประหลาดแห่งนี้ที่บึงนี่ แหล่งที่มาของข้อมูลนี้เชื่อถือได้แน่นอน ยังไงเราก็อยู่ที่นี่มานาน แต่ก็ไม่เห็นมีการเคลื่อนไหวใดๆ . ” เยว่จางเฟิงก็งุนงง ” ตามที่อาจารย์ของข้าบอก ถ้าจิตวิญญานพระเจ้าบริสุทธิ์มีอยู่จริง มันจะต้องอยู่ในบึงนี้แน่นอน
” เจ้ามาอยู่ที่นี่นานเท่าไรแล้ว ?
” เจ็ดวัน ไม่มากไม่น้อยไปกว่านั้น ตลอดเจ็ดวัน มีภูติผีและสัปประหลาดต้นหวายจำนวนมากปรากฏขึ้นที่บึงแห่งนี้ ในกลุ่มของข้าเมื่อมาถึงที่นี่บางคนก็ตกตายไป พวกเขาหลายคนกลายเป็นภูติผีหลังจากที่เขาตาย ดูเหมือนว่า หลังจากคนตาย วิญญาณของพวกเขาจะไม่หายไป แต่กลายเป็นภูติผีแทน ” เยว่จางเฟิงขมวดคิ้ว และอธิบาย เขาส่ายหัวและถอนหายใจ ” . บางทีเราไม่ควรอยู่ที่นี่นานเกินไป ถ้าไม่มีอะไรในอีก 3 วัน เราต้องออกไปจากที่นี่ ถ้าที่นี่มีจิตวิญญานพระเจ้าบริสุทธิิิ์อยู่จริง เราก็คงไม่มีโชคพอที่จะได้รับมัน . “
” โอ้ ” ฉื่อหยาน ยกคิ้วของเขา มองเขาด้วยสายตางุนงง .
” ทุก ๆ 2-3 วัน แรงสะเทือนจะขึ้นมาจากหนองน้ำนี้ มันมากพอที่จะทำลายชีวิตของผู้คน หลังๆมานี้มันรุนแรงกว้าเดิม ในช่วงเจ็ดวันในหนองน้ำนี้ เราได้เห็นการสั่นสะเทือนมาแล้วสองครั้ง การสั่นสะเทือนทั้งสองครั้งล้วนแต่ทำให้วิญญานของเราปั่นป่วน ” ใบหน้าของเจ้าจางเฟิงยังคงสงบเคร่งขรึม ” ข้าเกือบลืมไป แรงสั่นสะเทือนครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในอีกสามวัน และจะแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม ด้วยระดับการบ่มเพาะที่ต่ำของเรา ข้ากลัวว่าเราจะไม่สามารถที่จะแบกรับมันได้ในครั้งนี้ เราไม่อยากให้วิญญาณของเราถูกทำลาย “
สามคน หลินจือ หลัวเสี่ยว หลัวเมิง ก็มีสีหน้าเสียใจและพวกเขาก็ส่ายหัว
” แรงสั่นสะเทือน ? ” หัวใจของฉื่อหยาน ก็ปั่นป่วนได้ เหมือนเขาจะนึกถึงบางสิ่ง .” ไม่ใช่ว่าแรงสั่นพึ่งเกิดขึ้นก่อนหน้านี้หลอกรึ ?
” ใช่ ” .
ฉื่อหยานทันทีก็ตระหนักได้ถึงบางสิ่ง เขาแสดงสีหน้าหวาดกลัว ” แรงสั่นสะเทือนนี้สามารถเปลี่ยนจังหวะการเต้นของหัวใจผู้คนได้ มันทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น และวิญญานก็กลายเป็นปั่นป่วนใช่หรือ ? “
ทั้ง 4 คนจากกลุ่มของเยว่จางเฟิงก็พยักหน้า
กลุ่มของเยว่จ้างเฟิงก็มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยบนใบหน้าของพวกเขา
พวกเขาคิดถึงแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
แรงสั่นนี้แน่นอนว่าทำไมอัตราการเต้นของหัวใจพวกเขาเพิ่มขึ้น และทำให้คนกลายเป็นปั่นป่วน ก่อนหน้านั้น เมื่อพวกเขาอยู่บนเกาะ พวกเขาก็ได้รับผลกระทบนี้เช่นกัน สองพี่น้อง หลัวเสี่ยว หลัวเมิง และหลินจือบางครั้งใบหน้าก็กลายเป็นสีแดงและไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
พวกเขาจะรู้สึกได้ถึงการสั่นสะเทือนที่รุนแรงแม้เมื่อพวกเขาจะบนเกาะ และตอนนี้พวกเขาอยู่ในบึงนี้ เมื่อการสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้น มันจะต้องเลวร้ายยิ่งกว่าเดิมแน่นอน
ตามคำพูดของเยว่จางเฟิง , การสั่นสะเทือนครั้งต่อไปจะรุนแรงยิ่งกว่าเดิม
” เจ้าคิดว่าหลังจากเกิดการสั่นสะเทือนครั้งต่อไป บึงนี้จะมีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ ?” กับเสียงแปลก ๆที่ ดังขึ้นในใจของเขา ฉื่อหยานลังเลสักพักแล้วคิดถึงมัน แต่เขาก็ไม่อาจเข้าใจได้
” ดี ข้ารู้แล้วควรทำเช่นไร ก่อนที่จะเกิดการสั่นสะเทือน พวกเรามาช่วยกันดู ว่าเราจะพบสิ่งใดบ้าง ” หลังจากคิดสักพัก ฉื่อหยานก็ตัดสินใจที่จะอยู่และดูที่บึงนี้ เพื่อดูว่ามีอะไรผิดปกติอยู่
ทั้ง 4 คน กลุ่มของเยว่จางเฟิงก็พยักหน้าอีกครั้ง
__________________________
ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 29 แล้ว มีถึงตอนที่ 1347 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <