เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส – ตอนที่ 6: สำนึกผิด

 
นี่คือกล่องอาหารกลางวันที่โม่ชืออวิ้นให้เจี่ยนหยุ่นน่าวกิน เจี่ยนหยุ่นน่าวไม่อยากอาหารและได้กินไปเพียงเล็กน้อยและมีมากกว่าครึ่งที่เหลืออยู่ในกล่องอาหาร
เขาเคลื่อนไหวเร็วเก็นไปและคนที่เหลืออีกสามคนในห้องไม่มีโอกาสที่จะหยุดยั้งเขา
กล่องพลาสติกใส่อาหารโดนหัวเจี่ยนอีหลิง และอาหารก็กระเด็นจากหัวไปจนถึงเท้า
“เซียวหลิง” เวินน่วนร้องลั่นและรีบวิ่งมาหา
ถ้าเป็นเจี่ยนอีหลิงคนก่อนประสบกับเหตุการณ์เช่นนี้ เธอคงส่งเสียงดังและแสดงความฉุนเฉียวออกมา
แต่ตอนนี้เจี่ยนอีหลิงเพียงแค่อดทนอยู่อย่างเงียบๆ โดยไม่ปริปากอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว
“หนูไม่เป็นไร” เจี่ยนอีหลิงปาดรอยเปื้อนบนใบหน้าด้วยหลังมือ
ไม่บ่น ไม่กล่าวโทษใคร และไม่ขุ่นหมองใจ
เพียงแค่ยอมรับมันไว้อย่างเงียบๆ
“เป็นยังไง เธอรู้สึกผิดหรือยัง ฉันเพียงแค่ตีเธอครั้งเดียวเธอก็ทนไม่ได้แล้วเรอะ”
เจี่ยนหยุ่นน่าวส่งเสียงประชดประชันออกมาเมื่อเห็นแม่ของตนเองกระวนกระวาย อารมณ์ของเขายิ่งเลวร้ายลงไปกว่าเดิม
มือของเวินน่วนหยุดชะงัก
ระหว่างเด็กที่ได้รับบาดเจ็บทั้งสองคน เธอไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีไปชั่วขณะ
อ่านเรื่องนี้ที่ mynovel.co หรือ www.thai-novel.com ด้วยนะคะ ผู้แปลจะได้มีกำลังใจแปลต่อ
บรรยากาศในหอผู้ป่วยหม่นหมองและเคร่งเครียดไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง
เจี่ยนอีหลิงกล่าวว่า “หนู ไปห้องน้ำ”
เจี่ยนอีหลิงหันกายออกจากหอพักผู้ป่วย เธอไม่อยากสร้างความลำบากใจให้กับพ่อแม่ของเธอ
เวินน่วนมองดูด้านหลังร่างที่ตกอยู่ในสภาพลำบากของเจี่ยนอีหลิง หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความเสียใจ แต่เธอรู้ว่าเธอต้องทำใจแข็ง
หลังจากที่ทำความสะอาดอย่างลวกๆในห้องน้ำแล้ว เจี่ยนอีหลิงก็กลับมาที่ประตูหอผู้ป่วยตามลำพัง
เวินน่วนอยู่ที่ประตูรอคอยอยู่ เมื่อเห็นเจี่ยนอีหลิงกลับมา เธอก็รู้สึกอบอุ่น เศร้า และเสียใจ ไม่รู้ว่าเธอควรจะพูดอะไรกับเจี่ยนอีหลิง
“หนูรออยู่ด้านนอก” เจี่ยนอีหลิงพูด
เวินน่วนมองลงไปที่เธอ ลังเลเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “ก็ได้ แม่เข้าไปด้านในก่อน ลูกรอแม่ด้านนอกนะ อย่าไปไหน”
เวินน่วนกลับเข้าไปในหอผู้ป่วย ครอบครัวพากันเปลี่ยนหัวข้อพูดคุย บรรยากาศดีขึ้นและค่อยๆคลี่คลายลงอย่างกลมกลืน
เจี่ยนหยุ่นน่าวยังคงดูสิ้นหวัง แต่เขาก็ไม่ได้ต่อต้านมากนักเมื่อได้รับความรักเอาใจใส่จากพ่อแม่ของเขา
เจี่ยนอีหลิงมองไปยังภาพความกลมกลืนของครอบครัวผ่านช่องว่างด้านนอกประตู
เจี่ยนอีหลิงรู้ว่าถ้าเธอเข้าไปในตอนนี้ เธอก็จะทำลายภาพฉากนี้อย่างยับเยิน
หลังจากที่อยู่ในนั้นเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง เวินน่วนก็ขอให้สามีของเธอพาลูกสาวกลับบ้านก่อน ในขณะที่เธอต้องอยู่ดูแลเจี่ยนหยุ่นน่าว
ลูกของเธอบาดเจ็บที่มือและต้องการคนที่จะอยู่เคียงข้างเขามากที่สุดในเวลานี้
เจี่ยนชูฉิงไม่ได้โต้แย้ง ดังนั้นเขาจึงพาเจี่ยนหยุ่นเฉิงและเจี่ยนอีหลิงกลับไปยังบ้านตระกูลเจี่ยน
ระหว่างที่อยู่ในรถขณะกลับบ้าน เจี่ยนหยุ่นเฉิงนั่งอยู่ตรงที่นั่งคนขับในขณะที่เจี่ยนอีหลิงและพ่อของเขาเจี่ยนชูฉิงนั่งอยู่ด้านหลัง
“พี่จะช่วยน้องลาหยุดโรงเรียนหนึ่งอาทิตย์ ระหว่างช่วงเวลานี้ น้องต้องสำนึกผิดเรื่องนี้”
เป็นเจี่ยนหยุ่นเฉิงที่นั่งอยู่ด้านหน้าเธอพูดขึ้น เห็นชัดว่าเขามีความเป็นปฏิปักษ์ต่อเจี่ยนอีหลิง
เจี่ยนชูฉิงเห็นว่าเจี่ยนหยุ่นเฉิงมีท่าทีแข็งกร้าวต่อเจี่ยนอีหลิง จึงกล่าวว่า “หยุ่นเฉิง อีหลิงเพิ่งเข้ามัธยมปลายในตอนนี้ คงไม่ดีที่จะขอลาหยุดหนึ่งอาทิตย์”
“เทียบกับการเล่าเรียนแล้ว สิ่งที่เธอจะต้องทำเป็นอันดับแรกก็คือเรียนรู้การเป็นผู้เป็นคน พ่อ อย่าลืมสิ่งที่พ่อกับแม่เพิ่งสัญญากับผม” เจี่ยนหยุ่นเฉินเตือน
ไม่นานก่อนหน้านี้ เจี่ยนชูฉิงได้ตกลงกับเจี่ยนหยุ่นเฉิงต่อหน้าเจี่ยนหยุ่นน่าวว่าหลังจากที่กลับบ้านแล้ว เขาจะเข้มงวดกับลูกสาว เขาไม่คาดคิดว่าตนเองจะปกป้องเธอตามสัญชาตญาณก่อนที่จะไปถึงบ้านตนเองด้วยซ้ำ
เจี่ยนชูฉิงก็ไม่รู้จะทำอะไรเช่นกัน เขาทะนุถนอมลูกสาวคนนี้มาสิบห้าปีแล้ว การเปลี่ยนทัศนคติอย่างกระทันหันนั้นเป็นเรื่องที่ยากลำบาก
อย่างไรก็ตามเมื่อคิดถึงลูกชายคนที่สามที่อยู่ในโรงพยาบาลในตอนนี้แล้ว เจี่ยนชูฉิงก็บังคับตนเองให้รักษาสีหน้าจริงจังเอาไว้

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

อ่านนิยาย 大妇 เธอเปลี่ยนปเป็นบอส เรียกว่าใกล้ถึงจุดไคล์แมกซ์แล้วนะครับ ผมละอยากจะ เรียกมันว่าจบภาค 1 เสียด้วยซ้ำไป เสียดายที่ทางต้นฉบับไม่มีภาคหนึ่ง ภาคสอง ขอสปอยล์นิดๆนะว่า พอผ่านช่วงนี้ไป จากอายุ 14 ย่าง 15 นางเอกของเราก็จะกระโดดไป เริ่มกันที่อายุ 18 เลยนะครับ และตอนนั้น ความหวานแหววคู่พระคู่นางก็จะเริ่มมาให้เห็นมากขึ้น เรื่อยๆ อาาาา อดใจติดตามกันต่อไปนะครับ แล้วก็ระวังรักษาตัวเองให้พ้นจากภัยโควิดทุกๆคนนะ ครับ ผมจะแปลงานออกมาเรื่อยๆเป็นเพื่อนแก้เหงายามไม่มีอะไรทำนะครับ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset