เทพเจ้าล่าสังหาร – บทที่ 496 ฟื้นคืน

[TL. อารามสวรรค์ ก็คือ วังสวรรค์ ที่ได้แปลก่อนหน้านี้ ตอนนี้ขอเปลี่ยนเป็น อารามสวรรค์ พวกนี้ฉื่อหยานเคยเจอในหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬที่ใช้เส้นใยสีทองเป็นอาวุธ]

 

บทที่ 496 ฟื้นคืน

 

ในโลกที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งและหิมะ ฉื่อหยานกำลังรอเปลวเหมันเยือกแข็งอย่างเงียบๆ

เวลาผ่านไปเวลานาน หลังจากที่หญิงสาวทั้งสองเก็บหญ้าหัวใจเหมันต์เสร็จพวกนางก็จากไปและพวกนางก็ระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา ราวกับว่ากำลังป้องกันจากอะไรบางอย่าง

ฉื่อหยาน ก็ไม่ได้สนใจเรื่องราวของพวกนาง

หลังจากผ่านไปสี่ชั่วโมง เปลวเหมันเยือกแข็งก็กลับมา กลายเป็นเปลวเพลิงสีขาวลอยมาอยู่ตรงหน้าเขา มันดูอ่อนล้าเป็นอย่างมาก และแม้แต่เปลวไฟของมันเองก็ไม่กระพริบอย่างมีชีวิตชีวา

” เกิดอะไรขึ้น “

” ผนึกเยือกแข็งนั้นมีอยู่ แต่บางคนได้เอามันไปแล้ว ข้าไม่พบมันที่นั่น ” .

ฉื่อหยานยิ้มราวกับว่าเขารู้ผลล่วงหน้าอยู่แล้ว

ตั้งแต่ดินแดนเย็นยะเยือกอยู่ภายใต้การควบคุมของเมืองจักรรพิน้ำแข็ง และมีทรัพยากรเพียงไม่กี่ประเภทเท่าสนั้นที่อยู่ที่นี่ ผู้มีอำนาจสมควรนำทรัพยากรทั้งหมดในพื้นที่แห่งนี้ไปจนหมด และผลึกเยือกแข็งที่เปลวเหมันเยือกแข็งพูดถึงนั้นมีค่าเป็นอย่างมาก ซึ่งมันมีประโยชน์ต่อนักรบที่ฝึกบ่มเพาะพลังความเย็น

นักรบส่วนใหญ่ของเมืองจักพรรดิน้ำแข็งนั้นต่างก็ฝึกบ่มเพาะพลังประเภทความเย็น . ถ้าพวกเขารู้ว่าที่นี่สามารถสร้างผลึกเยือกแข็งได้ พวกเขาคงไม่มีทางปล่อยให้หลุดมือไปแน่นอน

” ไม่เป็นไร ถึงเราไม่ได้มันมา เราก็ยังคงมีเวลาอีกเยอะ บางทีเราอาจจะเจอมันอีกระหว่างทางก็ได้”

เขาปลอบเปลวเหมันเยือกแข็งแล้วส่งมันกลับไปที่แหวนสายโลหิต

เปลวเหมันเยือกแข็งก็เข้าไปในแหวนและค่อยๆสงลง

มองไปยังเกล็ดหิมะที่ลอยปกคลุมรอบๆ ฉื่อหยานก็ไม่รอช้า พุ่งผ่านภูเขาที่หนาวเย็นและบินไปยังเมืองจักพรรดิน้ำแข็ง

. . . . . . .

วันต่อมา เขาก็หยุดที่ภูเขาหิมะเตี้ย เขาขมวดคิ้ว และมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าเขา

ดูเหมือนว่าหญิงสาวสองพี่น้องกำลังมีปัญหาอยู่

เจ็ดนักรบสวมเครื่องแบบของสีฟ้ากำลังล้อมหญิงสาวงดงามทั้งสองอยู่ ดูเหมือนพวกมันต้องการจะฆ่าพวกนางทั้งคู่

ห่างจากตรงนั้นห้าร้อยเมตร เขาก็มุ่งไปและสังเกต จากนั้นก็กระแอมออกมา รอยยิ้มแปลกประหลาดก็ปรากฏบนหน้าของเขา

โลกนี้ช่างแคบยิ่งนัก

เป็นนักรบจากอารามสวรรค์ที่กำลังสองพี่น้องผู้งดงาม ,เส้นไหมสีทองพุ่งออกมาจากนิ้วของพวกเขา เห็นได้ชัดว่า พวกเขาจากคือตระกูลหนิงจากอารามสวรรค์

แตกต่างจากกองกำลังที่แข็งแกร่งอื่นๆในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เช่นสมาคมนักรบ อารามสวรรค์นั้นมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน มันถูกสร้างขึ้นโดยตระกูลที่เก่าแก่ หลายตระกูล และตระกูลก็หนิงเป็นหนึ่งในนั้น พวกเขาเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงในเรืองของการฝึกฝนทักษะของ แมลงและตัวไหม และตัวไหมทองคำก็มาจากตระกูลนี้

เขาเจอหนิงเซอ จากตระกูลหนิงในหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬ ตัวไหมทองคำที่อยู่ในแหวนสายโลหิตของเขาเองก็เป็นของมัน

ตระหนิงนั้นมาจากอารามสวรรค์

พวกเขาใช้วิชาลับเส้นไหมทองคำ แสงสีทองเปล่งประกายเรืองรองจากเส้นไหมเคลื่อนไหวไปในอากาศเหมือนงูสีทอง พันอยู่รอบๆสองสาว และพันธนาการพวกนาง ไม่นานสองสาวผู้งดงามก็ไม่มีหนทางให้หนีรอดอีก

เห็นได้ชัดว่า ตัวไหมทองคำสัมพัสได้ถึงพลังที่ผันผวนของเส้นไหมทองคำ และมันก็บินออกมาจากแหวนสายโลหิต

ตัวไหมทองคำนั้นเป็นสัตว์อสูรระดับเจ็ด อย่างไรก็ตาม หลังจากได้ดูดซับโลหิตอมตะสี่หยด มัก็นได้เติบโตขึ้นหลายเท่า ขนาดของมันใหญ่ขึ้นและแสงเจิดจ้าก็ส่องออกมาราวกับเป็นเกาะทองคำ เพียงมองก็รู้ได้ทันทีว่าสัตว์อสูรตัวนี้ อยู่ในระดับ 8

สัตว์อสูรประเภทหนอนน้องต้องต่อสู้อย่างหนักเพื่อที่จะพัฒนา อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกมันสามารถพัฒนาได้ พลังของพวกมันก็จะแข็งแกร่งขึ้นเป็นอย่างมาก

ดังนั้น ในโลกของสัตว์อสูร สัตว์ที่มีความก้าวหน้าที่ยากลำบาก แต่หากพวกมันสามารถพัฒนาได้ พวกมันก็จะแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ตัวอย่างเช่น ราชาแมลงอสูร เมื่อเปรียบเทียบกับสัตว์อสูรในระดับ 8 ที่มีขนาดใหญ่กว่า สัตว์อสูรประเภทนี้นับได้ว่ายากที่จะรับมือกว่ามาก ด้วยพลังของมันที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมากแล้ว ขนาดเล็กๆของมันยังสามารถทำให้เกิดความได้เปรียบ

ถ้าตัวไหมทองคำสามารถก้าวใกล้ถึงระดับ 8 ได้ ความสามารถบางอย่างตามธรรมชาติของมันจะปรากฏออกมา เช่นเดียวกับจิตวิญญานต่อสู้ของนักรบ นี่เป็นสิ่งที่มหัศจรรย์เป็นอย่างมาก

ทันทีที่ตัวไหมทองคำ ปรากฏ นักรบจากตระกูลหนิงก็สัมพัสได้ทันที พวกมันหยุดโจมตี ปิงเว่ยและปิงเซียง มองไปที่ฉื่อหยานด้วยความประหลาดใจ

” หมายเลข 4 “

นักรบหนึ่งร้องอุทานออกมาด้วย สีหน้าตื่นเต้น

” นั่นหมายเลข 4 !

นักรบบางคนจากตระกูลหนิงก็ตะโกนออกมา สองสาวทันทีก็หันมามองฉื่อหยาน

ฉื่อหยานขมวดคิ้วมองไปที่ตัวไหมทองคำอย่างรวดเร็วและส่งขอความไปที่มัน ” . เกิดอะไรขึ้น ? “

” เส้นไหมสีทอง เส้นไหมาีทองเหล่านั้นมาจากร่างกายของข้า ข้าต้องการพวกมันคืน . ” ตัวไหมทองคำก็บอกเขา ” เส้นไหมสีทองเหล่านี้พรากมาจากข้า พวกมันเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายข้า เมื่อพวกมันกลับมา พลังของข้าก็แข็งแกร่งขึ้น ข้าต้องการพวกมันกลับมา ! “

ฉื่อหยานก็งุนงง

โดยไม่รอคำสั่งของเขา ตัวไหมทองคำก็บินออกไปในทันที แสงสว่างสีทองละลานตาจากร่างกายของมันไหลออกมาเหมือนคลื่นน้ำ อัดแน่นกันเป็นพลังธาตุโลหะพุ่งไปยังนักรบเจ็ดคนจากตระกูลหนิง [TL.รู้สึกพลังของตัวไหมทองคำจะเป็นธาตุเหล็ก]

” เจ้าแมลงบ้า เจ้ากล้ารึ ?

นักรบคนหนึ่งจากตระกูลหนิงก็ตะโกนออกมา เขาเป็นผู้ชายมีหนวดมีเคราและอยู่ในระดับนภา เขาสูดลมหายใจเข้า ระฆังขนาดเล็กปรากฏขึ้นในฝ่ามือของเขา แสงสีทองก็ประกายในดวงตาของเขาเกิดเป็นพลังประหลาดเริ่มไหลลงในระฆังบนฝ่ามือของเขาทำเกิดเสียง กริ้งแปลกประหลาดขึ้น ตัวไหมทองคำก็ส่งเสียงร้องแสบหูออกมา . ดูเหมือนว่ามันได้รับผลกระทบจากเสียงของระฆัง

ระฆังนั้นเป็นความลับที่ใช้ในการควบคุมตัวไหมทองคำ และตระกูลหนิงก็มีประสบการณ์ในการเลี้ยงและฝึกตัวไหมทองคำ พวกเขารู้ว่าสิ่งใดที่สามารถทำให้ตัวไหมทองคำหวาดกลัวได้. คลื่นเสียงที่ออกมาจากระฆังเป็นสิ่งที่ตัวไหมทองคำแพ้ทาง ซึ่งสามารถสั่นสะท้านวิญญานของมันให้อ่อนแอลง และบังคับมันให้ยอมแพ้ได้

” นายท่าน “

ตัวไหมทองคำก็ส่งเขาข้อความออกมาด้วยจิตสำนึกวิญญานที่อ่อนแอ เพื่อขอความช่วยเหลือจากฉื่อหยาน

ฮ๊าาาาาา !

ฉื่อหยาน ก็กระตุ้นพลังของตนและ คำรามเสียงดังไปที่นักรบจากตระกูลหนิง เสียงของเขาเป็นเหมือนคลื่นสึนามิทีซัดออกไป กลบทับเสียงของระฆัง การแบ่งคลื่น เสียงของระฆัง

ตัวไหมทองคำกลิ่นอายของมันก็กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง นี้ทำให้นักรบของตระกูลหนิงกลายเป็นซีดเซียว ราวกับว่าพวกมันกำลังเผชิญหน้ากับ ศัตรูตัวสำคัญของพวกมันและพยายามที่จะหลีกเลี่ยง

ประกายแสงสีทองของตัวไหมทองคำนั้นป็นเหมือนดาบแสงที่แหลมคม หากใครถูกสิ่งนี้โจมตี พวกเขาจะต้องถูกเชือดเฉือน

นักรบของตระกูลหนิงเข้าใจเรื่องนี้ดี ดังนั้น พวกเขาจึงพยายามให้ดีที่สุดเพื่อหลบเลี่ยงประกายแสงสีแทง

” ฆ่าเจ้าสารเลวนั่นสะ !

หัวหน้าของนักรบตระกูลหนิงก็สั่นระฆังของเขาชี้ไปที่ ฉื่อหยาน และตะโกนใส่คนของเขา

นักรบระดับนภาอีกหกคนก็แยกกันออกไปโจมตีฉื่อหยาน

มีนักรบนภาที่สามระดับนภาสามคนแลนักรบนภาที่สองระดับนภาสามคนของพวกเขา พวกเขาทั้งหกเคลื่อนเคลื่อนไหวทันที พวกเขากลายเป็นประกายแสงทั้งหกพุ่งไปที่ฉื่อหยานอย่างรวดเร็ว , พยายามที่จะฆ่าเขาในการโ๗มตีครั้งเดียว

” แสงหนามเหมันต์ !

เสียงของปิงเซียงที่เย็นชาก็ดังขึ้น พลังงานมากมายก็รวมกันกลายเป็นหมอก

ท่ามกลางเกล็ดหิมะที่ตกอยู่ตรงหน้าฉื่อหยาน อากาศหนาวก็แตกออกเป็นเหมือนก้อนแสงน้ำแข็งขนาดใหญ่ อากาศหนาวเย็นขยายตัวออกมาจากภายในแสงเหมือนดาบที่แหลมคม ทิ่มแทงไปที่นักรบทั้งหกคนที่พุ่งมาที่ฉื่อหยานจากด้านหลัง

” คลิ่นเหมันต์ !”

ปิงเว่ยก็ตะโกนออกมาเล็กน้อย ผลักสองมือขาวของนางลงไปที่พื้น

เกล็ดหิมะรูป นับไม่ถ้วน รวมกันกลายเป็นสองหมาป่าที่ดูมีชีวิตชีวา และน่ากลัว พุ่งไปที่หัวหน้านักรบที่มีหนวดเครา

สองสาวพี่น้องนี้ต่างก็รู้ใจกัน พวกนางจึงฉวยโอกาสนี้ลงมือ ถ้าฉื่อหยานตาย คนต่อไปที่จะถูกฆ่าจะต้องเป็นพวกนาง ดังนั้น พวกนางจึงลงมือกับนักรบอีกคนโดยไม่ลังเล

เมื่อพวกนางใช้วิชาน้ำแข็งที่นี่ ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยหิมะและน้ำแข็งมากมาย พลังของพวกนางจะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก การซุ่มโจมตีของพวกนางสามารถสร้างความกดดันให้แม้แต่กับแื่อหยาน

สามในหกนักรบที่โจมตี ฉื่อหยาน ก็ไม่สามารถช่วยได้ ที่จะหันหลังกลับแลรับมือกับน้ำแข็งที่พุ่งมาที่ต่อพวกเขา ส่วนอีกสามคนก็จัดการกับฉื่อหยาน

” หมอกพิษแมงป่อง !

สามนักรบของตระกูลหนิงก็สะบัดมือของพวกเขา ควันพิษสีเขียวก็ไหลทะลักออกมาอย่างรุนแรง ประกอบกับสานลมที่กระโชก ควันพิษก็ควบแน่นเป็นแมงป่องปรากฏขึ้นบนฟ้า แกว่งหางของมันในขณะที่ปล่อยกลิ่นฉุนออกมา

เมื่อพิษที่เกิดจาก หมอกรูปแมงป่องนี้เข้ามาใกล้ แม้แต่อากาศรอบๆก็สั่นสะท้านกลายเป็นของเหลวสีเขียวระเหย

ฉื่อหยานสีหน้ายังคงไม่เปลี่ยนไป แต่ดวงตาของเขาค่อย ๆ ส่องประกายขึ้นเรื่อยๆ โล่แสงทมิฬก็ปรากฏ

เขายกมือขึ้นเล็กน้อย มือซ้ายโบกในความว่างเปล่า หลายฝ่ามือพุ่งออกไป โล่แสงทมิฬเหมือนกรงเล็บของภูติผี คว้าหมอกพิษที่อัดแน่นกันเป็นร่างแทงป่อง แมงป่องขนาดใหญ่ก็ถูกแยกออกเป็นเศษเสี้ยวเล็กๆ มันถูกฉีกกระชากราวกับเป็นผ้าผืนหนึ่งกระจายไป

ฝ่ามือพันกร !

 

นี้เป็นวิชาที่เขาเรียนรู้จากเปลวเหมันเยือกแข็ง เช่นเดียวกับก้าวอัศนี มันเป็นวิชาที่ต้องใช้พลังปราณลึกลับ เมื่อเขากระตุ้น มัน มันก็จะปรากฏเป็นฝ้ามือนับพันรวมเข้าด้วยกัน เพียงเวลาสั้นๆ พื้นที่วางเปล่าก็กลายเป็นบิดเบี้ยวด้วยพลังที่แข็งแกร่ง ยิ่งพลังมากขึ้นเท่าใด พื้นที่ก็ยิ่งบิดเบี้ยวมากขึ้น

ทันทีที่หมอกพิษแมงป่องกระจายออกไป ฉื่อหยานก็บุกไปข้างหน้าโดยเปิดใช้พลังงานเชิงลบระเบิดออกมาในความว่างเปล่า พุ่งไปข้างหน้าราวกับไฟรามทุ่ง เล็งไปที่หนึ่งในนักรบนภาที่สองระดับนภา

” เจ้าอยากตายงั้รค ? “

นักรบคนนั้นก็ยิ้มอย่างเย็นชา โดยไม่ปรากฏร่องรอยความหวาดกลัวใดๆ กระดูกทั้งร่างกายของเขาสั่นเหมือนแมงป่องพิษ เขาบิดร่างของเขา และหมอกพิษสีเขียวก็ทะลักออกมาเป็นคลื่นลูกหนึ่งจากนิ่้วทั้งสิบของเขา อย่างมืดมิด อากาศหนาวเย็นก็ปกคลุมไปทั่วและครอบคลุมฉื่อหยาน

ฉื่อหยานใบหน้าและแขนขาของเขาก็ถูกหยุดนิ่ง ร่างกายของนักรบคนนั้นก็พุ่งเข้ามา

แกร๊กก แกร๊กก !

สิบนิ้วของผู้ชายคนนั้นก็บีบไปที่หัวของฉื่อหยาน, แต่ก็สามารถบดหลือบีบหัวของเขาได้

หลังจากนั้น ฉื่อหยานก็ซัดไปที่หน้าอกของนักรบคนนั้นด้วยพลังที่สามารถทลายภูเขาได้ทั้งลูก

ปัง !

ผู้ชายคนนั้นก็ระเบิดออก กระดูกทั่วร่างกายของเขาถูกทุบแตก กระดูกทิ่มแทงออกมาจากกล้ามเนื้อผิวหนัง ดูสยดสยองเป็นอย่างมาก

เขาดูถูกพลังที่แข็งแกร่งของร่างกายฉื่อหยาน หลังจากจิตวิญญานกายาแข็งได้กลายพันธุ์ , ฉื่อหยานเองก็เปรียบเสมือนกับเป็นภูเขาลูกเล็ก ถ้าเขาโจมตีออกไปด้วยพลังทั้งหมดของเขา เขาสามารถบดขยี้ทุกอย่างได้ง่ายๆ ชายที่โชคร้ายคิดไม่ถึงเลยว่า เขาต้องตกอยู่ในสภาพที่สยดสยองเช่นนี้

________________________

ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 30 แล้ว มีถึงตอนที่ 1413 แล้วจ้า ท่านใดสนใจ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลย > กดตรงนี้ <

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร
Status: Ongoing
อ่านนิยาย เทพเจ้าล่าสังหาร ฉื่อหยาน เป็นเด็กหนุ่มชื่นชอบกีฬาผาดโผน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการผจญภัยในหลุมฟ้าบาฮามาส ฉื่อหยานบังเอิญเดินทางผ่านเวลาและพื้นที่ จนไปกลายเป็นนายน้อยของตระกูลที่มีชื่อเสียง มีชื่อว่า ฉื่อหยาน ตอนนั้นเองคุณชายน้อยฉื่อหยานได้เสียชีวิตลลงที่ข้างบ่อเลือดพอดี และในระหว่างการผจญภัยสุดยอดกีฬาผาดโผน วิญญาณของเขาได้ถูกโอนเข้ามาของร่ายกายนายน้อย ฉื่อหยาน และได้รับแหวนวิเศษที่ถูกเรียกว่า ' แหวนสายโลหิต ' แหวนที่มีพลังลึกลับซึ่งทำให้ฉื่อหยาน เป็นนักฆ่า ความต้องการฆ่าของเขานั้นไร้สิ้นสุด ทุกอย่างทำเพื่อเพิ่มพลังอำนาจของเขาอย่างรวดเร็ว แต่ทุกครั้งหลังการฆ่า ความต้องการทางเพศก็จะตามมา . . . . . . .

Comment

Options

not work with dark mode
Reset