เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส – ตอนที่ 279-280

 

อีกทั้งหงไป่จางเอง แม้ว่าความสามารถทางด้านการแพทย์ของบุคคลนี้ จะต่ำกว่าคนในสถาบันการวิจัย แต่เขาก็มีความสามารถที่กว้างขวางอย่างมาก ในฐานะผู้อำนวยการ เครือข่ายข้อมูลทางด้านการแพทย์นั้นไม่ต้องพูดถึง

 

หลัวซิ่วเอินคิดถึงเรื่องนี้ จึงหยุดขัดขวาง

 

และรอให้เจี่ยนอีหลิงตัดสินใจเอง

 

หลังจากคิดอยู่ชั่วขณะ เจี่ยนอีหลิงก็เลือกที่จะยอมรับเงื่อนไขที่ออกโดยหงไป่จาง “ตกลง ฉันรับ”

 

เพราะเงื่อนไขของเขาก็ไม่ได้มากเกินไปจริงๆ และเพียงวิธีนี้ จึงจะมีเหตุผลเพียงพอสำหรับเธอที่จะให้คำปรึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาล.

 

หงไป่จางรู้สึกดีใจมาก

 

ภาคภูมิใจ

 

โรงพยาบาลของพวกเขาได้จ้างด็อกเตอร์ฟู่ฉีซึ่งตอนนี้กำลังร้อนแรงมาเป็นที่ปรึกษา

 

ในขณะเดียวกันเขาก็มีโอกาสได้ติดต่อกับด็อกเตอร์ฟู่ฉี

 

อ่านตอนล่าสุดที่ my-novel.co หรือ www.thai-novel.com

 

เขาสามารถถามด็อกเตอร์ฟู่ฉีได้

 

สมบูรณ์แบบ

 

ในเวลานี้ หลัวซิ่วเอินก็พูดอีกครั้งว่า “เฒ่าหง อีหลิงสัญญาว่าจะเป็นแพทย์ที่ปรึกษาในโรงพยาบาลของนายแล้ว ดังนั้นนายต้องจ่ายรางวัลให้สมเนื้อสมน้ำด้วย ไม่ว่าจะมีปัญหามากมายแค่ไหนก็ตามที่อีหลิงช่วยนายแก้ปัญหาเป็นเวลาหนึ่งเดือน ยังไงก็เป็นชื่อของด็อกเตอร์ฟู่ฉี สำหรับโรงพยาบาลของนายแล้ว นายสามารถนำผลประโยชน์มากมายมาสู่โรงพยาบาลของนาย ดังนั้นคุณต้องจ่ายเงินเดือนตามสัดส่วนที่ให้กับแพทย์ที่ปรึกษาอื่นๆ มีแต่จ่ายมากกว่า ไม่มีน้อยกว่า”

 

หลัวซิ่วเอินไม่ยอมให้คนอื่นเอาเปรียบเด็กหญิงจากสถาบันวิจัยของพวกเธอ

 

“ใช่ ใช่ ดร.หลัวไม่ต้องกังวล ผมเข้าใจกฎนี้ เงินเดือนจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขพื้นฐานของตลาด ผมไม่โกงด็อกเตอร์ฟู่ฉีอย่างแน่นอน”

 

หงไป่จางเข้าใจกฎนี้ดี

 

เจี่ยนอีหลิงและหงไป่จางเจรจาต่อรองกันเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลภายในของโรงพยาบาลเอกชนถงเต๋อ

 

ข้อมูลที่เป็นความลับจำนวนมากในโรงพยาบาลเอกชนถงเต๋อไม่มีไฟล์ที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ แต่ใช้ห้องเก็บเอกสารเฉพาะสำหรับการจัดเก็บ

 

นี่คือเหตุผลว่าทำไมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่เจี่ยนอีหลิงมองหามาก่อนจึงไม่สามารถหาข้อมูลได้

 

เจี่ยนอีหลิงตามหงไป่จางเข้าไปในห้องเก็บเอกสาร

 

ไฟล์ที่เกี่ยวข้องได้ถูกหาจนพบ

 

หลังจากเปิดออกเจี่ยนอีหลิก็งเห็นใบรับรองการวินิจฉัยที่มอบให้กับเจี่ยนหยุ่นโม่จากแพทย์ที่ทำการตรวจเจี่ยนหยุ่นโม่

 

หลังจากอ่านจบเจี่ยนอีหลิงก็เข้าใจ และถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

เจี่ยนหยุ่นโม่มาพบจิตแพทย์ เขาเป็นโรคอารมณ์สองขั้ว* ซึ่งเป็นโรคทางจิตที่จะทำให้คนที่มีอารมณ์ไม่รุนแรงกลายเป็นคนหงุดหงิดขึ้นมาทันที

 

ในระดับหนึ่ง โรคนี้อาจทำร้ายคนใกล้ชิดและสร้างความเจ็บปวดให้กับคนรอบข้างได้

 

ดังนั้นเขาจึงไม่มีโรคร้ายแรงและไม่มีอันตรายถึงชีวิต

 

และเหตุผลที่เขาเลือกที่จะแปลกแยกจากเจี่ยนอีหลิงก็นับว่าถูกค้นพบแล้ว

 

เขากลัวว่าจะทำร้ายน้องสาว และเขาก็กลัวด้วยว่าภาพลักษณ์ของเขาในสายตาของน้องสาวจะถูกทำลาย

 

เพราะเมื่อตอนที่เขาป่วย เขาอาจกลายเป็นสิ่งที่เขาไม่รู้จักด้วยซ้ำ

 

เขายังคงเป็นพี่ชายรองที่รักเจี่ยนอีหลิง พี่ชายที่ยินดีที่จะจับมือเธอไว้

 

ความสัมพันธ์ระหว่างพี่ชายและน้องสาวของพวกเขาไม่เคยเปลี่ยนแปลง

 

###

 

โฆษณาของโม่ชืออวิ้นได้ขึ้นออนไลน์และผลตอบรับดีมาก Weibo ของเธอมีแฟนๆหลายร้อยคน

 

แม้ว่าจะเทียบไม่ได้กับเหล่าดาราใหญ่ แต่สำหรับนักเรียนธรรมดาในโรงเรียนแล้ว นี่ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้พวกเขาอิจฉา

 

ชูชามองเธอด้วยความอิจฉาในตอนนี้ “ชืออวิ้น เธอยอดเยี่ยมขนาดนี้ได้ยังไงกัน หากเป็นอย่างนี้ต่อไป เธอจะต้องกลายเป็นดาราใหญ่ในไม่ช้าแน่เลย”

 

“ไม่มีอะไร นี่ก็แค่โฆษณา จะได้รับความนิยมไปได้ยังไงกัน”

 

ใช่ โม่ชืออวิ้นไม่ได้ภูมิใจกับการเพิ่มพูนแฟนๆขึ้นมาหลายร้อยคนเหล่านี้

 

ขณะที่ทั้งสองคนคุยกัน จู่ๆก็มีคนในชั้นเรียนอุทานออกมา

 

“โอ้พระเจ้า ฉันอ่านไม่ผิดใช่ไหม เพลงใหม่ของจูปีเตอร์ออกแล้ว นางเอก MV ก็คือเจี่ยนอีหลิงของโรงเรียนเรา”

 

“จริงเหรอ”

 

คนอื่นๆรีบออนไลน์เข้าไปดู

 

MV นั้นเล่นฟรีบนแพลตฟอร์มของเพลง และทุกคนสามารถคลิกเพื่อรับชมได้

 

แน่นอนว่า พวกเขาได้เห็น MV เจ๋งๆชิ้นนั้น นอกเหนือจากการร้องเพลงและเต้นรำของกลุ่มสี่คนที่คุ้นเคยแล้ว ยังมีโลลิมืดสวมกระโปรงโกธิคโลลิต้าอีกด้วย

 

คนนี้ก็คือเจี่ยนอีหลิงที่แต่งตัวอย่างเป็นทางการ

 

“พระเจ้า เจี่ยนอีหลิงก็ช่างหน้าตาดีเหมือนกัน ไม่ใช่เหรอไง”

 

“เธอก็มักจะดูเป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอ”

 

“เธอเคยร้ายกาจ ดังนั้นฉันเลยไม่คิดว่า ก่อนหน้านี้เธอสวมเสื้อผ้าเรียบร้อย และทรงผมเธอก็เป็นหางม้า ดังนั้นเธอเลยไม่น่าทึ่งเท่ากับ MV นี้”

 

 

“จริงด้วย ลุคนี้เหมาะกับเธอจริงๆ มันทำให้ผู้คนต้องตาเป็นประกาย”

 

เพื่อนร่วมชั้นเรียนรวมตัวกัน แต่ละคนต่างก็พากันพูดถึง MV เพลงใหม่ของจูปีเตอร์และเจี่ยนอีหลิง ที่ทำให้พวกเขารู้สึกทึ่ง

 

โม่ชืออวิ้นถ่ายโฆษณา แม้ว่ามันจะหายากมากในโรงเรียน แต่เมื่อเทียบกับเจี่ยนอีหลิงและวงไอดอลชายยอดนิยมที่มาถ่ายทำ MV ด้วยกัน มันก็เปลี่ยนไปเป็นดูธรรมดา

 

“อ๊า ฉันอิจฉาเจี่ยนอีหลิงมาก ที่ได้สัมผัสใกล้ชิดกับหนุ่มหล่อทั้งสี่ของจูปีเตอร์”

 

“อา เซี่ยหมินหยู่โชว์กล้ามหน้าท้อง หล่อจังเลย น้ำลายฉัน …”

 

“ลั่วซวินลูกหมาไม่หย่านมก็ดูดีเหมือนกัน วิธีที่เขาหัวเราะช่างเจ็บเหลือเกิน”

 

“ฉันไม่รู้ว่า เจี่ยนอีหลิงจะขอรูปที่มีลายเซ็นของจูปีเตอร์ได้หรือเปล่า ฉันอยากได้มันมากเหลือเกิน”

 

“…”

 

“ถูกต้อง ถูกต้อง เจี่ยนอีหลิงกลายเป็นนางเอก MV เพลงใหม่ของจูปีเตอร์ได้ยังไงกัน ฉันอยากรู้เหลือเกิน ฉันอิจฉาเหลือเกิน ฉันอยากจะเจอกับไอดอล อยากใกล้ชิด นี่คือความฝันของฉันเลย”

 

ไอดอลเซี่ยหมินหยู่ก็คือเจี่ยนหยู่หมิน แม้แต่หยูซีก็ยังไม่รู้ แล้วนักเรียนในโรงเรียนมัธยมเชิ่งหัวจะรู้ได้ยังไง

 

ดังนั้นพวกเขาจึงเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ว่าเจี่ยนอีหลิงมาเป็นนางเอก MV เพลงใหม่ของจูปีเตอร์ได้อย่างไร

 

ในไม่ช้าข่าวที่เจี่ยนอีหลิงกลายเป็นนางเอก MV เพลงใหม่ของวงไอดอลชายจูปีเตอร์ก็ได้จุดประกายการพูดคุยอย่างดุเดือดในเว็บบอร์ดของโรงเรียน

 

ทุกคนที่ติดตามต่างก็กลายเป็นน้ำมะนาว* ได้แต่อิจฉาเธอ

 

แต่ก็มีสองสามเสียงที่ไม่ลงรอยกับเธอ เยาะเย้ยเหยียดหยันว่าความจริงแล้วเจี่ยนอีหลิงนั้นเป็นคนที่ใช้แต่เส้นสายและเงินทอง

 

แต่ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็ยังถือได้ว่าเกิดจากความอิจฉาเหมือนคนอื่น เพราะพวกเขาต่างก็เห็นในเนื้อหา MV แล้วว่าเจี่ยนอีหลิงนั้นเหมะสมกับเพลงใหม่นี้จริงๆ

 

ถ้าผลตอบรับดี ก็ย่อมต้องมีคนด่าน้อยลง

 

ถ้าผลตอบรับไม่ดี ก็ประมาณได้ว่าจะมีคนด่ามากกว่านี้

 

ตรงกันข้าม ความจริงที่ชืออวิ้นได้ถ่ายโฆษณานั้นดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจ

 

แม้ชูชาจะสนใจเรื่องเจี่ยนอีหลิงมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่เธอก็ยังทำตัวตรงกันข้าม

 

“เจี่ยนอีหลิงจะยอดเยี่ยมอะไรกันนักหนา ไม่ใช่เพราะว่าอาศัยเงินที่บ้านหรือยังไงกัน ถ้าตระกูลเจี่ยนล้ม เธอก็จะไม่มีข้าวกินด้วยซ้ำ”

 

ชูชารู้สึกอึดอัด เธอไม่ชอบที่สิ่งดีๆทั้งหมดล้วนถูกเจี่ยนอีหลิงยึดครองไปจนหมด เธอทำได้แค่อิจฉาและเกลียดชัง

 

โมชืออวิ้นไม่ได้พูดอะไร แต่เธอไม่รู้ว่าเป็นเพราะได้รับผลกระทบจากชูชาหรือเกิดจากการสะสมในเรื่องที่ไม่น่าพอใจที่เกี่ยวข้องกับเจี่ยนอีหลิงในช่วงเวลานี้ ในใจเธอก็เริ่มมีอารมณ์แปลกๆต่อเจี่ยนอีหลิงไปด้วย

 

ในอดีต เธอเคยต้องเผชิญกับความยากลำบากและความเย็นชาของเจี่ยนอีหลิงมาก่อน แต่เธอก็สามารถรับมือมันได้อย่างเยือกเย็น

 

เธอรู้ว่าเธอไม่ควรใส่ใจกับผู้หญิงร่ำรวยที่เอาแต่ใจเช่นนี้ ดังนั้นเธอจึงไม่เกิดอารมณ์ใดๆ

 

แต่ตอนนี้อารมณ์วางเฉยนี้หายไปแล้ว

 

###

 

นักเรียนในชั้นมัธยมปลายเกรดแปดกำลังสนทนาเรื่องนี้กันอยู่ในขณะนี้

 

“อีหลิง อีหลิง เธอเป็นนางเอก MV เพลงใหม่ของจูปีเตอร์จริงเหรอ ฉันตื่นเต้นมากเลย แม้ว่าฉันจะไม่ได้เป็นแฟนเพลงของจูปีเตอร์ แต่ฉันก็มีเพื่อนที่อยู่กับกลุ่มไอดอลชาย”

 

หูเจียวเจียวไม่ได้ไล่ตามดารา แต่เธอก็ยังคงดูรายการวาไรตี้และฟังเพลงอยู่

 

เธอรู้จักจูปีเตอร์และชื่นชอบวงไอดอลชายนี้ แต่เธอไม่ใช่สาวนักล่าดารา

 

ตอนนี้ไอดอลของหูเจียวเจียวอันดับที่หนึ่งก็คือหลัวซิ่วเอิน และอันดับที่สองและสามว่าง

 

สถานะของพี่สาวอึนไม่อาจสั่นคลอนได้

 

เด็กผู้หญิงคนอื่นๆในชั้นเรียนต่างก็พากันมาล้อมเจี่ยนอีหลิงทีละคนสองคน

 

———————————————-

 

โรคอารมณ์สองขั้ว* (Bipolar Disorder) คือ โรคที่มีความผิดปกติทางอารมณ์ โดยมีการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ระหว่างช่วงอารมณ์ซึมเศร้า (Depression) สลับกับช่วงที่อารมณ์ดีหรือหงุดหงิดมากกว่าปกติ (Mania) ระยะเวลาในแต่ละช่วงอาจอยู่เป็นสัปดาห์หรือเดือน โดยมีช่วงอารมณ์ปกติคั่นกลางได้ ผู้ป่วยมักมาพบแพทย์ด้วยอาการซึมเศร้าและคิดว่าตนเองเป็นโรคซึมเศร้า อย่างไรก็ตามแพทย์จะซักประวัติและติดตามลักษณะอาการขณะรักษาเพื่อใช้วินิจฉัยในการแยกโรค

 

น้ำส้มสายชู น้ำมะนาว เปรี้ยว * คำแผลงของคำว่าหึงหวง อิจฉาตาร้อน

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส
Status: Ongoing
อ่านนิยาย 大妇 เธอเปลี่ยนปเป็นบอส เรียกว่าใกล้ถึงจุดไคล์แมกซ์แล้วนะครับ ผมละอยากจะ เรียกมันว่าจบภาค 1 เสียด้วยซ้ำไป เสียดายที่ทางต้นฉบับไม่มีภาคหนึ่ง ภาคสอง ขอสปอยล์นิดๆนะว่า พอผ่านช่วงนี้ไป จากอายุ 14 ย่าง 15 นางเอกของเราก็จะกระโดดไป เริ่มกันที่อายุ 18 เลยนะครับ และตอนนั้น ความหวานแหววคู่พระคู่นางก็จะเริ่มมาให้เห็นมากขึ้น เรื่อยๆ อาาาา อดใจติดตามกันต่อไปนะครับ แล้วก็ระวังรักษาตัวเองให้พ้นจากภัยโควิดทุกๆคนนะ ครับ ผมจะแปลงานออกมาเรื่อยๆเป็นเพื่อนแก้เหงายามไม่มีอะไรทำนะครับ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset