เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส – ตอนที่ 174

 

ปู่เจี่ยนและย่าเจี่ยนค่อนข้างจะเงียบสงบและแยกตัวออกเป็นอีกกลุ่มหนึ่ง

 

เจี่ยนหยุ่นเฉิงถูกทิ้งไว้ตามลำพัง โดยมีดวงตาคู่นั้นที่เต็มไปด้วยความเย็นชาและอันตรายคอยจ้องมองไปยังน้องสาวกับลูกพี่ลูกน้องของตนเองอย่างไม่รู้สึกตัว

 

ถ้าเหอเยี่ยนเห็นเขาเป็นแบบนี้ เธอต้องแอบดีอกดีใจไปหลายวัน

 

หลังจากทานอาหารเสร็จแล้วเจี่ยนอีหลิงก็ยังไม่ให้ความสนใจเจี่ยนหยุ่นเฉิง และเมื่อจิตใจของเธอมัวมุ่งมั่นอยู่กับการทำงาน เจี่ยนอีหลิงจึงตรงไปยังห้องทำงาน

 

เจี่ยนอีหลิงไม่ได้คิดอะไรทั้งสิ้น พวกเขาคุ้นเคยกับการกระทำแบบนี้ พวกเขาจะยุ่งอยู่กับธุระการงานของตนเองหลังจากทานอาหาร

 

เจี่ยนหยู่เจี๋ยก็ตามเธอไปเช่นเดียวกัน เขาเอาการบ้านของเขามาทำที่นี่ทั้งหมด

 

พี่น้องสองคนตรงไปที่ห้องทำงานเพื่อทำธุระของตนเองด้วยกัน

 

เจี่ยนหยุ่นเฉิงผู้ที่ควรจะเป็นคนที่โดดเด่นสะดุดตา ถูกพวกเขาสองคนทอดทิ้งไม่ใยดีอย่างสิ้นเชิง

 

ย่าเจี่ยนเองก็ดูเหมือนจะไม่ได้สังเกตสนใจหลานชายของตนเองเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงหันไปคุยโทรศัพท์กับพี่สาวของเธอเองแทน

 

โชคยังดี สุดท้ายปู่เจี่ยนก็เรียกเจี่ยนหยุ่นเฉิงไปยังห้องทำงานของเขาเพื่อพูดคุยเรื่องธุรกิจ

 

###

 

โม่ชืออวิ้นกลับบ้านหลังจากเลิกเรียนแล้วและก็เห็นแม่ของเธอยืนสั่นสะท้านด้วยน้ำตานองหน้า

 

“แม่ เกิดอะไรขึ้นกับแม่เหรอ”

 

โม่ชืออวิ้นวางกระเป๋านักเรียนลงแล้ววิ่งไปกอดแม่ของเธอเอาไว้

 

ในความทรงจำของเธอ ครั้งสุดท้ายที่แม่ของเธอเป็นแบบนี้ก็ตอนที่เธอเป็นเด็ก ตอนที่เจ้าคนเลวนั่นยังไม่หายไปจากชีวิตของพวกเธอ

 

“ชืออวิ้น แม่ควรทำยังไงดี เขากลับมา เขากลับมาแล้ว…”

 

เสียงของป้าโม่สั่นเครือ เต็มไปด้วยความกลัว

 

ความกลัวที่เธอมีต่อเหอเจี่ยนจวินนั้นมาจากส่วนลึกในกระดูกของเธอ

 

ความเจ็บปวดหลายปีที่ผ่านมานั้นฝังลึกประทับอยู่ในใจของเธอ

 

จริงแล้วโม่ชืออวิ้นก็รู้ว่าชายคนนั้นจะต้องมาหาแม่ของเธอ ไม่เพียงแต่เขาจะสร้างปัญหาที่โรงเรียน แต่ก็ยังตามมารังควานชีวิตอันสงบสุขของเธอและแม่ด้วย

 

“แม่ ไม่ต้องกลัวเขา เขาทำอะไรเราไม่ได้ เราไม่ต้องกลัวเขา” โม่ชืออวิ้นปลอบแม่ของเธอเอง

 

“ไม่ ลูกไม่รู้อะไร ชืออวิ้น แม่กับเขา… ยังไม่ได้หย่าขาดจากกัน…”

 

“แม่พูดอะไรนะ” โม่ชืออวิ้นถึงกับอึ้ง

 

“เขาหนีไปกับเซี่ยวซานตอนนั้น แม่ไม่คิดว่าเขาจะยังมีความเป็นคนเหลืออีก ไม่คิดว่าเขาจะกลับมา”

 

ป้าโม่ไม่ได้รู้หนังสือมากนัก ดังนั้นเธอจึงไม่รู้ถึงสถานการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น

 

ในตอนนั้นเธอเพียงแค่คิดในเรื่องการหาเงินเพื่อนำมาประคับประคองตัวเธอกับลูกของเธอ และเธอก็ไม่ได้คิดอะไรไปมากกว่านั้น

 

เมื่อโม่ชืออวิ้นได้ยิน เธอก็รู้สึกหนาวเยือกลึกเข้าไปข้างใน

 

“แม่ เราไปหานักกฏหมายกันเถอะ ไปตอนนี้เลย เขาหายไปตั้งหลายปีไม่ได้ดูแลพวกเราแม่ลูกเลยแม้แต่น้อย เขาไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นพ่อหรือเป็นสามี พวกเราไปฟ้องศาลให้ตัดสินหย่าขาดจากกัน”

 

“แต่แม่ได้ยินว่านักกฏหมายต้องใช้เงินจำนวนมาก แม่…”

 

“แม่ ไม่ใช่ว่าแม่เก็บเงินไว้ก้อนหนึ่งหรอกเหรอ พวกเราเอามันออกมาให้กับนักกฏหมายก่อน จากนั้นค่อยเก็บสะสมเงินค่าเรียนพิเศษของหนู สิ่งที่สำคัญอันดับแรกสุดก็คือให้ชายคนนี้ออกไปจากชีวิตของพวกเรา ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่านี้แล้ว”

 

“ไม่ ทำอย่างนั้นไม่ได้ แม่… เงินแม่ไม่มีแล้ว…”

 

“เป็นไปได้ยังไง เงินเก็บของแม่หายเหรอ”

 

“แม่… แม่เสียมันไป… เงินติดอยู่ในตลาดหุ้น…”

 

“เงินติดอยู่ในตลาดหุ้นเหรอ หุ้นตกเหรอ” โม่ชืออวิ้นดูแม่เธอด้วยท่าทางตกใจ

 

“แม่… แม่ไม่ได้ต้องการแบบนั้น… แม่คิดว่ามันจะทำเงิน…”

 

“แม่เสียเงินไปเท่าไหร่”

 

“ทั้งหมด.. ทั้งหมดเลย…”

 

ป้าโม่ก้มหน้าด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย

 

ในเวลาสองปีที่ผ่านมา ป้าโม่เก็บเงินไว้ได้ถึงแปดหมื่นถึงเก้าหมื่น เพราะว่าเงินที่ลูกสาวเธอใช้ไปโรงเรียนมัธยมเอกชนเชิ่งหัวนั้นได้รับมาจากเหอเยี่ยน เงินนี้จึงเป็นเงินส่วนที่เกินมา

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส
Status: Ongoing
อ่านนิยาย 大妇 เธอเปลี่ยนปเป็นบอส เรียกว่าใกล้ถึงจุดไคล์แมกซ์แล้วนะครับ ผมละอยากจะ เรียกมันว่าจบภาค 1 เสียด้วยซ้ำไป เสียดายที่ทางต้นฉบับไม่มีภาคหนึ่ง ภาคสอง ขอสปอยล์นิดๆนะว่า พอผ่านช่วงนี้ไป จากอายุ 14 ย่าง 15 นางเอกของเราก็จะกระโดดไป เริ่มกันที่อายุ 18 เลยนะครับ และตอนนั้น ความหวานแหววคู่พระคู่นางก็จะเริ่มมาให้เห็นมากขึ้น เรื่อยๆ อาาาา อดใจติดตามกันต่อไปนะครับ แล้วก็ระวังรักษาตัวเองให้พ้นจากภัยโควิดทุกๆคนนะ ครับ ผมจะแปลงานออกมาเรื่อยๆเป็นเพื่อนแก้เหงายามไม่มีอะไรทำนะครับ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset