เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส – ตอนที่ 259-260

 

ป้าโม่กำลังร้องไห้อย่างวิตกกังวล

 

เมื่อโม่ชืออวิ้นได้ยินเสียงนี้ หัวใจของเธอก็เหมือนถูกเชือดเฉือน

 

“แม่ เป็นอะไรไปเหรอ มีเรื่องอะไร ใจเย็นๆ ไอ้คนเลวคนนั้นมาหาแม่อีกเหรอ”

 

“ไม่ใช่เขา แต่… เป็น … นายคนโตไล่ฉันออก …”

 

“แม่พูดว่าอะไรนะ ไล่ออกเหรอ เกิดขึ้นได้ยังไง”

 

โม่ชืออวิ้นมีสีหน้าตกใจ

 

หลังจากที่มองไปที่ชูชาซึ่งกำลังมองมาที่เธอด้วยสายตาสงสัย โม่ชืออวิ้นก็ลุกขึ้นเดินไปที่แปลงดอกไม้นอกโรงอาหารเพื่อคุยกับแม่ของเธอต่อ

 

“แม่ อย่าร้องไห้ อย่าร้องไห้ บอกหนูก่อนว่านายน้อยบอกแม่ว่ายังไง”

 

เสียงร้องของป้าโม่ ทำให้หัวใจของโม่ชืออวิ้นเหมือนถูกขยำ

 

อ่านบทล่าสุดที่ my-novel.co หรือ www.thai-novel.com

 

“นายน้อยพูดเพียงว่า ตอนนี้คุณหนูก็ไปอยู่ที่บ้านเก่า ตัวเขาเองกับนายน้อยสองก็ไม่ได้อยู่บ้านบ่อยนัก คนเดียวที่ต้องดูแลก็คือนายน้อยสาม ป้าอันคนเดียวก็สามารถดูแลได้ และไม่ต้องการฉันอีกต่อไป”

 

เดิมทีในคฤหาสน์ตระกูลเจี่ยนมีคนรับใช้เพียงคนเดียว

 

ป้าโม่ถูกพาเข้ามาในภายหลัง หลังจากที่ป้าอันแก่เกินไปและไม่มีเรี่ยวแรง

 

ตอนที่มองหาคนรับใช้คนใหม่ โม่ฮุ่ยฉิงก็มีคู่แข่งมากมาย ไม่ใช่ตาเธอที่จะเข้ามาในบ้านตระกูลเจี่ยน เป็นเพราะเหอเยี่ยนที่ช่วยเธออยู่เบื้องหลังเพื่อให้สามารถเอาชนะจนได้งานที่มีรายได้สูงมาอย่างยากลำบาก

 

คำพูดของเจี่ยนหยุ่นเฉิงไม่สามารถโต้แย้งได้

 

ถ้าเขาพูดว่าป้าโม่ทำอะไรผิดบางอย่าง เพื่อที่จะไล่เธอออก ป้าโม่สามารถหักล้างและอธิบายได้

 

แต่ตอนนี้เขาเพียงแค่บอกว่าเขาไม่ต้องการเธออีกต่อไป ป้าโม่ไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะต่อสู้เพื่อตัวเธอเอง

 

โม่ชืออวิ้นตกตะลึง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหันจนเธอทำอะไรไม่ถูก

 

พวกเธอตกอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเมื่อไม่นานมานี้ และแม่ของเธอก็ยังรอเงินเดือนของเธอในเดือนหน้าเพื่อเริ่มออมอีกครั้ง

 

ตอนนี้เธอกลายเป็นคนตกงานและไม่มีที่จะทำมาหากิน

 

ป้าโม่ที่อยู่ในโทรศัพท์สะอึกสะอื้น “ชืออวิ้น เราจะทำยังไงดี นายน้อยไล่แม่ออกไป เราต้องย้ายออกจากบ้านตระกูลเจี่ยนแล้ว”

 

ตอนนี้พวกเธอจะไปหาที่อยู่ที่ไหนกัน

 

“แม่ ในเดือนนี้นายน้อยจ่ายเงินเดือนให้แม่หรือยัง”

 

“ทุกอย่างตกลงกันแล้ว นายน้อยจะทำตามสัญญาเดิม”

 

“นั่น … ไม่เป็นไร ยังมีเงินเดือนของเดือนนี้อยู่ เรายังสามารถออกไปหาบ้านได้ จากนั้นแล้วค่อยหางานใหม่ ยังไงก็ทันเวลา”

 

” แต่ … แต่แค่หกพันหยวนเอง … “

 

“ได้ยังไง ไม่ใช่ว่าปกติแม่ได้เงิน 16,000 เหรอ แล้วอีกหมื่นนั่นล่ะ หรือว่านายน้อยหักไปแล้ว”

 

“สัญญาที่แม่เซ็นไว้คือหกพัน และจะมีเงินพิเศษจากคุณท่านกับคุณนายอีกหนึ่งหมื่น เมื่อตอนฉันมาทำงาน คุณนายได้บอกว่าเงินเดือนพื้นฐานอยู่ที่หกพัน และถ้าสิ้นเดือนนั้นแล้วแม่ไม่ได้ทำผิดพลาดอะไรก็จะให้โบนัสพิเศษหนึ่งหมื่นหยวน”

 

เงินเดือนของพี่เลี้ยงเด็กของครอบครัวในเมืองเหิงหยวนอยู่ระหว่าง 4,000 ถึง 6,000 และเงินเดือนพื้นฐาน 6,000 ถือว่าไม่ต่ำเลย

 

และโบนัสพิเศษ 10,000 หยวนนี้ ยิ่งไม่มีที่อื่นเทียบได้

 

บ้านตระกูลเจี่ยนปฏิบัติต่อผู้คนเป็นอย่างดี สำหรับบ้านตระกูลเจี่ยน การใช้จ่าย 10,000 ถึง 20,000 หยวนต่อเดือนไม่ใช่ปัญหา ตราบใดที่อีกฝ่ายสามารถทำงานหนักและทำเต็มที่

 

“แต่แม่ก็ไม่ได้ทำอะไรผิดเมื่อเดือนที่แล้ว”

 

“แม่… แม่ไม่รู้ นายน้อยไม่ได้บอกว่าแม่ทำผิดตรงไหน แต่เขาจ่ายเงินเดือนให้แม่แค่ 6000”

 

ตอนนี้เจี่ยนหยุ่นเฉิงเพียงแค่จ่ายให้โม่ฮุ่ยฉิงเดือนสุดท้ายตามสัญญาเท่านั้น และนี่ทำให้โม่ฮุ่ยฉิงรู้สึกไม่พอใจ แต่ก็ไม่มีที่ให้ยกเหตุผลมาอ้างได้

 

 

เดิมทีเงินหมื่นหยวนเป็นสัญญาปากเปล่า ไม่มีข้อบังคับเป็นตัวสัญญา ดังนั้นเจ้าของจะไม่ให้ก็ได้ถ้าเขาต้องการ

 

“แม่ ตอนนี้แม่อยู่ที่ไหน”

 

“แม่เพิ่งเก็บของเสร็จ และออกมาอยู่ข้างนอก ตอนนี้ยังอยู่ที่ประตูคฤหาสน์ตระกูลเจี่ยน”

 

โม่ฮุ่ยฉิงถูกเจี่ยนหยุ่นเฉิงขอให้ย้ายออกจากตระกูลเจี่ยน เขาไม่ปล่อยให้เธออยู่นานกว่าหนึ่งวัน และไม่มีเวลาสำรองให้กับเธอ

 

ที่พักของโม่ฮุ่ยฉิงในตระกูลเจี่ยนก็ยังเป็นความดูแลพิเศษของตระกูลเจี่ยนสำหรับทั้งแม่และลูก มันไม่ใช่บ้านเช่าของพวกเธอ ไม่มีภาระผูกพันที่จะต้องแจ้งล่วงหน้าเพื่อจองที่พักอาศัยใหม่

 

โม่ฮุ่ยฉิงยืนอยู่หน้าประตูเหล็กขนาดใหญ่ของคฤหาสน์ตระกูลเจี่ยนพร้อมกระเป๋าใบใหญ่และกระเป๋าใบเล็ก

 

“ไม่มีรถเหรอ ให้หนูเรียกรถให้แม่นะ”

 

มีรถประจำทางไม่มากนักที่ผ่านประตูบ้านตระกูลเจี่ยน

 

“ไม่ ฉันต้องการรอ ฉันต้องการรอคุณท่านกับคุณนายกลับมา ฉันต้องการถามคุณนายด้วยตัวเอง”

 

ตอนนี้มีเจี่ยนหยุ่นเฉิงเพียงคนเดียวในคฤหาสน์ตระกูลเจี่ยน โม่ฮุ่ยฉิงยังไม่เห็น คู่ของเจี่ยนชูฉิงและเวินน่วน

 

“แม่ …” โม่ชืออวิ้นรู้สึกขมขื่น

 

แม่ไม่มีอะไรเหลือมากไปกว่าความหวังอันริบหรี่

 

โม่ชืออวิ้นต้องการเกลี้ยกล่อมให้แม่ยอมแพ้ แต่เธอพูดอะไรไม่ออก

 

ตอนนี้เธอไม่สามารถทำอะไรได้เลย และเธอไม่มีความมั่นใจที่จะเกลี้ยกล่อมแม่ให้ยอมแพ้ได้

 

และต่อให้เกลี้ยกล่อมแม่ให้ยอมแพ้ได้ เธอก็หาทางออกให้ไม่ได้

 

“ชืออวิ้น ลูกเข้าบ้านหลังเลิกเรียนไม่ได้แล้ว … ” ป้าโม่รู้สึกขมขื่น

 

เมื่อคิดถึงลูกสาวที่กลับบ้านจากโรงเรียนและไม่สามารถกลับไปที่ห้องเธอเพื่อทำการบ้านอย่างสงบได้ ป้าโม่ก็เกลียดความไร้ความสามารถของตัวเอง

 

“แม่ไม่ต้องกลัว ไม่เป็นไร เราผ่านความทุกข์ยากลำบากมาก่อนแล้ว ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว เราก็อยู่ในโรงแรมคืนนี้ แล้วพรุ่งนี้แม่ก็ค่อยเริ่มหาบ้าน จากนั้นแม่ก็ค่อยหางานทำ นั่นจะดีกว่านะ”

 

โม่ชืออวิ้นพยายามปลอบป้าโม่

 

“แม่รู้ แม่จะพยายาม”

 

โม่ชืออวิ้นมองไปที่เวลา เธอไม่สามารถคุยกับป้าโม่ต่อได้

 

“แม่ เพื่อนร่วมชั้นหนูคนนั้นยังรอหนูอยู่ หนูต้องวางสายก่อนนะ”

 

“ได้ ได้ ลูกดูแลตัวเอง เรียนให้ดีนะ”

 

โม่ชืออวิ้นวางสายป้าโม่ แล้วกลับไปที่โรงอาหาร ชูชากินข้าวเสร็จแล้วและรอเธออยู่

 

“มีอะไรเหรอ มีอะไรเหรอ” ชูชาถามด้วยความเป็นห่วง

 

“ไม่เป็นไร” โม่ชืออวิ้นไม่ได้คิดจะบอกอะไรกับชูชาเกี่ยวกับครอบครัวของเธอ

 

###

 

หลังเลิกเรียน โม่ชืออวิ้นกลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลเจี่ยนที่เธอคุ้นเคย

 

ที่ประตูบ้าน ป้าโม่ยังคงยืนอยู่ที่นั่นพร้อมกระเป๋าเดินทางหลายใบและถุงพลาสติกที่เต็มไปด้วยสิ่งของของคนทั้งสอง

 

“แม่ … “

 

เห็นป้าโม่ยืนอยู่ท่ามกลางลมหนาว โม่ชืออวิ้นก็รู้สึกเศร้า

 

เธอรีบวิ่งไปข้างหน้าและกอดแม่เธอ

 

“ชืออวิ้น แม่ขอโทษ แม่ขอโทษ … “

 

ป้าโม่มองดูลูกสาวที่กลับมาอย่างเหนื่อยล้าหลังจากเรียนมาทั้งวันอย่างรู้สึกผิด

 

“แม่ หนูสบายดี”

 

โม่ชืออวิ้นฝืนทนกับความเศร้าโศกในใจ ไม่แสดงออกมาเพื่อให้แม่รู้สึกดีขึ้น

 

เมื่อถึงตอนนี้ รถตระกูลเจี่ยนของเจี่ยนหยุ่นน่าวได้กลับมาแล้ว

 

เจี่ยนหยุ่นน่าวซึ่งมีรถส่วนตัวมารับน่าจะมาถึงเร็วกว่าโม่ชืออวิ้นซึ่งกลับมาด้วยรถประจำทาง แต่ก่อนนั้น เขาขอให้คนขับรถพาเขาไปที่บ้านเก่าตระกูลเจี่ยนก่อน จากนั้นค่อยกลับมาที่คฤหาสน์ตระกูลเจี่ยน

 

เมื่อรถมาถึง ประตูเหล็กขนาดใหญ่ของคฤหาสน์ตระกูลเจี่ยนก็เปิดออกโดยอัตโนมัติ

 

ในขณะเดียวกันหน้าต่างรถของเจี่ยนหยุ่นน่าวที่เบาะหลังของรถก็เปิดออก และก็ตรงอยู่ในระดับสายตากับโม่ชืออวิ้น

 

เจี่ยนหยุ่นน่าวเห็นป้าโม่และโม่ชืออวิ้น ทั้งยังเห็นกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ที่เท้าของพวกเธอ

 

เจี่ยนหยุ่นน่าวขมวดคิ้วแล้วเบนสายตาออกไป

 

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส
Status: Ongoing
อ่านนิยาย 大妇 เธอเปลี่ยนปเป็นบอส เรียกว่าใกล้ถึงจุดไคล์แมกซ์แล้วนะครับ ผมละอยากจะ เรียกมันว่าจบภาค 1 เสียด้วยซ้ำไป เสียดายที่ทางต้นฉบับไม่มีภาคหนึ่ง ภาคสอง ขอสปอยล์นิดๆนะว่า พอผ่านช่วงนี้ไป จากอายุ 14 ย่าง 15 นางเอกของเราก็จะกระโดดไป เริ่มกันที่อายุ 18 เลยนะครับ และตอนนั้น ความหวานแหววคู่พระคู่นางก็จะเริ่มมาให้เห็นมากขึ้น เรื่อยๆ อาาาา อดใจติดตามกันต่อไปนะครับ แล้วก็ระวังรักษาตัวเองให้พ้นจากภัยโควิดทุกๆคนนะ ครับ ผมจะแปลงานออกมาเรื่อยๆเป็นเพื่อนแก้เหงายามไม่มีอะไรทำนะครับ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset