เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส – ตอนที่ 373-374

大姐大 บทที่ 373 เจี่ยนอีหลิงเข้าร่วมเรียลลิตี้โชว์

 

การบันทึกภาคที่สองของรายการเรียลลิตี้กำลังจะเริ่มต้นขึ้น

 

คราวนี้ ผู้เข้าร่วมทั้งหมดถูกส่งไปยังเกาะร้าง

 

ทุกคนมารวมกันที่ท่าเรือ

 

มีเรือลำหนึ่งจอดอยู่ที่ท่าเรือ เรือลำนี้ตั้งใจจะพาพวกเขาไปที่เกาะร้าง

 

เจี่ยนหยู่หมินและเจี่ยนอีหลิงเป็นกลุ่มสุดท้ายที่มาถึง

 

เมื่อพวกเขามาถึง อีกเจ็ดกลุ่มก็กำลังรอพวกเขาอยู่

 

ในกลุ่มคนเหล่านั้นมีโม่ชืออวิ้นและแม่ของเธอ โม่ฮุ่ยฉิง ด้วย

 

โม่ชืออวิ้นสามารถนำโม่ฮุ่ยฉิงมาที่รายการเรียลลิตี้ได้ ต้องขอบคุณเหอเยี่ยน เหอเยี่ยนได้ช่วยเธอแก้ไขคดีขโมยของ ของโม่ฮุ่ยฉิง

 

แม้แต่โม่ชืออวิ้นก็ยังประหลาดใจที่เหอเยี่ยนมีวิธีทำลายหลักฐานการโจรกรรมที่อยู่ในความครอบครองของเจี่ยนหยุ่นเฉิง

 

นี่คือสิ่งที่โม่ชืออวิ้นไม่ได้คาดคิดมาก่อน ตอนที่เธอเข้าไปหาเหอเยี่ยนในตอนแรก

 

โม่ชืออวิ้นไม่เข้าใจว่าเหอเยี่ยนจัดการเรื่องนั้นได้อย่างไร ถ้าเธอมีความสามารถขนาดนั้น ทำไมเธอถึงยังถูกคนอื่นๆในตระกูลเจี่ยนข่มเหงอยู่นานหลายปี

 

โม่ฮุ่ยฉิงชะงักไปครู่หนึ่งเมื่อเห็นเจี่ยนอีหลิง

 

เธอแข็งเกร็งไปตามสัญชาตญาณ ความทรงจำของการถูกเจี่ยนหยุ่นเฉิงเหยียบและถูกเวินน่วนสร้างความอับอายในที่สาธารณะผุดขึ้นมาในหัวในทันที

 

โม่ชืออวิ้นจับมือแม่ของตนเองไว้ เธอพยายามคลายความกังวลของแม่

 

“ไม่เป็นไร” โม่ชืออวิ้นบอกแม่ ในสายตาเธอไม่มีข้อมูลใดๆที่สามารถกดดันพวกเธอได้อีกต่อไป ยิ่งไปกว่านี้ พวกเธอก็ไม่ใช่สาวใช้ของตระกูลเจี่ยนอีกต่อไป ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกลัวตระกูลเจี่ยนอีก

 

โม่ฮุ่ยฉิงพยักหน้า เธอต้องสบายดี คราวนี้เธอได้มาเป็นเพื่อนลูกสาวเข้าร่วมรายการเรียลลิตี้ เธอไม่สามารถทำให้ลูกสาวอับอายต่อหน้าผู้คนมากมายได้

 

ลูกสาวเธอบอกว่ารายการเรียลลิตี้ต้องใช้ทักษะชีวิตมากมาย นั่นเป็นสิ่งที่แม่ลูกคู่นี้ที่ได้ทำงานอย่างหนักในการไต่เต้าขึ้นไปนั้นเก่งกาจ

 

เจี่ยนหยู่หมินจับมือเจี่ยนอีหลิงและยืนเงียบๆที่ท้ายแถว

 

มีชายหนุ่มจำนวนมากในกลุ่มผู้รับเชิญคนอื่นๆ เขาต้องจับตาดูพวกนั้น

 

เจี่ยนหยุ่นโม่ได้ขอให้เขาดูแลน้องสาวให้ดี เจี่ยนอีหลิงยังเด็กอยู่ ดังนั้นถ้าลูกหมาป่าตัวใดเข้าใกล้เธอ เขาจะเริ่มต้นการต่อสู้กับพวกนั้นทันที

 

เขาไม่กลัวที่จะทะเลาะกับใคร เขาไม่จำเป็นต้องแย่ไปกว่าเจี่ยนหยุ่นโม่ในการต่อสู้กับคนอื่น

 

แต่ทว่า เขากลัวจะเสียสิทธิ์ในการพาน้องสาวออกไปเล่นข้างนอกอีก

 

ก่อนที่พวกเขาจะออกทะเล ทีมงานฝ่ายผลิตได้เตรียมกระเป๋าเป้สำหรับทุกคน พวกเขาสามารถเลือกอุปกรณ์ของตนเองได้ สำหรับเวลาที่พวกเขาจะใช้ชีวิตบนเกาะร้าง

 

ทุกคนได้รับอนุญาตให้เลือกอุปกรณ์ใดก็ได้ที่พวกเขาต้องการ ตราบใดที่กระเป๋าเป้สามารถใส่อุปกรณ์ที่ต้องการนั้นได้

 

“อีหลิง เอาอาหารไปกันเยอะๆนะ” เจี่ยนหยู่หมินกล่าว เจี่ยนหยู่หมินค่อนข้างศึกษามาดี สิ่งที่สำคัญที่สุดคืออาหาร พวกเขาสามารถทิ้งของอย่างอื่นไว้ ไม่ว่าอย่างไร ในอีกสองสามวันข้างหน้าพวกเขาจำเป็นต้องมีกิน

 

เจี่ยนอีหลิงส่ายหน้า เธอข้ามส่วนที่เป็นอาหารและเลือกเครื่องมือแทน

 

เมื่อเจี่ยนหยู่หมินเห็นอย่างนี้ เขาก็ทำตาม เขาเอาทุกอย่างที่อีหลิงเอาไป

 

เจี่ยนอีหลิงเลือกเครื่องมือขนาดเล็กจำนวนมาก เธอยังหยิบของเล็กๆน้อยๆมากมาย ซึ่งรวมไปถึงผ้า กระดาษพลาสติกสะอาด และไม้ขีดสำหรับจุดไฟ

 

อุปกรณ์ที่โม่ชืออวิ้นและโม่ฮุ่ยฉิงเลือกมีการกระจายอย่างทั่วถึง พวกเธอหยิบเครื่องมือสองสามอย่างควบคู่ไปกับเสบียงอาหาร ดูเหมือนว่าพวกเธอพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับเหตุฉุกเฉินใดๆ

 

การถ่ายทอดสดเริ่มต้นทันทีที่ทุกคนเลือกอุปกรณ์ของตน

 

มีความคิดเห็นเกิดขึ้นมากมาย

 

ในบรรดาผู้เข้าร่วม โม่ชืออวิ้นและเซี่ยหมินหยู่ได้รับความนิยมมากที่สุด

 

เว็บดราม่าของโม่ชืออวิ้นยังคงออกอากาศอยู่ ดังนั้นเธอจึงยังคงเป็นที่นิยมอย่างมาก

 

ในทางกลับกัน เซี่ยหมินหยู่เป็นสมาชิกของกลุ่มไอดอลยอดนิยมมาหลายปีแล้ว นี่หมายความว่าความนิยมเขาสูงอยู่เสมอ

 

รายการเรียลลิตี้ภาคนี้ได้รับความสนใจจากผู้ชม เนื่องจากแขกรับเชิญได้รับอนุญาตให้พาสมาชิกในครอบครัวไปด้วย

 

[นี่คือแม่โม่ชืออวิ้นเหรอ แม่ของเธอดูอ่อนโยนและมีคุณธรรมมาก]

 

[แม่ของโม่ชืออวิ้นดูติดดินจริงๆ เธอดูเหมือนแม่ปกติ เธอดูคบหาง่าย]

 

[โม่ชืออวิ้นมีความสามารถและรอบรู้มาก แม่ของเธอต้องยอดเยี่ยมมากเช่นเดียวกันแน่ ฉันตั้งตารอดูความสามารถของพวกเธอในวันนี้]

 

บทที่ 374 แฟนๆและผู้ต่อต้าน

 

แฟนๆของเซี่ยหมินหยู่ต่างก็อยากรู้อยากเห็นเมื่อเห็นเจี่ยนอีหลิง

 

ในระหว่างการสัมภาษณ์ เซี่ยหมินหยู่แนะนำเจี่ยนอีหลิงว่าเป็นน้องสาวเขา อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ระบุว่าเธอเป็นน้องสาวหรือลูกพี่ลูกน้อง

 

[ว้าว น้องสาวของเซี่ยหมินหยู่หน้าตาดีมาก]

 

[คุณพระช่วย นี่หมายความว่านางเอกของ MV นั่นก็คือน้องสาวของเซี่ยหมินหยู่เหรอเนี่ย ดูเหมือนว่าพันธุกรรมของพวกเขาจะอยู่ในระดับสุดยอด]

 

[ฉันอิจฉาจัง ฉันอยากได้น้องสาวแบบนั้นด้วย]

 

[บอกตรงๆ ฉันอยากมีพี่ชายแบบเซี่ยหมินหยู่]

 

[ทำไมน้องสาวเขาไม่นำอาหารไปด้วย เธอกำลังจะอดตายบนเกาะนะ]

 

อ่านตอนล่าสุดที่ mynovel.co หรือ www.thai-novel.com

 

[ใช่แล้ว… หมินหยู่ไม่รู้วิธีทำอาหาร ถ้าไม่มีอาหารบนเกาะ ทั้งคู่จะอดตาย… อย่างน้อยพวกเขาก็ควรจะเอาบิสกิตไปด้วย]

 

เมื่อหมดเวลา ทุกคนก็หยุดหยิบอุปกรณ์และมุ่งหน้าขึ้นเรือ

 

เมื่อขึ้นเรือแล้ว เจี่ยนหยู่หมินก็พาเจี่ยนอีหลิงไปที่ดาดฟ้า สองพี่น้องเฝ้ามองน้ำและวิว

 

ผู้เข้าร่วมรายการชายคนหนึ่งเดินเข้ามาและพูดว่า “เฮ้ คราวนี้พวกเรามาทำงานด้วยกันเถอะ”

 

ดาราส่วนใหญ่พาสมาชิกในครอบครัวที่ดูเหมือนจะช่วยดูแลพวกเขาได้ พวกเขาเป็นประโยชน์ให้กับเหล่าดารา

 

อย่างไรก็ตามเจี่ยนหยู่หมินเป็นคนเดียวที่พาคนที่ดูเหมือนไม่สามารถช่วยเขาได้มากนักมา อันที่จริงแล้ว เจี่ยนอีหลิงดูเหมือนว่าเธอจำเป็นต้องได้รับการดูแลเสียมากกว่า

 

ในภาคก่อนหน้านั้น ทุกคนเข้าใจแล้วว่าเจี่ยนหยู่หมินเป็นคนที่ดูแลตัวเองไม่ได้ เขาจะดูแลน้องสาวบนเกาะร้างได้อย่างไร ดาราคนอื่นๆต่างกังวลว่าทั้งสองจะเป็นอย่างไรบนเกาะร้างแห่งนี้

 

ทันทีที่ชายคนนั้นเข้าใกล้พวกเขา เจี่ยนหยู่หมินก็เปลี่ยนตำแหน่ง ร่างของเขาบังอยู่ข้างหน้าเจี่ยนอีหลิง

 

จากนั้นเขาก็ปฏิเสธข้อเสนอของอีกฝ่ายอย่างสุภาพ ”ขอบคุณสำหรับความกรุณา แต่อย่างไรก็ตาม ฉันคงต้องปฏิเสธข้อเสนอแนะของนาย ฉันสามารถดูแลน้องสาวของตัวเองได้”

 

พฤติกรรมหวงก้างของเจี่ยนหยู่หมินนั้นชัดเจนอย่างไม่น่าเชื่อ ข้อความพากันเริ่มปรากฏบนหน้าจอ

 

[โอ้ พระเจ้า จะมีอะไรชัดเจนกว่านี้อีกไหมกว่าวิธีที่นายกำลังยืนอยู่ นายกำลังยืนขวางระหว่างทั้งสองคนอยู่จริงๆ]

 

[วันนี้หมินหยู่แสดงปฏิกิริยามากเกินไป เขาเป็นโรคหลงน้องสาวเหรอ]

 

[ว้าว เขาปกป้องมากเหลือเกิน ฉันรู้สึกมีความหวังเล็กๆว่าในอนาคตเขาจะหาแฟนได้]

 

[ใช่ อยู่ดีๆก็รู้สึกว่าเขาน่ารัก ฉันต้องการที่จะให้ลูกสาวเขาสักคน ฉันรู้สึกเหมือนหมินหยู่จะตกเป็นทาสของลูกสาวเขาในอนาคต]

 

ชายผู้ถูกเจี่ยนหยู่หมินปฏิเสธไม่ได้โกรธ แต่เขายิ้มและพูดต่อไปว่า “อืม ถ้านายคิดที่จะหาใครสักคนเป็น ‘พันธมิตร’ ด้วย อย่าลืมให้ความสำคัญกับฉันก่อนนะ พี่ชายกับฉันเป็นคนที่แข็งแกร่งทั้งคู่ เรามีเรี่ยวแรงในการทำงานให้เสร็จ”

 

สมาชิกในครอบครัวของชายคนนั้นเป็นลูกพี่ลูกน้องเขา เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งและทรงพลังที่สามารถทำงานให้เสร็จด้วยตนเองได้

 

“อือ ขอบคุณ” เจี่ยนหยู่หมินตอบกลับ แม้ว่าเขาจะพูดตกลงในระดับผิวเผิน แต่ในความเป็นจริง เขาไม่มีความตั้งใจที่จะทำงานร่วมกับอีกฝ่าย

 

แม้ว่าเขาตั้งใจจะทำงานร่วมกับกลุ่มอื่น เขาก็จะไม่ทำงานร่วมกับชายสองคนนี้

 

ความคิดเห็นต่างพากันเริ่มล้อเจี่ยนหยู่หมินอีกครั้ง [ฉันพนันกับแท่งพริกหนึ่งแพ็คว่าที่เขาตอบตกลงก็เพียงเพราะว่าเขาต้องการให้ดูสุภาพเท่านั้น]

 

[ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ฉันคิดจริงๆนะว่าคงจะเป็นการดีกว่าถ้าหมินหยู่เห็นด้วยกับคำแนะนำของพวกเขา คงจะดีถ้ามีคนงานสองคนช่วยบนเกาะนี้ ในเมื่อน้องสาวของเขาทำงานอะไรไม่ได้]

 

แม้ว่าเจี่ยนหยู่หมินจะมีแฟนๆเป็นจำนวนมาก แต่เขาก็มีคนที่เกลียดเขาอยู่ไม่น้อย พวกที่เกลียดเขาก็ออกมาพูดเช่นเดียวกัน

 

[รายการเรียลลิตี้นี้มีขึ้นก็เพื่อทดสอบความสามารถของแขกรับเชิญในด้านต่างๆ แม้จะรู้เรื่องนี้แล้ว เซี่ยหมินหยู่ก็ยังพาเด็กสาวที่อ่อนแอมาด้วย นี่ไม่ใช่เป็นการดูหมิ่นการแสดงเหรอ เขาก็แค่พยายามหาแฟนๆให้มากขึ้นโดยอาศัยใบหน้าของน้องสาวและตัวตนที่เขาดึงออกมา]

 

[ใช่ถูกต้อง เขาแค่พยายามจะอวดอ้างตัวตนปลอมๆ เมื่อตอนที่เขาเห็นกล้อง เขาพยายามทำท่าทางเอาใจใส่และปกป้อง ช่างน่าขยะแขยง]

 

[โม่ชืออวิ้นไม่ปลอมเหมือนเซี่ยหมินหยู่ เธอไม่สนใจว่าแม่เธอจะหน้าตาเป็นยังไง อันที่จริง เธอไม่รังเกียจที่จะเผยให้เห็นแม่ต่อหน้ากล้อง เธอซื่อสัตย์และจริงใจต่อตนเอง ยิ่งไปกว่านั้น เธอไม่ต้องเสแสร้งแกล้งทำ]

 

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส
Status: Ongoing
อ่านนิยาย 大妇 เธอเปลี่ยนปเป็นบอส เรียกว่าใกล้ถึงจุดไคล์แมกซ์แล้วนะครับ ผมละอยากจะ เรียกมันว่าจบภาค 1 เสียด้วยซ้ำไป เสียดายที่ทางต้นฉบับไม่มีภาคหนึ่ง ภาคสอง ขอสปอยล์นิดๆนะว่า พอผ่านช่วงนี้ไป จากอายุ 14 ย่าง 15 นางเอกของเราก็จะกระโดดไป เริ่มกันที่อายุ 18 เลยนะครับ และตอนนั้น ความหวานแหววคู่พระคู่นางก็จะเริ่มมาให้เห็นมากขึ้น เรื่อยๆ อาาาา อดใจติดตามกันต่อไปนะครับ แล้วก็ระวังรักษาตัวเองให้พ้นจากภัยโควิดทุกๆคนนะ ครับ ผมจะแปลงานออกมาเรื่อยๆเป็นเพื่อนแก้เหงายามไม่มีอะไรทำนะครับ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset