บทที่ 436 ผู้เปลี่ยนแปลงสถานการณ์ ? ฉื่อหยานหนะรึ ?
พูดตรงๆก็คือทั้งหมดเป็นเพราะคำว่า ‘ ผลประโยชน์ ‘
เมื่อตระกูลหยางยังมีอำนาจอยู่ พวกเขาสามารถขนส่งทรัพยากรจำนวนมาก และนั้นก็ทำให้ทุกเผ่าพันธ์ในทะเลต่างก็ได้รับผลประโยชน์
ด้วยเหตุผลนี้ ในเมืองใต้บาดาล ที่ด้านล่างของเผ่าทะเลพันธ์เหล่านั้นจึงช่วยเหลือตระกูลหยางเป็นอย่างดีและ ทำให้ตระกูลหยางกลายเป็นผู้นำที่แท้จริงของเมือง
ตั้งแต่ตระกูลหยางตกต้ำลง พวกเขาก็ไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆจากชนเผ่าใต้ทะเล เห็นได้ชัดว่าเผ่าพันธ์ในทะเลไม่คิดจะช่วยเหลือตระกูลหยาง
ไม่เพียงแค่นั้น เพราะเผ่าทะเลรู้ว่า ตระกูลหยางมีทรัพยากรมากมายเก็บไว้ในครอบครอง พวกเขาจึงเต็มไปด้วยความโลภ และเป็นเหมือนกับนักรบทั่วไป พวกเขาสนับสนุนเหล่านักรบที่กล้าท้าทายตระกูลหยาง .
ฉื่อหยาน ในจิตใจของเขา เขารู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ดี
” มีกี่เผ่าที่ไม่สนับสนุนตระกูลหยางแล้ว ? และมีใครบ้างที่วางตัวเป็นกลาง ? และมีกี่คนที่ต้องการทรัพยากรของตระกูลหยาง ?” หลังจากคิดสักพัก ฉื่อหยานก็ถาม
เฟยหยา ยิ้มบางๆแล้วส่ายหน้า ” นี่ก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของเจ้า ข้าเป็นเพียงแค่คนจากเผ่าเงือก ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถช่วยอะไรเจ้าได้ ข้าพูดได้เพียงแค่ว่าเผ่าเงือกของข้าไม่นำเผ่าพันธ์ของตัวเองเข้าไปเสี่ยงใดๆ . หัวหน้าของเราแม้จะต้องการหยุดนักรบอื่น แต่เราก็ไม่อยากหาเรื่องใส่ตัว และดังนั้น เราจึงเป็นกลางไม่เข้าข้างใคร”
” ก็ดีแล้วที่พวกเจ้าเป็นกลาง ” ฉื่อหยานพยักหน้า แต่ทัศนคติของพวกเขาแสดงออกอย่างไม่เป็ฯมิตร” ดูเหมือนว่า ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ก็ย่อมพบเจอกับเหล่าคนที่มีวิสัยศัษน์สั้นๆ ข้ามาเมืองใต้บาดาล เพื่อช่วยตระกูลหยางให้พ้นจากความลำบาก และทำให้ใครบางคนเชื่อฟังมากขึ้น “
เผ่าเงือกทั้งหกคนก็ มึนงงชั่วขณะ พวกเขามองเขาแปลก ๆ
” แม้ว่าเจ้าจะมีระดับการบ่มเพาะระดับนภา ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีเจ้าคนเดียวที่อยู่ระดับนี้ เจ้าคิดว่าจะฟื้นฟูเกียรติตระกูลหยาง ได้งั้นรึ ?”
” รอดูแล้วกัน ” ฉื่อหยานพูดเสียวเย็นชากล่าวด้วยความเย่อหยิ่ง
เฟยหยาและอีกห้าดูเหมือนจะปิดกลั้นความรู้สึกไม่ให้เปิดเผยออกมา เห็นได้ชัดว่า พวกเขาไม่เชื่อว่าฉื่อหยานจะสามารถทำได้
ฉื่อหยาน ไม่พูดอะไรมาก เขาขมวดคิ้วและเงียบ ดวงตาของเขาส่องประกายเย็นชา ในขณะที่ใบหน้าของเขาเผยอยิ้มอย่างโหดเหี้ยม
. . . . . . .
ในเมืองใต้บาดาลที่ด้านล่างของทะเล . . . . . . .
มีรูปแบบทป้องกันไม่ให้น้ำทะเลไหลเข้ามาวางอยู่รอบๆ นอกจากนี้ มันยังเต็มไปด้วยความชื้น ปรากฏร่างกายใหญ่ของมนุษย์เคลื่อนไหวไปมาในเมือง
เมืองนี้มีสมาคมค้าขายที่แตกต่างกันแบ่งออกเป็น 5 ฝ่าย ตะวันออก ใต้ ตะวันตก เหนือ และกลาง ในเมืองใต้บาดาล อาคารที่ทำจากหินแข็งและมีปะการังส่องแสงสีสัน ดูหรูหรา
มีรูปแบบวางอยู่บนเมืองใต้บาดาลเกิดเป็นแสงไฟส่องตลอดทั้งปี ทำให้เมืองสว่างเสมอ แม้ไม่มีดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาว
ในสมาคมค้าขายแต่ละพื้นที่ มีนักรบมนุษย์อยู่จำนวนมาก ร้านค้าขนาดใหญ่ ถนนที่มีสิ้นค้าและทรัพยากรมากมายวางขายไม่ว่าจะเป็น หินหยก เม็ดยา หนังสือโบราณ สมบัติลับ ทุกอย่างสามารถทำไปใช้ได้
เผ่าทะเลหลายคนอยู่ในเมืองใต้บาดาลได้อย่างสบาย พวกเขามีทรัพยาที่หาได้ในแต่ในทะเล ซึ่งพวกเขาสามารถนำมันไปขายหรือแลกกับทรัพยากรมีค่าของมนุษย์ได้
นี้เป็นสถานที่ค้าขายที่เต็มไปด้วยสิ่งมีีชีวิตหลายเผ่าพันธ์
ในอดีต ตระกูลหยางได้อาศัยอยู่ในส่วยเมืองโบราณ นักรบที่มาเมืองใต้บาดาลหากจะขายทรัพยากรจะต่้องขอกับตระกูลหยางก่อน และยังต้องส่วยบางสา่วน
ส่วนเผ่าทะเลนั้น ไม่จำเป็นต้องปฏิบัตตาม
เผ่าทะเลแต่ละเผ่า สามารถเดินทางในเมืองใต้บาดาล โดยไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมใดๆให้ตระกูลหยาง
ในเมืองนี้ เรือนของตระกูลหยางนั้นสังเกตุเห็นได้อย่างชัดเจนตัสอาคารส่องแสงสีสันประดับด้วบหินและประการังพวกมันไม่เพียง แต่แข็งแนง แต่ก็ยังหรูหราเป็นอย่างมากอีกเด้วย นี้แสดงให้เห็นถึงอำนาจของตระกูลหยาง
ตระกูลหยางนั้นทำธุริกิจมากมายในเมืองใต้บาดาลแห่งนี้ รวมถึงทรัพยากรมากมายที่ไม่สามารถหาได้ในทะเล นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่เผ่าทะเลที่มีหาทรัพยากรบ่มเพาะ
ธุรกิจมากมายตั้งหมดต่างก็เกิดขึ้นในที่แห่งนี้
ถ้านักรบเผ่าทะเลต้องการทรัพยากรที่มีค่า ตราบเท่าที่พวกเขามีเงินจ่ายเพียงพอ ตระกูลหยางก็จะหาทรัพยากรเหล่านั้นมาให้ ในทาวกลับกัน พวกเขาเองก็ได้รับทรัพยากรต่างๆที่มีค่าเท่ากันจากในทะเล
ด้วยนธุรกิจประเภทนี้ ตระกูลหยางจึงมีสมบัติที่หาได้จากทะเลมากมาย เมื่อสมบัติเหล่านี้ถูกส่งไปยัทะเลเคียร่า พวกมันก็จะถูกส่งไปยังตระกูลหยาง และขายให้กับตระกูลฉาว พระราชวังจิตวิญญานต่อสู้ และดินแดนปีศาจมหัศจรรย์ สุดท้ายก็เป็นตระกูลหยางที่ได้รับผลประโยชน์จากธุรกิจนี้
ความจริงที่ว่า ตระกูลหยางเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเลไม่มีสิ้นสุด และมีธุรกิจในเมืองใต้บาดาลที่ทำให้เหล่าชาวเผ่าทะเลไว้ใจ พวกเขาเชื่อมความสัมพันธ์กับตระกูลหยางก็เท่ากับใดเชื่อมต่อกับทะเลไม่มีสิ้นสุด เพราะเหตุนี้พวกเขาจึงรักษาความสัมพันํ์อันดีต่อตระกูลหยาง ตลอดจนสนับสนุนตระกูลหยางให้มีสถานะเป็นผู้ครองเมืองใต้บาดาล , และปล่อยให้เขามีอำนาจในการจัดการกับเหล่ามนุษย์
สถานการณ์นี้เป็นมาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็เปลี่ยนไปหลังจากจักรพรรดิหยางเทียน ถูกจับกุม
. . . . . . .
ในศูนย์กลางของเมืองใต้บาดาล .
ในเรือนตระกูลหยางที่ซับซ้อน
เป็นอาคารที่สวยงามทำจากปะการังที่ เมื่อก่อนเคยเป็นตลาดการค้าที่วุ่นวาย ตอนนี้กลับกลายเป็นเงียบสงบ ไม่มีคนจากเผ่าทะเลมาซื้อขายแลกเปลี่ยนทรัพยากรใดๆ
ตั้งแต่ตระกูลหยางถอนตัวจากทะเลเคียร่าการค้าขายในเมืองแห่งนี้ก็ถอถอยลง ตระกูลหยางไม่มีทรัพยากรเพียงพอที่จะนำมาขาย หรือไม่แม้แต่จะหาซื้อทรัพยากรที่มีค่าจากใต้ทะเลได้
เหล่าคนจากตระกูลหยางซ่อนอยู่ในที่สถานที่สวยงามแห่งนี้ และไม่ค่อยออกมา ราวกับว่าพวกเขาทั้งหมดถูกฝังอยู่ในนั้น
กว่าปีที่ผ่านมา , นักรบมนุษย์ไม่ได้มาที่นี่เพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมใดๆอีก และมักหาข้ออ้างบอกปัดว่าไม่มีจ่าย
ทัศนคติ ของตระกูลหยางแต่แรกนั้นเย่อหยิ่ง และพวกเขาก็จัดการเหล่านักรบมนุษย์ได้อย่างรัดกุม อย่างไรก็ตาม หลังจากเหตุการณ์มากมาย พวกเขาก็ไม่ได้รับผลประโยชน์ใด ๆอีก และยังประสบความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่
อย่างช้าๆตระกูลหยางยอมแพ้ในการควบคุมให้เหล่านักรบมนุษย์เหล่านั้นจ่ายค่าธรรมเนียม
ดังนั้น นักรบจำนวนมากขึ้นและมากขึ้นก็เริ่มไม่สนใจตระกูลหยาง และไม่จ่ายค่าธรรมเนียม
ตลอดเวลา ผู้ที่ไม่จ่ายค่าธรรมเนียม ต่างก็แอบมีความโลภในทรัพยากรบ่มเพาะที่เก็บซ่อนอยู่ของตระกูลหยาง พวกเขาเริ่มหาข้ออ้างในการยั่วยุตระกูลหยาง โดยบอกว่า ทรัพยากรที่พวกเขาขายให้นั้นมีค่ามากกว่าทรัพยากรที่ตระกูลหยางให้มา
พวกเขาบางส่วนเริ่มเรียกร้องให้ตระกูลหยางชดเชย
. . . . . . .
ภายในอาคารที่กว้างใหญ่
ในห้องมีทรัพยากรบ่มพาะมากมายอยู่ ไม่ว่าจะแร่หายาก สมุนไพรใต้ทะเล ,เม็ดยา , และสมบัติล้ำค่ามากมายในทะเลไม่มีสิ้นสุด
นี้เป็นเพียงทรัพยากรหนึ่งในสิบที่ถูกนำมาเก็บไว้จากเกาะอมตะ เมื่อตระกูลหยางได้ออกจากเกาะอมตะ พวกเขาขนย้ายทรัพยากรเหล่านั้นผ่านรูปแบบเคลื่อนย้าย
ในห้อง กลุ่มนักรบตระกูลหยางกำลังตรวจสอบทรัพยากรด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับ พวกเขาพูดด้วยความกังวล
หยางมู่ หยางซู่ หยางซั่ว หยางเค่อ หยางเหมิง และหลี่เฟิงทั้งหมดต่างก็อยู่ที่นี่
ตระกูลหยางรุ่นสี่ทุกคนรวมตัวกันอยู่ในห้องนี้ ทองทรัพยากรมากมายทั้งหมดด้วยความกังวล
หยางซั่ว พ่อของหยางซู่นั้น มีระกับการบ่มเพาะที่ระดับรู้แจ้ง และเป็นผู้อาวุโสของกลุ่มนี้ เขามองกองทรัพยากรและ ส่ายหัวได้ความกังวลพร้อมกัย ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย
” ท่านพ่อ เราต้องใช้ทรัพยาส่วนนี้แล้ว ถ้าเราช้า ข้ากลัวว่าพวกเขาจะไม่ทำตามคำสั่งเราอีกต่อไป . . . ” ใบหน้าของหยางมู่ก็เย็นชาและเขาก็พูด ” . หลายคนในเมืองใต้บาดาลต่างก็มีทรัพยากรเหล่านี้เป็นเป้าหมาย เมื่อเร็วๆนี้ , พวกเขาเริ่มทนไม่ได้และหมดความอดทน ถ้ามันเป็นแบบนี้ต่อไป พวกเขาจะต้องโจมตีที่นี่โดยตรงแน่”
” ท่านพ่อ ถึงแม้จะยังไม่มีข่าวเรื่องการเดินทางของตระกูลเซี่ย เราก็ต้องเตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้า ” หยางซู่ ถอนหายใจ ” . ถ้า ตระกูลเซี่ยมาทัน บางทีพวกมันอาจเกรงเราอยู่บ้าง แต่น่าเสียดายที่เราไม่รอจนพวกเขามาถึงได้ อืม ถ้าเรามีปู่โม่หรือปู่หลี่อยู่ที่นี่ เราคงไม่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ “
ปู่โม่หรือปู่หลี่คือสองในสามราชาชูร่าที่อยู่ในระดับนภา พวกเขามีชื่อเสียงมากทั้งในทะเลไม่มีที่สิ้นสุดและเมืองใต้บาดาลแห่งนี้ ผู้คนส่วนมากต่างก็หวาดกลัวพวกเขา
แต่น่าเสียดายที่ไม่มีข่าวจากพวกเขาตั้งแต่ทั้งสองได้เข้าไปยังพื้นที่สี่อสูร
” ท่านปู่ได้แอบส่งนักรบระดับสูงไปที่ดินแดนอสูร เพื่ออนาคตของตระกูลเรา ตอนนี้เราเพียงต้องอดทนกับความอัปยศอดสูนี่ชั่วคร่วเท่านั้น เราจะรอจนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม เมื่อตระกูลหยางทั้งหมดมาถึงใต้ทะเล ทุกคนจะต้องเชื่อฟังและเราก็กลายเป็นผู้นำที่แท้จริงของทะเลไม่มีที่สิ้นสุดอีกครั้ง ” หยางซั่วมองอย่างสงบในขณะที่พูด
“จริงรึที่ว่าการที่ท่านปู่ใหญ่ของเราอยู่ในดินแดนสี่อสูรไม่ใช่อุบัติเหตุ ?” หยางมู่ยิ้มอย่างบิดเบี้ยวและถาม
” เจ้าไม่ควรสงสัยในการกระทำของท่านปู่ของเจ้า ! . ” หยางซั่ว กระแอม และกล่าวว่า ” หลายปีที่ผ่านมา ท่านปู่ใหญ่ของเจ้าได้วางแผนเสมอมา รอโอกาสที่เผ่าอสูรและเผ่าทมิฬบุกมายังทะเลไม่มีที่สิ้นสุด จากนั้นพวกเราก็จากมาอย่างสงบ เพื่อปกป้องความแข็งแกร่งและกองกำลังของเรา เมื่อเวลาสำคัญมาถึง เราก็จะปรากฏตัวอีกครั้ง และมีชัยเหนือทุกสิ่ง ตอนนี้ ตระกูลหยางตกต่ำเพียงชั่วคราวเท่านั้น ท่านปู่ใหญ่ของเราได้วางแผนนี้ไว้แล้ว ตราบใดที่เราอดทนผ่านไปได้ วันที่ตระกูลหยางของเราจะปกครองทุกสิ่งจะต้องมาถึงแน่ “
” แต่ข้าเกรงว่า ตอนนี้มันเป็นเรื่องยากมากที่จะปกป้องทรัพยากรเหล่านี้ ” หยางมู่ส่ายหัวเบาๆ ” ข้ากลัวว่าเราไม่สามารถต้านทานได้อีกต่อไป “
” ถ้าเราสามารถต้านทานได้แม้จะแค่วันเดียว เราก็จะทำ ” หยางซั่วครุ่นคิดสักพัก ก่อนที่จะพูดด้วยใบหน้าที่ซับซ้อน ” ปีนั้น ท่านปู่ใหญ่ของเจ้าได้กล่าวว่าในช่วงเวลาที่ยากลำบากมากที่สุด จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้น ดังนั้น เราต้องอดทน อย่าได้รีบทำอะไร ”
” การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ?” หยางมู่ หยางซู่ และคนอื่น ๆ ทั้งหมดก็มองด้วยความตกตะลึง
” อืม ” หยางซั่วก็ดูเหมือนจะไม่มั่นใจ จู่ๆเขาก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าแปลกประหลาด ” ปีนั้น ท่านปู่ใหญ่ของเจ้าได้ใช้โลหิตอมตะจำนวนมากเพื่อดูอนาคตของฉื่อหยาน เขาบอกว่า ฉื่อหยานจะแข็งแกร่งขึ้นและมายังที่นี่เพื่อช่วยเหลือตระกูลหยางที่เมืองใต้บาดาลแห่งนี้ ท่านปู่ใหญ่บอกว่าเมื่อถึงเวลานั้น เมื่อเราอยู่ในช่วงเวลาที่ยากที่สุด เขาจะปรากฏตัวและช่วยเหลือเรา “
ทุกคนตะลึงจนพูดไม่ออก .
_________________________
ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 29 แล้ว มีถึงตอนที่ 1367 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <