บทที่ 65 ความไม่สงบที่อยู่เบื้องหลัง
” หัวหน้าตระกูลโม่ เจ้าเห็นศิษย์ที่น่ารังเกียจของข้า การู หรือไม่ ? “
หลังจากเดินขึ้นไปที่หอคอยของตระกูลโม่ มู่ซุนก็ถามออกไปโดยตรง เสียงของเขาไม่ได้ดังนัก แต่ทุกคนในศิลาพระเจ้าก็สามารถได้ยินอย่างชัดเจน
ที่หอคอยของตระกูลโม่ โม่ตั่วตกอยู่ในความหวาดกลัว
เพราะคำถามตรงๆของมู่ชุนนั้นทำให้โม่ตั่วรู้สึกอับอายนัก จริงๆแล้วเขาต้องการที่จะพูดคุยกับมู่ชุนในเรื่องนี้เป็นการส่วนตัว แต่มูชุนกลับไม่ทำเช่นนั้นและถามออกมาโดยตรง
โม่ตั่วที่ถูกกดดันอย่างหนักก็ตอบออกมาเสียงดัง ” ท่านมู่ การูได้ตายไปนานแล้ว ข้าเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าใครเป็นคนสังหารเขา . “
มู่ชุนยืนหยิงพยองอยู่บนหอคอย เมื่อนักรบที่ด้านล่างของหอคอย ยกศีรษะของพวกเขาขึ้นไปมอง พวกเขาก็รู้ได้ทันทีเลยว่ามู่ชุนคิดเช่นไร
” ตายแล้วรึ ? “
มู่ชุนแสยะยิ้มและกล่าวประชด ” หัวหน้าตระกูลโม่ จริงๆแล้วเจ้าเป็นคนใช่หรือไม่ เจ้านั้นรู้ว่า เจ้าศิษย์ที่น่ารังเกียจได้ขโมยแผ่นที่ส่วนหนึ่งของข้ามา และเจ้าก็ได้ชวนมันให้เข้ามาในสมาคมการค้า และก็ฆ่ามันทิ้งเพื่อเอาแผนที่อีกส่วนไป และเมื่อเจ้าได้แผนที่ไปแล้ว เจ้าก็แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง ทำได้ดี หัวหน้าตระกูล ! ดี ! , ตระกูลเจ้าคิดจะหุบสมบัตไว้คนเดียวสินะ “
” ฮ่า ฮ่า ที่นี้ทุกท่านในสมาคมการค้าก็คงจะทราบแล้วว่าตระกูลโม่เป็นเช่นไร”
ที่อยู่บนหอคอยของตระกูลฉื่อ เป็นฉื่อเจี้ยนที่หัวเราะและก้มลงมอง ” นี่ยังไม่นับรวมสมบัติตระกูลฉื่อของข้านั้นถูกฉกฉวยไปด้วยวิธีเจ้าเลห์ของเจ้าอีกนะ”
” ฉื่อเจี้ยน ! ” อยู่ห่างไปสองร้อยเมตรโม่ตั่วจ้องไปที่ฉื่อเจี้ยนด้วยความโกรธ ” มันไม่ใช่ธุระอะไรของเจ้า ! เจ้าหยุดพูดไร้สาระได้แล้ว ! “
ฉื่อเจี้ยนไม่สนใจ และตอบกลับไป ” แน่นอนว่ามันไม่ใช่ธุระของข้า แต่ข้าแค่พูดความจริงเท่านั้น เจ้าอย่าได้โกรธข้าเลย ท่านหัวหน้าตระกูลโม่ ”
ข้างๆฉื่อเจี้ยน ,กำลังแอบยืนยิ้มอยู่ และเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าตาเฒ่าคนนี้เป็นคนน่าสนใจและเขาจะรู้วิธีซ้ำเดิมที่ดีมากเสียด้วย
มันไม่สามารถทำอะไรฉื่อเจี้ยนได้ โม่ตั่วได้เพียงแต่โกรธและยิ้มให้มู่ชุนอย่างสุภาพเรียบร้อยและอธิบาย ” ข้านั้นไม่รู้ว่า การู ได้ขโมยแผนที่สมบัติของท่านมา ในตอนที่เราได้เชิญเขาเข้ามาที่ตระกูล ข้าคิดว่า เพราะเขาเป็นศิษย์ของท่าน ข้าจึงสงคนไปเชิญเขามา นี่เป็นเรื่องจริง ตระกูลของข้าไม่รู้เรื่องอะไรเลย ! ท่านมู่ ท่านคงเข้าใจตระกูลข้าผิดไป”
” เข้าใจผิด ? ” หน้าของมู่ชุนกลายเป็นหมองค้ำ และเขาก็แสยะยิ้ม ” ตระกูลโม่ของเจ้าจะส่งมาเชิญมันจริงรึ หากมันไม่ได้ขโมยแผนที่ขุมทรัพย์มา ? หุบเขาสมุนไพรอยู่ห่างกับสมาคมการค้าเป็นพันไมล์ ใครจะเชื่อหละว่าเจ้าส่งคนเดินทางไกลเพื่อไปเชิญ การู ที่เป็นนักกลั่นสกัดเพียงแค่ระดับสอง ถ้าไม่ใช่เพื่อแผนที่ขุมทรัพย์เจ้าจะไปเชิญเขาจริงงั้นรึ ? หึ ! “
โม่ตั่วทำอะไรไม่ถูกและพยายามอธิบาย ” นั่น.. ย่อมเป็นเพราะความสามารถของเขาแน่นอน “
” หัวหน้าตระกูลโม่ ข้าไม่อยากฟังคำแก้ตัวอะไรของเจ้าอีก ข้าไม่สนใจหลอกว่าเจ้าการูมันจะตายไปหรือยัง ข้าแค่มาทสงแผนที่ขุมทรัพย์ของข้าคืน เมื่อข้าได้คืนแล้วข้าจะจากไปทันที และจะไม่สร้างปัญหาใดๆให้กับเจ้าอีก . ” มู่ชุนกลายเป็นใจร้อน
” แผนที่สมบัตินั้นไม่ได้อยู่กับข้า “
” ในฐานะที่เจ้าเป็นหัวหน้าตระกูลโม่ และไม่อยากจะคืนแผนที่มาให้กับข้า ข้าก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก ” มู่ชุนถอนหายใจออกมา และเดินก้าวไปข้างหน้า จากนั้นเขาพูดอย่างเย็นชา ” ถึงแม้พวกเราหุบเขาสมุนไพร จะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการต่อสู้ละหว่างตระกูลต่างๆ แต่เราก็ยอมไม่ได้หากมีคนมากลั่นแกล้งเรา เช่นพวกตระกูลโม่ นี่จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับพวกเจ้า ” .
เมื่อมู่ชุนพูดจบและกำลังเดินลงจากหอคอยพร้อมกับคนของเขา
” ท่านมู่ ตระกูลฉื่อของเรายินดีต้อนรับท่านเสมอ เรารู้ว่าที่ท่านพูดหมายถึงสิ่งใด . . . ” เสียงของ ฉื่อเจี้ยน ดังมาจากหอของเขา คำพูดที่เขาพูดแทรดขึ้นมานั้นทุกคนที่ได้ยินก็สามารถเข้าใจได้ทันที
หลังจากที่ลงมาจากหอคอยตระกูลโม่ มู่ชุนก็จ้องไปที่ฉื่อเจี้ยนและพยักหน้าให้ ” ข้าเชื่อว่าจะต้องมีโอกาสที่เราได้ร่วมมือกันแน่ และโปรดอย่าปฏิเสธข้า หากข้าได้ไปขอความร่วมมือจากตระกูลฉื่ิ “
” หึหึ ข้า , ฉื่อเจี้ยน , เกลียดคนที่ชอบรังแกผู้อื่นยิ่งนัก . มันเป็นเกียรติอย่างมากหากข้าได้ร่วมมือกับท่านมู่ ” ฉื่อเจี้ยน หัวเราะและพูดออกไป
” ขอบคุณหัวหน้าตระกูลฉื่อ ” มู่ชุนพยักหน้าและมองขึ้นไปที่โม่ตั่วด้วยความเย็นชา และความรังเกลียด จากนั้นเขาก็จากศิลาพระเจ้าไปพร้อมกับคนของเขา
เมื่อสักครู่ในศิลาพระเจ้า การประลองนั้นได้หยุดลงชั่วหนึ่ง หลังจากที่มู่ชุนจากไปแล้วมันจึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง
งานประลองในวันนี้กลายเป็นน่าสนใจมากขึ้นหลังจากที่มู่ชุนมา
และหลังจากที่มู่ชุนจากไป ผู้คนก็เริ่มคุยเสียงดังเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ส่วนใหญ่มักจะเป็นคำดูหมิ่นเกลียดชังที่คนส่วนใหญ่พูดถึงตระกูลโม่
บรรดาผู้คนที่เข้าร่วมกับตระกูลโม่ก่อนหน้านี้พวก้ขาก็เกิดเปลี่ยนใจทันที ส่งผลให้ตระกูลโม่ต้องสูญเสียยอดฝีมือมากมายไป
กู่ลั่ว ผู้จัดการของศาลาหมอกนั้นยังคงอยู่ในงานประลอง และเขาเห็นถึงความขัดแย้งทั้งหมดระหว่าง มู่ชุนและโม่ตั่ว .
ก่อนที่การประลองจะจบลง กู่ลั่ว ก็แอบกลับไปที่ศาลาหมอกซึ่งอยู่ไม่ไกลจากงานประลองทันที
. . . . .
พลบค่ำ
ในห้องที่เงียบสงบของศาลาหมอก กู่ลั่วโค้งคำนับและเริ่มอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้เซี่ยซินหยานฟัง .
หลังจากที่่กู่ลั่วพูดจบ เซี่ยซินหยานก็ขมวดคิ้วและคิดสักพัก จากนั้นจึงกล่าวว่า ” จากคำพูดของมู่ชุ ชิ้นส่วนแผ่นที่อีกส่วนคงต้องอยู่กับตระกูลโม่แน่นอน . ข้ามาที่นี่ก็เพื่อประตูนภา และข้าก็ไม่สนใจว่าต้องจะร่วมมือกับใคร กู่ลั่ว คืนนี้เราจะไปที่ตระกูลโม่กัน เราจะไปบอกพวกเขาว่า เราสามารถให้แผนอีกส่วนแก่พวกเขาและสามารถร่วมมือกันหาประตูนภาได้
” เข้าใจแล้ว ” กู่ลั่วพยักหน้า
” ราชาอสูร เสี่ยวหานยี่ จะมาถึงในอีกครึ่งเดือน แต่ตอนนี้ข้ายังไม่สามารถหาเด็กทารกนั้นได้พบ ตอนนี้เราต้องเร่งมือแล้ว ” เซี่ยซินหยาน พูดเรียบๆ
” ข้าจะทำให้ดีที่สุด ” กู่ลั่วแสดงความหวาดหวั่นออกมา และเขาก็ตอบกลับ ” ข้าจะส่งคนไปหาที่แคว้นอื่นๆ ข้าเชื่อว่าเราจะพบเขาในเร็ว ๆนี้แน่นอน . “
” ดี ไปจัดการสะ ! ” เซี่ยซินหยาน โบกมือของเธอ
จากนั้นกู่ลั่ว ก็จากไป
. . . . .
ในคืนนั้น
กู่ลั่ว ได้ไปเยี่ยมตระกูลโม่เพียงคนเดียว และได้ขอพบโม่ตั่วเป็นการส่วนตัว .
โม่ตั่วยังคงรู้สึกโกรธเกี้ยว แต่เมื่อเขารู้ว่ากู่ลั่วมาได้มาพบเขา เขาก็ต้องเก็บความโกรธนั้นไว้ หลังจากที่กู่ลั่วมาถึงเขาก็พูดถึงจุดประสงค์ของเขาทันที โม่ตั่วส่ายศีรษะพร้อมกับยิ้มอย่างขมขื่น ” แผนที่สมบัติแท้จริงแล้วไม่ได้ในมือข้า ข้าสามารถให้อะไรท่านก็ได้ เพื่อที่จะได้รับความร่วมมือจากท่าน .
” หัวหน้าตระกูลโม่ นายท่านของข้านั้นต้องการร่วมมือกับเจ้าเพื่อ เปิดประตูนภา แต่เรานั้นต้องการแผนที่ที่สมบูรณ์ หากท่านให้ความร่วมมือ เราก็จะสามารถทำมันได้ ท่านโปรดคิดให้ดี ! ” เห็นได้ชัดว่ากู่ลั่วนั้นไม่เชื่อคำพูดของโม่ตั่ว สีหน้าเขาจริงจัง และเขาก็เดาว่าโม่ตั่วอาจมีแผนบางอย่างที่ศาลาหมอก เขาจึงรู้สึกโมโหเล็กน้อย
” มันไม่ได้อยู่กับข้าจริงๆ ท่านอย่าได้หลงเชื่อคำพูดของมู่ชุน ” โม่ตั่วดูไม่มีความสุขอย่างมาก เขาพูดอย่างหงุดหงิด ” ท่านออกไปเถอะกู่ลั่ว . ข้าต้องเตรียมตัวสำหรับการประลองในวันพรุ้งนี้ ข้าขอตัวก่อน “
. . . . .
ตอนเที่ยงคืน กู่ลั่ว ก็กลับมาที่ศาลาหมอกและบอกสิ่งพูดคุยกับโม่ตั่วแกเซี่ยซินหยาน .
” มีแผนที่อยู่ด้วยกันสองส่วน และส่วนหนึ่งก็อยู่กับข้า ตระกูลโม่ไม่ต้องการร่วมมือกับเรา แปลว่าพวกมันต้องการที่จะครอบครองแผนที่นั้นไว้เพียงคนเดียว ข้าเดาว่าตระกูลโม่จะดำเนินการในเร็วๆ นี้แน่ ” สายตาของเซี่ยซินหยานกลายเป็นเย็นชาและ เธอก็กล่าว ” พวกเขาไม่ต้องการร่วมมือกับเรา และต้องการที่จะขโมยมัน สงสัยเราต้องสอนบทเรียนให้พวกมันเสียหน่อยแล้ว . “
” คุณหนู จะให้ข้าไปขโมยแผนที่อีกส่วนจากตระกูลโม่หรือไม่ ?” ชายร่างใหญ่คนหนึ่งที่อยู่ด้านหลัง เซี่ยซินหยานถามขึ้น
ปรากฏเป็นจิตสังหารออกมามาจากมากผู้ชายคนนั้น มันดูน่ากลัวเป็นอย่างท่ก
” ไม่เป็นไร อย่างไรสะ ที่นี่ก็ไม่ใช่ที่แคว้นของเรา หากเราไม่ทำตามกฎ ของตระกูลใหญ่ทั้งห้าในสมาคมการค้าหละก็ เราคงจะอยู่กันลำบากมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อราชาอสูร เสี่ยวหยานยี่ มาถึงและตระกูลโม่ยังไม่คิดจะเปลี่ยนใจ เราก็จะลงมือทันที . ” เซี่ยซินหยาน พูดออกมาอย่างเรียบเฉย
” ขอรับ ” ชายร่างใหญ่พยักหน้าและไม่พูดอะไรอีก
” กู่ลั่ว ข้ามีเรื่องให้เจาทำ เจ้าออกไปป่าวประกาศว่าข้านั้นได้ครอบครองแผนที่อีกส่วนสะ และจากนั้นข้าก็จะรอดูว่า ” เซี่ยซินหยาน ยิ้ม ” ใครจะเป็นคนมาขโมยแผนที่อีกส่วน . “
” เข้าใจแล้ว “
. . . . .
ตกดึก ณ ตระกูลซั่ว
ซั่วชู และ ชิเสี่ยว กำลังคุยกันในอยู่ห้องลับด้วยเสียงเบาๆ
” มีข่าวมาว่าแผนที่อีกส่วนตอนนี้ไม่ได้อยู่กับกู่ลั่วแล้ส แต่อยูาในมือของหญิงสาวคนหนึ่งในศาลาหมอก น่าแปลกที่จู่ ๆ หญิงสาวคนนั้นก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างกระทันหัน และไม่มีใครรู้เลยว่านางเป็นใคร ” ซั่วชู กล่าว
” รอจนถึงวันสุดท้ายเสียก่อน ข้าจะเป็นคนไปที่ศาลาหมอกในระหว่างการประลองของตระกูลใหญ่ทั้งห้าเอง . นางก็แค่เด็กสาว ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ” ชิเสี่ยวพยักหน้าและยิ้มอย่างขมขื่น ” น่าเสียดายที่จะต้องลงมือกับเด็กสาว แต่คงไม่เป็นไร ข้าจะมอบสมบัตของข้าหนึ่งหรือสองชิ้นให้แก่นาง เพื่อเป็นการตอบแทน “
” แต่เจ้าต้องจำไว้ ! อย่าได้เปิดเผยตัวเองเด็ดขาด แผนที่นั้นได้รับการดึงดูดความสนใจเป็นอย่างมาก มันจะสร้างปัญหาขึ้นได้หากเจ้าเปิดเผยตัวเอง”
” จกลง ข้าเข้าใจแล้ว “
. . . . .
คืนนั้นในห้องลับของตระกูลทั้งห้า หลายคนต่างก็พูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเวลากลางวัน
ในห้องลับของตระกูลฉื่อ
เป็นฉื่อเจี้ยนทำกำลังถือจดหมาย พร้อมกับรอยยิ้มแปลก ๆ และหันไปพูดกับฮันเฟิงที่อยู่ข้างๆเขา ” มู่ชุ่นนั้นดำเนินการได้รวดเร็วมาก ถึงขนาดส่งจดหมายมาในวันเดียว หึหึ ตอนนี้มู่ชุนคิดจะทำบางอย่างกับตระกูลโม่ และเราเองก็จช่วยเขาอย่างลับๆ อย่างไม่เปิดเผย”
” มู่ชุน เขามีแผนอะไรรึ ? “
” เขาต้องการที่จะลักพาตัวใครบางคนในตระกูลโม่เพื่อคุกคามโม่ตั่ว . หึหึ เขาต้องการที่จะสอนบทเรียนให้แก่โม่ตั่วเท่านั้น ” ฉื่อเจี้ยน รู้สึกสนุกสนานเป็นอย่างมาก ” น้องเฟิง ส่งคนของเราไปบอกเส้นทางแก่มู่ชุนสะ ฮ่าๆ ข้ารู้สึกตื่นเต้นนัก อยากจะรู้จริงๆเจ้าโม่ตั่วจะตอบสนองเช่นไร . “
แผนที่อีกส่วนที่การูขโมยมา ตอนนี้อยู่ใต้เสื้อตรงหน้าอกของเขา ดังนั้นเขาจึงมั่นใว่าโม่ตั่วจะต้องไม่มีแผนที่คืนให้แก่มู่ชุนแน่นอน และตัวประกันจากตระกูลโม่จะต้อง ตกตายแน่ๆ
เมื่อจินตนาถึงใบหน้าที่โกรธเกรี้ยวของโม่ตั่ว ฉื่อเจี้ยนก็หัวเราะขึ้นมา เขาพูดพร้อมกับยิ้มกว้างๆ ” ไปเอาเหล้ามา ข้าต้องการจะดื่มมันเสียหน่อย ” .
” ท่านหัวหน้าตระกูล สุราชั้นเลิศคุณชายหยานได้ดื่มไปหมดแล้ว ในตอนนี้ ทั้งหมดเหลือเพียงสุราธรรมดาเท่านั้น ” ฮันเฟิงก้มหัวลง และปรากฏเป็นยิ้มตื้นอยู่หน้าเขา
” เจ้าสารเลวนั้น ! ” ฉื่อเจียนตบไปที่ขาและสาปแช่งในเสียงหัวเราะ ” หึหึ มันช่างกล้าจริงๆ ! มันกล้าดื่มสุราของข้าได้ไง ถ้ามันไม่ชนะการประลองหละก็ ข้าจะฉีกผิวหนังของมันออกมาคอยดู ”
” ด้วยจิตวิญญานกายาแข็งในขั้นที่สอง ไม่มีนักรบในระดับก่อตั้่งคนไหนสามารถเอาชนะเขาได้ มันเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว ที่คุณชายหยานจะต้องชนะในการประลองครั้งนี้ ! “
” ก็จริงอย่างที่เจ้าพูด ” ฉื่อเจี้ยน หัวเราะเสียงดังอย่างมีความสุข