เจี่ยนอีหลิงพูดเพียงแค่ตัวเลข
เหอเยี่ยนรีบให้คำสัญญา “ตกลง ได้ ได้ อายอมรับ อายอมรับทุกอย่าง อาสัญญา”
เหอเยี่ยนไม่ต้องการที่จะยอมรับคำขอของเจี่ยนอีหลิงแม้แต่เพียงข้อเดียว
แต่เธอไม่มีทางเลือกในตอนนี้
“อาสัญญาเธอแล้วตอนนี้ เธอให้ของกับอาได้หรือยัง”
“ถ้าไม่รักษาสัญญา ของจะถูกประกาศได้ทุกเมื่อ”
“เธอ…”
“อีกอย่าง” เจี่ยนอีหลิงมองไปยังพื้นราบเรียบของบ้านของเหอเยี่ยนด้วยสายตาจริงจัง ราวกับคิดถึงอะไรบางอย่าง “พื้นลื่น คุณหกล้ม”
“เธอพูดถึงเรื่องอะไรกัน”
“พื้นลื่น คุณหกล้ม”
เจี่ยนอีหลิงพูดย้ำ จากนั้นก็ตรงเข้าไปหยิบไม้กอล์ฟที่อยู่ข้างโซฟา
นี่เป็นของของอารองผู้ชายของเจี่ยนอีหลิง อารองของเธอมีนิสัยชอบเล่นกอล์ฟยามเมื่อเขาว่าง
เมื่อเห็นเจี่ยนอีหลิงเดินมาหาเธอพร้อมกับไม้กอล์ฟ แก้วตาเหอเยี่ยนก็พลันขยายขึ้น
เด็กหญิงที่มีภาพลักษณ์ผอมและอ่อนแอ กลับดูแข็งแกร่งขณะที่ถือไม้ตีกอล์ฟ
“เจี่ยนอีหลิง อย่าเข้ามานะ”
ไม่กอล์ฟสามารถฆ่าคนได้
“ยืนนิ่ง อย่าขยับ”
เจี่ยนอีหลิงสั่งเหอเยี่ยน
ถ้าเธอขยับ เธอต้องรับผลที่ตามมาด้วยตนเอง
“เจี่ยนอีหลิง เธอบ้าไปแล้วเหรอ”
“อย่าขยับ ฉันจะตีไม่แม่น” เจี่ยนอีหลิงเตือนเหอเยี่ยนอย่างจริงจัง
มีหลายส่วนของร่างกายที่เปราะบางมาก และหากเหอเยี่ยนไม่เชื่อฟังอาจจะเป็นเหตุให้เจี่ยนอีหลิงตีพลาดได้
“เจี่ยนอีหลิง อย่าเข้ามานะ เจี่ยนอีหลิง…”
สุดท้ายดวงตาของเหอเยี่ยนก็เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก…
“อา….”
เสียงกรีดร้องดังออกมาจากบ้านของเหอเยี่ยน…
แต่บ้านเดี่ยวหลังนี้มีระบบเก็บเสียงที่มีประสิทธิภาพดีมาก เสียงที่เล็ดลอดออกมาจนถึงสนามหน้าบ้านก็แทบจะไม่เหลือแล้ว
ไม่มีใครรู้ว่านายหญิงผู้สูงศักดิ์ในบ้านหลังนี้กำลังทุกข์ทรมาน
###
ที่ประตูบ้านของเหอเยี่ยน หยูซียืนพิงรถรอคอยอย่างกระวนกระวาย
วันนี้เขาพลันได้รับโทรศัพท์จากเจี่ยนอีหลิง ขอให้เขาช่วยรับเธอไปยังที่แห่งหนึ่ง
หยูซีออกมาโดยไม่พูดอะไรสักคำ
เมื่อเขาออกมานายท่านเซิ่งก็นั่งติดรถมาด้วย
หยูซีไม่กล้ากล่าวมากความ
เขารับเจี่ยนอีหลิงที่ข้างถนน
เจี่ยนอีหลิงขอเขาให้พาเธอมาที่นี่ เขาก็ไม่รู้ว่าเธอจะทำอะไร
เขาต้องการที่จะเข้าไปข้างในกับเธอ
แต่เธอนั้นพูดด้วยยากและปฏิเสธข้อเสนอของเขาไม่ยอมให้ใครติดตามเธอไป ไม่ว่าจะเป็นเขาหรือจ๋ายหวินเชิ่ง
หยูซีคิดว่าเจี่ยนอีหลิงนั้นไปที่บ้านของอารอง ตามหลักการแล้วไม่น่ามีอะไรที่ต้องเป็นห่วง
แต่ไม่รู้ว่าทำไมหยูซีเกิดความรู้สึกว่าสถานการณ์ในวันนี้นั้นไม่ค่อยถูกต้อง
การรอคอยนั้นเป็นเรื่องที่น่ากระวนกระวาย และหยูซีก็อดไม่ได้ที่จะเดินวนไปเวียนมา
หลังจากที่ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง เจี่ยนอีหลิงก็กลับออกมาจากบ้านเหอเยี่ยน
เธอเข้าไปนั่งที่เบาะหลังอย่างใจเย็น
จ๋ายหวินเชิ่งนั้นนั่งอยู่ถัดจากเธอ เขาเอนกายอยู่บนที่นั่ง หลับตาพริ้ม ดูผ่อนคลายมากกว่าหยูซีมากนัก
หลังจากที่เจี่ยนอีหลิงขึ้นไปบนรถ ตาของจ๋ายหวินเชิ่งที่หลับพริ้มอยู่ก็เผยช่องว่างและเหลือบมองไปยังเจี่ยนอีหลิง
หยูซีนั่งอยู่ที่นั่งคนขับ เขายิ้มและถามจ๋ายหวินเชิ่งกับเจี่ยนอีหลิงที่นั่งอยู่เบาะหลัง
“พวกเราจะไปไหนกันในตอนนี้”
จ๋ายหวินเชิ่งไม่ได้พูดแต่รอให้เจี่ยนอีหลิงเป็นคนให้คำตอบ
เจี่ยนอีหลิงยังไม่ทันได้พูด ทันใดนั้นดวงตาเธอก็มืดลง และทั้งตัวของเธอก็ล้มลง
จ๋ายหวินเชิ่งคว้าตัวเจี่ยนอีหลิงไว้
เมื่อสัมผัสหน้าผากของเจี่ยนอีหลิง ก็พบว่ามันร้อนผ่าว
เจี่ยนอีหลิงวิ่งออกจากโรงพยาบาลก่อนที่ลำไส้อักเสบจะทันได้รักษาหายขาด หลังจากที่วิ่งไปวิ่งมาตลอดเส้นทาง อาการอักเสบก็ทำให้เธอมีไข้สูง
“เกิดอะไรขึ้น” หยูซีดูกระวนกระวาย
“ขับรถเร็ว ไปโรงพยาบาล” จ๋ายหวินเชิ่งสั่งหยูซี