หูเจียวเจียวกลัวมาก ความกลัว ความอัปยศอดสู ความสิ้นหวัง อารมณ์ต่างๆ ล้วนกลืนกินเธอ
ในเวลานั้นเองก็มีเสียงดังขึ้นอย่างกะทันหัน
“ไอ้พวกหมาเลวพวกนี้เกิดมามีประโยชน์อะไร ฉันจะตบกบาลห้วหมาพวกนี้ให้หมด”
เป็นเสียงของผู้หญิง เสียงของเธอทรงพลัง และแข็งแกร่ง
ผู้ชายที่พยายามแกล้งเธอเลิกคุกคามเธอในทันที
จากนั้นก็กลายเป็นเสียงของการต่อสู้
ต่อจากนั้นหูเจียวเจียวก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของผู้ชายและเสียงวัตถุกระแทกกับผนัง
เสียงร้องครวญครางเพราะความเจ็บปวดของผู้ชายดังเพิ่มขึ้นมาทีละคน
สุดท้ายชายคนที่จับมือของหูเจียวเจียวไว้ก็ถูกดึงออกไป
หูเจียวเจียวรีบถอดถุงคลุมหัวเธอออก เธอทรุดตัวลงด้วยความอ่อนล้าและหวาดกลัว
หูเจียวเจียวมองไปข้างหน้า เธอเห็นพวกอันธพาลหลายคนนอนกองอยู่บนพื้น มือและเท้าของพวกนั้นถูกมัดไว้ พวกนั้นต่างพากันร้องครวญครางอย่างเจ็บปวดอยู่บนพื้น
“เธอเป็นอะไรไหม”
หลังจากที่หูเจียวเจียวถอดถุงคลุมหัวออก หลัวซิ่วเอินก็พบว่าเด็กหญิงตัวเล็กๆที่ถูกรังแกที่เธอพบก็คือเพื่อนร่วมชั้นของเจี่ยนอีหลิง
หลัวซิ่วเอินถอดเสื้อคลุมออกและหุ้มร่างกายที่สั่นเทาของหูเจียวเจียวเอาไว้
หูเจียวเจียวมองไปยังหลัวซิ่วเอินแล้ว เธอก็สะกดใจไว้ไม่ไหว น้ำตาเธอก็ไหลออกมา
เมื่อได้ยินเสียงร้องไห้คร่ำครวญของเด็กหญิง หลัวซิ่วเอินก็โกรธขึ้นมาอีกครั้ง เธอหันไปหาพวกอันธพาลทั้งสามคน
เธอกระทืบและเตะต่อยพวกนั้นอย่างรุนแรง
“พี่สาว ยกโทษให้พวกเราด้วย…”
“พี่สาว เราไม่ได้คิดที่จะทำอะไรเธอหรอก เราเพียงแค่จะทำให้เธอกลัวสักเล็กน้อย…”
“ใช่ๆ พี่สาว พวกเรารู้ว่าพวกเราผิด เราแค่อยากจะมอบบทเรียนเล็กๆน้อยๆให้เธอเท่านั้น ถึงพี่สาวไม่มาพวกเราก็จะหยุดในเวลาไม่นาน”
เหล่าอันธพาลที่นอนกองอยู่บนพื้นพากันร้องขอความเมตตาและอธิบายว่าพวกเขาเพียงแค่ต้องการทำให้หูเจียวเจียวกลัว และไม่ได้ตั้งใจที่จะทำอะไรกับเธอเลย
พวกเขาเป็นแค่อันธพาลธรรมดาที่คอยสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คน แต่พวกเขาไม่กล้าทำอะไรรุนแรงเป็นเรื่องเป็นราวจริงๆ
พวกเขาคิดว่ามันเป็นงานที่ค่อนข้างง่าย
เพียงแค่สร้างความกลัวให้กับเด็กหญิงขี้ขลาด
โดยทั่วไปแล้วเด็กหญิงตัวเล็กคนนี้จะหลีกหนีจากคนที่ชื่อเจี่ยนอีหลิงหลังจากที่พวกเขาทำให้เธอหวาดกลัวแล้ว
“ไว้ชีวิตแม่แกสิ ไอ้สัตว์ ตอนที่พวกแกรังแกคนไม่เห็นพวกแกนึงถึงความเมตตา แต่ตอนถูกรังแกพวกแกกลับนึกถึง บ๊ะ ฉันขยะแขยงจนอยากจะคายของเก่ามื้อใหญ่ส่งท้ายปีเก่าปีที่แล้วออกมา”
หลัวซิ่วเอินถ่มน้ำลายใส่คนทั้งสามตามด้วยการกระทืบเท้าเล็งไปยังส่วนที่เปราะบางของชายคนนั้น
บนหลักการที่ไม่ทำให้ตายด้วยการใช้แรงเพียงเล็กน้อย
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าความเจ็บปวดนี้จะต้องลึกเข้าไปถึงไขกระดูกไม่มีวันลืมเลือน
หลัวซิ่วเอินไม่ได้ละเว้นใคร เธอกระทืบครบทั้งสามคน
ชั่วระยะเวลานั้นชายทั้งสามคนต่างก็พากันกลิ้งเกลือกอยู่บนพื้น น้ำตาไหลพรากปากอ้าค้างสูดลมหายใจลึก เจ็บจนร้องไม่ออก
หลัวซิ่วเอินยังรู้สึกว่าไม่พอ แต่เธอได้ยินเสียงสะอื้นของหูเจียวเจียว ดังนั้นเธอจึงหันกลับมาเพื่อปลอบประโลมอีกฝ่ายก่อน
ความสามารถในการปลอบโยนของหลัวซิ่วเอินนั้นไม่ดีนัก เธอทำได้แค่พูดว่า “น้องสาว ไม่ต้องกลัว พี่สาวอยู่ที่นี่ พวกนั้นแกล้งเธอไม่ได้แล้ว พี่จำได้ว่าเธอเป็นเพื่อนร่วมห้องของน้องสาวอีหลิง เธอจำพี่สาวได้ไหม”
หูเจียวเจียวสะอื้นและพยักหน้า
เธอจำหลัวซิ่วเอินได้
หลัวซิ่วเอินปลอบใจหูเจียวเจียว กล่าวว่า “วันนี้เมื่อพี่สาวได้พบกับน้อง พี่จะดูแลเรื่องนี้ให้เอง น้องไม่ต้องกังวลสนใจ พวกเลวพวกนี้ พี่สาวจะทำให้เขาเสียใจที่ไม่ดูตาม้าตาเรือ”