เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส – ตอนที่ 219

大姐大 บทที่ 219 “เพื่อนดี” ช่วยเหลือกัน 2

 

แม้ว่าจะดูนุ่มนวลอ่อนแอ แต่เมื่อเธอพูด ทั้งมั่นใจและแน่วแน่

 

ชอบที่จะทำทุกอย่างด้วยตัวของเธอเอง

 

จ๋ายหวินเชิ่งที่นั่งอยู่ตรงโซฟาขมวดคิ้ว

 

จ๋ายหวินเชิ่งไม่ได้ถามเจี่ยนอีหลิงโดยตรง แต่พูดให้บอดี้การ์ดฟังสองสามคำ จากนั้นบอดี้การ์ดก็จากไป

 

ไม่นานนักเมื่อบอดี้การ์ดกลับมา ผลการสืบสวนก็ถูกรายงายให้กับจ๋ายหวินเชิ่ง

 

จ๋ายหวินเชิ่งลุกขึ้นและก้าวยาวๆมาที่เจี่ยนอีหลิง มองลงไปยังกระต่ายตัวน้อยที่หุ้มรอบตัวด้วยเสื้อคลุมขนปุยสีขาว และกล่าวตรงๆถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจี่ยนอีหลิง

 

“เพื่อนร่วมโต๊ะของเธอ หูเจียวเจียว เพิ่งเข้าโรงพยาบาลเพราะว่าถูกกลุ่มพวกอันธพาลรุม แต่ไม่มีอันตรายหนักอะไร”

 

เพราะว่าสถานการณ์ไม่ได้ร้ายแรง คนร้ายทั้งสามคนนั้นจึงได้รับโทษปรับและจำคุกเพียง 15 วัน

 

จ๋ายหวินเชิ่งมั่นใจว่าเจี่ยนอีหลิงนั้นต้องการที่จะทำอะไรมากกว่านี้

 

จ๋ายหวินเชิ่งยิ้มในเชิงที่ชั่วร้ายอยู่บ้าง “เอางี้ มาตกลงกับนายท่าน เธอช่วยทำอะไรให้นายท่านสักอย่าง นายท่านก็จะช่วยเธออย่างหนึ่งเหมือนกัน ทั้งเป็นธรรมและเป็นกลางต่อพวกเราทั้งสองฝ่าย ได้ประโยชน์ทั้งคู่ และไม่มีใครเป็นหนี้ใคร”

 

เจี่ยนอีหลิงมองขึ้นไปยังจ๋ายหวินเชิ่งที่มีรอยยิ้มที่มุมปากและดวงตาที่เฉียบคม

 

จ๋ายหวินเชิ่งเสริมว่า “ไม่ว่าอย่างไรเธอก็จะต้องจ่ายให้คนอื่นเพื่อที่จะให้ได้ผลแบบเดียวกัน จะเป็นการดีกว่าที่จะตกลงกับฉัน นายท่านคนนี้ทำได้ดีกว่าคนทั่วไป”

 

ไม่ว่าจะหาคนอื่นหรือหาจ๋ายหวินเชิ่งก็เป็นการหาเหมือนกัน

 

ทางทฤษฎีแล้วเหมือนกัน

 

และก็จริงที่นายท่านเชิ่งนั้นทำได้ดีกว่าคนส่วนใหญ่

 

“ตกลงอะไร” เจี่ยนอีหลิงถาม

 

จ๋ายหวินเชิ่งชี้ไปแขนที่พันผ้ากอซรอบแขนอยู่ “รักษาตรงนี้ ไม่ให้มีรอยแผลเป็น ไม่กลายเป็นน่าเกลียด”

 

“แต่ฉัน…”

 

จ๋ายหวินเชิ่งได้ตัดบทเจี่ยนอีหลิง “เธออะไร เธอต้องการจะรักษาฉันเหรอ แบบที่ไม่มีรอยแผลเป็นเหรอ นายท่ากับเธอก็เหมือนกันไม่ชอบเป็นหนี้บุญคุณคนอื่น เรื่องนี้สำหรับนาท่านแล้วไม่ได้เป็นเรื่องเล็กน้อย การตกลงนี้ตามหลักแล้วก็ไม่มีอะไรเสียหาย”

 

พูดอย่างเคร่งครัดตามความเป็นจริง นอกจากครีมของเจี่ยนอีหลิงแล้วก็ไม่มีที่ไหนอีก

 

ดังนั้นตามทฤษฎีแล้ว จึงไม่ถึงกับเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

 

การแสดงออกบนใบหน้าเล็กๆนั้นมีท่าทางจริงจัง

 

จ๋ายหวินเชิ่งมองไปที่เธอและคิด

 

หลังจากที่ื่ผ่านไปนาน เจี่ยนอีหลิงก็พยักหน้าตกลงกับเงื่อนไขของจ๋ายหวินเชิ่ง

 

“ตกลง”

 

จากนั้นจ๋ายหวินเชิ่งก็หันหน้าไปมองหยูซี “เขาจะตามเธอไป”

 

ใบหน้าหยูซีมีแต่เครื่องหมายคำถาม “ ???”

 

เขายังไม่ได้พูดอะไรเลย

 

เขาถูกนายท่านเชิ่งจัดเตรียมไว้ได้ยังไง

 

ทำไมเขาต้องทำแบบนั้น ทำไมฟังดูเหมือนทำไปงั้นๆ

 

ก็ได้ ยื่นมือช่วยเหลือเทพหลิงก็ได้ ยังไงนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทำแบบนี้ ชินแล้วล่ะ

 

ตอนที่เล่นเกมเซิร์กบุก (Zerg invasion) เขาก็เป็นตัวประกอบอยู่แล้ว

 

หยูซีปรับจิตใจให้ตรงตามความเป็นจริง “ใช่แล้ว พี่จะเป็นผู้ช่วยเธอเอง”

 

จากนั้นหยูซีก็หันหน้าไปถามจ๋ายหวินเชิ่งว่า “นายท่านเชิ่ง ท่านจะให้ผมทำอะไร”

 

“ตอนนี้กลับไปที่ห้องของนายแล้วก็เข้านอน เราจะพูดกันเรื่องนี้ในวันพรุ่งนี้เช้า”

 

นี่เกินสามทุ่มแล้ว และถึงแม้จะเป็นเรื่องสำคัญก็ต้องรอให้ตื่นนอนพรุ่งนี้เสียก่อน ตอนนี้นอนก่อน

 

จ๋ายหวินเชิ่งพูดและมองไปยังเจี่ยนอีหลิงอย่างจริงจัง “อย่าเป็นเหมือนกระต่ายตาแดง หลับให้พอก่อนจากนั้นค่อยจัดการสิ่งต่างๆ เรื่องนั้นปล่อยให้นายท่านคนนี้”

 

จ๋ายหวินเชิ่งดูแล้วเหมือนพวกเหยาะแหยะ แต่เมื่อพูดออกมาแล้วกลับสามารถโน้มน้าวใจคนได้

 

“อื้อ”

 

เจี่ยนอีหลิงก็รู้สึกว่าเธอควรไปนอนจริงๆ ไม่เช่นนั้นมันจะส่งผลกระทบต่อการผ่าตัดในบ่ายวันพรุ่งนี้

 

ส่วนที่ว่ามันจะเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้เช้าหรือว่ามันจะมีผลต่อการผ่าตัดในตอนบ่ายพรุ่งนี้หรือไม่นั้น เจี่ยนอีหลิงก็ไม่แน่ใจ

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส
Status: Ongoing
อ่านนิยาย 大妇 เธอเปลี่ยนปเป็นบอส เรียกว่าใกล้ถึงจุดไคล์แมกซ์แล้วนะครับ ผมละอยากจะ เรียกมันว่าจบภาค 1 เสียด้วยซ้ำไป เสียดายที่ทางต้นฉบับไม่มีภาคหนึ่ง ภาคสอง ขอสปอยล์นิดๆนะว่า พอผ่านช่วงนี้ไป จากอายุ 14 ย่าง 15 นางเอกของเราก็จะกระโดดไป เริ่มกันที่อายุ 18 เลยนะครับ และตอนนั้น ความหวานแหววคู่พระคู่นางก็จะเริ่มมาให้เห็นมากขึ้น เรื่อยๆ อาาาา อดใจติดตามกันต่อไปนะครับ แล้วก็ระวังรักษาตัวเองให้พ้นจากภัยโควิดทุกๆคนนะ ครับ ผมจะแปลงานออกมาเรื่อยๆเป็นเพื่อนแก้เหงายามไม่มีอะไรทำนะครับ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset