“เกิดอะไรขึ้น ฉันจ่ายเงินค่าเล่าเรียนให้กับลูกสาวแก แล้วฉันก็ยังแนะนำแกให้ได้งานเงินเดือนสูงๆ เงินเดือนแต่ละเดือนของแกไม่พอให้แกแม่ลูกใช้เหรอ”
“พอ พอ แต่ฉัน…ฉันเจอเหตุร้าย” ป้าโม่รู้ว่าเป็นการไม่สมควรที่จะยืมเงินแบบนี้ ดังนั้นเธอจึงค่อนข้างรู้สึกผิด
“แกจะเจอเหตุร้ายอะไรก็เป็นเรื่องของแก ฉันเหอเยี่ยนไม่ได้ทำงานการกุศล แกทำให้เรื่องเสียก่อนหน้านั้น และตอนนี้แกต้องการมาขอยืมเงินฉันอีก แกออกปากออกมาได้อย่างไร” เหอเยี่ยนเริ่มขาดความอดทนกับป้าโม่
เธอให้ป้าโม่ไปทำงาน แต่กลับดันมาขอยืมเงินแทน
คำพูดของเหอเยี่ยนนั้นรู้สึกกระวนกระวายใจมากกว่าเดิม
หลังจากที่ลังเลอยู่เป็นเวลานาน ป้าโม่ก็พูดต่อไปด้วยเสียงสั่นเครือว่า “ตะ แต่ว่าเหอเจี่ยนจวินกลับมาแล้ว ถ้าคุณไม่ให้ฉันยืมเงินเพื่อฟ้องหย่าเขา ฉันจะบอกให้เขาไปก่อกวนคุณ”
สุดท้าย ป้าโม่ก็ขึ้นเสียงเพื่มน้ำหนักของตัวเอง พยายามที่จะทำให้เหอเยี่ยนรู้สึกกลัว
เหอเยี่ยนกับเหอเจี่ยนจวินเป็นกึ่งลูกพี่ลูกน้อง หลังจากที่พ่อแท้ๆของเหอเยี่ยนตายลง แม่ของเธอก็ได้แต่งกับพ่อของเหอเจี่ยนจวินพร้อมกับพาเธอไปด้วย
ทั้งสองคนไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดและหลังจากที่พ่อแม่ของเขาได้หย่าขาดจากกันแล้ว เหอเจี่ยนจวินก็ได้อยู่กับแม่ของเขา พวกเขาไม่ได้ติดต่อกันเป็นเวลานานหลายปีและก็ไม่มีใครที่รู้เรื่องความสัมพันธ์ของพวกเขา
และโม่ฮุ่ยฉิงก็ได้แยกทางจากเหอเจี่ยนจวินนานมาแล้ว ดังนั้นจึงมีคนน้อยมากที่รู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเหอเยี่ยน
อย่างไรก็ตามในเมื่อโม่ฮุ่ยชิงเป็นภรรยาของเหอเจี่ยนจวิน เธอจึงรู้เรื่องความเกี่ยวข้องระหว่างพวกเขาสองคน
ก็เหมือนกับป้าโม่ เหอเยี่ยนไม่ต้องการที่จะเกี่ยวข้องกับคนเลวอย่างเช่นเหอเจี่ยนจวิน
“แกเรียนรู้ที่จะขู่ฉันแล้วหรือตอนนี้” เหอเยี่ยนกัดฟัน
“ฉัน ฉันไม่ได้ต้องการอย่างนั้น แต่ฉันไม่มีทางเลือก” ป้าโม่รู้สึกผิดแต่เมื่อเธอคิดถึงความยากลำบากและความอ่อนแอของลูกสาวเธอ เธอก็ได้แต่กัดฟันพูดกับเหอเยี่ยน
“ดี ดีทีเดียว แกต้องการยืมเงินเท่าไหร่”
“10,000”
“ตกลง ตามกฎเดิม ฉันจะวางเงินไว้ที่ล็อคเกอร์เดิม แล้วแกก็มารับไปเอง”
เหอเยี่ยนจะไม่โอนเงินไปให้ป้าโม่ตรงๆเธอไม่ต้องการให้ใครรู้ถึงความสัมพันธ์ของเธอกับป้าโม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเธอไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าพวกเธอมีการแลกเปลี่ยนทางการเงินซึ่งกันและกัน
ดังนั้นทุกครั้งที่เธอให้เงินโม่ฮุ่ยชิง เธอจะใช้เงินสด
“เอ้อ ขอบคุณ คุณนายรอง” เมื่งเหอเยี่ยนตกลงใจให้เงิน ป้าโม่จึงตัดสินใจที่จะรักษาสัญญาระหว่างกันไว้ต่อไป
“ไม่ต้องมาพูดซะดิบดี จัดการเรื่องของตัวเองให้ดีก่อน อย่าทำให้เรื่องเสียแล้วคิดแต่เรื่องจะยืมเงิน”
“คุณนายรอง ไม่ใช่ว่าฉันต้องการทำให้งานเสีย แต่ช่วงหลังมานี้ฉันไม่มีโอกาสเข้าใกล้ชิดอยู่ตามลำพังกับคุณชายสามเลย เพราะคุณชายใหญ่พาคุณชายสามไปด้วยตลอดเวลา ทั้งคุณชายสามก็จะเข้าไปนอนที่สถาบันวิจัยฮุ่ยหลิงในวันพรุ่งนี้แล้ว”
“ทำไมแกไม่ถือโอกาสอาสาไปโรงพยาบาลเพื่อดูแลเขาล่ะ”
“ไม่ได้หรอก คุณนายรองฉันยังไม่มีโอกาสที่จะพูดด้วยซ้ำ คุณชายใหญ่ก็พูดว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องให้ใครไปอยู่เป็นเพื่อนเขา สถาบันวิจัยมีบุคลากรพิเศษที่จะคอยดูแล…”
สถาบันวิชัยแตกต่างจากโรงพยาบาล การดูแลพี่ป่วยนั้นของที่นั่นครอบคลุมในทุกๆด้าน แม้กระทั่งในชีวิตประจำวันก็ยังมีบุคลากรพิเศษคอยดูแล
“ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นแกก็คอยรายงานฉันถ้าหากว่าเกิดสถานการณ์อะไรขึ้นมาอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความคืบหน้าในการรักษา เจี่ยนหยุ่นน่าว ฉันต้องการรู้เป็นคนแรก”
เหอเยี่ยนให้เงินป้าโม่เป็นจำนวนมาก และเธอก็ไม่ได้ทำงานการกุศล เธอต้องการอะไรกลับคืนไปบ้าง
“ฉันรู้ฉันจะทำ”
ป้าโม่ให้คำสัญญาซ้ำๆ
หลังจากที่วางสายโทรศัพท์จากการคุยกับเหอเยี่ยนแล้ว ป้าโม่ก็รีบไปบอกโม่ชืออวิ้นถึงข่าวดี