บทที่ 524 เข้าตาจน !
วิชาพิษเจ็ดสีได้กระจ่ายไปทั่ววังเจ้าเมือง มันส่งผลต่อทุกคนที่อยู่ที่นี่ . . . . . . . และ แม้แต่ฉื่อหยานเองก็ไม่มีข้อยกเว้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากจิตวิญญานกายาแข็งของเขาได้รับการกลายพันธ์ ร่างกายของเขาก็เต็มไปด้วยความสามารถแปลกๆ นอกจากนี้ จิตวิญญานอมตะที่ยิ่งใหญ่ของเขา ยังสามารถล้างพิษที่บุกเข้ามาในร่างของเขาได้ในพริบตา
ดังนั้น แม้ว่าพิษนี้จะได้ซึมเข้าสู่ร่างกายของเขา มันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อเขา เขาไม่ต้องกังวลว่า ร่างกายของเขาจะถูกกัดกร่อนสลาย
มีชายหนุ่มอีกคน ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากพิษ นั่นก็คือ ปาฉือตั้ง .
เขามีโลหิตพระเจ้าไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเขา หลังจากพิษเข้าไปในเส้นเลือดของเขา พลังของโลหิตพระเจ้าก็ระเหยพวกมันไปจนหมด ในกรณีของปาฉือตั้งนั้นดีกว่าฉื่อหยานเสียอีก เขาไม่รู้สึกถึงผลกระทบจากพิษใดๆในร่างกายเขาเลย
ในทางตรงกันข้าม แม้ว่าปิงชิงถง และหญิงสาวอีกสามคนจะมีระการบ่มเพาะที่สูง แต่พวกนางปราศจากพลังลึกลับเช่นปาฉือตั้งและฉื่อหยาน พวกนางจึงถูกพิษ ขณะที่พวกนางใช้ปฐพีเยือกท้องนภา พวกนางก็สามารถต่อต้านพิษในร่างได้บ้าง, แต่นั่นก็ทำให้พวกนางไม่สามารถใช้พลังออกมาได้อย่างเต็มที่ .
” เจ้าไม่ควรกระตุ้นพลังของเจ้าในตอนนี้ แค่ปกป้องตัวเองให้ดีก็พอ อย่าได้คิดทำเรื่องอื่น ” ฉื่อหยาน ถือดาบยักษ์ในมือของเขาแล้วบอกให้หญิงสาวทั้งสี่ใช้ปฐพีเยือกแข็งท้องนภา
อสูรล่าวิญญาน , ราชาแมลงอสูร และตัวไหมทองคำก็พุ่งไปที่ยู่หลี่หมิงอย่างดุร้าย ร่างยักษ์ของอสูรล่าวิญญานก็เปลี่ยนแปลงเป็นรูปแบบมนุษย์ ด้วยกรงเล็บที่แหลม เขาถือระฆังอสูรไว้ในมือ และมุ่งไปที่ยู่หลี่หมิงจากระยะไกล
ระลอกคลื่นขยายออกมาจากระฆังอสูร แรงกดดันที่หนักเท่าภูเขาก็กดทับลงมาที่ยู่หลี่หมิง
อยู่ที่ด้านหน้าของมัน , ยูหลี่หมิงก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่หนักเท่าภูเขา ทำให้เขาหนักอึ้งและช้าลง
หวือ !
ดาบยักษ์ฟันผ่านอากาศ ทำลายน้ำแข็งที่้เกาะอยู่รอบวังเจ้าเมือง เส้นโค้งแสงสีแดงยาวหลายสิบเมตรก็พุ่งทะลุไปที่ยู่หลี่หมิง
แกร๊กก แกร๊กก แกร๊กก !
ไม่ว่าที่ใดที่เส้นโค้งแสงผ่านไป ก้อนน้ำแข็งที่ปกคลุมอยู่ก็จะแตกกระจ่าย ไปในอากาศ
คมเสี้ยวที่แหลมนี้รุนแรงเป็นอย่างมาก มันทะลุผ่านทุกสิ่ง ทำลายอุปสรรคทั้งหมดที่ขวางทางมัน ในพริบตามันก็ไปถึงยู่หลีั่หมิง
หลายวันที่ผ่านมา ยู่หลี่หมิง ได้รับบาดเจ็บ และตอนนี้เขาต้องพยายามอย่างหนักเพื่อรับมือกับคมเสี้ยวสีแดง จากดาบซึ่งทำให้ใบหน้าของเขากลายเป็นบูดบึ้ง
” เฮ้ เจ้าหมาเฒ่า , เจ้ารู้แต่เพียงวิธีหลบงั้นรึ ?” ฉื่อหยานจ้องมองท้องฟ้าและ หัวเราะออกมาดังๆ ด้วยดาบลึกลับขนาดยักษ์ในมือของเขาทำให้เขาดูเหมือนปีศาจ . ดาบใหญ่ถูกฟันออกไป , ลำแสงสีเลือดยาวก็พุ่งออกไปเหมือนกับมังกรสีเลือด โดยมียู่หลี่หมิงเป็นเป้าหมาย
อสูรล่าวิญญานคำรามออกมา พลังปราณอสูนก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า , มันไหลเข้าไปในระฆังอสูรและเกิดเป็นเสียงดังก้องในสายลม ลำแสงอสูรก็กลายเป็นระคอกคลื่นชั้นๆพุ่งออกไปที่เขา
ราชาแมลงอสูรส่งเสียงร้องออกมา พลังแปลกๆก็มุ่งไปที่วิญญานของยู่หลี่หมิง ทำให้สั่นสะท้านอย่างรุนแรง สิ่งนี้สามารถหยุดการโคจรของพลังไว้ชั่วระยะหนึ่ง ทำให้เขาไม่สามารถปลดปล่อยที่สั่นสะเทือนท้องฟ้าและพื้นดินของนักรบนภาที่สามระดับพระเจ้าได้
สีเทา , สีดำ และ สีเขียวเข้ม หมอกพิษหลากสีเหล่านี้ก็ระเบิดออกมาจากยู่หลี่หมิง , โดยมีฉื่อหยานเป็นเป้าหมาย
ไม่ใช่แต่หมอกพิษเหล่านี้จะมีพิษเท่านั้น แต่เขายัดอัดแน่นพลังเข้าไปด้วย . นักรบธรรมดาไม่มีทางเลือก และทำได้เพียงหลบเลี่ยงเท่านั้น
” หึ ช่างน่าเสียดายนัก , สหาย วิชาพิษของเจ้าไม่ได้ผลกับข้า ข้าเหนือกว่าเจ้า! ” ฉื่อหยานยิ้มจนเห็นฟัน อย่างดุร้าย . กลุ่มก้อนเปลวไฟก็ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือ , พุ่งไปที่หมอกพิษและเผาเป็นเถ้าถ่าน
” เปลวไฟนภา “
ยู่หลี่หมิง สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เขาร้องออกมาด้วยความกลัว ในขณะที่หลบแสงสีเลือดอย่างยากลำบาก
” มาสิ ถ้าเจ้าอยากจะลองยาพิษของเข้า ข้าจะช่วยเผามันให้หมดเอง ” ฉื่อหยานขดริมฝีปากของเขา ดาบยักษ์ในมือของเขาฟันผ่านอากาศอีกครั้ง และสายฟ้าสีเลือดก็พุ่งออกไปที่ยู่หลี่หมิง
ยู่หลี่หมิงยังคงหลีกเลี่ยงมัน ใบหน้าของเขากลายเป็นมืดมนมากยิ่งขึ้น เขาไม่สามารถแม้แต่จะก่นด่าออกมาได้
ปิงชิงถง และหญิงสาวคนอื่น ดวงตาที่งดงามของพวกนางก็กระพริบ มองเขาด้วยสีหน้าตกใจ
ตอนนี้ , พวกนางรู้สึกสบายใจ พวกนางหยุดใช้พลังจากปฐพีเยือกแข็งท้องนภาและ มุ่งเน้นพยายามรับมือกับพิษเจ็ดสี
พวกนางทั้งหมดล้วนแต่เป็นนักรบระดับพระเจ้าและเมื่อพวกนางมุ่งความสามารถทั้งหมดเพื่อรับมือกับพิษ พวกนางก็สามารถสะกดมันได้ทันที
วิชาพิษเจ็ดสีนี้เป็นวิชาระยะกว้าง ดังนั้น พิษที่เข้าไปในร่างกายของพวกนางจึงไม่รุนแรงนัก ดังนั้นผลกระทบของมันจึงมีจำกัด
ภายใต้การสดกดพิษ พวกมันถูกขังอยู่ในมุมหนึ่งของร่างกายของพวกนางรอเวลาที่จะถูกชำระล้าง
หนิงตู้ฉวนเป็นยอดฝีมือที่เข้าใจวิชาเกียวกับพิษอย่างลึกซึ้ง ถ้าเขาปล่อยพิษออกมามากกว่านี้ ปิงชิงถงและคนอื่นคงมิอาจรับมือได้
อย่างไรก็ตาม หนิงตู้ฉวนนั้นกำลังรับมือกับการโจมตีที่รุนแรงของปาฉือตั้งและปีศาจสงคราม ขณะที่ทั้งสองร่วมมือกันโจมตีเขา หนิงตู้ฉวนก็พบกับความยากลำบาก
ในความเป็นจริง เขาและยูหลี่หมิงนั้นเหมือนกัน พวกเขาใช้พิษ และเข้าใจพวกมันเป็นอย่างดี ในสถานการณ์ทั่วไป นักรบที่ถูกพิษจะไม่สามารถต่อสู้ได้เต็มที่ และหลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็จะถูกทำร้ายอย่างรุนแรง เมื่อพิษกระจายไปทั่วในร่างกายของพวกเขา พวกเขาก็จะได้รับผลกระทบที่รุนแรง
อย่างไรก็ตาม ปาฉือตั้งและปีศาจสงครามนั้นสามารถรับมือกับพิษได้ พิษไม่สามารถใช้ได้กับพวกเขา พวกเขาสามารถใช้พลังที่ได้อย่างเต็มที่เพื่อรับมือกับหนิงตู้ฉวน
เมื่อฝึกฝนเทควิชาพิษ พวกเขาจะต้องใข้พลังปราณลึกลับกลั่นออกมาเป็นพิษ นี้หมายความกว่าพลังของเขาไม่แข็งแกร่งเหมือนนักรบทั่วไป ดังนั้น ความสามารถที่แท้จริงของเขาจึงน้อยกว่านักรบนภาที่สามระดับพระเจ้าทั่วไป และหากเจอกับศัตรูที่ใช้พลังได้เต็มที่ พวกเขาก็จะตกอยู่ในความยากลำบาก
สู้กับปาฉือตั้งและปีศาจสงครามในสถานะที่เสียเปรียบ ทำให้เขากังวล แต่ก็ไม่มีทางที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เช่นเดียวกัน ยู่หลี่หมิงก็กำลังตกอยู่ในสถาการณ์ที่ยากลำบากเช่นกัน
ก่อนที่จะมาที่นี่ เขาได้วางแผนไว้ว่า เขาจะต่อสู้ปีศาจสงครามและสัตว์อสูร และ ยู่หลี่หมิงก็จะเป็นคนฆ่าฉื่อหยาน
เขานั้นคิดว่า ฉื่อหยานเป็นเพียงนักรบระดับนภา ต่อให้เขามีพลังจากภายนอกมากมายที่ะสนับสนุนเขา แต่หากเขาต้องเผชิญหน้ากับยู่หลี่หมิง เขาจะต้องตกตายอย่างง่ายดายแน่นอน
ตราบใดที่ฉื่อหยานตาย ปีศาจสงครามและสัตว์อสูรก็จะสูญเสียเจ้านาย และพวกมันก็จะไม่กระทำสิ่งใดเพ่ื่อเขาอีก ถึงตอนนั้น เขาก็สามารถช่วงชิงชัยชนะมาได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ บางทีเขาอาจจะทำให้หุ่นสงครามและสัตว์อสูรเหล่านั้นเชื่องก็เป็นได้ ซึ่งนั่นจะเพิ่มความสามารถของเขาให้สูงขึ้นไปอีก
เขาได้คำนวณและวางแผนชั่วร้ายไว้แล้ว แต่เขาก็ดูถูกฉื่อหยานมากไป นอกจากนี้ ปาฉือตั้งยังปรากฏตัวขึ้นอีก ทั้งหมดนี้ได้เปลี่ยนสถานการณ์และทำให้เขาตกอยู่ในความยากลำบาก
” หึ นภาที่สามระดับพระเจ้าช่างธรรมดายิ่งนัก ” ฉื่อหยานพูดอย่างเย็นชาและเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม ” . จริงๆแล้ว เจ้าน่าจะมีพลังที่แข็งแกร่งกว่านี้ และวันนั้นเจ้าอาจจะทำอะไรได้บ้างก็ได้ แต่น่าเสียดาย มันสายเกินไป ! “
พลังของหนิงตู้ฉวนและยู่หลี่หมิง ในสายตาของเขานั้นอ่อนแอกว่าของนู่หลาง ชิหยานและโปวชุน
พวกเขาทั้งหมดสามเป็นนักรบนภาที่สามระดับพระเจ้าเช่นกัน แต่สองคนนี้ดูเหมือนว่าจะอ่อนแอกว่าพวกเขา . อย่างน้อย เมื่อชิหยานและโปวชุนต่อสู้กับปีศาจสงคราม พวกเขาก็ไม่ได้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากขนาดนี้
ภายใต้เขาคำด่าว่าเยาะเย้ยของเขา หนิงตู้ฉวนและยูหลี่หมิงก็ช่วยไม่ได้ที่จะโกรธเป็นอย่างมาก แต่พวกเขาก็ไม่มีพลังพอที่จะระบายมันออกมา สีหน้าของพวกเขาก็กลายเป็นดุร้าย
” พวกเจ้าต้องตาย พวกเจ้ารู้สึกเสียใจหรือไม่ ? พวกเจ้าหมดหวังแล้วหรือยัง ? ” ฉื่อหยานยังพูดยั่วพวกเขาอย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยถ้อยคำเยาะเย้ย จิตใจของพวกเขาก็ถูกรบกวน
ในเวลาเดียวกัน , ดาบดยักษ์ลึกลับในมือของเขาก็ไม่ได้หยุดฟาดฟัน คมเสี้ยวสีเลือดที่สามารถทำลายสิ่งมีชีวิตได้ทั้งปวงก็พุ่งออกไป โจมตีไปที่ยู่หลี่หมิง ทำให้เขากดดันมากยิ่งขึ้น
” โอ้ ! “
อสูรล่าวิญญานตะโกน แล้วปล่อยระฆังอสูร พลังปราณอสูรจากระฆังก็ระเบิดออกมาอย่างดุร้าย ขณะที่มันขยายปกคลุมทั่วท้องฟ้าและพุ่งไปที่ยู่หลี่หมิงอย่างกราดเกรี้ยว
ภายใต้ม่านแสงอสูรที่กดทับร่าง ร่างกายของยูหลี่หมิงก็งอในขณะทัี่เขาต้องการจะรวบรวมพลังอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ราชาแมลงอสูร ได้โจมตีเข้าไปในวิญญานของเขา ดังนั้นจึงทำให้เขายืนทื้ออยู่กลางอากาศ
คมเสี้ยวสีเลือดก็พุ่งเข้ามา พุ่งผ่านครึ่งร่างเอวของยู่หลี่หมิง ในขณะที่เลือดกระเซ็นไปทั่ว
ในขณะเดียวกัน ฉื่อหยานก็ นั่งลงไขว้ขา แสยะยิ้มและจากนั้นปล่อยวิญญานของเขาออกไป
หลังจากร่างของยู่หลี่หมิงถูกทำลาย วิญญาณของเขาก็ออกจากร่างพยายามที่จะหนีให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
ฉื่อหยานนั้นรอวิญญานเขาอยู่ ในทันทีที่วิญญานของยู่หลี่หมิงปรากฏขึ้น ฉื่อหยานก็เปิดดวงจาที่สามของเขา . . . . . . . กลุ่มเปลวไฟก็ลึกโชนขึ้นจากดวงตาของเขา และล้อมรอบวิญญานของยู่หลี่หมิง
ชี่… ชี่… ชี่…
เปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญานก็เผาวิญญานของยู่หลี่หมิง ทุกอย่างเกิดขึ้นในพริบตาและเขาก็ได้ถูกลบตัวตนออกไปจากโลกนี้อย่างสมบูรณ์
พลังปราณลึกลับในร่างกายของเขาก็ทะลักออกมาเหมือนน้ำ และเข้าไปยังจุดชีพจรของฉื่อหยาน
ฉื่อหยาน ก็ตกตะลึง เขารีบพาวิญญาณของเขากลับเข้าสู่ร่าง . . . . . . . นอกจากนี้ ด้วยพลังที่รุนแรงจากร่างกายของยูหลี่หมิง สีหน้าฉื่อหยานก็เปลี่ยนไปครั้งแรก
พลังปรารลึกลับของนักรบนภาที่สามระดับพระเจ้านั้นเขาไม่อาจดูถูกมันได้เลย มันมหาศาลเป็นอย่างมาก
เขานั้นเป็นเพียงนักรบระดับนภา เมื่อได้ดูดซับพลังที่มีปริมารมหาศาลเช่นนี้ เขาก็ไม่อาจรู้ได้ว่าจะมีสิ่งใดเกิดขึ้น บางที จุดชีพจรของเขาอาจจะระเบิดออกมาก็เป็นได้
ความเร็วในการดูดซับพลังปราณลึกลับจากคนตายของเขานั้นรวดเร็วจนอยู่เหนือจินตนาการของเขามาก เมื่อวิญญานของเขากลับมา เขาส่งคำสั่งให้อสูรล่าวิญญาน ราชาแมลงอสูรและตัวไหมทองคำปกป้องเขาทันที ตอนนี้ เส้นชีพจรของเขาปูดบวมเป็นอย่างมาก ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นนั้นมันเกินจะควบคุม และเกินกว่าที่เขาจะทนไหว ทำให้ใบหน้าของเขากลายเป็นบิดเบี้ยว เขาอยากจากไป แต่ก็รู้ว่ามันสายเกินไปแล้ว
เส้นสายพลังปราณลึกลับก็ไหลทะลัก , เข้าสู่ร่างกายผ่านเข้าไปที่จุดชีพจรและทำให้เขาสั่นสะท้านอย่างรุนแรง
เขาไม่สามารถเข้าร่วมการต่อสู้ได้อีก
เขานั่งอยู่อย่างไร้จุดหมายบนพื้นดิน ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว หายใจหอบเหมือนเขาอยู่ในสภาวะสับสน เขา ไม่อาจรู้ถึงสถานการณ์ปัจจุบันที่อยู่รอบๆ
” สลาย ! “
หนิงตู้ฉวนก็ตะโกนเสียงบาดหูออกมา . เลือดก็พุ่งออกมาจากปากของเขา เขาต่อยก้อนน้ำแข็งที่ครรอบคลุมท้องฟ้า และกลายเป็นเส้นแสง พุ่งหนีห่างออกไปจากเมืองจักพรรดิน้ำแข็งกลับไปยังทิศทางของตระกูลหนิง
เขาหนีไป…
เมื่อยู่หลี่หมิงตาย เขารู้ได้ทันทีว่าภารกิจล้มเหลวแล้ว โดยไม่ลังเลใด ๆ เขาตัดสินใจหนีออกจากเมืองจักพรรดิน้ำแข็งด้วยความเร็วสูงสุดโดยไม่ลังเล
เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะจ้องฉื่อหยาน เขาจึงไม่อาจรู้ได้ว่า ฉื่อหยานกำลังตกอยู่ในสถาวะที่อันตรายในขณะนี้
_______________________
ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 32 แล้ว มีถึงตอนที่ 1476แล้วครับ ผู้อ่านท่านใดสนใจอ่านต่อ กดอ่านรายละเอียดที่นี่เลยครับ > กดตรงนี้ <
